“ระดับของโฮสต์จะแยกเป็มนุษย์เ้าสำราญ จอมยุทธ์เ้าสำราญเ้าสำราญา และราชันเ้าสำราญ แต่ละระดับจะแยกเป็ปลีกย่อยอีกที เช่นเ้าสำราญขั้นหนึ่ง เ้าสำราญขั้นสอง...ตลอดจนถึงเ้าสำราญขั้นเก้า”
“นายท่านสามารถเพิ่มระดับเ้าสำราญได้โดยใช้แต้มสำราญหนึ่งแต้มเพื่อเลื่อนขั้นเป็มนุษย์เ้าสำราญขั้นหนึ่งใช้สิบแต้มเพื่อเลื่อนเป็มนุษย์เ้าสำราญขั้นสองใช้ร้อยแต้มเพื่อเลื่อนเป็มนุษย์เ้าสำราญขั้นสาม และก็ต่อไปเรื่อยๆ!”
“นายท่านใช้แต้มสำราญไปแล้ว 50 แต้มดังนั้นตอนนี้นายท่านจึงอยู่ที่ระดับมนุษย์เ้าสำราญขั้นสองระดับและขั้นที่แตกต่าง สามารถซื้อไอเทมที่แตกต่างกันในระบบแลกเปลี่ยนได้”
ตามคาดเ้าหมูน้อยนี่มันพูดมากจริงๆ
อย่างไรก็ตามฉินเฟิงที่เข้าใจคร่าวๆ ก็ค่อยๆ เข้าใจระบบราชันเ้าสำราญมากยิ่งขึ้น มันฟังดูสุดยอดเอามากๆ
“นายท่าน หมูน้อยผู้นี้พูดไปตั้งมาก ข้าหิวจะตายอยู่แล้วรีบให้ข้าออกมากินอาหารสักที!”
“นายออกมาได้ด้วยเหรอ?” ฉินเฟิงตะลึง
เมื่อฉินเฟิงพูดในใจเสร็จเขาก็พบว่าหมูสีชมพูน่ารักหายไปจากในหัวและกีบเท้าสีชมพูก็กำลังตะกุยไหล่ของเขาอยู่
มันออกมาได้จริงๆด้วย!
เ้าหมูน้อยไถลลงจากไหล่ของฉินเฟิงและะโลงบนพรมขนสัตว์ด้านล่าง มันวิ่งส่ายก้นไปมารอบห้องด้วยความตื่นเต้นมันสำรวจทุกอย่างในห้องทุกตารางนิ้ว
หลังจากเหนื่อยมาทั้งวันฉินเฟิงก็ยิ้มบางๆ และหาของกินมาวางไว้บนพื้นแล้วเขาก็หลับบนเตียงโดยไม่สนใจเ้าหมูน้อยอีกต่อไป
...
วันรุ่งขึ้นฉินเฟิงตื่นขึ้นด้วยเสียงโทรศัพท์จากลุงฝู
“ใครวะ? อย่ามารบกวนนายน้อยผู้นี้หลับสิเดี๋ยวปั๊ดเฉือนทิ้งให้เป็ดกินซะหรอก!” ฉินเฟิงง่วงมาก เขาบ่นโดยไม่ได้ลืมตา
ฝั่งปลายสายลุงฝูที่อยู่มากว่าครึ่งศตวรรษก็เกร็งขาโดยสัญชาตญาณทันทีเมื่อได้ยินบทลงโทษเขาไม่เคยรู้สึกกลัวแม้เผชิญหน้ากับกองทัพศัตรูที่แข็งแกร่งแต่ในตอนนี้เขากลับรู้สึกหน้าแดงขึ้นมา
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งลุงฝูก็พูดต่อ “คุณชายครับ นี่ลุงฝูเอง ผมเตรียมข้อมูลของหลินเป้ยเป้ยไว้พร้อมแล้วผมจะรอคุณชายอยู่ในห้องโถงของสโมสรหวงเจียนะครับ!”
“ฉันไม่สนว่าแกจะเป็ใคร ใครก็ตามที่กล้ามารบกวนการนอนของฉันจะต้อง...ฮะ?ลุงฝูเหรอ แหะๆ ผมจะลงไปเดี๋ยวนี้แหละเมื่อกี้ถือว่าผมไม่ได้พูดอะไรนะ”
ฉินเฟิงสะดุ้งตื่นขึ้นทันทีแม้ลุงฝูจะเป็ผู้คุ้มกันของเขา แต่ก็ยังมีสถานะสำคัญในตระกูลฉินขนาดพ่อของเขาฉินหวงก็ยังต้องให้ความเคารพ
นอกจากนี้ลุงฝูยังเฝ้ามองฉินเฟิงเติบโตขึ้นในสายตาของฉินเฟิงเขาเป็เหมือนกับลุงแท้ๆ เขาจึงไม่กล้าทำตัวหยาบคาย
ทันทีที่เลิกผ้าห่มขึ้นฉินเฟิงก็พบเ้าหมูน้อยที่กำลังนอนหลับปุ๋ยอยู่บนหน้าอกมันเกือบจะถูกปัดกระเด็นออกไป ฉินเฟิงยิ้มและออกคำสั่งในใจเ้าหมูน้อยก็หายกลับเข้าไปในระบบ
หลังจากรีบอาบน้ำเสร็จฉินเฟิงก็ใส่สูทสีชมพูดูหล่อเหลาและมีชีวิตชีวาเขาดื่มนมแก้วหนึ่งก่อนจะรีบลงไปยังห้องโถงบนชั้นแรก
“อรุณสวัสดิ์ครับลุงฝู!”
เมื่อเห็นลุงฝูฉินเฟิงก็ยังรู้สึกอับอายเล็กน้อย แต่ลุงฝูก็ยังทำตัวเป็ปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลังจากทั้งคู่ทักทายกันเสร็จพวกเขาก็เดินออกจากสโมสรหวงเจียและขึ้นรถตู้เมอร์เซเดสเบนซ์ ระหว่างที่กำลังขับรถลุงฝูก็พูดขึ้นมา
“คุณชายครับ คุณหลินอายุ 20 ปี เกิดที่เมืองเว่ยเฉิงตอนนี้เธอเรียนอยู่คณะศิลปกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเว่ยเฉิงพ่อของเธอเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อหลายปีก่อนส่วนแม่ของเธอป่วยเป็มะเร็งกระเพาะอาหารเมื่อต้นปีที่ผ่านมาและตอนนี้กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลชั้นหนึ่ง”
“แต่เดิมคุณหลินอาศัยอยู่ในเขตพัฒนาทางตอนเหนือของเมืองเว่ยเฉิงแต่บ้านของเธอถูกรื้อถอนเมื่อสองเดือนก่อนค่าชดเชยก็ยังไม่ได้รับเพราะมีคนอยู่เื้ั”
หลังจากฟังเื่ราวจากลุงฝูฉินเฟิงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาเพิ่งตระหนักว่าชีวิตของหลินเป้ยเป้ยลำบากขนาดไหน
เขาเข้าใจทันทีว่าทำไมเมื่อคืนหลินเป้ยเป้ยถึงมาขายตัวที่สโมสรหวงเจียเขาสันนิษฐานว่าเธอคงไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
“ลุงฝู ค่าผ่าตัดแม่ของหลินเป้ยเป้ยเท่าไร?”
“ค่าผ่าตัดอย่างเดียวหนึ่งแสนครับ แต่ถ้าพักฟื้นด้วยอาจจะจ่ายมากกว่านั้น”
ค่าผ่าตัดหนึ่งแสนเท่ากับจำนวนเงินที่ได้รับจากการขายตัวพอดี
“แล้วพบคนที่อยู่เื้ัค่าชดเชยบ้านหรือเปล่า?” รูปลักษณ์ผอมบางและละเอียดอ่อนของหลินเป้ยเป้ยปรากฏขึ้นในใจของฉินเฟิงทำให้เกิดความรู้สึกห่วงใยและสงสาร เสียงนั้นกล่าวอย่างเ็า
“พบแล้วครับ...เป็ผู้จัดการทั่วไปของอสังหาริมทรัพย์เหิงเฟิง เฉาหยาง”ลุงฝูหยุดชั่วขณะก่อนที่จะกล่าว
ฉินเฟิงไม่เคยได้ยินชื่อเฉาหยางมาก่อนแต่เขาคุ้นหูอสังหาริมทรัพย์เหิงเฟิงมากมันเป็หนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ภายใต้หวงเจียกรุ๊ปของพ่อเขาไม่ใช่เหรอ
เมื่อเห็นสีหน้าของฉินเฟิงเปลี่ยนไปลุงฝูก็พูดต่อ“เวลานี้โครงการพัฒนาพื้นที่ทางตอนเหนือของเมืองเว่ยเฉิงถูกอสังหาริมทรัพย์เหิงเฟิงที่อยู่ภายใต้คุณฉินประมูลได้ไป เฉาหยางเป็ผู้รับผิดชอบแต่เขาร่วมมือกับผู้รับเหมาให้ทำอย่างลวกๆ เพื่อยักยอกงบประมาณและเพราะลุ่มหลงความงามของคุณหลินนี้เองเฉาหยางจงใจก่อปัญหาให้แม่ลูกตระกูลหลินต้องลำบากกดราคาค่ารื้อถอนจนต่ำและยังไม่ให้ค่าชดเชยกับตระกูลหลิน”
“เมื่อคืนแม่ของคุณหลินอยู่ในห้องผู้ป่วยและกำลังจะผ่าตัด้าค่าผ่าตัดอย่างเร่งด่วน เธอจึงไปที่สโมสรหวงเจีย...”
ลุงฝูไม่ได้พูดอะไรมากฉินเฟิงก็เข้าใจทุกอย่างแล้ว เฉาหยางผู้นี้เปรียบเสมือนพยาธิที่ชอนไชบริษัทเขากำลังคิดใช้ประโยชน์จากภารกิจของหลินเป้ยเป้ยเพื่อกำจัดมันออกไป
“ลุงฝู รีบขับรถไปที่โรงพยาบาลชั้นหนึ่งเร็ว!”