“เ้าไม่ต้องรู้หรอก ว่าเขาขู่ข้าด้วยวิธีใด ปกติเขาเป็คนน่ากลัวอยู่แล้ว ขู่นิดหน่อย ข้าก็จำเป็ต้องบอก” เสี่ยวเฟยพูดพลางยกชาขึ้นดื่มรวดเร็วหมด พร้อมใบหน้าแดงระเรื่อขึ้น ก่อนจะพูดต่อเพื่อให้มู่เลี่ยนสบายใจ
“หลังจากโม่โฉวรู้ความจริง เขาไม่ได้แสดงท่าทีแปลกใจ แม้แต่น้อย ซ้ำยังให้เจ่าเจาคอยดูแลข้าอย่างดีอีกด้วย” มู่เลี่ยนชะงักนิ่ง พลันค่อย ๆ หันไปจัดอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วเอ่ยขึ้น
“นายท่านเป็คนฉลาด บางทีเขาอาจรู้มาก่อนแล้วก็ได้ ว่านายหญิงความจำสูญสิ้น ความคิดของนายท่านยากแท้หยั่งถึง เช่นนี้ท่านต้องยิ่งระวังตัวให้มาก หากมีผู้ใดคิดรังแก ท่านต้องรีบบอกข้า ห้ามเก็บไว้ผู้เดียว” เสี่ยวเฟยยิ้มแล้วคีบอาหารใส่ปาก
“พรุ่งนี้ตอนเช้า ข้าอยากออกไปตลาด”
“ไปซื้อสิ่งใดเ้าคะ” หญิงสาวเคี้ยวหมุบหมับ
“ไปก่อน แล้วค่อยคิดว่าอยากได้สิ่งใด” คำตอบของเสี่ยวเฟย ทำให้มู่เลี่ยนส่ายศีรษะไปมา แต่ก็ตามใจในหญิงโดยไม่ขัด เช้าวันรุ่งขึ้นมู่เลี่ยนพาเสี่ยวเฟยออกมายังตลาดในเมือง
สายตาแวววาวของหญิงสาวส่อประกายออกมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น นางเดินตรงไปยังพุทราเชื่อม แล้วสิ่งของต่าง ๆ ที่วางขายเรียงราย ขณะที่ผู้คนพลุกพล่านนางยังคงสอดส่องดูเครื่องใช้ต่าง ๆ แล้วหันมายังมู่เลี่ยน
“นั่นคือสิ่งใด อยู่ในไห หน้าตาประหลาดจัง”
“นั่นคือเหล้าเ้าค่ะ” เสี่ยวเฟยเดินเข้าไปดู แล้วหยิบหมุนไปมา
“บรรจุเหล้าใส่ไหงั้นรึ”
“นายหญิงเ้าคะ ส่วนใหญ่เหล้าก็ต้องบรรจุในไหอยู่แล้วเ้าค่ะ หากจะกินก็แค่รินใส่จอกเท่านั้นเอง”
“งั้นข้าซื้อเหล้านี้หนึ่งไห” เสี่ยวเฟยหันไปบอกพ่อค้า ก่อนจะเห็นหญิงสาวในชุดสีเหลืองอ่อน เดินออกมาช่วยบิดาขายของ
“นั่นลูกสาวของท่านรึเถ้าแก่” เสี่ยวเฟยเอ่ยถาม ก่อนพ่อค้าจะยิ้มกว้าง แล้วรับเงินจากเสี่ยวเฟยไปพร้อมพยักหน้า
“ใช่แล้วขอรับ ปีนี้อายุครบสิบเก้า” เสี่ยวเฟยจับจ้องมองลูกสาวเถ้าแก่ขายเหล้า แล้วครุ่นคิดในใจ
“เด็กคนนี้หน้าตาจิ้มลิ้ม ผิวพรรณสะอาดผุดผ่อง หากข้าทาบทามไปให้โม่โฉว เขาน่าจะพอใจไม่น้อย” หญิงสาวคิดได้ดังนั้นจึงส่งยิ้มหวานให้
“หากว่าเหล้าของท่านรสชาติดี ข้าจะกลับมาใหม่ อ่อ..แล้วลูกสาวท่านมีนามว่าอะไร” เสี่ยวเฟยเลียบเคียงถาม
“เมี่ยวซื่อขอรับ”
“หน้าตางดงามนัก” นางพูดทิ้งท้ายแล้วหยิบเอาเหล้ามา
“ข้าถือให้เ้าค่ะ” เสี่ยวเฟยยิ้ม แล้วยื่นเหล้าให้สาวใช้ถือ ก่อนจะเดินออกจากร้าน แล้วมุ่งตรงไปยังด้านหน้า เพื่อดูของต่าง ๆ ในตลาด ทว่ามีร้านหนึ่งที่ผู้คนห้อมล้อมกันผิดปกติ สายตาหวานของเสี่ยวเฟยมอง พลันหยุดเดินแล้วเอ่ยกับสาวใช้ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“นั่นขายอะไร เหตุใดคนรุมล้อมเช่นนั้น”
“เข้าไปดูกันเถอะเ้าค่ะ” มู่เลี่ยนพานายหญิงเข้าไปดู พบว่าเป็ร้านขายไก่ดำสูตรพิเศษ
“ร้านนี้อร่อยที่สุดในเมืองแล้ว ไก่ดำเป็ยาบำรุงร่างกาย พ่อค้า ขายมานานจากรุ่นสู่รุ่น ท่านยังไม่เคยชิมใช่หรือไม่” ชายหนุ่มเห็นเสี่ยวเฟยชะเง้อคอมองด้วยความสนใจ จึงหันมาบอกด้วยความหวังดี
“ร้านนี้อร่อยมากที่สุดในเมืองรึ”
“ใช่แล้ว” คำตอบของชายหนุ่มทำให้เสี่ยวเฟยอยากลองลิ้มรสดูสักครั้ง ก่อนมู่เลี่ยนจะสะกิด
“คนรอมากขนาดนี้ เรากลับจวนกันก่อนดีหรือไม่เ้าคะ ไว้วันหลังค่อยมาซื้อใหม่ก็ยังได้” เสี่ยวเฟยหันมองพระอาทิตย์ที่ค่อย ๆ สูงขึ้น นางต้องรีบกลับไปเขียนวรรณกรรมที่ค้างไว้ต่อให้เสร็จ จึงจำใจเดินออกจากร้านไก่ดำอย่างนึกเสียดาย
“รีบกลับเถอะเ้าค่ะ” มู่เลี่ยนกล่าวเตือน ก่อนเสี่ยวเฟยจะตัดใจพากันกับจวน
“นางยังไม่มาอีกรึ” โม่โฉวทอดสายตาไปยังสระน้ำ แล้วมองหาเสี่ยวเฟยครู่หนึ่ง เมื่อไม่เห็นนาง จึงหันมายังเจ่าเจาแล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ยังไม่มาขอรับ” เขาตอบ ก่อนโม่โฉวจะขมวดคิ้วเล็กน้อย
“หรือว่านางจะป่วย” โม่โฉวทำท่าจะเดินไปยังเรือนหลังเล็ก ก่อนเจ่าเจาจะรีบเอ่ยขึ้น
“ฮูหยินมาแล้วขอรับ” เมื่อเห็นร่างของหญิงสาวเดินมาแต่ไกล ชายหนุ่มจึงค่อย ๆ เบี่ยงตัวกลับไปยังโต๊ะว่าราชการ แล้วกำชับให้เจ่าเจาดูแลนางให้ดี
ร่างบางเดินมายังสระน้ำที่มีดอกบัวชูช่อสวยงาม สายตาหวานเลื่อนมองที่โต๊ะ พบว่ามีกระดาษและหมึกตั้งรออยู่อย่างเป็ระเบียบ ก่อนนางจะวางไหเหล้าลงด้านข้าง แล้วหันมองเจ่าเจา ก่อนจะเอ่ยเรียกด้วยน้ำเสียงสดใส
“เจ่าเจา”
“ขอรับฮูหยิน” ชายหนุ่มรีบเดินไปหา แล้วน้อมกายลงเล็กน้อย
“เ้าจัดกระดาษกับหมึกไว้รอข้างั้นรึ”
“นายท่านเป็คนสั่ง ให้ข้าจัดไว้ขอรับ” เมื่อได้ยินดังนั้นเสี่ยวเฟยก็หันมองไปยังห้องว่าราชการ นึกซาบซึ้งน้ำใจเขาอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะหันมายังเจ่าเจาแล้วเอ่ยขึ้น
“ข้าซาบซึ้งน้ำใจเ้ามากนัก ที่คอยดูแลข้าอย่างดี” คำพูดของหญิงสาวทำให้เจ่าเจายิ้มรับ ก่อนจะเดินจากไปปล่อยให้หญิงสาวนั่งเขียนวรรณกรรมอย่างเงียบ ๆ
กระดาษแผ่นแล้ว แผ่นเล่า ถูกนางโยนทิ้งลงพื้น ค่อย ๆ กองสูงขึ้นทีละน้อย ท่ามกลางสายตาของโม่โฉวที่แอบดูอยู่ห่าง ๆ เขาไม่คิดเสียดายกระดาษพวกนั้นเลยแม้แต่น้อย ทว่าความมุ่งมั่นของนางทำให้ชายหนุ่มที่แอบมองอยู่ ไม่อาจละสายตาจากนางได้
“มองอันใดอยู่เหรอขอรับ” คำถามของเจ่าเจาทำให้โม่โฉวสะดุ้งตัวเล็กน้อย แต่ไม่นานก็ปรับท่าทีเป็เคร่งขรึมได้ทัน
