ชายชรานำหลินเว่ยผ่านโถงถ้ำที่กว้างขวางกว่า ผนังถ้ำแกะสลักด้วยภาพัและสัญลักษณ์โบราณมากมาย แสงจากคบเพลิงสะท้อนผลึกแร่บนเพดาน เกิดเป็ประกายระยิบระยับคล้ายดวงดาว
ลึกเข้าไปในูเา อุณหภูมิเย็นลงอย่างชัดเจน หลินเว่ยรู้สึกสั่นเล็กน้อย ไม่แน่ใจว่าเป็เพราะความเย็นหรือความตื่นเต้นกับการทดสอบที่กำลังจะมาถึง
"ที่นี่คือถ้ำแห่งความรู้" ชายชรากล่าว "ั้แ่โบราณกาล ผู้พิทักษ์ใช้สถานที่นี้ฝึกฝนจิตใจและสตัิปัญญา"
เมื่อพวกเขาเดินมาถึงห้องถ้ำกลม มีแท่นหินห้าแท่นตั้งเรียงเป็วงกลม แต่ละแท่นมีสัญลักษณ์แกะสลักแตกต่างกัน: ัล้อมเปลวไฟ, ัวางดาบกลางธารน้ำ, ัแหวกก้อนดิน, ับินท่ามกลางเมฆ และัพันต้นไม้
ผู้พิทักษ์คนอื่นๆ ยืนล้อมรอบห้อง สายตาจับจ้องที่หลินเว่ย ฉือชินและผู้พิทักษ์หนุ่มคนที่คัดค้านชายชราก่อนหน้าจะเดินเข้ามาพร้อมถาดใบหนึ่ง
"นี่คือการทดสอบที่สอง" ชายชรากล่าว "เ้าต้องแก้ปริศนาโบราณที่เชื่อมโยงกับธาตุทั้งห้า"
ฉือชินวางถาดลงตรงกลางวงแท่นหิน เผยให้เห็นวัตถุห้าชิ้นที่วางอยู่บนถาด: ใบไม้พับเป็รูปั, หินสีดำทรงแปลกตา, ขวดน้ำเล็กๆ, ถ้วยบรรจุดินแดง และเทียนสีแดง
"ปริศนานี้มีมาั้แ่ยุคา" ชายชราอธิบาย "เพื่อแก้มัน เ้าต้องวางวัตถุแต่ละชิ้นบนแท่นหินให้ถูกต้อง และกล่าวคาถาโบราณที่เชื่อมโยงกับมัน"
"คาถาอะไร?" หลินเว่ยถาม
"นั่นคือสิ่งที่เ้าต้องค้นพบ" ชายชราตอบ ยิ้มบางๆ "นักปราชญ์โบราณกล่าวว่า 'คำตอบอยู่ในตัวปริศนาเอง' จงมองให้ลึก สังเกตทุกรายละเอียด และฟังเสียงของพลังชี่ในตัวเ้า"
หลินเว่ยมองวัตถุทั้งห้าและแท่นหินอย่างพิจารณา เขาััได้ถึงความสำคัญของการทดสอบนี้ "มีกฎอะไรอีกไหม?"
"เ้ามีเวลาจนกว่าเทียนดวงนี้จะมอดดับ" ชายชราจุดเทียนขนาดใหญ่กว่าที่อยู่กลางห้อง "หากล้มเหลว บททดสอบนี้จะจบลง และเ้าจะไม่มีโอกาสทำต่อ"
ชายชราและผู้พิทักษ์คนอื่นๆ ถอยออกไป ยกเว้นฉือชินที่ยืนคอยสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด สายตาของเธอจับจ้องหลินเว่ยด้วยความไม่ไว้วางใจ
หลินเว่ยหันมาสนใจปริศนาตรงหน้า เขาเคยได้ยินเื่ธาตุทั้งห้าในตำราจีนโบราณ—ทอง (โลหะ), ไม้, น้ำ, ไฟ, และดิน—แต่ละธาตุมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับธาตุอื่นๆ
เขาหยิบวัตถุชิ้นแรก—ใบไม้พับเป็รูปั สำรวจมันอย่างละเอียด แล้วมองไปที่แท่นหินทั้งห้า แท่นที่มีสัญลักษณ์ัพันต้นไม้ดูเหมาะสมที่สุด
แต่ก่อนที่จะวาง เขาชะงัก ลองพิจารณาอีกครั้ง สัญลักษณ์บนแท่นหินไม่ได้บ่งบอกเพียงธาตุเท่านั้น แต่เป็ความสัมพันธ์ระหว่างักับธาตุต่างๆ
หลินเว่ยหลับตาลง ใช้เทคนิค "ัหลับใหล" จัดระเบียบความคิด
"ธาตุทั้งห้าไม่ได้แยกจากกัน แต่หมุนเวียนเป็วัฏจักร..." เขาพึมพำกับตัวเอง "...ธาตุหนึ่งก่อให้เกิดอีกธาตุหนึ่ง และควบคุมอีกธาตุหนึ่ง"
เขาหวนนึกถึงคำสอนของนางชานซู: "ไม้ก่อให้เกิดไฟ, ไฟก่อให้เกิดดิน, ดินก่อให้เกิดโลหะ, โลหะก่อให้เกิดน้ำ, และน้ำก่อให้เกิดไม้ ในขณะเดียวกัน ไม้ควบคุมดิน, ดินควบคุมน้ำ, น้ำควบคุมไฟ, ไฟควบคุมโลหะ, และโลหะควบคุมไม้"
"หมุนเวียนและควบคุม..." หลินเว่ยกระซิบ "...คล้ายกับการไหลเวียนของพลังชี่ในร่างกาย"
เขาพิจารณาแท่นหินอีกครั้ง ใบไม้พับถูกวางไว้ที่แท่นัพันต้นไม้ น่าจะเป็ตำแหน่งของธาตุไม้
ถัดมาคือขวดน้ำเล็กๆ หลินเว่ยวางมันบนแท่นัวางดาบกลางธารน้ำ—ตำแหน่งของธาตุน้ำ
เทียนสีแดงถูกวางบนแท่นัล้อมเปลวไฟ—ตำแหน่งของธาตุไฟ
ถ้วยบรรจุดินแดงถูกวางบนแท่นัแหวกก้อนดิน—ตำแหน่งของธาตุดิน
สุดท้าย หินสีดำทรงแปลกตาถูกวางบนแท่นสุดท้าย ับินท่ามกลางเมฆ—ตำแหน่งของธาตุโลหะ
เมื่อวัตถุทั้งห้าอยู่ในตำแหน่งที่หลินเว่ยคิดว่าถูกต้อง ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เทียนยังคงสว่าง ลมยังคงพัดเบาๆ
"ต้องมีอะไรมากกว่านี้..." หลินเว่ยพึมพำ "ชายชราบอกว่าต้องกล่าวคาถาด้วย"
เขาสังเกตรายละเอียดบนแท่นหินอีกครั้ง เห็นอักขระจีนโบราณแกะสลักบริเวณฐาน แต่เป็อักษรที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
"การเชื่อมโยงระหว่างธาตุ..." เขาครุ่นคิด "...คงไม่ใช่แค่การเรียงลำดับ แต่เป็ความสมดุล..."
เมิ่งหลิงเคยบอกเขาว่าในทฤษฎีจีนโบราณ ธาตุทั้งห้ามีทั้งคุณสมบัติหยิน (เย็น, รับ, เงียบ) และหยาง (ร้อน, ให้, เคลื่อนไหว) ต้องใช้หยินและหยางให้สมดุลกัน
หลินเว่ยเดินอ้อมวงแท่นหิน สังเกตว่าตำแหน่งของแท่นหินไม่ได้เรียงตามวัฏจักรของธาตุ แต่แท่นหินที่เป็ธาตุตรงข้ามกันอยู่ตรงข้ามกันในวงกลม
"ต้องเป็เื่สมดุล" หลินเว่ยกล่าว "ระหว่างธาตุต่างๆ"
เขาเริ่มจับความสัมพันธ์ได้ แท่นหินห้าแท่นเรียงเป็รูปดาวห้าแฉก ธาตุที่ควบคุมกันเชื่อมโยงผ่านเส้นตรงระหว่างแท่น
"ัย่อมรอบรู้ทั้งห้าธาตุ" หลินเว่ยกล่าวช้าๆ ตามสัญชาตญาณ "ไม้งอกงามเป็ชีวิต น้ำไหลไร้รูปแบบ ไฟลุกไหม้ทำลายล้าง ดินแข็งแกร่งมั่นคง และโลหะคมกริบผ่าทะลุ"
พลังชี่ในตัวหลินเว่ยเริ่มไหลเวียนแรงขึ้น สัมพันธ์กับวัตถุบนแท่นหิน แต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลินเว่ยลองคิดทบทวน ธาตุไม่ได้แยกจากกัน แต่เป็เอกภาพที่หมุนเวียนเปลี่ยนแปลง เขานึกถึงนางชานซูสอนท่า "ัทะยานฟ้า" ท่าแรก—ัหลับใหล—เน้นการนั่งสมาธิ ควบคุมลมหายใจเพื่อรวบรวมพลังปราณ
พลังปราณ... ลมหายใจ... การไหลเวียน...
"ธาตุทั้งห้าอยู่ในร่างกายเรา" หลินเว่ยพึมพำ "ัหลับใหลเพื่อรวบรวมพลัง ัตื่นกายเพื่อกระจายพลัง..."
หลินเว่ยเข้าใจแล้ว ปริศนานี้ไม่ใช่แค่เื่ธาตุอย่างเดียว แต่เป็เื่การเชื่อมโยงระหว่างธาตุกับร่างกาย กับวิชาัทะยานฟ้า!
เขายืนตรงกลางวงแท่นหิน หลับตาลง เชื่อมโยงจิตใจเข้ากับพลังชี่ในตัว
"ัแห่งห้าธาตุ ผู้เป็หนึ่งเดียวและหลากหลาย" หลินเว่ยเริ่มกล่าว เสียงของเขาทุ้มและชัดเจน "ไม้คือกระดูกแกร่ง น้ำคือเืไหลเวียน ไฟคือลมหายใจร้อน ดินคือเนื้อหนังมั่นคง โลหะคือเส้นเอ็นทรงพลัง"
ทันใดนั้น วัตถุทั้งห้าบนแท่นหินเริ่มเรืองแสงตามธาตุของมัน: ใบไม้เรืองแสงสีเขียว, ขวดน้ำเรืองแสงสีน้ำเงิน, เทียนเรืองแสงสีแดง, ดินเรืองแสงสีเหลือง และหินเรืองแสงสีขาว
"ดุจวัฏจักรไม่รู้จบ พลังไหลเวียนสู่ความสมดุล" หลินเว่ยกล่าวต่อ พลังชี่พุ่งพล่านในตัวเขา "ร่างใดรู้แจ้งในห้าธาตุ ย่อมเข้าถึงความลับแห่งัทะยานฟ้า!"
เมื่อคำสุดท้ายหลุดจากปากของหลินเว่ย เส้นแสงโยงใยระหว่างแท่นหินทั้งห้า ก่อเกิดเป็รูปดาวห้าแฉกใต้เท้าของเขา พื้นถ้ำสั่นะเืเล็กน้อย หินผลึกบนเพดานส่องประกายวาววับ
วัตถุทั้งห้าลอยขึ้นจากแท่นหิน หมุนวนรอบตัวหลินเว่ย ก่อนจะรวมกันเป็แสงสว่างวาบเดียว แล้วดับลง ทิ้งเหรียญหยินหยางโบราณไว้ในมือของหลินเว่ย
ชายชราเดินเข้ามาด้วยสีหน้าประหลาดใจ ผู้พิทักษ์คนอื่นๆ กระซิบกันเบาๆ ด้วยความทึ่ง
"กว่าพันปีที่ไม่เคยมีใครแก้ปริศนานี้ได้อย่างสมบูรณ์..." ชายชรากล่าว เสียงสั่นเล็กน้อย "...เ้าไม่เพียงวางวัตถุถูกตำแหน่ง แต่ยังค้นพบคาถาโบราณที่แท้จริง"
"ผมรู้สึกว่ามันเป็ส่วนหนึ่งของตัวผม" หลินเว่ยตอบ มองเหรียญในมือ "ราวกับความรู้นี้ซ่อนอยู่ในตัวผมมาตลอด"
"เพราะมันอยู่ในเืเนื้อของเ้า" ชายชรากล่าว "เ้าสืบทอดสายเืของผู้พิทักษ์โบราณ"
"ผู้พิทักษ์โบราณ?" หลินเว่ยขมวดคิ้ว
"เื่นั้นค่อยอธิบายทีหลัง" ชายชรากล่าว "ตอนนี้เ้าผ่านการทดสอบที่สองแล้ว บททดสอบสุดท้ายรออยู่: การประลองชี้ชะตา"
ฉือชินก้าวออกมา "ท่านอาจารย์ เขาไม่ควรได้รับการทดสอบสุดท้าย การที่เขาแก้ปริศนาได้อาจเป็ความบังเอิญ"
ชายชราส่ายหน้า "ไม่มีความบังเอิญ มีแต่ชะตาฟ้าลิขิต" เขาหันมาที่หลินเว่ย "เตรียมตัวให้พร้อม เด็กหนุ่ม การทดสอบสุดท้ายจะยากกว่าสองการทดสอบแรกรวมกัน"
สีหน้าของชายชราเปลี่ยนเป็เคร่งขรึมอย่างที่ไม่เคยเป็มาก่อน "เ้าจะต้องเอาชนะข้า—ปราชญ์หลินจู—ในการต่อสู้ตัวต่อตัว"