เผชิญหน้ากับอสุรกายกระดูก หวังเค่อเองก็กังวล หากไม่ได้หวาดกลัวเท่ากับไป๋จิน เพราะหวังเค่อยังมีไพ่ตายสุดท้ายอย่างกระบี่เทพมหาสุริยันมิดับสูญให้พึ่งพาอยู่
สถานการณ์ตอนนี้เลวร้ายเสียจนแตกตื่นไปก็เปล่าประโยชน์ ตอนนี้สมควรคิดว่าตนทำอะไรได้บ้างมากกว่า
ข้าทำอะไรได้บ้าง? ทำได้แค่ถ่วงเวลาไปก่อน!
หวังว่าหากถ่วงเวลาไปได้ ท่านอาจารย์จะรับรู้สถานการณ์ของตน
“หือ? เ้าไม่กลัวเรอะ? เ้ามองอะไร?” อสุรกายกระดูกมองหวังเค่ออย่างประหลาด
“ข้ามองว่าคนที่ท่านกลืนเข้าไปเมื่อกี้หายไปไหนแล้ว? ไม่ใช่ว่ากระเพาะท่านว่างเปล่ากลวงโบ๋หรอกหรือ? ทำไมกลืนคนเข้าไปแล้วถึงไม่ร่วงลงมากัน?” หวังเค่อมองอสุรกายกระดูกด้วยสีหน้าพิกล
อสุรกายกระดูก “…!”
ไป๋จินกับคนที่เหลือ “…!”
มารร้ายไร้เทียมทานตนนี้คิดจับพวกเราทั้งหมดกิน รวมถึงหวังเค่อเองด้วย แล้วทำไมเ้าถึงได้ว่างมานั่งคิดเื่กระเพาะของมัน? เ้าสมองกลวงหรือไร?
อสุรกายกระดูกก้มลงมองร่างโครงกระดูกโบ๋เบ๋ของตัวเอง คนที่มันเพิ่งกลืนลงไปเมื่อกี้ไม่ร่วงลงมาจริงๆ ว่าแต่เ้าจะมาสนใจทำซากอะไร?
“ฮะ ฮ่าฮ่าฮ่า เ้าตัวน้อย ตลอดหลายปีนี้ มีเ้าเป็คนแรกที่กล้าพูดกับข้าแบบนี้ ได้ ได้ ได้ เช่นนั้นกินเ้าเป็คนต่อไปนี่แหละ!” อสุรกายกระดูกเอ่ยเสียงเย็น
“พรึบ!”
ทุกคนพลันเห็นหวังเค่อกระโจนเข้าหาอสุรกายกระดูก
การกระโจนนี้ทำให้อสุรกายกระดูกผวาจนแทบผุดลุกขึ้นจากบัลลังก์กะโหลก แต่พอเห็นหวังเค่อกระโจนก้าวเดียวแล้วหยุด มันเป็ต้องประหลาดใจอย่างยิ่ง
“ขะ ขออภัยด้วย เมื่อครู่เป็ปฏิกิริยาตอบสนอง ข้านึกว่าจะมีหนามงอกจากพื้นออกมาแทงบั้นท้ายข้าเหมือนเ้าคนเมื่อกี้ ข้าใก็เลยเผลอขยับตัวไป เป็การตอบสนองตามปกติ ท่านไม่ต้องกังวล ไม่ต้องเป็ห่วง!” หวังเค่ออธิบายทันที
อสุรกายกระดูก “…!”
ไป๋จินกับคนที่เหลือ “…!”
“เ้าตัวน้อย ไม่รักชีวิตแล้วหรือไร อดใจรอโดนข้ากลืนกินไม่ไหว? ได้ งั้นข้าจะสนองให้!” อสุรกายกระดูกกล่าวเสียงเย็น
“เปรี้ยง!”
ภายในสุสานพลันบังเกิดหนามปฐีนับร้อยงอกออกมาจากพื้น คล้ายเตรียมพุ่งเข้าใส่หวังเค่อ
“ช้าก่อน ข้ามีเื่คิดกล่าว รอประเดี๋ยว!” หวังเค่อะโทันที
หนามปฐีนับร้อยลอยหมุนวนกลางอากาศ ทั้งหมดเล็งเข้าใส่หวังเค่อ ดวงตาของอสุรกายกระดูกสาดแสงสีแดงจ้า คล้ายรอหวังเค่อเอ่ยปาก
“ผู้าุโ ท่านถูกสะกดอยู่ที่นี่มานานแสนนานใช่หรือไม่? เนิ่นนานปานนี้ท่านไม่รู้สึกโดดเดี่ยวบ้างหรือไร?” หวังเค่อถามอสุรกายกระดูก
“หา?” อสุรกายกระดูกชะงักไป
ไป๋จินกับคนอื่นเองก็มองหวังเค่อเป็ตาเดียว หวังเค่อคิดทำอะไร?
“ในห้วงราตรีเงียบสงัด ท่านเคยรู้สึกว่างเปล่า เปลี่ยวเหงา และหนาวเหน็บบ้างหรือไม่?” หวังเค่อถาม
อสุรกายกระดูก “…!”
ไป๋จินกับคนที่เหลือต่างอ้าปากค้าง หวังเค่อไม่รักชีวิตแล้วหรือไร? ว่างเปล่า เปลี่ยวเหงา และหนาวเหน็บ นั่นคำที่เอาไว้ใช้กับบุรุษเพศไม่ใช่รึ? ประเด็นคืออสุรกายกระดูกตนนี้ไม่มีสิ่งนั้นไว้ใช้เติมเต็มความว่างเปล่าและเปลี่ยวเหงาด้วยซ้ำ นี่เ้ากำลังเหยียดหยามมัน?
“ผู้าุโ ท่านดู พวกเรามีคนตั้งมากตั้งมาย ท่านไม่ดีใจหรอกหรือ? อย่างน้อยพวกเราก็สามารถช่วยเติมเต็มความว่างเปล่าเปลี่ยวเหงาของท่านได้นะ!” หวังเค่ออธิบาย
ไป๋จินกับคนที่เหลือพากันตัวสั่นทันที เ้าหวังเค่อเป็พวกจิตวิปริตงั้นรึ? พวกเราจะเติมเต็มความว่างเปล่าเปลี่ยวเหงาของโครงกระดูกได้ยังไงก่อน? เ้าเติมเต็มไปคนเดียวเถอะ
“เ้าตัวน้อย นี่เ้ากล้าหยามข้า?” อสุรกายกระดูกถามเสียงเย็น
“ผู้าุโ เพื่อช่วยเติมเต็มความว่างเปล่าเปลี่ยวเหงาของท่าน ให้ข้าช่วยท่านนะ ตกลงไหม? รับรองว่าสนุกแน่!” หวังเค่อเกลี้ยกล่อม
ไป๋จินกับคนที่เหลือ “…!”
อสุรกายกระดูก “…!”
เ้าจะช่วยข้า? รับรองว่าสนุก?
อสุรกายกระดูกมองดูร่างกายท่อนล่างที่โล่งโจ้งของตนพลางรู้สึกอัปยศสุดแสน เ้าเด็กนี่ไม่รักตัวกลัวตายเสียแล้ว ถึงกับกล้าลวนลามข้า?
“ข้าก็อยากให้เ้าได้รู้สึกว่างเปล่า เปลี่ยวเหงา และหนาวเหน็บบ้างเหมือนกัน!” อสุรกายกระดูกตอบเสียงเย็น
ทันใดนั้นเอง หนามปฐีนับร้อยก็เคลื่อนไหวพร้อมกัน ตระเตรียมพุ่งเข้าใส่หวังเค่อ
ทว่าหวังเค่อกลับสะบัดมือเรียกโต๊ะพร้อมไพ่นกกระจอกสองชุดออกมา
“นี่ไง มาแล้ว นี่เรียกว่าไพ่นกกระจอก สนุกเพลิดเพลินเป็อย่างยิ่ง ข้าเล่นไพ่นี้กับทุกคนในลัทธิมารบนเกาะเทพั หลังเล่นไพ่นกกระจอกแล้ว ข้าก็ไม่รู้สึกว่างเปล่าเปลี่ยวเหงาอีกเลย แถมไม่หนาวเหน็บอีกด้วย!” หวังเค่ออธิบาย
“ห๊ะ?” อสุรกายกระดูกตะลึงไป โครงกระดูกที่ลอยวนอยู่รอบตัวมันชะงักค้างกลางอากาศ
“ที่เ้าพูดพล่ามมาตั้งนานสองนาน สรุปเ้าหมายถึงสิ่งนี้?” ไป๋จินไม่ไกลออกไปถามอย่างใ
“แล้วจะเป็อะไรได้อีก? เ้าคิดว่าหมายถึงอะไร?” หวังเค่อถามอย่างสงสัย
ไป๋จินกับคนที่เหลือต่างมองดูร่างกายท่อนล่างของอสุรกายกระดูก จากนั้นค่อยหันไปมองโต๊ะไพ่นกกระจอก คำพูดจุกในลำคอไม่ทราบควรกล่าวอันใด
“นี่เรียกว่าไพ่นกกระจอกรึ?” อสุรกายกระดูกเอ่ยเสียงเข้ม
“ใช่แล้ว ข้าเป็คนคิดค้นเอง ตอนนี้กำลังเป็ที่นิยมในลัทธิมาร ศิษย์ลัทธิมารคนไหนเคยเล่นไพ่นกกระจอกแล้วไม่พูดว่าสนุกบ้าง? ผู้าุโ ให้ข้าสอนท่านเล่นเป็อย่างไร? ข้ารับรองว่าหลังเล่นไพ่แล้วท่านจะไม่้าสิ่งอื่นใดอีกเลย ท่านสามารถนั่งเล่นอย่างเพลิดเพลินได้จนถึงจุดสิ้นสุดแห่งกาลเวลา!” หวังเค่ออธิบายด้วยรอยยิ้ม
อสุรกายกระดูก “…!”
หวังเค่อสอนวิธีเล่นไพ่นกกระจอกให้อสุรกายกระดูกทันที ก่อนหันไปสอนพวกไป๋จินที่เหม่ออยู่ด้วย
อสุรกายกระดูกหยุดลงมือสังหารผู้คน
“พวกเรามานั่งล้อมวงกันเป็อย่างไร?” หวังเค่อส่งสายตาคาดหวังให้อสุรกายกระดูก
อสุรกายกระดูกนิ่งเงียบไปพักใหญ่
หวังเค่อเองย่อมต้องตามตื๊อ
“ไป๋จิน เ้ามัวเหม่ออะไรอยู่? มาล้อมวงเล่นไพ่นกกระจอกกับผู้าุโเร็ว เ้าอยากโดนจับกินรึไง?” หวังเค่อะโใส่ไป๋จินกับคนที่เหลือ
“โอ้ มาแล้ว!” ไป๋จินวิ่งมาร่วมวงด้วยสีหน้าเหม่อลอย
ตอนนี้ขอเพียงไม่ถูกอสุรกายกระดูกจับกิน จะให้ทำอะไรข้าก็ยอมทั้งนั้น
อสุรกายกระดูกไม่เอ่ยคำ เพราะขนาดร่างกายอันสูงใหญ่ของมันไม่เหมาะกับการแตะไพ่นกกระจอก
“มัวนั่งมองอะไรอยู่ ทำไมถึงไม่ช่วยผู้าุโ?” หวังเค่อถลึงตา
“อ้อ!” ไป๋จินที่หดหู่ได้แต่ช่วยอสุรกายกระดูกเรียงไพ่
ไป๋จินไม่คิดฝันเลยว่าเมื่อครู่กำลังจะลงมือสังหารหวังเค่อ แค่พริบตากลับต้องมานั่งล้อมวงเล่นไพ่นกกระจอกด้วยกันเสียอย่างนั้น
“ผู้าุโ เชิญท่านเริ่มเลย!” หวังเค่อพยักเพยิด
หวังเค่อเองก็กังวลว่าอสุรกายกระดูกจะไม่สนใจ แต่โชคดีที่บนพื้นปรากฏกระดูกท่อนบางงอกขึ้นมารวมตัวเป็มือขนาดเล็ก ก่อนจะเริ่มเล่นไพ่
“รวยเละ!”
“ัขาว!”
“ัแดง!”
“ชนะแล้ว!”
.........
.........
......
......
...
...
ทันใดนั้น กลุ่มคนกับอสุรกายกระดูกก็เล่นไพ่กันอย่างดุเดือด
ไม่ไกลออกไป กลุ่มมารที่กำลังจะลงมือสังหารหวังเค่อก่อนหน้านี้ต่างพากันปั้นหน้าพิกล นี่หมายความอย่างไร? ทำไมพวกเ้าถึงได้มานั่งสุมหัวเล่นไพ่กัน?
อสุรกายกระดูกชนะสามตารวด ทุกคนต่างพากันควักเงินจ่ายให้อสุรกายกระดูกตามหวังเค่อ
พอมาถึงตาที่สี่ มารตนหนึ่งที่นั่งตรงข้ามอสุรกายกระดูกพลันตบไพ่ฉาด
“ชนะแล้ว!”
มารตนนั้นะโอย่างตื่นเต้น จากนั้นเอ่ยปากทวงเงินอย่างยินดี
หวังเค่อกับไป๋จินต่างมองมารตนนั้นอย่างใ เ้าหนูนี่หาที่ตายซะแล้ว พวกเราเล่นไพ่เพื่อประจบเอาใจท่านผู้าุโ เ้ากล้าหักหน้าชนะเสียอย่างนั้น?
“ข้าได้สีเดียวกันหมด ขาดแค่ใบเดียวเท่านั้น! ตัวบัดซบ เ้ากล้าหยุดข้า? หาที่ตาย!” อสุรกายกระดูกแค่นเสียงเย็น
“ครืนน!”
ทันใดนั้น หนามปฐีพลันผุดขึ้นจากพื้นดิน แทงเข้าใส่ร่างมารที่เล่นไพ่ชนะ ก่อนร่างมันจะปลิวลิ่วลอยเข้าสู่ปากของอสุรกายกระดูก
“กรุบ กรุบ กรุบ!”
มารตัวที่สองถูกกลืนลงไปในชั่วพริบตา
หวังเค่อ “…!”
ไป๋จินกับคนที่เหลือ “…!”
“ไพ่นกกระจอกนี่สนุกแถมยังน่าสนใจ แต่ข้าก็ยังชอบรสชาติของเนื้อมากกว่า! ใครจะเล่นต่อ? ตาไหนข้าเล่นชนะ ข้าจะกินหนึ่งคน เข้ามา!” อสุรกายกระดูกคำราม
เล่นไพ่ชนะ จะกินหนึ่งคน?
เมื่อกี้ท่านเล่นแพ้ก็กินคนเถอะ!
สรุปคือจะแพ้หรือชนะ ท่านก็กินคนอยู่ดี!
แล้วใครมันจะยังกล้าเล่นไพ่นกกระจอกต่อ?
“อย่าเลย ท่านผู้าุโ พวกเราล้วนเป็ศิษย์ลัทธิมาร หากท่านอยากกินคนก็กินหวังเค่อก่อน มันเป็ศิษย์พรรคฝ่ายธรรมะ ไม่ใช่คนของลัทธิมารเรา มันเป็ศัตรู มีประมุขพรรคเทพหมาป่า์เป็อาจารย์ มันเป็ศัตรูท่าน!” ไป๋จินรีบเอ่ยอย่างหวาดผวา
“ศิษย์ประมุขพรรคเทพหมาป่า์?” อสุรกายกระดูกพลันมองหวังเค่ออย่างเ็า
อสุรกายกระดูกแผ่รังสีฆ่าฟันออกมาจนอุณหภูมิรอบด้านดิ่งวูบ เห็นได้ชัดว่าอสุรกายกระดูกตนนี้ชิงชังพรรคเทพหมาป่า์เป็อย่างยิ่ง
“ผู้าุโ อย่าไปฟังมันพูดเหลวไหล ข้ามีป้ายยืนยันตัวตน เชิญดูก่อน!” หวังเค่อรีบนำแผ่นป้ายออกมาส่งให้
ป้ายคำสั่งลอยเข้าสู่มือของอสุรกายกระดูกทันที
“นายท้ายเทพั หวังเค่อ สังกัดลัทธิมารจันทรา คารวะผู้าุโ!” หวังเค่อเอ่ยอย่างนอบน้อม
อสุรกายกระดูกกุมป้ายคำสั่งไว้พลางสำรวจดูอยู่พักใหญ่
“ผู้าุโ อย่าไปฟังหวังเค่อมันพูดเพ้อเจ้อ มันโกหก โป้ปดมดเท็จ!” ไป๋จินพลันกล่าวอย่างกังวล
“ป้ายนี้เป็ของจริง มีลมปราณของเ้านั่นอยู่ ซ้ำยังมีปราณโลหิตของหวังเค่อยืนยันความเป็เ้าของ มันคือนายท้ายเทพัจริงๆ!” อสุรกายกระดูกกล่าวเสียงเข้ม
ลมปราณของ ‘เ้านั่น’ ที่อสุรกายกระดูกเอ่ยถึง ย่อมหมายถึงลมปราณของมารอริยะ
หวังเค่อได้ยินเป็ต้องตาลุกวาวทันที
“ใช่ขอรับ นั่นคือลมปราณของมารอริยะ ผู้าุโ ท่านเองก็รู้จักมารอริยะด้วย ท่านมารอริยะเป็คนแต่งตั้งข้าขึ้นเป็นายท้ายเทพั!” หวังเค่อตอบอย่างแปลกใจ
“ของปลอม ของปลอม มันเป็ศิษย์ฝ่ายธรรมะ ไหนเลยจะเป็นายท้ายลัทธิมารได้? เป็ไปไม่ได้!” ไป๋จินสบถอย่างไม่อยากเชื่อ
เมื่อวานนี้ข้ายังเชื้อเชิญให้หวังเค่อทดสอบด้วยกระบี่ไอธรรมะอยู่เลย มันเป็ศิษย์ฝ่ายธรรมะไม่ผิดแน่ แล้วจะเป็นายท้ายเทพัได้อย่างไร? ต้องเป็เื่โกหกแน่
อสุรกายกระดูกมองไป๋จินก่อนหันไปมองหวังเค่อ ทันใดนั้น มันคล้ายเห็นบางสิ่งแปลกประหลาด
“บนข้อมือเ้านั่นอะไร?” อสุรกายกระดูกถามเสียงเย็น
“หา?” หวังเค่อหน้าเปลี่ยนสี
บนข้อมือข้าย่อมต้องเป็กำไลมิติที่ข้าอัดของไว้แน่นเอียดน่ะสิ ท่านคงไม่ได้คิดปล้นข้าหรอกใช่ไหม?
“นะ นี่คือ…!” หวังเค่อสีหน้าบูดเบี้ยว
หากอสุรกายกระดูกไม่ได้สนใจ มันลงมือทันที
“ฟิ้ว!”
กำไลมิติวงหนึ่งของหวังเค่อลอยเคว้ง พุ่งเข้าสู่มือของอสุรกายกระดูก
“ผู้าุโ นั่นเป็กำไลกระดูกที่สหายของข้าให้มา ท่านดูข้าไม่ว่า แต่ท่านต้องคืนข้านะ!” หวังเค่อกล่าวอย่างกังวล
กำไลนี้เป็เซิ่งจื่อแห่งลัทธิมารใช้กระดูกตนเองสร้างให้หวังเค่อยามลาจากกัน
“สหายเ้าเป็คนให้มา?” อสุรกายกระดูกเอ่ยด้วยเสียงเย็นเยือก คล้ายมันสนใจในกำไลกระดูกเป็อย่างมาก
“ใช่ ใช่!” หวังเค่อพยักหน้าด้วยคิ้วขมวดมุ่น
“เหอะ!” อสุรกายกระดูกแค่นเสียงเย็น
จากนั้นอสุรกายกระดูกก็จี้นิ้วใส่กำไลกระดูก
“หึ่ง!”
กำไลกระดูกสั่นไหวเล็กน้อย จากนั้นคล้ายส่งเสียงออกมา
“ข้าเห็นว่าเ้าสวมกำไลมิติหลายวงเหลือเกิน เห็นชัดว่ากำไลมิติเ้ามีที่เก็บของไม่พอ ข้าไม่มีสิ่งใดมอบให้ เลยให้เ้าได้เพียงเท่านี้ มิติเก็บของข้างในนี้กว้างกว่ากำไลมิติทั่วไปหนึ่งร้อยเท่า เ้าช่วยชีวิตข้าไว้สองครั้ง หวังว่ากำไลนี้จะช่วยเ้าได้!”
เสียงของเซิ่งจื่อนี้กลับดังมาจากกำไลกระดูก
“กะ กำไลกระดูกนี่ยังเป็เครื่องเล่นเสียงด้วย?” หวังเค่อเอ่ยอย่างใ
กำไลกระดูกเปล่งเสียงเซิ่งจื่อตอนบอกลากันออกมา
พอได้ยินเสียงนี้ อสุรกายกระดูกก็ตัวสั่นสะท้าน รังสีฆ่าฟันพวยพุ่งออกจากร่างอีกครั้ง อุณหภูมิของทั้งสุสานพลันดิ่งวูบฉับพลันคล้ายปรากฏเกล็ดหิมะลอยฟุ้ง
“หวังเค่อ เ้า เ้าทำผู้าุโรำคาญใจ พวกเราจบเห่แน่แล้ว!” ไป๋จินมองหวังเค่อพลางสาปส่ง
อสุรกายกระดูกแผ่รังสีอำมหิตออกมาขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าจวนเจียนจะะเิอยู่รอมร่อ พวกเราจบเห่แล้ว
“ใครกัน ใครมันคิดฆ่าลูกข้า!” อสุรกายกระดูกถามเสียงเย็น
ลูกท่าน?
ทุกคนต่างชะงักนิ่ง ลูกท่านมาจากไหน?
หวังเค่อมองท่อนล่างของอสุรกายกระดูกด้วยสีหน้าพิกล โครงกระดูกก็มีทายาทสืบตระกูลได้ด้วย?
ไม่ใช่กระมัง? หวังเค่อพลันตื่นเต้นขึ้นมา ความปลื้มปีติเอ่อล้นขึ้นในใจ ข้าคิดว่าพอจะเดาอะไรออกแล้ว
“เ้าช่วยชีวิตลูกข้าไว้สองครั้ง?” อสุรกายกระดูกพลันมองหวังเค่อ
ถึงตอนนี้ รังสีฆ่าฟันทั้งหมดรอบตัวหวังเค่อพลันเลือนหายหมดสิ้น
หวังเค่อปลื้มใจ ตนคิดไม่ถึงว่าสถานการณ์จะดีขึ้นอีกแล้ว!
“ผู้าุโ ท่านหมายถึงเซิ่งจื่อสหายรักของข้า?” หวังเค่อถามอย่างตื่นเต้น สุ้มเสียงยิ่งมายิ่งกังวาลทรงพลัง
ไป๋จินกับคนที่เหลือต่างถลึงตาใส่หวังเค่อ เซิ่งจื่อเป็สหายรักเ้า? ยังมีหน้ามาพูดอีก งั้นสรุปแล้วเ้าอยู่พรรคฝ่ายไหน? สหายรักเซิ่งจื่อ? เ้ามีคุณสมบัติอะไร?
“สหายรักของเ้า? จริงสิ เ้าช่วยชีวิตลูกข้าไว้สองครั้ง ลูกข้าจะนับเ้าเป็สหายก็ไม่แปลก!”
ไป๋จินกับคนที่เหลือต่างเบิกตามองอสุรกายกระดูกอย่างใ นี่ท่านเชื่อมันด้วย?
“ผู้าุโ ที่แท้ท่านก็คือบิดาของเซิ่งจื่อ ประเสริฐนัก! ครั้งนี้ถ้าหากเซิ่งจื่อเศร้าใจ ข้าจะได้บอกมันว่าบิดายังรอมันอยู่ ข้าจะส่งกำลังใจให้เซิ่งจื่อเข้มแข็งกว่าเดิม! ทุกค่ำคืน เซิ่งจื่อมักนอนร้องไห้จนถึงรุ่งสาง มันบอกข้าว่ามันคิดถึงบิดา ตอนนี้อย่างน้อย มันก็มีท่านให้คิดถึง มีท่านให้จดจำ!” หวังเค่อเอ่ยอย่างซาบซึ้ง
อ
