ไม่นานหลังจากที่เฮยหลงและทหารม้าัดำเข้าร่วมสนามรบ สัตว์ิญญาที่โจมตีเมืองอยู่ต่างถูกสังหารอย่างต่อเนื่อง เหลือเพียงไม่กี่ตัวที่ยังดิ้นรนเอาชีวิตรอด ไป๋เสวี่ยยืนอยู่บนกำแพงเมือง มองการต่อสู้อย่างประหลาดใจ นางถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะพูดกับตัวเอง "ระดับนิพพาน...ทั้งหมดเลยอย่างนั้นเหรอ..."
หญิงสาวที่อยู่ข้างๆ นางเอ่ยขึ้นด้วยเสียงที่แฝงไปด้วยความหวาดหวั่น "ฝ่าาซ่อนมันไว้ได้ยังไงกัน? ..และอย่างนี้ใครในราชวงศ์เพลิง์จะต่อต้านเขาได้กัน?"
ไป๋เสวี่ยพยักหน้าเบาๆ และตอบด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ "ข้าว่าพวกเขาคงไม่มีโอกาสแม้แต่จะคิดต่อต้าน... ใช่ไหมล่ะ?"
ในจังหวะนั้นเอง นางทำความเคารพไปยังเงาของกำแพงอย่างกะทันหัน หญิงสาวข้างๆ ดูสับสนเล็กน้อย ก่อนที่นางจะเห็นชายในชุดสีดำปรากฏตัวขึ้นจากเงาของกำแพงอย่างเงียบงัน เงาทมิฬคนนั้นก้าวออกมาจากเงามืดของกำแพงทันที ไป๋เสวี่ยคุกเข่าลงทันทีด้วยความเคารพ พร้อมยื่นตราประทับที่ใช้สำหรับควบคุมกองทัพภาคเหนือทั้งหมดให้เงาทมิฬโดยไม่ลังเล หญิงสาวข้างๆ ไป๋เสวี่ยเองก็คุกเข่าลงด้วยความตื่นตระหนกและทำความเคารพเช่นกัน
เงาทมิฬเดินมาหยิบตราเพลิง ซึ่งเป็สัญลักษณ์แห่งอำนาจในการควบคุมกองทัพภาคเหนือทั้งหมดทันที ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ "หากว่าเ้า้าตรากองทัพคืน ก็จงพิสูจน์คุณค่าของตัวเองซะ ในหลังจากนี้อีก 10 วัน องค์จักรพรรดิหลี่หวงจะมีการรื้อระบบการปกครองใหม่ทั้งหมด องค์จักรพรรดิคาดหวังกับเ้าไว้สูงนะ สาวน้อย"
สิ้นเสียงคำพูดนั้น เงาทมิฬก็หายวับไปในเงามืดทันที
ไป๋เสวี่ยยิ้มบางๆ "ข้าจะไม่ทำให้ท่านองค์จักรพรรดิผิดหวัง" นางพูดพลางยืนขึ้น ก่อนจะะโลงจากกำแพงอย่างรวดเร็วและเข้าสู่สนามรบโดยไม่ลังเล ดาบของนางวาดออกไปในอากาศ สังหารสัตว์ิญญาที่เหลืออย่างไร้ความปรานี
"ท่านแม่ทัพ! รอข้าด้วย!" หญิงสาวข้างๆ ร้องขึ้นก่อนจะรีบวิ่งตามไป๋เสวี่ย ทิ้งไว้เพียงความเงียบสงัดบนกำแพงที่เคยเต็มไปด้วยเสียงต่อสู้
ไม่นานนัก หลังจาการะหว่างสัตว์ิญญาและกองทัพภาคเหนือแห่งราชวงศ์เพลิง์จบลง ชาวเมืองต่างส่งเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจ ทหารส่วนใหญ่ที่รอดชีวิตรีบเดินทางกลับเข้าเมืองเพื่อทำการรักษาาแ ส่วนประชาชนเองก็ต่างยินดีที่ได้เห็นผู้พิทักษ์ของพวกเขากลับมาอย่างปลอดภัย
ภาคเหนือแตกต่างจากภาคอื่นๆ ภาคเหนือไม่ค่อยมีขุนนางที่ทุจริตมากนัก เพราะเป็ดินแดนที่เต็มไปด้วยอันตรายจากการโจมตีของสัตว์ิญญาเป็ประจำ ทำให้ไม่มีใครอยากมาปกครองหรือตั้งถิ่นฐานที่นี่เลย ผู้คนส่วนใหญ่ในภาคนี้เป็คนที่มีความสามารถหรือมีพร์ในการบ่มเพาะสูง แต่ถูกขับไล่มาจากภาคอื่นๆ เพื่อให้พวกเขามาตายที่ภาคเหนือแห่งนี้
ในขณะเดียวกัน หน่วยลับเงาทมิฬได้เข้ามาในเมืองและยึดครองเมืองต่างๆ โดยที่เ้าเมืองต่างๆ ก็ให้การต้อนรับเป็อย่างดี และหน่วยลับเงาทมิฬเริ่มประกาศการงดเว้นภาษีเป็เวลา 1 ปี พร้อมกับแจกจ่ายอาหารให้กับประชาชน เช่นเดียวกับเมืองอื่นๆ ที่กองทัพของจักรพรรดิหลี่หวงได้เข้ายึดครองก่อนหน้านี้
ไป๋เสวี่ย ซึ่งตอนนี้ยืนอยู่บนกำแพง มองไปยังเฮยหลงและกองทัพทหารม้าัดำที่ยังคงประจำการอยู่ข้างนอก เธอรู้สึกมึนงงเล็กน้อย แต่ก็ไม่กล้าที่จะถามออกไป เพียงแต่ยืนมองอยู่ห่างๆ ทันใดนั้น เงาทมิฬคนหนึ่งก็ก้าวออกมาจากเงาของต้นไม้ใกล้ๆ และรายงานอย่างเงียบเชียบว่า
"ภายในป่าิญญา มีสัตว์ิญญาที่เหนือกว่าขั้นนิพพานหลายร้อยตัว และยังมีสิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถตรวจสอบระดับพลังได้อีกมากมาย"
เฮยหลงฟังรายงานนี้อย่างเงียบๆ ก่อนจะพยักหน้าและสั่งการทันที "ทหารม้าัดำกลับเข้าเมืองได้"
ที่ราชวงศ์ดาบ หญิงสาวผู้หนึ่งนั่งคุกเข่าก้มกราบร้องไห้ขอร้องชายชราผู้หนึ่งด้วยน้ำตา "ท่านพ่อ ข้าขอร้อง ท่านต้องแก้แค้นให้สามีและลูกชายของข้าด้วย พวกเขาไม่สมควรต้องตายแบบนี้!"
ชายชราเหยียดตายาวมองลงไปที่ลูกสาวของตนอย่างเคร่งขรึม ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "เ้าอย่าทำตัวแบบนี้สิ ข้าจะล้างแค้นให้พวกเขาแน่นอน ข้าจะสังหารไอ้จักรพรรดิสุนัขนั่น และเอาหัวมันมาประจานให้เ้าเห็นกับตา แต่ข้าขอเวลาสักหน่อย ตอนนี้ราชวงศ์ดาบเต็มไปด้วยความวุ่นวาย เ้าชายแต่ละองค์กำลังแย่งชิงบัลลังก์กันจนไม่มีใครสนใจเื่อื่นในตอนนี้ ข้าเพียงแค่ต้องรอให้สถานการณ์ภายในสงบลงก่อน แล้วกองทัพหยกขาวของข้าจะมุงตรงไปทำลายราชวงศ์เพลิง์ให้สิ้นซาก ข้าสัญญา"
หญิงสาวที่ก้มกราบอยู่พยักหน้าเบา ๆ น้ำตายังไหลพรั่งพรู แม้นางจะไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจของนางเต็มไปด้วยความโกรธแค้น "เมื่อสามีและลูกของข้าตายไป เ้าก็ต้องตายด้วย" นางคิดอย่างเงียบงัน ก่อนจะลุกขึ้นแล้วจากไปอย่างสง่างาม
ขณะเดียวกันที่เมืองหลวงของราชวงศ์เพลิง์ หลี่หวงนั่งอยู่ในห้องประชุมพระราชสำนัก เอกสารกองสูงเต็มโต๊ะเบื้องหน้า ท่ามกลางความเงียบ เขาเงยหน้าจากเอกสารแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความเ้าเล่ห์
"ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ น้องชายคนที่ 10"
ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าหลี่หวงยิ้มเล็กน้อย ดวงตาของเขาฉายแววเยือกเย็น และด้านหลังของเขามีบรรพบุรุษราชวงศ์เพลิง์หลายคนที่ยืนล้อมรอบ เขาคือองค์ชายลำดับที่ 10 หลี่เฉิน
"ข้าเองก็ไม่คิดว่าจะได้กลับมาเจอท่านพี่ได้ ข้านึกว่าท่านจะตายไปเสียแล้ว" หลี่เฉิน กล่าวออกมาอย่างเ็า
บรรยากาศภายในห้องเริ่มเต็มไปด้วยความตึงเครียด หลี่หวงยังคงนั่งอย่างสงบแต่ดวงตาเต็มไปด้วยความหยิ่งทะนง
"เมื่อเ้าพบจักรพรรดิ ทำไมไม่ถึงคุกเข่าลงละ"
องค์ชายคนที่ 10 มองสบตากับหลี่หวงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "เ้าต่างหากละ ทำไมถึงยังไม่คุกเข่าลงเมื่อพบจักรพรรดิแห่งราชวงศ์เพลิง์อีกละ!"
หลี่หวงยิ้มออกมาพร้อมดวงตาสีแดงสดของเขามองไปที่หลี่เฉิน ก่อนจะพูดขึ้น
“ข้ากำลังขาดหนูทดลองบางอย่างพอดี เมื่อเห็นพวกเ้าเสนอตัวแบบนี้ก็ช่วยทำให้มือของข้าสะอาดขึ้นเยอะเลย”