ภาพความฝันมักแตกต่างจากความจริงเสมอ ฮิโนกิคิดว่าหากได้มาอยู่ในปราสาทหลังเดียวกับเ้าหญิง คงมีสักวันที่ตนอาจเอื้อมถึงสิ่งที่สูงส่งได้ แต่ฮิโนกิไม่ได้มีโอกาสนั้นั้แ่แรก อีกฝ่ายถือตัว เว้นระยะห่างจากเขาอย่างเห็นได้ชัด
จะทั้งสามี น้องสามี เ้าตระกูล หรือแม้กระทั่งพวกคนรับใช้ชั้นต่ำก็ล้วนได้ส่วนแบ่งความสนใจจากไฮยาซินท์แทบทั้งสิ้น
โดยเฉพาะสามีสารเลวของไฮยาซินท์ ในที่สุดฮิโนกิก็ได้รู้แล้วว่าไม่ใช่ทุกตอนจบที่เ้าหญิงจะได้เคียงคู่กับเ้าชายอย่างมีความสุข ทุกความรักล้วนมีวันหมดอายุ
ผู้ได้รับสิ่งมีค่านั้นมากที่สุดแต่กลับเป็คนที่ทิ้งขว้างมากที่สุด ไม่รู้ว่าโอเมก้าผู้นั้นโง่งมหรือกำลังหลับหูหลับตาหลอกตัวเองว่าสามีที่เคยหลงใหลตอนนี้สิ้นรักอีกฝ่ายแล้ว
วันหนึ่งฮิโนกิเดินเล่นจนไปถึงคอกม้าของคฤหาสน์ลูเซียโน่แล้วตนก็ได้เจอกับเซฟิรอส สามีของเ้าหญิงผู้นั้น ในทีแรกมันเป็ความกระอักกระอ่วนและรู้สึกหวาดกลัวที่จะเผชิญหน้าอีกฝ่าย จนกระทั่งอีกฝ่ายเริ่มชวนคุย ฮิโนกิจำได้ถึงท่าทางใจดีของอีกฝ่ายยามที่ตนพูดเื่ม้า เขาจึงรีบกล่าวตอบรับ แสดงความเฉลียวฉลาดของตน
“ยิ่งดูก็ยิ่งแปลก เธอไม่เหมือนกับโอเมก้าคนอื่นเลย” เซฟิรอสระบายรอยยิ้มบาง เป็รอยยิ้มที่อบอุ่นราวกับสายลมตะวันตก “วันหลังก็มาที่นี่อีกสิ คนอย่างเธอ ให้อุดอู้อยู่แต่ภายในห้องคงน่าสงสารแย่”
ั้แ่มาที่เมืองหลวง นี่คงเป็ความอบอุ่นแรกที่เขาได้รับ
“คุณชายครับ ตอนนี้คุณนายเตรียมของว่างรอไว้สักพักแล้วจึงให้ผมมาตาม” ตอนนั้นมีคนรับใช้ผู้หนึ่งเดินเข้ามา
“จู้จี้อะไรนักก็แค่เพียงของว่าง” รอยยิ้มอันอบอุ่นหายวับไปกับตา แปรเปลี่ยนกลายเป็ความหงุดหงิดและรำคาญใจ “หากเขาอยากก็ให้เขาทานไปก่อน ฉันบอกตอนไหนว่าอยากทานด้วย”
แล้วเมื่อเซฟิรอสหันมาพูดกับฮิโนกิอีกครั้ง คราวนี้ใบหน้าก็แปรเปลี่ยนกลับเป็อบอุ่นเช่นเดิม
“อยากดูต่ออีกหรือไม่”
ฮิโนกิพยักหน้าตอบตกลง เดินตามไล่หลังอัลฟ่าผู้นั้น ภายในอกเต้นไม่เป็ส่ำ ในขณะที่บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มอย่างควบคุมไม่ได้ ตอนนั้นฮิโนกิหลงเข้าใจว่าบางทีอาจจะเป็เพราะตนกำลังตกหลุมรักอีกฝ่ายเข้าให้แล้ว แต่ในอีกไม่กี่ชั่วโมงเขาก็ตกตะกอนได้ว่ามันไม่ใช่ความรู้สึกรักใคร่เช่นนั้น
แต่มันคือความรู้สึกสะใจ
โอเมก้าผู้สมบูรณ์แบบ สูงส่งราวกับตัวตนอยู่เทียบเทียมฟ้า แม้แต่คนเช่นนั้นก็มีวันที่ไม่ได้รับความรัก
ในขณะที่ฮิโนกิไม่มีอะไรสู้อีกฝ่ายได้สักอย่าง ตนกลับได้รับสิ่งที่ไฮยาซินท์น่าจะโหยหามากที่สุด
อย่างไรเ้าหญิงกับเ้าชายก็ไม่อาจตัดขาดจากกันได้ งานเลี้ยงหรูหรา บริเวณพื้นที่ตรงกลางเป็ไฮยาซินท์กับเซฟิรอสที่กำลังเต้นรำ ณ ใจกลางของแสงสว่าง ในขณะที่ฮิโนกิได้เพียงมองมาจากมุมมืด
“น่าสงสารจัง ต่อให้คุณตะเกียกตะกายแค่ไหน แต่สุดท้ายก็ไม่อาจขึ้นมาอยู่เหนือพี่สะใภ้ของผมได้” ดีเลียนเดินเข้ามาหยุดยืนข้าง ๆ ฮิโนกิ
ฮิโนกิแค่นเสียงหัวเราะในลำคอ ตนรู้ดีว่าไม่ใช่ที่โปรดปรานต่อทั้งเ้าตระกูลลูเซียโน่ และบุตรชายคนเล็ก
“ถ้าอยากจะมาเป็ครอบครัวของเราก็ต้องพยายามให้มากกว่านี้นะครับ” ทั้งที่คิดว่าอีกฝ่ายมาเพื่อทับถมเยาะเย้ย แต่กลับกลายเป็ประโยคความนัยอื่น “สถานะเพียวโอเมก้าใช้ให้มันเป็ประโยชน์สิ”
“...”
“ต่อให้แขนขาจะหักก็ต้องไปให้ถึงยอดเขาให้ได้สิครับ”
รอยยิ้มกดลึกบนใบหน้า ั์ตาสีทองวาววับทำให้เขารู้สึกขนลุก ราวกับตนเองเป็เพียงหนูตัวเล็กจ้อยที่กำลังถูกงูผู้ล่าจับจ้องอยู่
ภายในใจของฮิโนกิเกิดคลื่นความรู้สึกมากมาย เขาสับสน สงสัย ตนเองสามารถขึ้นไปเทียบเคียงกับคนอย่างไฮยาซินท์ได้จริง ๆ งั้นหรือ
ตระกูลเบอร์ตินีเป็ตระกูลตกอับจนแทบจะต้องเร่ขายลูกหลาน ตระกูลที่ปัจจุบันแทบไม่ปรากฏในวงสังคมชั้นสูงอีกแล้ว ทว่ากลับมาปรากฏตัวต่อหน้าฮิโนกิในวันนั้น เขาสติแตก ความทรงจำที่เลวร้ายผุดกลับขึ้นมา
ไม่เอา… เขาไม่อยากกลับไปแล้ว
ไฮยาซินท์เดินเข้ามาภายในพายุอันแสนวุ่นวาย ฮิโนกิก็นึกออกว่าหน้าที่ในการเชิญแขกของลูเซียโน่เป็ผู้ใด
ราวกับโลกของตนพังทลายเหลวแหลกไม่มีชิ้นดี ผู้สูงส่งที่อาศัยอยู่ในวิมาน์กลับเป็ผู้ที่จะส่งตนลงสู่นรกอีกครั้ง
เขาวิ่งหนีออกมา แต่กลับกลายเป็ว่ามีคนผู้หนึ่งไล่ตามมาปลอบใจเขา โลกที่มืดหม่นจนไร้แสงใด กลับมีสายลมที่ตามมาโอบอุ้มเขาอย่างอ่อนโยน
เ้าชายที่ไม่ได้เลือกเ้าหญิง
ในที่สุดคลื่นลมภายในใจของฮิโนกิก็ค่อย ๆ สงบลง สมองพลันแจ่มชัด นึกออกว่าสิ่งที่ตนเองควรทำเป็ลำดับถัดไปคือสิ่งใด
“คุณชาย”
เขาโอบรอบคอ เอนศีรษะอิงแอบร่างสูงใหญ่ ััไออุ่นจากตัวตนนั้น
ฮิโนกิตัดสินใจได้ ไม่ว่าตนจะต้องแขนหักขาหักก็จะต้องปีนไปให้ถึงยอดเขา
ปีนไปให้ถึงจุดเดียวกับไฮยาซินท์
เสียงดังโครมครามมาจากชั้นล่างในยามดึกทำให้ฮิโนกิสะดุ้งตื่นขึ้น เขาออกจากห้อง เดินลงไปชะโงกหน้าดูที่ระเบียงชั้นสอง สามีกลับมาที่บ้านในสภาพเมามาย กำลังหัวฟัดหัวเหวี่ยงใส่สาวใช้ผู้หนึ่ง
ฮิโนกิไม่รู้ว่าเซฟิรอสกำลังโมโหเื่ใด ช่องว่างแปดปีภายในคุกที่ต้องแยกจาก เมื่อหวนกลับมาเจอกันอีกครา สามีผู้แสนอบอุ่นอ่อนโยนก็กลายเป็ปีศาจร้าย ทุกครั้งที่เมามายก็มักจะหาเื่ระบายอารมณ์กับมนุษย์ ใช้การแสดงออกว่าตนสูงส่งที่สุดในบ้านเพื่อฝังกลบความรู้สึกต่ำต้อยเมื่อตนเองพ่ายแพ้ต่อน้องชายต่างมารดาอย่างหมดรูป
แล้วเมื่อั์ตาสีฟ้าคู่นั้นหันมาเห็นฮิโนกิที่ยืนอยู่ชั้นบน ความโกรธเกรี้ยวก็ถูกย้ายมาที่เขาทันที
“เธอเองวัน ๆ นั่งงอมืองอเท้าอยู่ในบ้าน มีหน้าที่แค่ดูแลบ้าน ดูแลคน มันยากเย็นตรงไหน!” เซฟิรอสเดินปรี่เข้าประชิดตัวเขา ทั้งกลิ่นฟีโรโมน ทั้งร่างกายที่สูงใหญ่กำลังคุกคามให้เขาเกิดความหวาดกลัว “อยู่มาตั้งกี่ปีแล้ว ความเป็โอเมก้าชนชั้นสูงมันไม่ได้เข้าหัวเธอเลยหรืออย่างไร!!!”
ฮิโนกิตัวสั่น แต่เพราะตนไม่อยากเป็เฉกเช่นโอเมก้าอ่อนแอทั่วไปที่ต้องตกอยู่ใต้อาณัติของอัลฟ่า เขาจึงพยายามกดข่ม เอ่ยตะคอกระบายอารมณ์ใส่อีกฝ่ายกลับไป
“แค่ดูแลบ้าน? แค่ดูแลคน? ถ้ามันง่ายเช่นนั้นทำไมคุณชายไม่มาจัดการเอง ผมบอกคุณแล้วว่าหน้าที่พวกนี้ไม่อยากทำ!” ในยามแรกรักอีกฝ่ายมักจะกล่าวว่าตนไม่เหมือนโอเมก้าคนอื่น ยามนี้กลับมาพูดจาสั่งสอนให้เขาประพฤติตนเฉกเช่นโอเมก้าทั่วไป “ใครจะไปดีพร้อมเท่าภรรยาเก่าคุณชาย ก้มหน้าก้มตาทำทุกอย่างเสมือนเป็วัวเป็ควาย”
คล้ายว่าคำนั้นไปแตะโดนจุดอ่อนไหวของอีกฝ่ายเสียแล้ว ใบหน้าของเซฟิรอสบิดเบี้ยวราวกับมาร ฝ่ามือขนาดใหญ่ที่เคยกุมตนเองไว้ด้วยความอบอุ่น เวลานี้มันกำลังเงื้อมือขึ้นราวกับเป็เคียวของมัจจุราชที่จะมาปลิดชีพ
ฮิโนกิคิดว่าตนคงกำลังจะโดนลงไม้ลงมือ แต่กลับกลายเป็ว่าฝ่ามือนั้นชะงักค้างกลางอากาศ
แล้วสีหน้าที่เคยโกรธเกรี้ยวนั้นก็เปลี่ยนเป็หวาดกลัวอะไรบางอย่างจับใจ ก่อนเ้าตัวจะก้าวเดินหนีไป
แม้ไม่บอกแต่ฮิโนกิก็รับรู้ได้ว่าในตอนที่กำลังจะเงื้อมือทำร้ายเขา เซฟิรอสกำลังนึกถึงเื่ใด
เซฟิรอสกำลังนึกไปถึง่เวลาที่พลาดลงมือใส่ไฮยาซินท์จนแท้ง
“...”
ฮิโนกิหลุบมองท้องของตนเอง ลูบไล้มันเบา ๆ ได้ยินเสียงสาวใช้ที่รีบขึ้นมาถามไถ่สภาพจิตใจตน รวมถึงเลียบเคียงถามฮิโนกิเื่ลูกเนื่องจากเห็นท่าทางเช่นนั้นของเขา
ฮิโนกิอยู่ที่คฤหาสน์นี้มาได้เกือบปีเศษแล้ว รวมถึงเป็ปีที่ใช้ชีวิตคู่กับเซฟิรอส ใน่ปีแรกฮิโนกิพยายามอย่างหนักที่จะตั้งครรภ์ให้ได้เพราะคิดว่าบางทีมันอาจจะเป็ฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ไทเนีย ลูเซียโน่เหลียวแล ช่วยทัดทานดีเลียนแล้วรับเขากับเซฟิรอสกลับคฤหาสน์ใหญ่ลูเซียโน่
ทว่าหลังจากหลอกตัวเองมาหลายเดือน ฮิโนกิก็ได้รู้แล้วว่าภายในคุกอันเย็นเยียบได้กลืนกินเ้าชายของตนไปแล้ว
ฮิโนกิตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์
แล้วหลังจากนั้นอีกหลายต่อหลายครั้งที่ตนผ่านการร่วมรักกับเซฟิรอส ฮิโนกิจะแอบกินยาคุมเสมอ
จะให้เด็กที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่เกิดมารับกรรมในนรกแห่งนี้ได้อย่างไร
ฮิโนกิคิดถึง่เวลาที่บ้านไร่ ่เวลาที่ตนเป็อิสรเสรี แต่งตัวสกปรกมอมแมมโดยไม่ต้องเกรงใจสายตาใคร ควบขี่ม้าวิ่งไปรอบ ๆ ฟาร์มด้วยรอยยิ้มกว้างอย่างมีความสุข ไม่ใช่ถูกขังอยู่ในกรงแคบ ๆ ถูกใครต่อใครติฉินนินทา วิพากษ์วิจารณ์เื่ลับส่วนตัว
ผู้นี้สินะภรรยาของคุณชายลูเซียโน่ที่เพิ่งออกจากคุก
แย่งสามีชาวบ้าน ยังกล้าเชิดหน้าชูตาได้ หน้าไม่อายอะไรเช่นนี้
หน้าตาไม่อาจสู้แต่คงปฏิบัติบนเตียงได้อย่างดุเดือด จึงเอาชนะภรรยาคนเก่าได้
อยากได้สามีผู้อื่นจนตัวสั่น สรุปก็เป็แค่ของเหลือ น่าสมเพชยิ่งนัก
ประโยคว่าร้าย แม้ฟังเพียงครั้งเดียวก็ติดตรึงภายในหัว ราวกับเทปเสียงที่ถูกเปิดซ้ำไปซ้ำมา
ตอนนี้คุณยายจะเป็อย่างไรบ้างนะ
ฮิโนกิอยากหนี ทว่าพันธะที่ผูกคอเอาไว้ กักขังล่ามโซ่ไม่ให้ตนจากไปไกลได้
ถ้าหากตนมีตระกูลหนุนหลังคุ้มครอง ถ้าหากตนมีอินิกม่าสักคนที่มาหลงรักปักใจ พร้อมช่วยตัดพันธะรั้งคอของเขา
ถ้าหากฮิโนกิเป็ไฮยาซินท์
ถ้าหากฮิโนกิเป็ตัวเอก
ฮิโนกิหลับตาลง ปล่อยจิตใจให้ล่องลอยไปไกล เป็อีกครั้งที่ใช้การหลับใหลหนีไปจากโลกแห่งความจริง
วันหนึ่งฮิโนกิได้เห็นรายงานข่าวเกี่ยวกับเ้าตระกูลลูเซียโน่และภรรยากำลังออกงานการกุศลด้วยกัน
ภาพขาวดำแต่กลับงดงามจับใจราวมีประกายระยิบระยับบางอย่าง
สุดท้ายเ้าหญิงก็ตามหาเ้าชายคนใหม่พบจนได้
ไฮยาซินท์ในชุดออกงานทางการหรูหรา ช่างดูสวยสดงดงามอย่างที่ไม่มีใครอาจหาญเทียบเคียง ข้างกายคืออินิกม่าผู้หล่อเหลาองอาจ รอยยิ้มอ่อนโยน ดวงตาสีทองอันแสนอบอุ่น ปรากฏทุกครั้งที่อินิกม่าผู้นั้นหันไปมองโอเมก้าข้างกาย
งานการกุศลนี้คือการจัดการที่ดินรกร้างให้กลายเป็พื้นที่เกษตรกรรม สร้างรายได้สำหรับคนไร้บ้านที่ยังขาดแคลนอาชีพ
แสงแฟลชมากมายสาดวูบเข้าไปที่ใบหน้าของคู่สามีภรรยาคู่นั้น ไมค์ถูกยื่นไปเพื่อสัมภาษณ์ทั้งคู่ ฮิโนกิได้ยินเสียงหนึ่งที่ดังขึ้นหลังกล้อง เอ่ยถามถึงเหตุผลที่เลือกมาทำการกุศลในด้านนี้ ทั้งที่ยังมีอีกหลายวิธีการ
ไฮยาซินท์หลุบตา สีหน้ากำลังค้นหาบางอย่างในความทรงจำส่วนลึก
[ครั้งหนึ่งรถยนต์ของฉันเสียในระหว่างการเดินทาง จึงต้องไปอาศัยพักพิงในฟาร์มแห่งหนึ่ง]
ประโยคนั้นทำให้ฮิโนกิชะงักไป
[แม้่นั้นจะเป็ฤดูแล้ง แต่ในความทรงจำของฉันที่นั่นก็ยังดูงดงาม ทิวทัศน์ที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตาโดยไม่ต้องเจออาคารบ้านเรือนใด อากาศปลอดโปร่งจนสูดได้เต็มปอด และท้องฟ้าในยามค่ำก็เต็มไปด้วยแสงดาวละลานตาชนิดที่พวกคุณต้องใช้เวลาทั้งปีในการพยายามนับมัน]
คล้ายกับว่าใบหน้าอันแสนราบเรียบจะมีรอยยิ้มบางปรากฏในเสี้ยววินาทีหนึ่ง
[ฉันอยากกลับไปอีกครั้งแต่น่าเสียดายที่จำหนทางไม่ได้แล้ว ฉันเลยสร้างพื้นที่แห่งนี้ขึ้นมา นอกจากจะได้เป็พื้นที่เกษตรกรรม ยังได้เป็พื้นที่พักผ่อนสำหรับชาวเมืองหลวง]
ฮิโนกิหัวใจเต้นแรงไม่เป็ส่ำ ราวกับวินาทีนั้นโลกที่แสนหม่นหมองมาตลอดของตนจะพลันถูกแต่งแต้มด้วยสีสันใหม่
เ้าหญิงยังจำได้! ไม่ใช่เพียงแค่ฮิโนกิคนเดียว… ความทรงจำร่วมกันของพวกเขา ไฮยาซินท์ก็ร่วมจดจำมันด้วย!
[เช่นนั้นแล้วคุณนายลูเซียโน่มีอะไรอยากพูดถึงเ้าของฟาร์มแห่งนั้นที่เป็แรงบันดาลใจให้เกิดงานการกุศลครั้งนี้มั้ยคะ]
ฮิโนกิรีบผลุนผลันเข้าไปประชิดหน้าจอโทรทัศน์ ดวงตาเบิกกว้างจ้องมองภาพตรงหน้าตาไม่กะพริบ ขณะที่หูก็เงี่ยฟังอย่างตั้งใจเพื่อไม่ให้มีประโยคใดตกหล่นไป
ไฮยาซินท์บนหน้าจอกำลังเอ่ยปากทำท่าจะพูด
ทว่าในตอนนั้นก็พลันมีเสียงเด็กร้องไห้ ดึงดูดความสนใจของคนทุกคนในหน้าจอโทรทัศน์ให้ไปหยุดอยู่ตรงจุดหนึ่ง
ไฮยาซินท์ก็เช่นกัน โอเมก้าคนงามโน้มตัวลงไป โอบอุ้มเด็กชายตัวน้อยคนหนึ่งเข้ามาไว้ในอ้อมกอด บนใบหน้าอันแสนเ็าสามารถหลอมละลายได้ในชั่วพริบตา รอยยิ้มขันปรากฏ โทนเสียงไพเราะเอ่ยปลุกปลอบเ้าตัวน้อยที่กำลังร้องไห้จ้า
ดีเลียนขยับเข้าไปทำท่าจะขอเปลี่ยนมาอุ้มแทนเพื่อให้ไฮยาซินท์สัมภาษณ์ต่อ แต่ไฮยาซินท์เลือกโบกมือปฏิเสธ
[เ้าตัวเล็กคงเหนื่อยมากแล้ว ฉันคงต้องขอจบสัมภาษณ์ไว้เพียงเท่านี้...]
ภายในใจของฮิโนกิกรีดร้อง เขาขยับเข้าไปจับหน้าจอโทรทัศน์ พยายามเคาะเสียงดังปึงปังอยู่หลายหน ราวกับว่าสามารถเรียกคนในหน้าจอโทรทัศน์ที่กำลังจากไปให้หันกลับมาได้
ไม่นะ! อย่าเพิ่งไป เขายังไม่ได้ยินคำตอบของคำถามที่ตนอยากรู้มากที่สุดเลย
แผ่นหลังบอบบางค่อย ๆ หายไปจากครรลองสายตา จวบจนในที่สุดกล้องก็ถูกตัดไปฉายรายงานข่าวอื่น
เป็อีกครั้งที่เ้าหญิงจากไปไกล หนีออกไปจากสายตาของฮิโนกิ
หนีไปกับเ้าชายคนใหม่ เ้าชายที่ในที่สุดก็คงพาเธอไปจนถึงเื่ราวแห่งความสุขอันเป็นิรันดร์ในตอนจบ
คืนนั้นฮิโนกิฝัน
ฝันในท่านอนหลับที่กำลังหนุนนอนผ้าเช็ดหน้า กลิ่นหอมของดอกไฮยาซินท์เทียมที่ตนฉีดพรมตามร่างกาย ช่วยให้นึกจินตนาการว่ากำลังถูกใครบางคนโอบกอดด้วยความอ่อนโยน
ในฝันเขาตื่นขึ้นมาในห้องคับแคบอันแสนคุ้นตา มันคือเรือนรับใช้ภายในคฤหาสน์ลูเซียโน่
ไฮยาซินท์ปรากฏตัว พร้อมกับสาวรับใช้ข้างกายที่กำลังถือถาดอาหารเช้ามาให้เขา
ไฮยาซินท์ภายในภาพขาวดำที่ถูกถ่ายออกมา ยังมิอาจเทียบเคียงความงามได้เท่ากับไฮยาซินท์ตัวจริงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา
เพราะเคยผ่านประสบการณ์ครั้งหนึ่ง ฮิโนกิแม้จะเขินอาย หน้าแดง หัวใจเต้นไม่เป็ส่ำ แต่เขาก็ไม่พลาดโอกาส รีบเอ่ยแนะนำตัวเองด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ไฮยาซินท์ทำหน้าใเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็หัวเราะร่วนออกมา
“ไม่ต้องรีบร้อนพูด ฉันไม่ได้จะจากไปไหนเสียหน่อย”
“ผมเคยเห็นคุณหนูมานานมากแล้วและผมก็ชื่นชมคุณหนูอย่างมาก” ฮิโนกิก้มหน้างุด รวบรวมความกล้าแล้วเอ่ยประโยคถัดไป
“...”
“ผมอยากเป็คนสนิทของคุณหนู”
หากไม่คิดตะกายขึ้นไปบนยอดเขา ฮิโนกิจะสามารถยืนเคียงข้างไฮยาซินท์ได้หรือเปล่า
เสียงพิณของออร์ฟิอุสถูกบรรเลง อานุภาพของมันทำให้ฮิโนกิกล้าเงยหน้าขึ้นมองสบตาไฮยาซินท์
รอยยิ้มสว่างไสว ดวงตาหยีลงเป็รูปพระจันทร์เสี้ยว ใบหน้าที่เคยงามล้ำพลันยิ่งงดงามจนเหนือกว่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะจินตนาการถึงได้
ไฮยาซินท์เอ่ยตอบตกลง
แม้จะเป็เพียงเสียงแ่เบาแต่เขาก็ได้ยินมันอย่างชัดเจน
และบางทีในวินาทีนั้นฮิโนกิก็อาจจะได้อยู่เคียงข้างเ้าหญิงนิจนิรันดร์