"ยวี่เอ๋อร์คารวะเสด็จแม่เพคะ" เหนียนยวี่ย่อกายโค้งคำนับ
องค์หญิงใหญ่ชิงเหอลืมตา มองเหนียนยวี่ด้วยรอยยิ้ม "ต่อหน้าข้า เ้าไม่จำเป็ต้องสุภาพมากนักหรอก ข้าได้ยินมาว่าเมื่อครู่นี้ เ้าอยู่ด้วยกันกับมู่อ๋องและหลีอ๋องหรือ?"
องค์หญิงใหญ่ชิงเหอเอ่ยถามหยั่งเชิงอย่างไม่ปิดบังแม้แต่น้อยเหนียนยวี่นึกถึงเหตุผลในการมาหานางของพวกเขา เดิมทีนางก็ไม่ได้คิดจะปิดบังจากองค์หญิงใหญ่ชิงเหอ“วันพรุ่งนี้ ฉางไทเฮาจะจัดงานเลี้ยงที่เรือนพำนัก เป็งานเลี้ยงต้อนรับราชทูตของหนานเยวี่ยนางเชิญท่านอ๋องมู่แล้ว ทว่าท่านอ๋องมู่อยากให้ยวี่เอ๋อร์ไปด้วยเพคะ...”
“ฉางไทเฮาจะจัดงานเลี้ยงหรือ?” องค์หญิงใหญ่ชิงเหอเองก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน นางเงียบไปครู่หนึ่งจากนั้นจึงแย้มสรวล “เสด็จพี่สะใภ้ไทเฮา หายากนักที่นางจะจัดงานเลี้ยง ทั้งเ้ายังตามทันนางอีก เ้าตามท่านอ๋องมู่ไปเถิด”
“เพคะ เสด็จแม่”
เช่นนั้น นางก็ยิ่งตั้งหน้าตั้งตารองานเลี้ยงที่จะมาถึงวันพรุ่งนี้
ครั้นองค์หญิงใหญ่ชิงเหอเอ่ยขึ้นมาอย่างกะทันหัน เหนียนยวี่พลันได้สติ สำรับเช้าหรือ?
เหนียนยวี่เอ่ยตอบอย่างอ่อนโยนว่า “เป็มื้อที่อร่อยมากเพคะยวี่เอ๋อร์ชื่นชอบอาหารเ่าั้ยิ่งนัก วางตะเกียบเป็คนสุดท้ายเพคะกินเสียจนอิ่มแปล้ เพียงแต่โชคดีที่อนุตู้เป็คนกระตือรือร้น นางอยู่กับยวี่เอ๋อร์ในจวนสักพักใหญ่เดินเล่นด้วยกัน ช่วยย่อยอาหารได้ดีมากเพคะ”
“กระตือรือร้นหรือ” องค์หญิงใหญ่ชิงเหอเข้าใจความหมายของเหนียนยวี่ นางพ่นลมหายใจเ็า “นางย่อมต้องกระตือรือร้นอยู่แล้ว”
คนผู้นั้น...คนที่ทำร้ายเด็กในครรภ์ขององค์หญิงใหญ่ชิงเหอซ้ำแล้วซ้ำเล่า!
เมื่อเหนียนยวี่ได้ยินเช่นนั้น คนฉลาดเช่นนางจึงจับใจความสำคัญของเื่นี้ได้ทันที
แท้ที่จริงแล้ว ครานั้นอนุตู้เข้าจวนมาตอนที่องค์หญิงใหญ่ตั้งครรภ์หรือ?
นางไม่คิดว่าเหนียนยวี่จะเอ่ยถ้อยคำเยี่ยงนี้ออกมาองค์หญิงใหญ่ชิงเหอพินิจมองเหนียนยวี่ชั่วครู่หนึ่ง อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา“สาวน้อยเช่นเ้า เหตุใดถึงพูดเหมือนว่าตนเองเคยพบเจอหลายสิ่งหลายอย่างในโลกมาหมดแล้วเช่นนั้นเล่า?”
“เ้ายังเด็กนัก แม้นความรักจะเปราะบางทว่าเมื่อมันมาถึง แม้ว่าเ้าจะรู้ความจริงของความรัก เ้าก็มิอาจห้ามความรู้สึกได้หรอกอย่างไรเสีย ข้าขอให้สตรีผู้มีจิตใจงดงาม ละเอียดอ่อนเช่นเ้าได้เจอกับบุรุษที่รักเ้าจากใจจริง” องค์หญิงใหญ่ชิงเหอถอนสายตากลับไปนางยกมือลูบครรภ์ของตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า
บุรุษที่รักนางจากใจจริง?
“แล้วอนุตู้...เสด็จแม่วางแผนจะจัดการอย่างไรหรือเพคะ?” ยามที่เหนียนยวี่นึกถึง ตอนที่ร่วมมื้ออาหารเช้า การเล่นงิ้วกันระหว่างองค์หญิงใหญ่ชิงเหอกับจือเถานางก็ยิ่งรู้ว่าในใจขององค์หญิงใหญ่ชิงเหอเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นมานานแล้วยามนี้เกรงว่าคงถึงขั้นวางกับดักแล้ว
องค์หญิงใหญ่ชิงเหอ ผู้ซึ่งเดิมทีพิงอยู่บนเก้าอี้ พลันยืดตัวลุกขึ้น
“วันนั้นเ้าทำให้ถ้วยชาถ้วยนั้นล้ม ซึ่งทำลายแผนของนาง ไม่นานนางก็เคลื่อนไหวอีกครั้ง หึเด็กในครรภ์ของข้า ดูจะเป็หนามในลำคอนางเสียจริงนางอยากกำจัดจนแทบอดใจรอไม่ไหวถึงเพียงนี้ คิดแล้วก็ถูก เซี่ยลี่บุตรชายของนางเป็บุตรชายคนโตของจวนอัครเสนาบดี หากข้าไร้ทายาทไปตลอดทรัพย์สินของจวนอัครเสนาบดี ท้ายที่สุดก็จะตกเป็ของบุตรชายคนโตทว่าหากข้าให้กำเนิดทายาท ถึงจะเป็องค์หญิง ทว่าบุตรชายของนางก็จะไม่ได้รับอะไรเลยแน่นอนว่านางต้องวางแผนเพื่อบุตรชายของตนเอง”
น้ำเสียงขององค์หญิงใหญ่ชิงเหอสงบนิ่ง ทว่าในความสงบนิ่งนั้นกลับเผยให้เห็นถึงความดุร้ายเด็ดขาด
ในฐานะที่เป็มารดาเหมือนกัน สตรีแซ่ตู้ลงมือได้โหดร้ายอย่างยิ่งเช่นนั้น นางจะยอมปล่อยให้เด็กในท้องถูกสตรีแซ่ตู้ฆ่าอีกได้อย่างไร?
“เพราะเช่นนั้น ในครานี้ นางจึงใช้มนตร์ดำงั้นหรือ?” เหนียนยวี่เอ่ยความคิดที่ตัวเองคาดเดา
“เ้าสมเป็ธิดาบุญธรรมของเปิ่นกงเสียจริง ฉลาดมากเปิ่นกงชอบเ้าเสียจริง” องค์หญิงใหญ่ชิงเหอยิ้ม ครั้นนึกถึงอนุตู้ดวงตาของนางฉายแววเ็าอีกครั้ง “ั้แ่แรก เปิ่นกงตั้งกฎไว้ว่า แม้นจวนองค์หญิงใหญ่และจวนอัครเสนาบดีจะอยู่ติดกันก็ตามทว่าไม่ว่าผู้ใดในจวนอัครเสนาบดี หากไม่ได้รับอนุญาตจากเปิ่นกงห้ามมาเหยียบจวนองค์หญิงใหญ่แม้เพียงครึ่งก้าว สตรีแซ่ตู้นั้นปกติจะไม่มีโอกาสได้เข้ามาอยู่แล้ว มีเพียงวันเช่นวันนี้ของทุกเดือนเท่านั้นที่จะมีโอกาสได้เข้ามาคารวะ นางระวังตัวอย่างมาก เพราะกลัวถูกสังเกตเห็นจึงไม่กล้าใช้มนตร์ดำที่ร้ายแรงเกินไป ดังนั้นนางทำได้เพียงต้องใจเย็นวันนี้หากเปิ่นกงไม่เอาของมนตร์ดำนั่นออกไป ถึงตอนนั้นเปิ่นกงจะแท้งและ้าจะสอบสวนเื่นั้นนางก็จะหลีกหนีความผิดไปไม่ได้”
เหนียนยวี่เลิกคิ้ว ด้วยเหตุนั้น เมื่อครู่นี้อนุตู้จึงมุ่งมั่นจะเสนอตัวไปส่งนางที่ห้อง เป้าหมายก็คือเพื่อรอเวลาให้ตัวเองได้อยู่ลำพังแล้วก็จะเอาของมนตร์ดำออกมางั้นหรือ?
อย่างไรเสีย ของมนตร์ดำนั่นยังคงอยู่ในห้องโถง แล้วอนุตู้ที่ไม่ได้เอามันออกจะสบายใจได้เยี่ยงไร?
เมื่อคิดถึงจุดนี้ เหนียนยวี่จึงหันไปมององค์หญิงใหญ่ชิงเหอ ประสานเข้ากับดวงตาสดใสของนาง สายตาของทั้งสองสบกัน ราวกับว่าพวกนางสามารถเข้าใจความหมายของกันและกันได้โดยไม่ต้องเอ่ยคำพูดให้มากความ
ดูเหมือนว่า จวนองค์หญิงใหญ่ในวันนี้จะมีงิ้วฉากใหญ่ให้รอชมอยู่!