“งั้นข้าก็ไม่ขาย ร้านข้าไม่ขายสินค้าแตกหัก ยังมีดาบอัศวินดีๆ อยู่บนชั้นสินค้า เ้าลองไปดูสิ” ฉีเล่อถือดาบอัศวินด้วยสีหน้าเรียบเฉย และเดินกลับไปที่ด้านหลังเคาน์เตอร์
"สองร้อยผลึกิญญา"
อิ้งเฟิงเดินไปที่ข้างชั้นวางสินค้า แล้วร้องอุทานออกมา
“คุณภาพสมราคา” ฉีเล่อวางดาบอัศวินไว้ที่ด้านล่างเคาน์เตอร์ชั่วคราว
เขารู้ว่า สิบผลึกิญญาที่เสียหายนี้ เขาจะต้องรับผิดชอบ
“เถ้าแก่ ตอนนี้ข้าไม่มีผลึกิญญามากมายขนาดนั้นหรอก” อิ้งเฟิงจ้องดาบอัศวินในชั้นวางสินค้าด้วยใบหน้าหลงใหล
ท่าทางของเขาเหมือนกับคนไม่ได้กินข้าวมาสามวัน และในที่สุดก็เห็นโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารอันโอชะ
ต้องรู้ว่า ดาบอัศวินสิบผลึกิญญา แข็งแกร่งกว่าดาบอัศวินที่เขาใช้เงินจำนวนมากเพื่อตีมันขึ้นมาหลายเท่า
ดังนั้นเขาจึงคิดว่าดาบอัศวินราคาสองร้อยผลึกิญญา มันอาจจะสุดยอดจนท้าทาย์ได้เป็แน่
“ธุรกิจข้ามันเล็ก ไม่ค่อยกว้างขวางเท่าไหร่” ฉีเล่อเอ่ยเสียงเรียบ
“ไม่ต้องห่วง”
อิ้งเฟิงโบกมือแล้วกล่าวว่า “เถ้าแก่ ยังมีคทาเวทที่ยังไม่ได้ทดสอบ”
“ง่ายๆ เลย” ฉีเล่อหยิบ “คทาน้ำแข็ง” ลงมาจากชั้นวางของ
คทาเวท สิ่งที่สำคัญที่สุดคือมันสามารถช่วยให้นักเวทเร่งความเร็วในการร่ายเวทและเสริมพลังเวทที่ปล่อยออกมา
อีกทั้งคทาเวทบางอัน ก็มีความสามารถอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย
เช่น การเก็บพลังเวท หรือปิดผนึกพลังเวทที่ร่ายแล้ว ให้ปล่อยออกมาในเวลาที่เหมาะสมได้
สิ่งที่ฉีเล่อและอิ้งเฟิงต้องแข่งกันก็คือความสามารถพื้นฐานของคทาเวท
เพิ่มความแข็งแกร่งให้พลังเวท รวมทั้งเร่งความเร็วในการร่ายเวท
“พวกเรามาลองร่ายเวทปราณเย็นเยือก โดยใช้การร่ายเวทระดับสิบ” อิ้งเสวี่ยยกคทาในมือขึ้น แล้วพูดกับฉีเล่อ
เวทปราณเย็นเยือก คือพลังเวทพื้นฐานของนักเวท แต่กลับเป็พลังเวทที่สามารถเสริมความแข็งแกร่งให้ผู้ใช้ได้ไม่รู้จบ
ยิ่งพลังสะสมนานเท่าไหร่ ขอบเขตเวทปราณเย็นเยือกก็จะยิ่งใหญ่ขึ้น ระดับปราณเย็นเยือกก็จะแข็งแกร่งขึ้น
ความเย็นที่นักเวทปล่อยออกมาในระดับต่ำ อาจทำให้ดอกไม้หรือพืชบางชนิดในบริเวณใกล้เคียงแข็งตัว
แต่ถ้าจอมเวทผู้ทรงพลังร่ายเวทเยือกแข็งออกมา ขอเพียงเขามีเวลามากพอในการสะสมพลัง พวกเขาก็สามารถแช่แข็งได้ทั้งเมืองโดยไม่มีปัญหา
แน่นอนว่าด้วยเหตุผลนี้ เวทปราณเย็นเยือกจึงมักใช้ในการทดสอบคทาเวท
พลังเวทระดับสิบ หมายถึงพลังเวททั้งหมดที่จอมเวทระดับสิบสามารถใช้ได้
“ระบบ คุณรู้วิธีปล่อยพลังเวทนี้ไหม?” ฉีเล่อเอ่ยถามระบบในใจ
ตอนนี้เขามีค่าสถานะความแข็งแกร่งอยู่ที่ขั้นสิบหก แต่เขากลับใช้พลังเวทหรือทักษะใดไม่ได้
ระบบ (โฮสต์ โปรดจำไว้เสมอว่าระบบไม่ใช่อาจารย์ ดังนั้นระบบจะไม่สอนพลังเวทให้กับคุณ)
“...”
“เดี๋ยวก่อน บอกฉันก่อนสิ ว่าไอ้พลังเวทนี่มันปล่อยออกมายังไง” ฉีเล่อสบถด่าระบบในใจ จากนั้นอิ้งเสวี่ยก็เอ่ยถาม
“เถ้าแก่ ท่านคงเป็นักรบสินะ” อิ้งเสวี่ยหมดคำจะพูด
แต่นางก็ยังคงบอกคาถาร่ายเวทปราณเย็นเยือกให้ฉีเล่อฟัง
“เริ่มกันเลย”
ฉีเล่อยกคทาน้ำแข็งในมือขึ้นมา
“ผนึกปราณเย็นเยือก!”
ทั้งสองเริ่มร่ายเวท “ผนึกปราณเย็นเยือก” ออกมาพร้อมกัน
พลังเวทในร่างกายของอิ้งเสวี่ยรวมตัวไปที่คทาเวทของนาง
พลังงานในร่างกายของฉีเล่อ ก็เริ่มรวมตัวไปที่คทาเวทของเขาเช่นกัน
เื่นี้ มีเพียงฉีเล่อเท่านั้นที่สามารถทำได้
เพราะพลังงานในร่างกายของฉีเล่อเป็พลังงานที่รวมข้อดีของพลังต่อสู้กับพลังเวทไว้ด้วยกัน ดังนั้นเขาจึงสามารถเรียนรู้ทักษะพลังเวทและทักษะการต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย
ไม่อย่างนั้น นักเวทจะไม่มีทางใช้ทักษะการต่อสู้ได้
“เถ้าแก่ ถ้าท่านแพ้ อย่าให้เครื่องดื่มชูกำลังพวกเราเลย ให้ดาบอัศวินเล่มนั้นกับเราเถอะ” อิ้งเฟิงเอ่ยปากดีอยู่ด้านข้าง
ราวกับว่าอิ้งเสวี่ยชนะแล้วก็ไม่ปาน
คทาเวทที่ทำจากจอมเวทระดับจงซือ มันแข็งแกร่งกว่าหลายเท่าเมื่อเทียบกับดาบอัศวินที่อิ้งเฟิงใช้