“ยายเด็กผีเ้าพูดจาเลอะเลือนอะไรออกมา? ข้ากับพี่ชายเ้าไม่ได้มีอะไรกัน...” เย่ชิงอู่มองดูดวงตาที่สดใสราวกับน้ำใสของเย่ชิงอวี่พลันร้อนตัวขึ้นมารีบพูดอธิบายขึ้นในทันที
“พี่สาวข้ายังไม่ได้พูดว่าท่านกับพี่ชายมีอะไรกันเลย แล้วพี่สาวจะตื่นเต้นขนาดนี้ทำไมกัน?” ดวงตาเย่ชิงอวี่เปล่งประกายแสงเ้าเล่ห์วาบผ่าน หัวเราะคิกๆ พร้อมกับพูดขึ้น “แต่ต่อให้มีอะไรข้าก็ไม่ว่าอะไรหรอก ขอแค่เพียงพี่ชายยมีความสุขข้าก็มีความสุขด้วยเช่นเดียวกัน!”
“เอ่ออ...” เย่ชิงอู่นิ่งเงียบไปพักใหญ่ คงเป็เพราะนิสัยที่ไม่ชอบแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นและพร้อมทำทุกอย่างเพื่อให้เย่ชิงหานมีความสุข นิสัยของนางจุดนี้สิน่ะที่ทำให้เย่ชิงหานชอบนาง เมื่อสักครู่ที่พูดออกไปสายตาพลันเหลือบมองไปเห็นเย่เทียนหลงและเย่ชิงหนิวที่กำลังเดินกันเข้ามา นางจึงรีบหยุดการพูดคุยลงแล้วดึงแขนเสื้อของเย่ชิงอวี่เดินออกไปหาพวกเย่เทียนหลงที่กำลังเดินตรงเข้ามาหา
“คำนับท่านหัวหน้าตระกูล คิกๆ ท่านปู่ก็มาด้วย!”
“คำนับท่านหัวหน้าตระกูล คารวะท่านผู้าุโสูงสุด!”
เย่ชิงอู่และเยว่ชิงอวี่โค้งคำนับอย่างเคารพนอบน้อม เย่เทียนหลงและเย่ชิงหนิวช่วยเหลือเย่ชิงหานอย่างมากมาย หลังจากที่เย่ชิงอวี่ได้รับรู้เื่ราวทั้งหมดจึงรู้สึกซาบซึ้งใจเป็อย่างมาก เพียงแต่เย่เทียนหลงที่มีฐานะเป็ปู่ที่โผล่ออกมาอย่างฉับพลันเช่นนี้นางเองก็ไม่เคยชินเท่าใดนัก ดังนั้นทุกครั้งจึงเอ่ยเรียกว่าท่านหัวหน้าตระกูลซึ่งไม่ใช่ท่านปู่แต่อย่างใด
“อืม ต่อไปไม่ต้องมากพิธี ชิงอวี่ร่างกายของเ้าฟื้นฟูได้ดีใช่ไหม? ต่อไปไม่ต้องเรียกข้าว่าท่านหัวหน้าตระกูลแล้วน่ะ เรียกว่าท่านปู่ก็พอ ชิงอู่เ้าก็เหมือนกันต่อไปไม่ต้องเรียกว่าท่านหัวหน้าตระกูลแล้วเรียกว่าท่านปู่ใหญ่ ท่านปู่สามไป๋หู่แบบนี้โดยตรงเลยจะดีกว่า จำเอาไว้อย่าลืมซะล่ะ?” เย่เทียนหลงใบหน้าเต็มไปด้วยความเมตตาและอ่อนโยนพร้อมกับรอยยิ้มกรุ้มกริ่มเอ่ยปากพูดขึ้น
เย่ชิงหนิวก็พยักหน้าเห็นด้วยออกมาเช่นเดียวกันหรี่ตาลงแล้วเอ่ยขึ้น “อืม ถูกต้อง ต่อไปพวกเ้าทั้งสองคนคำเรียกขานต้องปรับเปลี่ยน เย่ชิงอวี่ต่อไปเรียกข้าว่าท่านปู่รอง!”
“อืม ท่านปู่ใหญ่ ท่านปู่ แบบนี้พอใจแล้วใช่ไหม!” เย่ชิงอู่แลบลิ้นออกมาอย่างซุกซนหัวเราะคิกๆ พร้อมกับพูดขึ้น
“ท่านปู่ใหญ่...ท่านปู่รอง!” เย่ชิงอวี่ก้มหน้าลงอย่างเขินอาย สุดท้ายก็เรียกออกมา
“ฮ่าๆ... อืม เด็กดี! ครั้งนี้ที่พวกข้ามาเพื่อจะมาดูว่าร่างกายของชิงอวี่เป็อย่างไรบ้างแล้วและนำของบางอย่างมาให้ด้วย!”
เย่เทียนหลงเมื่อได้ยินทั้งสองเรียกขานตนเองตามที่บอกจึงหัวเราะขึ้นด้วยความปีติยินดี จากนั้นยื่นมือซ้ายออกไปใช้นิ้วมือสองข้างจับไปที่ชีพจรชีวิตของเย่ชิงอวี่คิดที่จะใช้พลังปราณรบเข้าไปตรวจสอบดูสภาพร่างกายของนางดูสักหน่อย
เพียงแต่...พลังปราณรบสายเบาบางของเขาเพิ่งจะมุดเข้าไปภายในแขนของเย่ชิงอวี่ แต่กลับมีพลังที่ดุดันแข็งแกร่งสายหนึ่งสะท้อนพลังปราณรบของเขากลับออกมา ในเวลาเดียวกันนิ้วมือของเขาที่จับอยู่บนแขนของนางก็พลอยถูกดีดสะท้อนกลับออกมาด้วยเช่นเดียวกัน
“หืม? ท่านหัวหน้าตระกูล นี่...มันเกิดอะไรขึ้น?” เย่ชิงหนิวที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ััได้ถึงเหตุการณ์แปลกประหลาดที่เกิดขึ้น ดวงตาวัวของเขาจ้องมองดูอย่างตกตะลึงและประหลาดใจพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น
เย่เทียนหลงยังไม่ได้ตอบอะไรออกมาแต่ทำการยื่นมือออกไปอีกครั้งและโคจรพลังปราณรบส่งผ่านเข้าไปยังเส้นชีพจรของเย่ชิงอวี่อีก ครั้งนี้เขาเพิ่มระดับความแข็งแกร่งของพลังปราณรบขึ้นอีกมากโดยหวังที่จะฝืนบังคับให้พลังปราณรบเข้าไปภายในร่างของเย่ชิงอวี่ให้ได้ เขาอยากจะตรวจสอบดูให้รู้ถึงสภาพแปลกประหลาดที่เป็อยู่ในตอนนี้ของเย่ชิงอวี่ว่าคืออะไรกันแน่ เพียงแต่...เหตุการณ์ยังคงเหมือนเดิม พลังปราณรบและมือของเขาถูกดีดสะท้อนกลับออกมาเช่นเดิม
“แปลกประหลาด แปลกประหลาดอย่างที่สุด ภายในร่างของชิงอวี่มีพลังกลุ่มหนึ่งที่แข็งแกร่งดุดันเป็อย่างมากอยู่ แม้กระทั่งพลังปราณรบของข้ายังสะท้อนกลับออกมาได้! เหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยพบเจอหรือได้ยินได้ฟังมาก่อนเลยจริงๆ!” เย่เทียนหลงไม่กล้าที่จะทดลองอีก พลังปราณรบที่ส่งเข้าไปครั้งนี้แข็งแกร่งเป็อย่างมากแล้ว ถ้าหากยังฝืนมากไปกว่านี้กลัวว่าจะเป็อันตรายต่อเย่ชิงอวี่ขึ้นมา
เขาและเย่ชิงหนิวมองตากันครั้งหนึ่งต่างเห็นได้ถึงแววตกตะลึงและงุนงงสงสัยที่อยู่ภายในดวงตาของอีกฝ่าย ในขณะเดียวกันภายในใจก็ลอบยินดีออกมาอย่างบ้าคลั่ง สภาพยิ่งแปลกประหลาดยิ่งแสดงให้เห็นถึงอะไร? มันยิ่งแสดงให้เห็นว่าเื่ที่เย่ชิงอวี่จะกลายเป็เทพในอีกสิบปีหลังจากนี้มีความน่าเชื่อถือมากขึ้นเรื่อยๆ
“เย่ชิงอวี่ เ้ารู้สึกได้ไหมว่ามีพลังกลุ่มหนึ่งที่แข็งแกร่งดุดันอยู่ภายในร่างกาย? ยังมีอีก ในหัวของเ้ามีของอะไรที่แปลกประหลาดปรากฏออกมาบ้างไหม? ความหมายของข้าคือของหรือข้อมูลต่างๆ ที่เมื่อก่อนไม่เคยมีอยู่แต่ตอนนี้กลับมีขึ้นมาภายในหัว!” หลังจากที่เย่เทียนหลงมองตากับเย่ชิงหนิวและนิ่งเงียบไปสักพักจึงเริ่มเอ่ยปากถามขึ้น เขาหวังว่าจะได้รับคำตอบที่เป็ประโยชน์สักอย่างจากเย่ชิงอวี่ ร่างกายของนางตอนนี้แปลกประหลาดจนเกินไป พลังิญญาของเขาไม่สามารถที่จะตรวจสอบใดๆ ได้เลย แม้กระทั่งพลังปราณรบก็ส่งเข้าไปตรวจสอบไม่ได้อีกด้วย
เย่ชิงอู่และเย่ชิงหนิวไม่กล้าพูดอะไรออกมา เย่ชิงหนิวเพราะมีเย่เทียนหลงเอ่ยปากสอบถามแล้วตนเองจึงไม่มีความจำเป็ที่จะพูดแทรกออกไป ส่วนเย่ชิงอู่เพราะไม่เข้าใจเื่ราวต้นสายปลายเหตุทั้งหมด อีกทั้งมองเห็นเย่เทียนหลงและเย่ชิงหนิวสีหน้าเคร่งเครียดจริงจังนางจึงไม่กล้าพูดอะไรออกมา
“เอ่ออ...เื่นี้ ความจริงข้าก็รู้สึกประหลาดใจเหมือนกัน เพียงแต่ว่าตัวข้าเองก็ยังทำความเข้าใจในสิ่งเ่าั้ได้ไม่ชัดเจนจึงไม่กล้าที่จะถาม ภายในหัวของข้าในตอนนี้มีข้อมูลต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลเ่าั้ล้วนเกี่ยวข้องกับการฝึกยุทธ์และเคล็ดวิชาต่างๆ”
เย่ชิงอวี่ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่จึงตัดสินใจบอกเื่ราวเหล่านี้แก่เย่เทียนหลง หลังจากที่นางฟื้นขึ้นมากลับพบว่าภายในหัวของตนเองปรากฏความทรงจำที่เป็ข้อมูลต่างๆ มากมายที่ล้วนแต่เกี่ยวข้องกับการฝึกยุทธ์ทั้งนั้น นางยังคิดไปว่าข้อมูลต่างๆ เหล่านี้คือพลังเคล็ดวิชาที่เกี่ยวกับร่างหยกิญญาของนางด้วยซ้ำไปดังนั้นจึงไม่กล้าที่จะถามออกไป แต่หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่หลายวันจึงพบว่าข้อมูลเคล็ดวิชาที่เกี่ยวกับร่างหยกิญญาของนางนั้นเมื่อหนึ่งปีก่อนตนเองได้ทำความเข้าใจจนเกือบจะหมดแล้ว แล้วข้อมูลเคล็ดวิชาความรู้ต่างๆ ที่ลึกซึ้งเหล่านี้มันมาจากไหนอีก? ตอนนี้เย่เทียนหลงถามขึ้นมาก็ประจวบเหมาะที่นางจะได้พูดถึงสิ่งที่สงสัยเหล่านี้ออกมาเพื่อหาคำตอบเช่นเดียวกัน
เย่เทียนหลงเมื่อได้ฟังจิตใจคึกคักขึ้นมาทันทีรีบถามขึ้นต่อโดยเร็ว “แล้วข้อมูลเกี่ยวกับเคล็ดวิชาความรู้ในการฝึกยุทธ์พวกนี้เกี่ยวข้องกับเื่อะไร? ไหนเ้าลองพูดออกมาให้ข้าฟังอย่างละเอียดอีกสักหน่อย!”
“ถูกต้อง เ้าไม่ต้องรีบ คิดดีๆ เพราะมันสำคัญมาก!” ใบหน้าเย่ชิงหนิวก็ปีติยินดีขึ้นมาในทันทีเช่นกัน รีบพูดบอกออกมา
เย่ชิงอวี่หยุดนิ่งครุ่นคิดไปอีกครั้ง กะพริบตาปริบๆ แล้วพูดขึ้น “มากมายและซับซ้อน เหมือนจะมีอะไรการดูดซับพลังปราณรบ... การทะลวงจุดชีพจร... ตันเถียน... สร้างแก่นแท้พลังตันเถียน... ยังมีอีกเยอะแยะมากมายไปหมดซึ่งข้าก็ยังไม่รู้แน่ชัดเหมือนกันในตอนนี้!”
ตำราการฝึกยุทธ์!
เย่เทียนหลงและเย่ชิงหนิวมองตากันอีกครั้งแล้วยินดีกันอย่างบ้าคลั่งขึ้นมา เย่ชิงอวี่เมื่อก่อนไม่เคยฝึกยุทธ์มาก่อนเป็เื่ที่พวกเขาทราบดี ตอนนี้ไม่เพียงแต่ภายในร่างของนางที่มีขุมพลังที่แข็งแกร่งดุดันอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในหัวยังมีตำราการฝึกยุทธ์และเคล็ดวิชาลับต่างๆ อยู่อีกด้วย ดูจากสภาพการณ์ที่เกิดขึ้นนี้คิดว่าจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับผลึกเทวะอย่างมากแน่นอน และยังเป็เครื่องยืนยันถึงความจริงในคำพูดของปรมาจารย์บรรพบุรุษเย่รั่วสุ่ยขึ้นมาอีกขั้น
สิบปีกลายเป็เทพ เื่ที่แปลกประหลาดมหัศจรรย์นี้อาจจะเกิดขึ้นจริงๆ ก็เป็ได้ อย่างน้อยสภาพแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นกับเย่ชิงอวี่ในตอนนี้ก็ทำให้พวกเขาที่ได้รับรู้เริ่มจะเชื่ออย่างหมดใจ
“อืม! ดี..ดีมาก! ชิงอวี่...ตอนนี้ภารกิจที่สำคัญที่สุดของเ้าคือต้องทำการซึมซับเอาข้อมูลความรู้ที่อยู่ภายในหัวเ่าั้ให้ได้ จากนั้นทดลองฝึกฝนตามข้อมูลความรู้เ่าั้ ตั้งใจฝึกฝนให้ดีๆ หากเ้ามีความ้าสิ่งใดขอให้บอกข้าได้ทุกเมื่อไม่ต้องเกรงใจ หากตระกูลสามารถทำได้อะไรก็รับปากเ้าทุกอย่าง!”
เย่เทียนหลงพยักหน้าตอบรับพร้อมกับพูดแนะนำให้เย่ชิงอวี่ทดลองฝึกฝนดูตามข้อมูลความรู้ที่อยู่ในหัว เขาคาดหวังเป็อย่างมากอยากที่จะเห็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อเย่ชิงอวี่เริ่มฝึกฝนขึ้นจริงๆ จะเป็อย่างไร? จะเป็เหมือนกับเย่ชิงหานหรือไม่ที่นำมาซึ่งความตื่นเต้นดีใจแก่พวกเขาอย่างคาดไม่ถึงครั้งแล้วครั้งเล่า?
“อืม อืม!” เย่ชิงหนิวที่อยู่ข้างๆ ก็พยักหน้าหงึกๆ ราวกับนกน้อยที่กำลังก้มหัวจิกลงพื้นเพื่อหาอาหาร ถ้าหากเย่ชิงอวี่สามารถกลายเป็เทพได้จริงๆ ละก็ ตัวเขาและเย่เทียนหลงคงจะถูกจารึกไว้ในบันทึกประวัติศาสตร์ของตระกูล เพราะพวกเขาทั้งสองสร้างเทพขึ้นมาได้คนหนึ่ง!
“ฝึกยุทธ์? ทำไมต้องฝึกยุทธ์? ข้าไม่ชอบฝึกยุทธ์และก็ไม่ชอบการรบราฆ่าฟัน!” ผิดจากที่คิดเอาไว้ เย่ชิงอวี่ส่ายหน้าไปมาปฏิเสธคำแนะนำจากทั้งสองคน ความจริงแล้วั้แ่ตอนที่ยังเป็เด็กเย่ชิงหานก็เคยเอาตำราการฝึกยุทธ์มาให้นางลองฝึก แต่อุปนิสัยของนางไม่ยินดียินร้ายในลาภยศสรรเสริญ ไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นและเกลียดการต่อสู้ ดังนั้นจึงตอบปฏิเสธไป
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้