Trigger/Content Warning List:
Excessive or gratuitous violence
อวี๋มู่ข้ามมิติมายังโลกนี้อย่างโดดเดี่ยว ไม่มีญาติมิตร หากใครที่ไปสืบค้นข้อมูลของเขาอย่างละเอียด จะพบว่าเขาไม่มีข้อมูลอะไรให้ค้นเลย
พอไม่มีญาติก็แน่นอนว่าไม่มีคนมาขอแต๊ะเอีย
แม้ว่าบ้านเหลียงจะอยู่เมืองเป่ย เหลียงหวาเองเป็คนเสเพล พ่อแม่แยกย้ายกันคนละทาง เขาอยู่กับตายายแต่เด็ก ต่อมาคนแก่ทั้งสองก็ตายจากไป บ้านและร้านจึงตกเป็ของเขา แม้จะญาติมิตรมาโวยวายถึงบ้าน แต่ก็ถูกเขาขับไล่ไสส่ง ตัดขาดการติดต่อ ่ตรุษจีนบ้านเหลียงจึงไม่ได้มีญาติมาเยี่ยมถึงบ้านเช่นกัน
แบบนี้ก็เงียบสงบดี
อวี๋มู่มุดอยู่ใต้ผ้าห่ม นานๆ ทีจะได้นอนตื่นสาย เมื่อคืนกว่าจะได้หลับก็เช้าแล้ว ตอนนี้เขาเหนื่อยจนไม่อยากจะพูดด้วยซ้ำ
ทำไมเ้าเด็กเหลียงหานนี่ถึงได้ไม่ละอายใจถึงขั้นนี้?
เมื่อคืนหลังจากล้างมือกลับมา ยังมานอนแนบชิดเขาแล้วยังหลับสบายใจเฉิบ เดิมเขาก็ใช้พื้นที่เตียงแค่นิดเดียวอยู่แล้ว นอนราบติดขอบเตียง ถ้าขยับอีกนิดคือตกเตียงแน่นอน จากที่เขาเกร็งตัวทั้งคืน ไม่กล้าแม้แต่จะขยับ สติสัมปชัญญะอยู่ครบถ้วน ทำใจให้นอนอย่างไรก็นอนไม่ได้
จวบจนแสงอรุณสาดส่องหน้าต่าง ท่ามกลางแสงขาวจ้า เหลียงหานถึงตื่นขึ้นมา น่าจะกำลังจะลุกไปห่อเกี๊ยวแล้ว
อวี๋มู่รอจนเขาลุกไป จึงค่อยๆ พลิกตัวอย่างลำบาก ให้ร่างกายที่เกร็งมาทั้งคืนได้ยืดเส้นยืดสายหน่อย จากนั้นจึงค่อยๆ ปิดตาแพนด้าลง
เหนื่อยจริงๆ อีกหน่อยคงให้เหลียงหานนอนกับเขาไม่ได้แล้ว
กลิ่นหอมของเกี๊ยวเริ่มโชยมา อวี๋มู่คลานขึ้นมาแล้วสวมเสื้อผ้า สวมรองเท้าอย่างอ่อนเปลี้ยเพลียแรงแล้วเดินออกจากห้องนอน
“ครูตื่นแล้วเหรอฮะ?” เหลียงหานอารมณ์ดีจนไม่รู้จะดียังไงแล้ว ดวงตาคู่สวยจดจ้องใบหน้าอวี๋มู่เหมือนมีประกายวาบผ่าน ท่าทางใส่ใจแบบนี้แทบจะทำให้อวี๋มู่รู้สึกเหมือนจะมีหางงอกออกมาจากก้นแล้วส่ายไปมาอย่างไรอย่างนั้น
“อื้อ”
พูดตามจริง อวี๋มู่ไม่คิดว่าเหลียงหานจะกล้าทำเื่แบบนี้ แม้ปกติจะสื่อออกมาทางสายตา แต่เด็กคนนี้ก็หักห้ามใจมาตลอด แต่ทำไมจู่ๆ เมื่อคืนถึงใจกล้า ช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย
ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ตัดบทการสารภาพรักไปแล้ว มันผิดพลาดตรงไหนกันนะ?
“เมื่อคืนครูหลับไม่สนิทเหรอฮะ?” เหลียงหานรินน้ำอุ่นให้เขา เดินไปข้างหน้า แล้วเอ่ยถาม “ใต้ตาคล้ำเชียว”
อวี๋มู่เบะปาก อยากบ่นออกมา ก็ใครล่ะที่ทำให้ฉันไม่ได้นอนทั้งคืน แต่ก็อดใจไว้ไม่ได้พูดออกไป
“คงเพราะไม่ได้นอนดึกมานาน รู้สึกนอนไม่พอ” อวี๋มู่รับน้ำมาดื่มอึกนึง นึกขึ้นมาได้เื่นึง “ตอนเธอห่อเกี๊ยวได้จุดประทัดหรือเปล่า?”
“ไม่ฮะ…….” เหลียงหานแทบไม่เคยได้ร่วมเทศกาลตรุษจีนเเบบจริงจังมาก่อน เขาถาม “ห่อเกี๊ยวต้องจุดประทัดด้วยเหรอฮะ?”
“แน่นอน ตอนกลางวันเธอไม่ได้ยินคนจุดประทัดกันเหรอ” อวี๋มู่ไปหยิบประทัดต้าตี้หง [1] มาจากในกล่อง ล้วงไฟแช็กมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วออกไปด้านนอก
ฤดูหนาวเมืองเป่ยนั้นหนาวมาก อุณหภูมิยามเช้าติดลบสิบองศา จังหวะที่เปิดประตูออกไป ลมหนาวพัดเข้ามา แมลงง่วงนอนของอวี๋มู่เหมือนถูกพัดหายไป ทันใดนั้นก็รู้สึกตื่นตัว
เขาแขวนประทัดต้าตี้หงตรงสวน จากนั้นจุดไฟ แล้วรีบวิ่งหลบออกไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางเสียงประทัดก็ะโกับเหลียงหานว่า “เสี่ยวหาน หวังว่าปีนี้จะเป็ปีที่ราบรื่น มีแต่ความสุขสงบตลอดทั้งปีสำหรับเธอนะ”
คำพูดนี้มาจากใจจริง
ไม่ว่ายังไง เขาก็หวังว่าเหลียงหานจะมีแต่ความสุขสงบต่อมานับแต่นี้เป็ต้นไป
เหลียงหานยืนข้างประตู ได้รับความเบิกบานจากรอยยิ้มของอวี๋มู่ หัวใจเขามีทั้งความทุกข์แต่ก็มีความสุขอบอุ่นในขณะเดียวกัน
“เกี๊ยวใกล้จะได้ที่แล้วฮะ เดี๋ยวผมไปตักให้” เขาหันหลังกลับเข้าไปในตัวบ้าน ใช้โอกาสนี้บดบังอารมณ์ความรู้สึกที่ส่งผ่านสีหน้าในตอนนี้
*
พริบตาเดียวปิดเทอมก็จะผ่านไปแล้ว ก่อนเปิดเทอมเหลียงหานเข้าร่วมการแข่งขันฟิสิกส์อีกรอบหนึ่ง ได้รับรางวัลชนะเลิศมาอย่างราบรื่น เสริมค่าใช้จ่ายในเทอมถัดไปได้พอดี
เปิดเทอมจะมีการเลือกสายวิทย์และสายศิลป์ อวี๋มู่แนะนำให้เขาเลือกสายวิทย์ ซึ่งเหลียงหานก็ตกปากรับคำง่ายดาย
หลังจากแบ่งห้อง เหลียงเพียงแค่เปลี่ยนจากอันดับหนึ่งของชั้นเรียนเป็อันดับหนึ่งของสายวิทย์ในชั้นปี ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทั้งยังมีคะแนนห่างจากอันดับสองมากโขอยู่ จุดนี้ทำให้คณะครูโรงเรียนภาคห้าต่างรู้สึกชื่นชมในตัวอวี๋มู่
แม้เหลียงหานจะมีปัญหาภายในครอบครัว แต่การเรียนยังคงดีถึงเพียงนี้ ดังนั้นโรงเรียนจึงรู้สึกต้องชมเชยอวี๋มู่
เถียนฟางยังคงชอบอวี๋มู่ เอ่ยชักชวนอยู่เรื่อยๆ ครูที่โรงเรียนต่างรู้กันทั่ว ต่อมายังเริ่มล้อพวกเขา บอกว่าพวกเขาเหมาะสมกัน ให้ไปอยู่ด้วยกันได้แล้ว
ตอนนั้นเถียนฟางนั้นเขินจนหน้าแดง ทำให้อวี๋มู่ค่อนข้างอึดอัด
แต่เถียนฟางเองก็ไม่ได้สารภาพตรงๆ เขาจึงไม่มีโอกาสปฏิเสธตรงๆ เหมือนกัน ได้แต่ทนกันไป
ต่อจากนั้น สิ่งที่เขาปวดหัวที่สุดก็คือเวลาที่เจอเถียนฟางกับเหลียงหานพร้อมกัน
สายตาของเหลียงหานนั้นดูเหมือนจะฆ่าใครให้ได้ น่ากลัวชะมัด
ระบบบอกว่านี่แหละคือ รถไฟชนกัน
ระบบยังบอกอีกว่าหากเขาไม่ปฏิเสธเถียนฟาง เหลียงหานอาจจะทำอะไรบางอย่างที่ล้ำเส้น
อวี๋มู่ถามว่าทำไม คำตอบที่ได้จากระบบคือ [คุณนึกว่าเหลียงหานเป็คนปกติอย่างนั้นหรอ? เด็กที่เติบโตมาด้วยสภาพครอบครัวอย่างนั้น จะมีใครที่ยังสภาพจิตใจปกติได้อยู่อีก? หรือคุณลืมไปแล้วว่าตอนจบของนิยายเขาทำอะไรไปบ้าง? เขาจัดการเก็บทุกคนที่ริอาจเข้าใกล้นางเอกทุกคน แล้วยังเป็ตัววายร้ายที่เกือบจับพระเอกมาตัดตอนแปลงเพศอีกนะ!]
อวี๋มู่ : …...นายไม่พูด ฉันก็ลืมไปแล้วจริงๆ
ตอนจบของนิยายเื่นี้ เหลียงหานอายุสามสิบกว่า เป็ประธานบริษัทั์ใหญ่ เมื่อพบกับนางเอกที่หน้าตาคล้ายกับครูแสงจันทร์ขาวของเขา ก็เริ่มทำร้ายทุกคนที่เข้าใกล้นางเอก ต่อมาจนกระทั่งทนไม่ไหว กักขังหน่วงเหนี่ยวนางเอก และเริ่มแผนการแปลงเพศเธอ
ความใคร่้าของเขาช่างน่ากลัว เหมือนว่าเขาจะคิดว่านางเอกเป็สิ่งของของเขา อยากจะจับเธอมาขังไว้ตลอดไป ไม่ให้ใครเข้าใกล้เธอนอกจากเขา
เพราะเหลียงหานในตอนนี้น่าสงสารเหลือเกิน หลังจากได้รับความช่วยเหลือจากเขาก็กลายเป็เด็กดี มีเพียงหนที่เป็คืนตรุษจีนที่เกิดอุบัติเหตุเื่นั้น จากนั้นเขาก็ไม่ได้ทำอะไรอีก ทำให้อวี๋มู่เริ่มหวาดระแวงน้อยลง มีเพียงความเอ็นดูที่มีให้เขา
อวี๋มู่ : ระบบ แม้ว่าภารกิจของฉันจะเป็เพียงการเอาชนะใจตัวร้าย แต่ฉันว่านะ ที่จริงเหลียงหานก็เป็เด็กดี ขอเพียงมีใครสักคนบอกเขาว่าการชื่นชอบไม่ใช่การ เขาคงไม่มีทางทำเื่พวกนั้นหรอก
ระบบหัวเราะหึหึ [งั้นคุณก็บอกเขาเองสิ]
อวี๋มู่ : ฉันรู้สึกว่านายกำลังแกล้งให้ฉันตกที่นั่งลำบาก
เขาก็แค่ครูประจำชั้น ไม่ได้มีจุดยืนที่จะมาพูดเื่พวกนี้กับเขาได้ อีกอย่างเขาเป็คนที่ช้าเร็วก็ต้องจากโลกนี้ไป กำหนดมาแล้วว่าไม่อาจเปลี่ยนความรู้สึกของเหลียงหานได้ เื่ที่จะให้สอนว่าความรักไม่ใช่การยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง
*
“ครูอวี๋คะ” อวี๋มู่สะพานเป้กำลังจะเดินออกจากตึกเรียนก็พบเข้ากับเถียนฟาง
อากาศในเดือนพฤษภาคมกำลังเย็นสบาย เถียนฟางสวมชุดเดรสกระโปรงยาวลายผีเสื้อ ผมดำขลับยาวสยายปรกหลัง ยิ้มแล้วเห็นลักยิ้มสองข้าง ดูสะอาดสะอ้านน่ารัก
“มากับฉันหน่อยค่ะ” เธอดึงอวี๋มู่ไปทางสวนดอกไม้หลังโรงเรียน ใบหน้าแดงระเรื่อ
อวี๋มู่รู้สึกเกร็ง ลางสังหรณ์กำลังบอกเขาว่าในที่สุดเถียนฟางก็ทนไม่ไหวจะสารภาพรักแล้ว เขารู้สึกโล่งอกทันใด
ในที่สุดเขาก็มาถึงจุดนี้จนได้
เขาคิดอยู่ว่าขอเพียงเถียนฟางสารภาพ เขาจะได้ปฏิเสธอย่างเคร่งขรึม แล้วให้อีกฝ่ายตัดใจ สุดท้ายค่อยปลอบใจเธอ เื่นี้จะได้ผ่านไปเสียที และไม่ต้องห่วงว่าเหลียงหานจะก่อเื่อะไรขึ้น
เถียนฟางลากอวี๋มู่มาถึงสวนดอกไม้ ยืนตัวตรงแล้วปล่อยมือเขา เธอตื่นเต้นจนกำกระโปรงตัวเองแน่น ดวงตาหลุกหลิก สูดหายใจลึก ก่อนจะเริ่มเอ่ยขึ้นมาอย่างอึกๆ อักๆ “ครู ครูอวี๋คะ ฉัน เอ่อ ฉันชอบครูอวี๋ค่ะ ครูรู้อยู่แล้วใช่ไหม เวลา่ที่ผ่านมานี้ ฉัน เอ่อ…...ฉันแสดงออกค่อนข้างชัดเจน……. คือว่าฉัน ฉันอยากคบกับครูอวี๋ค่ะ คุณรูู้สึก ว่าฉันเป็ยังไงบ้าง? คุณจะยอมรับฉันได้หรือเปล่า?”
ความตื่นเต้นของเธอทำให้อวี๋มู่เองก็ตื่นเต้นตามไปด้วย เขาฟังจบอย่างเงียบๆ แล้วเริ่มพูด “อืม ผมพอรู้ครับ”
“ครูเถียนครับ คุณเป็ผู้หญิงน่ารัก แต่ตอนนี้ผมยังไม่มีความคิดจะคบกับใคร อีกอย่างผมตั้งมั่นว่าจะไม่แต่งงาน ผมไม่มีทางให้อนาคตที่คุณ้าได้หรอก”
“ดังนั้น ขอโทษด้วยครับ ครูเถียน ผมไม่อาจคบกับคุณได้”
เื่ไม่แต่งงานเป็เื่โกหก อวี๋มู่รักเด็กมาก ก่อนจะข้ามมิติมาเขาเริ่มวางแผนมองหาหญิงสาวเพื่อแต่งงานด้วย ทั้งยังอยากสร้างครอบครัวเล็กๆ ของตัวเอง จากนั้นก็ใช้ชีวิตเหมือนชายทั่วไปที่มีความสุขไปตลอดชีวิต
แต่นั่นเป็โลกจริงๆ ของเขา ไม่ใช่ที่นี่
“ที่แท้ก็เป็อย่างนี้นี่เอง…...” เถียนฟางพอจะเดาออกอยู่แล้วว่าจะเป็เช่นนี้ แต่เธอก็ยังอยากลองดูสักครั้ง จึงสารภาพกับอวี๋มู่ ตอนนี้แม้จะถูกปฏิเสธและรู้สึกแย่ก็ตาม แต่เธอก็ขอบใจที่อวี๋มู่ปฏิเสธตัวเองอย่างชัดเจนตรงไปตรงมา
เธอพยายามยิ้มออกมา ถอนหายใจ แล้วเอ่ย “ครูอวี๋คะ งั้นพวกเราก็เป็เพื่อนกันต่อไปนะคะ มีเื่อะไรคุณมาหาฉันได้ตลอด ฉันจะเป็ผู้ฟังที่ดีเองค่ะ”
“ขอบคุณมากครับ” ได้เจอผู้หญิงที่ชัดเจนแบบนี้ อวี๋มู่จึงรู้สึกโล่งอก
“ถ้าอย่างนั้น ฉันขอ กอดคุณสักครั้งนะคะ” เถียนฟางอ้าแขนออก ไม่รอให้อวี๋มู่ได้ปฏิเสธ ก็ก้าวขึ้นหน้าแล้วกอดเขา ซุกหน้าเข้าหาแผงอกกว้างของชายหนุ่ม ดวงตาของหญิงสาวสุดท้ายก็เริ่มแดงระเรือ ได้ยินเสียงสะอื้นของอีกฝ่าย อวี๋มู่แทบไม่กล้าขยับ
สวนดอกไม้ที่เงียบสงบ หญิงสาวโอบกอดชายหนุ่ม มือของเขาตบหลังหญิงสาวเบาๆ เหมือนกำลังปลอบคนรัก ภาพที่อ่อนหวานทิ่มแทงจิตใจของเหลียงหาน
เวลานี้ เขากับอวี๋มู่นัดกันว่าจะเจอกันที่ลานจอดรถ จากนั้นก็จะกลับบ้านพร้อมกัน แต่วันนี้อวี๋มู่ไม่ได้มา เขาถามนักเรียนถึงรู้ว่าเถียนฟางเรียกอวี๋มู่ไป
ในใจเกิดลางสังหรณ์ไม่ดี รีบรุดมา ก็เห็นภาพนี้เข้า
เหลียงหานยืนอยู่หลังต้นไม้ มือเกาะต้นไม้ออกแรงจิก เสี้ยนไม้แทบจะทิ่มเข้าเนื้อ ความเ็ปมาพร้อมกับเลือกที่ซึมออกมา
นิ้วมือเชื่อมกับดวงใจ ความเ็ปนี้ดึงสติเหลียงหานได้บ้าง
เขาจ้องเงาเถียนฟาง ความอิจฉาริษยาถึงขีดสุดกำลังทำลายเหตุผลที่เขามี
ทำไมต้องทำแบบนี้?
ทำไมต้องแย่งครูของเขาไป?
สิ่งที่คุณมีมันมากพอแล้ว แต่ผมมีเพียงครูอวี๋ มีเพียงครูคนเดียวเท่านั้น!
อา…...สมควรตาย…...สมควรตายจริงๆ!
ทำไมเธอไม่ตายไปซะ!
เหลียงหานต่อยต้นไม้เข้าเต็มหมัด ความขรุขระของผิวต้นไม้ทำผิวเขาถลอก เืไหลออกมา ดวงตาของเขาส่องประกายสีแดงฉาน ราวกับปีศาจ จดจ้องเงาด้านหลังของเถียนฟางแน่วแน่ ในหัวมีความคิดน่ากลัวพาดผ่านเข้ามา สายตาแทบจะจับผู้หญิงคนนี้มาถลกหนัง
เหมือนรับรู้ถึงพลังงานบางอย่าง อวี๋มู่เงยหน้ามองไปทางเหลียงหาน จังหวะนั้นสบตาเข้ากับเด็กหนุ่ม
นาทีนั้น ความคิดโเี้และสกปรกโสมมพวกนั้นเหมือนถูกเปิดเผยในสายตาอวี๋มู่ ไม่มีทางหลบพ้น
ทันใดนั้นเหลียงหานได้สติ เขาใอ้าปากค้าง เขยิบถอยหลังหนึ่งก้าว เมื่อเห็นอวี๋มู่ทำหน้าขมวดคิ้ว เขาหัวใจสั่นไหว หันหลังแล้ววิ่งออกไปเหมือนอับอายถึงขีดสุด
-------------------------------------------------------------------------------------------------
เชิงอรรถ
[1] ประทัดต้าตี้หง大地红鞭炮 คือประทัดกล่องสีแดงยี่ห้อหนึ่งในประเทศจีน