อรุณเบิกฟ้า นกกาโบย... ( กรุณาอย่าใส่ทำนอง )
เขาตื่นมาตอนเช้าพร้อมกับขอโทษเพื่อน ๆ เมื่อคืนเขาลืมสอนเพื่อน ๆ สร้างเวทมนตร์ แต่เพื่อน ๆ ทุกคนบอกว่าเข้าใจ เพราะคิดว่าเ้าตัวเหนื่อย แต่จริง ๆ คือเขาลืม !!!
" อยู่มา 11 วันแล้วซินะ.. " แนชคิดในใจขณะที่กำลังเคี้ยวขนมปังแข็ง ๆ เป็มื้อเช้า
อย่างน้อยมีผ้าขาวบางก็ยังดี วันนี้เด็กชายจึงบอกแบรดว่าฝากซื้อผ้ามาด้วย อย่างน้อยในมื้อเช้า นมอัลมอนด์ก็น่าจะช่วยให้ความฝืดคอลดน้อยลงก็ยังดี
เช้าวันนี้เขาจะเข้าป่าไปกับเพื่อนเพื่อดูว่าเพื่อนเค้าทำงานกันเป็อย่างไรบ้าง หลังจากปล่อยให้ทำกันเองมา 2 - 3 ครั้งแล้ว และเขาจะฝึกเวทมนตร์ต่อ เขาตั้งใจไว้ว่าจะทำให้ได้ในวันนี้ แนชไม่ค่อยพอใจผลสำเร็จของการฝึกฝนของเมื่อวานเท่าไหร่ เขาอยากสำเร็จขั้นการคงรูปร่างเวทมนตร์ แต่ดันได้สมาธิมาซะอย่างนั้น วันนี้จะต้องทำให้สำเร็จ เพราะเด็กชายอยากเข้าป่าไปลึกกว่านี้แล้ว เขาจะใช้เวทมนตร์แทนมีดและจะเอามีดให้กลุ่มที่ทำกับดักไว้ใช้
ตอนนี้เด็กชายยืนมองเพื่อน ๆ วางกับดักกัน เมื่อเห็นว่าพอใช้ได้ เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมากมาย แค่แนะนำให้เล็ก ๆ น้อย ๆ จริง ๆ มันไม่ได้ดีเลยในสายตาเขา ทั้งทิศทางการวางเอย ความกลมกลืนเอย แต่ก็ต้องฝึกกันไป ให้พบเจอความยากลำบากบ้าง ล้มเหลวบ้างบางครั้งบางคราวจะได้มีประสบการณ์มากขึ้น
" มิน่า บางอันไม่ทำงาน " ไทนี่พูดอ่อย ๆ " วางไม่ถูกที่นี่เอง "
" ใช่ ต่อให้เรามีกับดักที่ดีเลิศแค่ไหน แต่วางไว้ผิดที่ ผิดทาง มันก็กลายเป็ขยะได้เลยนะ " แนชบอกไทนี่
หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตของกับดัก ซึ่งวันนี้ได้มาเป็กระต่าย 1 ตัว แนชได้ขอให้ไทนี่พาไปยังที่เขาเจอต้นมะขามซึ่งเดินเลยเข้าไปนิดหน่อยก็เจอ หลังจากนั้นจึงชวนเพื่อน ๆ มาเก็บพวกกระเทียม พริกไทย เสร็จแล้วเค้าจึงชวนเพื่อน ๆ กลับ
เมื่อมาถึงทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำธุระส่วนตัว ไทนี่ก็แยกตัวไปลองสานกระด้ง ส่วนแนชนั้นในใจคิดเอาไว้ว่าจะฝึกเวทมนต์ต่อ แต่จะฝึกต่อหน้าเพื่อน ๆ ก็เกรงใจ กลัวคนอื่นเป็ห่วง วันนี้ตัวเขาจึงเลือกที่จะเดินสำรวจในหมู่บ้านดู อยู่มาก็หลายวันแล้ว รู้แค่ทางไปป่า สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แล้วก็อาคารกองทหารรักษาการณ์
เด็กชายเดินออกมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้วเดินตามทางเข้าไปในหมู่บ้าน เดินเลยอาคารกองรักษาการณ์ไป มีบ้านผู้คนทำจากไม้มากมาย มีชาวบ้านออกมาทำงานในเรือกสวนไร่นา บางคนพาวัวไปเล็มหญ้า บ้านที่เลี้ยงหมูก็ดูวุ่นวายกับการทำความสะอาดเล้า มีเด็กวิ่งเล่นผ่านไปมา ต่างกับทางจากบ้านของเขามาถึงกองรักษาการณ์ ทางฝั่งนี้ครึกครื้นดูมีชีวิตชีวากว่ามาก ทางนั้นมีแต่บ้าน กับ ไร่นา
เดินวนไปเดินวนมาได้ซักพัก ถึงได้รู้ว่า หมู่บ้านนี้ ไม่ใช่เล็ก ๆ เลย !! ในหมู่บ้านนี้มีโรงไม้ด้วย บ้านนายพรานก็เห็นแล้ว เค้าเดาจากการที่มีหนังสัตว์บนหลังคาและตากที่ลานบ้าน มีผู้หญิงตากเนื้ออยู่คงเป็คนในครอบครัวของเค้า เดินไปจนสุดที่บ้านหลังสุดท้าย ก็พบทุ่งหญ้าเขียวขจีไกลสุดลูกหูลูกตาขนานไปกับป่าทึบ ทางนี้ก็มีคนเอาทั้งวัว แพะและแกะมาเล็มหญ้า และเจอสมิธอยู่ใต้ร่มไม้ตรงนั้น กำลังคุยกับชาวบ้านอยู่
" พี่สมิธ หวัดดีครับ " เขาทักทายขึ้นก่อน
" อ้าว สวัสดี มาถึงตรงนี้ได้อย่างไร ? " นายทหารถามกลับด้วยความประหลาดใจ " ปกติไม่เคยเห็น "
" วันนี้อยากมาเดินสำรวจครับ พื้นที่ตรงนี้วิวสวยจังเลยนะครับ รู้อย่างนี้มาตั้งนานแล้ว " แนชพูดพลางมองไปทางทุ่งหญ้าสุดกว้างไกลที่เคยเห็นแต่ในทีวี
" เ้าก็มาบ่อย ๆ ซิ หัดเที่ยวเล่นบ้าง " สมิธบอก
" ครับผม งั้นพี่สมิธคุยธุระของพี่ต่อเลยก็ได้ครับผมไม่กวนแล้ว " เขาบอกสมิธ สมิธจึงพยักหน้าให้แล้วหันกลับไปคุยธุระต่อ
แนชยังคงยืนชื่นชมความงามอยู่ตรงนั้น ในขณะนั้นหูเขาก็ได้ยินบทสนทนาของสมิธกับชาวบ้านเื่ให้ช่วยไปกำจัดสิ่งของบางอย่าง ที่ทำให้เด็กชายรู้สึกสนใจ
" เอิ่ม ขอโทษครับพี่สมิธ " เด็กชายเรียกสมิธ
" หืมว่าอย่างไร " เขาหันมาตอบ
" ข้าไปด้วยได้ไหมครับ ที่ท่านลุงคนนั้นบอก ? " เด็กชายเอ่ยถามอย่างสุภาพ
" ได้ซิ ดีเลย มีคนช่วยเยอะ ๆ ยิ่งดี " เขายิ้มและหันไปคุยกับชาวบ้านวัยกลางคนคนนั้น " ไปกันเลยไหม ถ้าเยอะมากแนชเ้าช่วยเรียกเพื่อนๆมาช่วยได้ไหม " ทหารหนุ่มหันกลับมาถาม
" ได้เลยครับ " เ้าตัวคิดอยู่แล้ว ถ้าเยอะจะชวนกันมาเก็บให้หมดเลย
เดินเลยไปนิดหน่อยก็มาถึงสถานที่เกิดเหตุ เป็ทุ่งหญ้าโล่งสลับกับต้นสนแถว ๆ หมู่บ้านนั่นแหละ
" มันอันตรายน่ะ เมื่อก่อนมีเด็กน้อยเคยเก็บไอเ้าพวกนี้ไปกินเกือบเอาชีวิตไม่รอด เราเลยต้องกำจัดเวลามันขึ้นมา ส่วนใหญ่หลังฝนตกจะเกิดขึ้นมา " เขาอธิบาย
แนชใช้เวทย์ประเมินดู พลันก็ยกยิ้มขึ้นแล้วกระซิปถามว่า " เด็กคนนั้นไปเก็บจากตรงไหนเหรอครับ "
" ในป่าน่ะซิ คนเป็พ่อพาเข้าไป เห็นว่าสวยเลยเก็บมา คนพ่อก็ไม่คิดว่าลูกจะเอาเข้าปาก " สมิธตอบ
" อืม ส่วนใหญ่ที่มีพิษก็สีสวยและเจริญเติบโตในป่านะ แต่อันนี้ไม่ใช่ " เด็กชายมองไปยังสิ่งนั้น
[ เห็ดน้ำผึ้ง หรือเห็ดขอนสน ( Honey mushroom ) ]
เห็ดที่คล้าย ๆ เห็ดโคน สีน้ำตาล ขนาดประมาณนิ้วมือผู้ใหญ่ เขาอ่านและพบว่ามันกินได้ แต่ห้ามกินเยอะมาก ๆ จะทำให้เกิดอาการร้อนในได้ ในสายตาเค้าไม่มีเห็ดชนิดอื่นปะปนมา
" พี่สมิธ ถ้าถอนออกมาแล้ว ผมขอเก็บไว้ได้ไหมครับ ผมจะบอกว่ามันกินได้ครับ " แนชกระซิบ
" กินได้ยังไง เห็น ๆ อยู่ว่าเด็กที่เก็บไอพวกนี้มา เกือบไม่รอดเลยนะ " เขาหันมาถามด้วยความใ พยายามกดเสียงตัวเองไว้
" เชื่อข้าเถอะครับ มันมีหลายสายพันธุ์ครับพี่ ที่เด็กคนนั้นเก็บมาเนี่ยมันน่าจะมีพิษครับ ส่วนใหญ่ที่เกิดในป่า กับสีสันสดใส จะมีพิษครับ อ๊ะ แล้วพวกที่เกิดตามที่ชื้นในบ้านด้วยครับ " เ้าตัวอธิบาย " แต่ตรงนี้มันคือเห็ดกินได้ครับ "
สมิธมองอย่างสงสัย แต่ก็ยังบอกต่อไปว่า " ยังมีตรงทุ่งหญ้าตรงนั้นอีกนะ เ้าช่วยไปดูได้ไหมว่ามันกินได้หรือไม่ "
" ได้ครับ " แนชพยักหน้าตอบ สมิธจึงหันไปบอกชาวบ้านให้พาไปที่พบเห็ดอีกที่ เมื่อมาถึงแนชก็กระซิบบอกสมิธ
" อันนี้ก็กินได้ครับ " เขามองไปยังเห็นสีขาว บางดอกน้ำตาลอ่อน ๆ หมวกเห็ดกลม ๆ
" ลักษณะต่างกันจริง ๆ เ้านี่เก่งกาจจังนะ " เขาชมเด็กชาย
" แต่เห็ดพวกนี้ ถ้าไม่มีความรู้เก็บไม่ได้นะครับ บางพันธุ์คล้ายกันจนมองเผิน ๆ ก็แยกไม่ออกเลยครับ " แนชอธิบาย
" ก็ยังคงอันตรายซินะ อืมม " สมิธครุ่นคิด เขาจะต้องเอาเื่นี้ไปปรึกษาแบรด
" แล้วไอเ้านี่ชื่ออะไรละ ? " เขาถามเด็กชาย
" เห็ดแชมปิญองครับ ( Champignon ) ตอนนี้มันเพิ่งขึ้นครับ ลักษณะเลยเป็ขาว ๆ กลม ๆ แบบนี้ เมื่อโตขึ้นจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็สีน้ำตาล จนโตเต็มที่ไอกลม ๆ ก็จะกลายเป็หมวกครับ ใหญ่ขึ้นกว่านี้เยอะเลยครับ " เขาบอกสมิธไป " ส่วนตรงเมื่อกี้เรียกว่าเห็ดน้ำผึ้งหรือเห็ดขอนสนครับ "
" ถ้าอย่างนั้น ข้าจะเก็บตัวอย่างและเอาไปให้หัวหน้านะ เขาจะได้เอาไปให้นักประเมินดู " เขาบอกแนช แล้วหันไปบอกชายชาวบ้านคนนั้นว่า เดี๋ยวเห็ดพวกนี้ เด็กกำพร้าจะเป็คนมาเก็บเอง ชายคนนั้นก็ก้มหัวขอบคุณสมิธแล้วลากลับไป
" ทำไมพี่ไม่บอกเขาว่ามันกินได้นะ ? " แนชถามสมิธ ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ดูสภาพความเป็อยู่ไม่ต่างจากเด็กกำพร้าซักเท่าไหร่เลย แค่ดีกว่ากันเล็กน้อย
" บอกไปก็ไม่รู้จะเชื่อหรือไม่ หรือจะกล้ากินไหม หรือถ้าเกิดกล้ากินแล้วไปเจออันที่เ้าบอกว่าเป็พิษแล้วเก็บมากินล่ะ ข้าอยากไปปรึกษาหัวหน้าก่อน แล้วค่อยให้หัวหน้าตัดสินใจ " เขาตอบ
แนชพยักหน้าเข้าใจ สมิธเลยไล่เด็กชายไปตามเพื่อนมาเก็บเห็ดพวกนั้นได้แล้ว
" Sir, Yes sir ! " แล้ววิ่งออกไป
-_- ' หน้าตาสมิธ