หลังจากที่เย่สือซานร้องออกมาทุกคนต่างหยุดลง ระยะห่างจากนักรบเผ่าคนเถื่อนที่อยู่ตรงหน้าสองร้อยเมตร ส่วนพวกเย่ชิงหานที่อยู่ด้านหน้าห้าสิบกว่าคนต่างเรียกสัตว์อสูรออกมารวมร่างกันในทันที
“บรู๊ว! โฮก! จี๊ดๆ!”
นักรบลูกหลานของตระกูลเย่ที่อยู่ด้านหน้าปรากฏเงาร่างของสัตว์อสูรแปลกประหลาดมากมายและเสียงร้องดังก้องขึ้นทั่วฟ้า จากนั้นเงาร่างสัตว์อสูรเ่าั้มุดหายเข้าไปภายในร่างของพวกเขา ในขณะเดียวกันหน้าผากของของทุกคนพลันปรากฏรอยสักสีดำที่รูปร่างแปลกประหลาดขึ้น
“เย่#&&ฆ่า*¥”
นักรบเผ่าคนเถื่อนที่อยู่ตรงข้ามเห็นได้ชัดว่ารู้จักนักรบของตระกูลเย่ แต่พวกมันกลับไม่ได้หยุดชะงักฝีเท้าที่พุ่งเข้ามาแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำยังเพิ่มระดับความเร็วพุ่งทะยานเข้ามาเร็วกว่าเดิม ตระกูลเย่ที่เป็หนึ่งในห้าตระกูลใหญ่ หลายพันปีมานี้เข้าร่วมงานประลองมานับครั้งไม่ถ้วน เข่นฆ่านักรบเผ่าคนเถื่อนไปมากมายนับไม่ถ้วนเช่นเดียวกัน เมื่อนักรบเผ่าคนเถื่อนมองเห็นสัตว์อสูรที่เป็ดั่งสัญลักษณ์ของตระกูลเย่ พวกมันจึงพุ่งทะยานเข้ามาอย่างสุดชีวิตในทันที
“นักรบตระกูลเย่ทั้งหมดนั่งลง นักรบตระกูลเยว่ใช้การโจมตีทางิญญา นักกระบี่ตระกูลเฟิงบังคับกระบี่ขึ้นโจมตี ทั้งหมดมุ่งเป้าโจมตีไปที่ดวงตาของนักรบเผ่าคนเถื่อน!”
นักรบเผ่าคนเถื่อนที่พุ่งตรงเข้ามายิ่งทำให้ระยะห่างของทั้งสองฝ่ายลดลงเหลือเพียงหนึ่งร้อยเมตร ระยะห่างเช่นนี้เป็ระยะทำการโจมตีทางิญญาของนักรบสาวตระกูลเยว่พอดี เย่สือซานเห็นดังนั้นจึงรีบร้องสั่งการออกมาทันที
ฟิ้วๆ!
เมื่อได้ยินเสียงสั่งการนักรบร่างสัตว์อสูรของตระกูลเย่ห้าสิบคนนั่งลงพร้อมกันทั้งหมด ส่วนนักรบสาวของตระกูลเยว่ดวงตาเปล่งประกายแสงแปลกประหลาดสายหนึ่งขึ้นพร้อมๆ กัน ลำแสงจากดวงตาพุ่งตรงออกไปหานักรบเผ่าคนเถื่อนด้วยความเร็วแสง จากนั้นนักรบเผ่าคนเถื่อนทั้งห้าสิบกว่าคนถูกเข้ากับการโจมตีต่างยืนนิ่งเหม่อลอยอยู่กับที่
“ฮู่วๆ!”
ต่อจากการโจมตีของนักรบสาวตระกูลเยว่ก็คือกระบี่รูปร่างต่างๆ มากมายที่โจมตีเข้าไปภายในดวงตาของพวกมันทั้งห้าสิบคนที่ยืนเหม่อลอยอยู่แถวหน้าสุด เมื่อกระบี่แทงเข้าไปดวงตาข้างหนึ่งแล้วมันรีบถอนออกมาอย่างรวดเร็วแล้วแทงเข้าไปยังดวงตาอีกข้างหนึ่งในขณะที่นักรบเผ่าคนเถื่อนไม่ทันตั้งตัวทัน
โฮก...อ๊า...&#¥&
การโจมตีระลอกแรกจบลง นักรบเผ่าคนเถื่อนที่อยู่ด้านหน้าสุดห้าสิบคนล้วนถูกโจมตีเข้าเต็มๆ ทั้งหมด ดวงตาสูญเสียการมองเห็นไปในทันที ทั้งการโจมตีของนักรบตระกูลเยว่และตระกูลเฟิงทำให้นักรบเผ่าคนเถื่อนห้าสิบคนที่อยู่ด้านหน้าสุดหยุดนิ่งเหม่อลอยยืนขวางทางนักรบคนเถื่อนอื่นๆ ด้านหลังที่กำลังพุ่งตรงออกมาด้วยความเร็วชนกันเข้าอย่างจัง เนื่องจากนักรบคนเถื่อนที่อยู่ด้านหน้าสูญเสียการมองเห็นเมื่อถูกชนเข้าจึงไม่รู้ว่าเป็การโจมตีมาจากทิศทางใด ครั้นแล้วจึงกวัดแกว่งหมัดเท้าโจมตีออกไปมั่วทุกทิศทาง
ผลที่ออกมาคือกองกำลังนักรบคนเถื่อนทั้งสองร้อยคนตกอยู่ในสภาพชุลมุนวุ่นวายขึ้น ไม่น้อยที่ถูกการโจมตีจากพวกเดียวกันเองจนได้รับาเ็ล้มลงไปบ้างก็มี
“ทั้งหมดแปลขบวนทัพเป็รูปพัด ตระกูลเฟิงบังคับกระบี่บินโจมตีอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายคือดวงตาของพวกมัน ตระกูลเยว่โจมตีทางิญญาต่อไปเรื่อยๆ ที่เหลือเตรียมพร้อมโจมตี นักรบตระกูลเย่โคจรพลังปราณรบรวมกันไว้จุดเดียว เตรียมพร้อมไว้อย่าเพิ่งโจมตี!”
โอกาสดีงามเช่นนี้ ผู้เป็นายทหารผู้บัญชาการรบจริงๆ ย่อมต้องรีบคว้าไว้อย่างแน่นอน สถานการณ์ในตอนนี้เป็ไปอย่างที่เย่สือซานคาดการณ์ไว้ ดังนั้นเขาจึงรีบออกคำสั่งโจมตีออกไปเป็ระลอกที่สอง
การโจมตีระลอกที่สองทำให้กองกำลังนักรบคนเถื่อนที่เดิมทีสับสนวุ่นวายอยู่แล้วยิ่งสับสนวุ่นวายมากยิ่งขึ้นไปอีก วิชาโจมตีด้วยภาพลวงตาของตระกูลเยว่ทำให้นักรบเผ่าคนเถื่อนที่ยังหัวสมองปลอดโปร่งอยู่จมดิ่งเข้าไปสู่วังวนแห่งภาพลวงตา หยุดยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ไหวติง กระบี่ห้าสิบกว่าเล่มที่บินลอยวนอยู่้าเหล่านักรบคนเถื่อน ดูราวกับดวงิญญาของภูตผีมันโฉบลอยผ่านเข้าไปภายในกลุ่มกองกำลังนักรบคนเถื่อน กระบี่เ่าั้ทิ่มแทงไปเฉพาะที่ดวงตาเท่านั้น
ส่วนนักรบของตระกูลเย่ที่บังคับพลังปราณรบมารวมกันไว้เพียงจุดเดียวเป็จำนวนมากได้ทำการะเิพลังปราณรบเ่าั้ขึ้น แม้กระทั่งนักรบเผ่าคนเถื่อนที่ร่างกายยังสมบูรณ์อยู่ยังได้รับาเ็จากแรงะเิที่เกิดขึ้น หลังจากทำการะเิไปหลายครั้งติดต่อกัน กองกำลังนักรบเผ่าคนเถื่อนทั้งหมดที่ยังสามารถยืนอยู่ได้นั้นเหลืออยู่เพียงแค่ครึ่งเดียว
“โฮก&%¥...”
ผู้นำของกองกำลังนักรบเผ่าคนเถื่อนที่อยู่ตรงข้ามที่มีพลังฝีมือในระดับขอบเขตราชันย์คนเถื่อนส่งเสียงร้องคำรามขึ้นด้วยความโกรธแค้น มองเห็นสมาชิกกองกำลังของตนเองเจ็บตายไปกว่าครึ่งภายในเวลาเพียงแค่ไม่ถึงสองนาที สองมือของมันทุบอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อที่น่ากลัว ไม่สนใจสมาชิกคนอื่นๆ ที่ยังเข่นฆ่ากันเองอยู่ มันะโพุ่งตัวลงมาอย่างเดือดดาลราวกับวัวหนุ่มที่บ้าคลั่ง มุ่งหน้าตรงไปยังทิศทางที่พวกเย่ชิงหานอยู่
“เย่สือชีเ้าไปสกัดมันไว้ เยว่เซียนกูเ้าร่วมมือกับเฟิงเิจัดการเ้าั์นั่นซะ”
เย่สือซานมองดูนักรบเผ่าคนเถื่อนที่เป็ผู้นำกองกำลังที่กำลังพุ่งทะยานตรงเข้ามา เขาพูดสั่งการออกไปราบเรียบอย่างไม่ยี่หระ ส่งสมาชิกกองกำลังที่พลังฝีมือระดับขอบเขตจ้าวนักรบจำนวนสามคนออกไปจัดการ นักรบเผ่าคนเถื่อนพลังฝีมือระดับราชันย์คนเถื่อนคนนี้พลังป้องกันแข็งแกร่งเป็อย่างมาก ะเิพลังปราณรบและการโจมตีหลายระลอกก่อนหน้านี้ไม่ได้ทำให้มันได้รับาเ็แม้แต่น้อย แต่ถ้าถูกผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตจ้าวนักรบถึงสามคนรุมโจมตีคงไม่สามารถรอดไปได้อย่างแน่นอน
เย่สือซานสั่งการเสร็จจึงหันมามองดูทางด้านกองกำลังนักรบเผ่าคนเถื่อนอีกด้าน พบว่านักรบคนเถื่อนส่วนน้อยที่ยังไม่ได้รับาเ็เริ่มที่จะแยกย้ายกันออกโจมตียังทิศต่างๆ เพื่อหาทางหลบหนีกันอุตลุด เห็นดังนั้นเขาจึงรีบสั่งการออกไปอย่างรวดเร็ว “ไม่ได้การแล้ว! นักรบลูกหลานตระกูลเย่ทั้งหมดบุกโจมตีเข้าไปข้างหน้า! นักฆ่าตระกูลฮวาและนักกระบี่ตระกูลเฟิงเร่งมือสังหารนักรบคนเถื่อนที่กำลังหลบหนี เอ่อ!...นักรบคนเถื่อนระดับขอบเขตราชันย์คนเถื่อนเริ่มจะหลบหนีแล้วเย่สือชีรีบหยุดมันเอาไว้!”
เย่ชิงหานมือถือกริชัเขียวเฝ้ารอคำสั่งจากเย่สือซานอยู่ั้แ่แรก ตอนนี้เมื่อได้ยินให้บุกทะลวงโจมตีจึงพุ่งทะยานออกไปอย่างดุดันราวกับวัวหนุ่มที่บ้าคลั่ง ส่วนผู้คุ้มกันชั่วคราวสองคนของตระกูลเย่ที่อยู่ข้างๆ ซึ่งมีพลังฝีมืออยู่ในระดับขั้นที่สามขอบเขตนักรบรีบพุ่งตัวติดตามออกไปในทันที หากนายน้อยได้รับาเ็พวกเขาต้องถูกเย่สือซานคิดบัญชีด้วยอย่างแน่นอน
ฟิ้ว!
เย่ชิงหานไม่ได้สนใจต่อคำร้องเรียกของผู้คุ้มกันทั้งสองคนที่อยู่ข้างหลังแม้แต่น้อย ระยะห่างเพียงหนึ่งร้อยเมตรพริบตาเดียวะโไม่กี่ครั้งก็มาถึง เบื้องหน้ามีนักรบคนเถื่อนรูปร่างสูงใหญ่คนหนึ่งพุ่งทะยานโจมตีมาทางเขา เขาใช้เนตรสยบิญญาในทันที จากนั้นกริชัเขียวตวัดกรีดผ่านลำคอที่แข็งแกร่งราวกับเหล็กของมันอย่างรวดเร็วและง่ายดายราวกับกรีดกระดาษ บริเวณลำคอตำแหน่งที่กริชัเขียวตวัดกรีดผ่านปรากฏเป็ปากแผลสีแดงขึ้น จากนั้นละอองฝนเืทะลักพรั่งพรูออกมาจากปากแผลสีแดงนั้นราวกับท่อน้ำประปาแตก...
เอ่ออ...! สังหารในพริบตา?
ผู้คุ้มกันทั้งสองที่ติดตามมาด้านหลังตกตะลึงไปในทันที ต่างเบิกตากว้างจ้องมองสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าพร้อมกับมองตากันไปมา นักรบเผ่าคนเถื่อนคนนี้หากคิดตามส่วนสูงแล้วพลังฝีมือน่าจะอยู่ในระดับขอบเขตจอมพลคนเถื่อน แต่นายน้อยกลับสามารถสังหารได้ในพริบตา? ในขณะที่พวกเขากำลังตกตะลึงอยู่นั้นเย่ชิงหานกลับทำตัวราวกับเป็ปลาไหลฉันนั้นทะยานมุดหายเข้าไปในกลุ่มของนักรบเผ่าคนเถื่อน
เห็นดังนั้นทั้งสองใจหายขึ้นมาทันทีไม่กล้าที่จะคิดอะไรมาก มือถือมีดดาบยาวที่เคลือบด้วยพลังปราณรบปรากฏเป็แสงคมดาบเปล่งประกายวูบวาบไปมา จากนั้นควงดาบยาวกวัดแกว่งทะยานตามเข้าไปท่ามกลางกลุ่มนักรบคนเถื่อน ส่วนนักรบลูกหลานของตระกูลเย่คนอื่นๆ ที่อยู่ด้านหลังก็ราวกับเสือร้ายที่วิ่งทะยานลงมาจากูเากระโจนเข้าใส่ฝูงเนื้อแกะฉันนั้น พุ่งทะยานตามเข้าไปติดๆ แม้ว่าหากเปรียบเทียบด้านขนาดรูปร่างของร่างกายกับเผ่าคนเถื่อนแล้วพวกเขาจะดูเหมือนลูกแกะเนื้อเสียมากกว่าที่จะเป็เสือ
นักฆ่าตระกูลฮวาและนักกระบี่ตระกูลเฟิงร่วมมือกันสะกัดกั้นนักรบคนเถื่อนที่กำลังแยกย้ายกันหลบหนีอย่างอุตลุดไปทั่วทุกทิศทาง เพียงแต่เห็นได้ชัดว่านักรบเผ่าคนเถื่อนที่ยังไม่ได้รับาเ็สาหัสและเริ่มหลบหนีแต่แรกนั้นล้วนเป็พวกยอดฝีมือ ซึ่งพลังฝีมือโดยทั่วไปล้วนอยู่ในระดับขอบเขตขุนพลและจอมพลคนเถื่อนด้วยกันทั้งนั้น พวกมันไม่ได้สนใจต่อการโจมตีระยะประชิดของนักกระบี่ตระกูลเฟิง ไม่ได้สนใจแม้แต่จะมองกระบี่ที่บินลอยวนอยู่เหนือหัว และยิ่งไม่ได้สนใจต่อนักฆ่าตระกูลฮวาที่อยู่ดีๆ ก็ปรากฏตัวออกมา พวกมันทำเพียงแค่ควงแขนที่อวบใหญ่ไปด้วยมัดกล้ามเนื้อนั้นไปมาเพื่อปกป้องส่วนศีรษะของตนเอง ในขณะเดียวกันก็ออกแรงวิ่งตะบึงมุ่งหน้าออกไปในทิศทางเดียวอย่างบ้าระห่ำราวกับหุ่นยนต์เหล็กที่เคลื่อนที่ได้
กระบี่บินของตระกูลเฟิงเชือดเฉือนผิวเนื้อของพวกมันจนเกิดเป็าแทั่วตัวเืไหลเป็สายน้ำ ส่วนนักฆ่าตระกูลฮวาแม้จะใช้อาวุธแทงสังหารอยู่ตลอดแต่ก็ไม่สามารถที่จะหยุดจังหวะฝีเท้าของพวกมันลงได้ ในตอนนี้พลังป้องกันที่น่ากลัวของพวกมันได้แสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน พวกมันไม่สนอะไรทั้งนั้น พวกมันรู้แค่ว่าต้องวิ่งหลบหนีต่อไปเช่นนี้เรื่อยๆ ถึงจะมีโอกาสรอดชีวิตได้...
เห็นได้ชัดว่าการกระทำที่ดูราวกับมุทะลุหรืออาจะพูดได้ว่าขี้ขลาดตาขาวของพวกมัน กลับทำให้การไล่ตามฆ่าของนักฆ่าตระกูลฮวาและนักกระบี่ตระกูลเฟิงนั้นไม่ได้ผลเท่าที่คาดการณ์ไว้ หลังจากไล่ติดตามฆ่าอยู่หลายกิโลเมตรจึงล้มเลิกความตั้งใจ ตามแผนการที่คุยกันไว้คือ การไล่ล่านั้นไม่ควรเกินจากระยะทางที่กำหนดไว้ เพราะอาจจะถูกดักซุ่มโจมตีกลับได้ ไล่ตามฆ่าพวกที่โชคไม่ดีได้ไม่กี่คนนักฆ่าตระกูลฮวาและนักกระบี่ตระกูลเฟิงจึงถอยร่นกลับมา
เย่สือชี เยว่เซียนกู และเฟิงเิก็พบเจอกับสถานการณ์ชวนให้ปวดหัวอย่างเดียวกัน
นักรบเผ่าคนเถื่อนระดับขอบเขตราชันย์คนเถื่อนที่เป็ผู้นำคนนี้ แรกเริ่มนั้นทำท่าจะพุ่งทะยานมายังกองกำลังของพวกเขา เมื่อได้รับคำสั่งจากเย่สือซานทั้งสามจึงออกมารับมือพร้อมกัน โดยจัดรูปขบวนรบขึ้นเตรียมที่จะเด็ดหัวไอ้ตัวใหญ่นี้ในทันที แต่ไม่คาดคิดว่าไอ้ตัวใหญ่ที่ดูโง่เทอะทะนี้จะเปลี่ยนทิศทางการวิ่งขึ้นมากลางทาง จากนั้นมันเร่งระดับความเร็วขึ้นวิ่งห้อตะบึงทำการหลบหนีออกไป พวกเย่สือชีทั้งสามตกตะลึงอยู่ชั่วครู่ก่อนจะรู้ตัวรีบเพิ่มระดับความเร็วเร่งติดตามออกไปสะกัดกั้นทางไม่ให้มันหลบหนี
เพียงแต่ว่าพลังป้องกันที่อยู่ในระดับขอบเขตราชันย์คนเถื่อนของมันแข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อ อีกทั้งมันยังหลับตาวิ่งอยู่ตลอดพร้อมกับปกป้องส่วนศีรษะ เพียงแค่ออกแรงวิ่งอย่างบ้าคลั่งอยู่ชั่วระยะหนึ่งในลักษณะที่ทั้งหลับตาทั้งกอดศีรษะไว้ ทำเอาผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตจ้าวนักรบของทั้งตระกูลเยว่และตระกูลเฟิงต่างหมดปัญญาที่จะทำอย่างใดได้
วิชาภาพลวงตาของตระกูลเยว่เป็การโจมตีผ่านดวงตาเท่านั้น กระบี่บินของตระกูลเฟิงแม้จะสามารถทำให้ผิวเนื้อของมันเกิดาแได้ แต่าแเล็กน้อยเพียงแค่นั้นเมื่อเทียบกับขนาดรูปร่างที่สูงใหญ่สามเมตรอย่างมันไม่นับว่าเป็ปัญหาแต่อย่างใด แม้สนามพลังของเย่สือชีจะครอบมันไว้อยู่ตลอด ดาบยาวที่อยู่ในมือเปล่งประกายแสงคมกริบของพลังปราณรบ แต่เนื่องด้วยพลังป้องกันที่แข็งแกร่งบวกกับชุดเกราะสีเทาที่ห่อหุ้มส่วนสำคัญบนร่างกายของมันไว้ ดังนั้นการโจมตีจากดาบยาวของเขาจึงไม่สามารถทำให้เกิดการาเ็ที่รุนแรงอะไรได้...สุดท้ายหลังจากไล่ล่าอยู่ราวสิบกว่ากิโลเมตร มันะโลงไปยังหน้าผาขาดเบื้องหน้า ทั้งสามส่ายหัวอย่างอับจนปัญญาแล้วจึงถอยร่นกลับมา
สิบกว่ากิโลเมตรสำหรับระดับความเร็วของพวกเขานั้นแค่ไม่กี่ลมหายใจก็กลับมาถึง เพียงแต่...เมื่อกลับมาถึงสนามรบที่เดิม พวกเขาทั้งสามกลับพบเห็นเหตุการณ์แปลกประหลาดที่ทำให้ต้องตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น พวกเขามองเห็นนักรบของตระกูลเย่ทั้งหมดกำลังทำการโอบล้อมนักรบเผ่าคนเถื่อนกลุ่มหนึ่งไว้ เพียงแค่ทำการโอบล้อมแต่ไม่ได้มีการลงมือโจมตีแต่อย่างใด ภายในกองกำลังนักรบคนเถื่อนกลุ่มนั้นมีเด็กหนุ่มชุดดำที่ทั่วร่างเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบเื เขาเพียงคนเดียวกำลังต่อสู้กับกลุ่มนักรบเผ่าคนเถื่อนเ่าั้...ผิด! นั่นไม่ใช่การต่อสู้เป็กลุ่ม แต่เป็การสังหารหมู่อย่างเห็นได้ชัด!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้