หลังจากที่ได้ยินคำว่า “คนใน” ! จากจวินจิ่วเฉิน หัวหน้าาุโก็เกิดความลังเลแล้ว เพราะเื่นี้เกี่ยวเนื่องไปถึงชื่อเสียงของหุบเขาเสินหนง อีกทั้งเื่นี้ยังไม่ได้รับการยืนยัน เขาไม่อยากจะให้คำตอบในตอนนี้
เมื่อเห็นว่าเขาลังเลจวินจิ่วเฉินจึงพูดอีกว่า “แม้แต่สมุนไพรที่พบเจอได้ทั่วไปก็มาจากหุบเขาเสินหนง ผู้น้อยสงสัยว่าคนร้ายมีที่เก็บซ่อนยาในเมืองจิ้นหยาง ก่อนที่ผู้น้อยจะมา ได้สั่งคนไปสืบอย่างลับๆ แล้ว หากมีความ้าผู้น้อยสามารถให้ความร่วมมือกับท่านหัวหน้าได้”
ครั้นหัวหน้าาุโได้ยินถึงสิ่งนี้เขาก็ตกตะลึงตาค้างทันทีจากนั้นเอ่ยด้วยความเร่งรีบ “พวกท่านตรวจสอบผงยาเหล่านี้หมดแล้ว? ”
ผงยาเหล่านี้แม้ว่าจะเป็การรวมตัวของสมุนไพรทั่วไป ทว่าสมุนไพรที่ได้จัดทำเป็ผงแล้ว มันไม่ง่ายต่อการตรวจหาแหล่งที่มาเลย ยิ่งไปกว่านั้นคือในนี้มีสมุนไพรหลายชนิดที่มีลักษณะเฉพาะของแหล่งที่มาไม่ชัดเจน หากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเกรงว่าคงไม่มีวิธีการตรวจสอบออกมาได้?
จวินจิ่วเฉินพยักหน้าแต่ไม่พูดอะไร
ในขณะนี้เองหัวหน้าาุโก็ได้เข้าใจแล้วว่าจวินจิ่วเฉินสงสัยหุบเขาเสินหนงมาตั้งนานแล้ว เขามีการเตรียมพร้อมก่อนมาและเจตนามาเพื่อหยั่งเชิง
หัวหน้าาุโลูบเคราไปมาแล้วเผยถึงแววตาชื่นชม จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นมาอย่างหยอกล้อ “ในเมื่อสงสัยหุบเขาเสินหนงแล้วยังกล้าเข้ามาสืบถึงที่นี่? สมกับเป็จิ้งหวางจริงๆ ! ”
จวินจิ่วเฉินฉีกยิ้มบางเบา “ผู้น้อยจะกล้าเข้ามาสืบถึงที่ได้อย่างไร ก็แค่้ามาปรึกษาเท่านั้น”
หัวหน้าาุโพยักหน้าแล้วคาดเดา “คนร้ายคนนี้…ต่อให้ไม่ใช่คนในหุบเขาก็ต้องมีคนคอยประสานงานภายในหุบเขา เื่นี้หุบเขาเสินหนงจะมอบคำอธิบายแก่เตี้ยนเซี่ยอย่างแน่นอน หวังว่าเตี้ยนเซี่ยจะไม่แพร่กระจายข่าวออกไป จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยโปรดกลับไปก่อน หากภายในหุบเขามีความคืบหน้าจะแจ้งให้ท่านทราบทันที”
จวินจิ่วเฉินเอ่ยด้วยความรวดเร็ว “ท่านวางใจได้ ผู้น้อยเข้าใจดี หากเมืองจิ้นหยางได้รับข่าวคราวอันใด ผู้น้อยก็จะแจ้งให้ท่านทราบในทันทีเช่นกัน” หลังจากที่จวินจิ่วเฉินพูดจบก็ได้ลุกขึ้นกล่าวลา กูเฟยเยี่ยนจึงเกิดความร้อนใจทันที นางคิดว่าเื่ใหญ่เช่นนี้พวกเขาไม่พูดคุยตรงเกินไปหน่อยหรือ? นางยังไม่ได้พูดแทรกสักประโยคเลย! นางยังมีความสงสัยอีกหลายจุดนะ!
กูเฟยเยี่ยนกำลังลังเลว่าจะพูดดีหรือไม่ หากจะพูดต้องเริ่มอย่างไร ทว่าหัวหน้าาุโได้เอ่ยว่า “จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย เหล่าฟูไม่เข้าใจอยู่เื่หนึ่งและอยากจะขอคำปรึกษา”
จวินจิ่วเฉินหยุดชะงัก “เชิญพูด”
หัวหน้าาุโกล่าวว่า “ผงยาชุดนี้ได้รับการตรวจพบจากศาสตราจารย์แพทย์หนานกงแห่งห้องยาสำนักหมอหลวงเทียนเหยียนหรือ? ”
หัวหน้าาุโมีความสับสนมึนงง เพราะในความทรงจำของเขาความสามารถของใต้เท้าหนานกงแห่งห้องยาสำนักหมอหลวงเทียนเหยียนนั้นธรรมดามาก ภายในอาณาจักรเทียนเหยียนผู้ที่มีทักษะสมุนไพรยอดเยี่ยมที่สุดก็คือตัวเขาเอง หรือว่าเกิดการพัฒนาขึ้นกะทันหัน?
เมื่อได้ยินเช่นนี้กูเฟยเยี่ยนก็เกิดความลิงโลดทันที
แต่เมื่อจวินจิ่วเฉินหันหลังกลับมามองนางก็หยุดการเคลื่อนไหวทันที นางเผยแค่รอยยิ้มเล็กน้อยอย่างเจียมตัวและรอให้เขาเอ่ยแนะนำ
ทว่าจวินจิ่วเฉินพยักหน้าแล้วพูดว่า “เป็หนานกงชิงอวิ๋น”
อะไรนะ?
กูเฟยเยี่ยนตกตะลึงมาก นางคิดไม่ถึงว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยจะตอบเช่นนี้
หญิงสาวเกิดความโกรธเคืองแล้ว
นี่เป็ครั้งแรกที่โกรธเคืองจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย
นางไม่ได้้าความโดดเด่น สิ่งที่นาง้าคือใช้โอกาสนี้พูดคุยกับหัวหน้าาุโและหยั่งเชิงเขาว่าลิ่วตันซางลู่เ่าั้มาจากไหน คราวนี้เป็ไง ไม่มีหวังแล้ว!
แต่ต่อให้นางโกรธเคืองมากเพียงใด ภายในใจของนางกลับมีความไม่สบายใจมากกว่า นางคิดว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยไม่มีเหตุผลที่จะเจตนากดนางลง และไม่มีเหตุผลที่จะเจตนายกความดีความชอบให้ใต้เท้าหนานกงนี่นา เป็ไปได้ไหมว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยมีความกังวลและความคิดอะไรบางอย่าง?
แม้ว่าจะตัดใจไม่ลงจากโอกาสนี้ แต่ท้ายที่สุดแล้วกูเฟยเยี่ยนก็ได้แต่กัดฟันทนไว้!
นางปลอบใจตนเองว่ายังจับตัวจิ้งจอกเฒ่าไม่ได้ จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยจะต้องมีการติดต่อกับหัวหน้าาุโอยู่เรื่อยๆ นางยังมีโอกาสที่จะได้พบเขา นางสามารถรอได้!
หัวหน้าาุโจดจ่ออยู่ที่ยาสมุนไพรจนไม่สนใจเื่ราวภายนอกมาโดยตลอด ดังนั้นเขาจึงไม่ทราบเื่ราวโกลาหลของเมืองจิ้นหยาง นับั้แ่เมื่อสักครู่นี้จวบจนกระทั่งตอนนี้เขาก็ไม่ได้สนใจกูเฟยเยี่ยนนัก เขาคิดว่านางเป็เพียงหญิงรับใช้ทั่วไป
เขาลูบไปที่เคราด้วยความยิ้มแย้ม “หนานกงชิงอวิ๋นพัฒนาขึ้นแล้ว พัฒนาขึ้นแล้ว…”
จวินจิ่วเฉินพยักหน้าหน้าโดยไม่อธิบายอะไรเพิ่มเติม เขาเพียงแค่กล่าวลา
หัวหน้าาุโได้มาส่งด้วยตนเอง โดยในระหว่างทางก็ได้สอบถามถึงสถานการณ์ของหนานกงชิงอวิ๋น อีกทั้งยังเป็ห่วงในการเปลี่ยนแปลงระยะเวลาสองสามปีมานี้ของห้องยาสำนักหมอหลวงเทียนเหยียน
ภายในจิตใจของกูเฟยเยี่ยนเรียกได้ว่ากล้ำกลืนฝืนทน นางก้มหน้าก้มตาไม่อยากจะฟังพวกเขาพูดคุยกันอีกแล้ว
หลังจากที่ออกจากสนามรางวัลพวกเขาก็ได้ลงเขาไป
ในที่สุดกูเฟยเยี่ยนก็ทนไม่ไหวเอ่ยขึ้นมา “เตี้ยนเซี่ย…”
จวินจิ่วเฉินรู้ดีว่านางจะถามอะไรแต่กลับทำเป็ไม่รู้เื่ราวแล้วเอ่ยแค่ “อืม”
กูเฟยเยี่ยนถามด้วยความจริงจัง “เตี้ยนเซี่ย ท่านผลักดันใต้เท้าหนานกงออกมาเพื่อเหตุใดกัน? ”
์ทราบดีถึงเจตนารมณ์ของจวินจิ่วเฉิน เขาตอบกลับไปเบาๆ ว่า “หัวหน้าาุโอาจจะไม่เชื่อในตัวเ้า การที่ผลักดันหนานกงชิงอวิ๋นออกมา…ก็เพื่อลดปัญหา”
นี่…
เหตุผลง่ายดายเพียงนี้?
กูเฟยเยี่ยนระทมทุกข์แล้วจริงๆ !
เพียงเพราะรังเกียจปัญหา จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยถึงกับทำให้นางพลาดโอกาสที่ยากจะได้พบ! เขารู้ไหมว่านางได้ตั้งตารอคอยมาตลอดทาง!
น่ารังเกียจสิ้นดี!
กูเฟยเยี่ยนโกรธเคืองมาก แต่เมื่อได้ปะทะแววตาตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนของจวินจิ่วเฉินโดยไม่ได้ตั้งใจนางก็ได้กักเก็บอารมณ์ทั้งหมดทันที กูเฟยเยี่ยนกลัวจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยจะเข้าใจผิดคิดว่านาง้าความโดดเด่นและ้าแย่งความดีความชอบของคนอื่นมาเป็ของตนเอง
นางลอบคิดว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยไม่ทราบความลับของนาง เขาจะเจตนาได้อย่างไร ดูเหมือนว่านางจะไม่โทษเขามากนัก
หลังจากที่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดอารมณ์ของกูเฟยเยี่ยนก็สงบลง หญิงสาวปลอบใจตนเองว่า “ช่างเถอะ จะมีโอกาสอีกแน่นอน! ” แล้วพูดเบาๆว่า “จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยกล่าวได้ถูกต้อง”
จวินจิ่วเฉินเหลือบตามองนางแวบเดียว แล้วหันกลับมาเดินตรงต่อไป
การเดินทางในครั้งนี้เดิมทีคาดหวังว่าจะมาหยั่งเชิง แต่ก็ได้รับในสิ่งที่คาดไม่ถึงกลับมา ในตอนนี้รอแค่ให้หัวหน้าอวุโสจับตัวคนร้ายภายในออกมา”
ในตอนนี้เรียกได้ว่าจวินจิ่วเฉินอารมณ์ดีนัก ผ่านไปสักพักเขาก็ได้เริ่มเอ่ยถามขึ้นมา “แพทย์หญิงกู จะเดินทางกลับวันนี้หรือเ้าจะอยู่ต่ออีกวัน? เช้าวันพรุ่งนี้ค่อยกลับ? ”
หุบเขาเสินหนงเป็สถานที่ของคนที่เรียนรู้ทักษะยา้ามามากที่สุด เมื่อมาถึงที่แห่งนี้แล้วล้วนอยากจะเยี่ยมชม่เวลาสมุนไพรและเข้าชมสนามประมูล เื่แบบนี้เขาพอทราบอยู่
ครั้นได้ยินคำว่า “แพทย์หญิงกู” วินาทีนั้นกูเฟยเยี่ยนก็ได้สติกลับมา นางรู้สึกใมาก เพราะเตี้ยนเซี่ยเรียกนางว่า “เยี่ยนเอ๋อร์” แค่สองครั้งเท่านั้นแต่นางกลับคุ้นเคยไปแล้ว?
กูเฟยเยี่ยนรีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว “ทุกอย่างล้วนฟังท่าน”
จวินจิ่วเฉินนิ่งเงียบอยู่ชั่วขณะก่อนจะเอ่ยว่า “กลับวันพรุ่งนี้แล้วกัน”
เขาค่อนข้างสงสัยว่าหญิงสาวผู้นี้มีอุปนิสัยใจคออย่างไรกันแน่ เมื่อเผชิญหน้ากับเขาในร่างจิ้งหวางนางจะเป็เด็กดีมาก แต่เมื่อเผชิญหน้ากับตัวตนอีกอย่างหนึ่งของเขานางก็จะดุร้ายราวกับลูกแมวป่า
แบบไหนถึงจะเป็นางจริงๆ ?
ทั้งนายและบ่าวล้วนไม่ได้พูดคุยกันอีก พวกเขาลงจากเขาด้วยความเงียบ
เมื่อมาถึงเชิงเขากูเฟยเยี่ยนก็พบว่า ่เวลาในตอนนี้ค่อนข้างดึกแล้ว “นู๋ปี้อยากจะไปดูความคึกคักที่สนามประมูลก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยไปตลาดยาสมุนไพรเ้าค่ะ”
จวินจิ่วเฉินยังไม่ได้ตอบ พวกเขาก็เห็นว่าหานอวี๋เอ๋อร์ได้มุ่งหน้าเข้ามา
หานอวี๋เอ๋อร์เหลือบมองกูเฟยเยี่ยนแล้วหันไปส่งยิ้มให้จวินจิ่วเฉินอย่างรวดเร็ว ต้องบอกไว้ว่าตอนที่นางยิ้มมีความสง่างามและดูดีเป็อย่างมาก ไม่ขาดความออดอ้อนที่หญิงสาวควรจะมีเลย งดงามมากๆ “ท่านชายเฉิน ในที่สุดท่านก็ลงเขา ข้าตั้งใจรอท่านที่เชิงเขา”
เดิมทีกูเฟยเยี่ยนสงสัยว่าหานอวี๋เอ๋อร์ได้เจตนาคอยหรือไม่ เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้นางก็เกิดความประหลาดใจแล้ว “สตรีผู้นี้มีความซื่อตรงมาก”
ท่าทีของจวินจิ่วเฉินไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเ็าว่า “รอข้าทำไม? ”
ทันใดนั้นหานอวี๋เอ๋อร์ก็เผยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความงามออกมา ดูเหมือนว่านางจะพูดเป็นัยกับจวินจิ่วเฉินว่า “ความลับ”
และดูเหมือนว่าจวินจิ่วเฉินจะรับรู้ในความหมายของนาง เขายื่นบัตรสีดำให้กูเฟยเยี่ยน “เ้าไปก่อนเลย”