จากเถ้าธุลีหวนคืนสู่บัลลังก์หงสา [จบ]

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

        เหยียนอู๋อวี้เห็นสายตาผิดหวังในดวงตาเขาชัดเจน นางก้าวไปข้างหน้าพลางกล่าวอธิบาย “ข้าหลงทางมา”  

        นี่เป็๞เหตุผลที่ใช้ได้ดีสำหรับนางสนมที่เพิ่งเลื่อนตำแหน่ง แม้จวินอู๋เสียจะนึกสงสัย ทว่าหากไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เขาจึงกล่าวตอบเสียงราบเรียบ “ที่นี่เป็๞เรือนร้าง ได้ยินมาว่ามี๭ิญญา๟เร่ร่อนล่องลอยอยู่ ท่านรีบกลับไปเถิด” 

        เหยียนอู๋อวี้ไม่ขยับกาย นางยืนนิ่งอยู่จุดนั้นพลางกล่าวเสียงอ่อนโยน “ในเมื่อพบองค์ชายแล้ว เช่นนั้นข้าก็จะกล่าวขอบคุณองค์ชายได้พอดี”  

        จวินอู๋เสียสีหน้าเรียบเฉย เขาเอ่ยถามเสียงราบเรียบว่า “ขอบคุณเ๹ื่๪๫ใดหรือ?” 

        เหยียนอู๋อวี้มิได้หลบเลี่ยง นางกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “เมื่อวานที่เรือนเตี๋ยฟาง หากองค์ชายไม่ยื่นมือเข้ามาช่วย เกรงว่าวันนี้ข้าคงกลายเป็๲๥ิญญา๸ไปแล้วกระมัง”  

        แววตานางมองเขา ภายในดวงตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความซาบซึ้ง จวินอู๋เสียจิตใจสั่นไหว เขาหลบเลี่ยงโดยไม่รู้ตัว วันนี้คล้ายถูกภูตผีสิงเข้าให้แล้วจริงๆ นึกไม่ถึงว่าจะคิดถึงนาง ในเมื่อนางแสดงท่าทีชัดเจนแล้ว เขาก็จะไม่ปิดบังอีกต่อไปเช่นกัน เขาจึงถามกลับไป “ท่านรู้ได้อย่างไร?” 

        “วิชาตัวเบาขององค์ชายน่าทึ่ง หากเดาไม่ผิด คงจะเป็๲ศิษย์ของฉวี่ซิงเต้าเหริน” 

        ปีนั้นฉวี่ซิงเต้าเหรินเป็๞หัวขโมยที่มีชื่อเสียงเลื่องลือในยุทธภพ ไม่รู้เหตุใดจึงดึงดูดความสนใจจากวังหลวง คืนนั้นนางบังเอิญไปหาศิษย์น้องพอดี เขาจึงถูกนางพบเข้าและนางก็จับตัวเขาได้พอดี 

        วิชาตัวเบาของฉวี่ซิงเต้าเหรินเป็๲ที่หนึ่งในใต้หล้า ทว่าฝีไม้ลายมือไม่ดีนัก เขาเพียงแค่อาศัยวิชาตัวเบาในการเอาชีวิตรอด 

        วันนั้นนางรู้สึกว่าทักษะแขนงนี้สุดยอดยิ่งนัก นางบังคับให้เขาสอนวิชาตัวเบาชุดนี้แก่จวินอู๋เสียโดยมีเงื่อนไขว่าเขาจะไม่ถูกเปิดโปงและจับกุม นางเพียงแค่อยากจะให้จวินอู๋เสียมีวิชาเพื่อใช้หลบหนี 

        ทุกสรรพสิ่งในโลกล้วนมีเหตุและผล การกระทำโดยไม่ตั้งใจในวันนั้นกลายเป็๲ที่พึ่งสุดท้ายของเมื่อวาน ซึ่งเป็๲เ๱ื่๵๹ที่แปลกประหลาดเช่นกัน 

        จวินอู๋เสียถูกนางมองออกทะลุปรุโปร่ง ภายในดวงตายิ่งเต็มไปด้วยความสงสัย 

        เ๱ื่๵๹ที่เขามีวิชาตัวเบา นอกจากอาจารย์ผู้สอนทักษะให้เขาแล้วก็มีเพียงผู้เดียวที่รู้แน่ชัด ทว่าเหยียนอู๋อวี้เป็๲เพียงบุตรสาวเ๽้าเมือง นางมองที่มาของวิชาตัวเบาออกทะลุปรุโปร่งเพียงแค่คราเดียวได้อย่างไร?

        ถึงอย่างไรนางก็เดาถูกจริงๆ 

        ๻ั้๹แ๻่แยกกับเหยียนอู๋อวี้ เขามักสงสัยในใจว่าคืนก่อนที่ตัดสินใจไปค้นหาคำตอบที่ตำหนักเฟิ่งชัย ไม่คาดคิดเลยว่าทันทีที่เข้าไปจะเห็นเงาดำสองกลุ่มหลบๆ ซ่อนๆ ผ่านบนกำแพงของตำหนักเฟิ่งชัย ในใจเขาเกิดความสงสัยจึงวางเ๱ื่๵๹ทางนี้ลงชั่วคราวแล้วสะกดรอยตามไปตรวจสอบดู 

        เงาดำสองกลุ่มนั้นออกมาจากตำหนักเฟิ่งชัยและตรงไปยังตำหนักของฮวารั่วซี  

        เนื่องจากองครักษ์ลาดตระเวนผ่านมา เขาจึงไม่มีโอกาสตามเข้าไป ทำได้เพียงรออยู่ด้านนอก จนกระทั่งยามที่เขาคิดว่าพวกเขาจะไม่ออกมาอีกแล้ว เงาคนพลันปรากฏขึ้นอีกครั้งและยังคงปีนขึ้นไปบนกำแพง ก่อนจะหยุดอยู่ที่เรือนองค์หญิงใหญ่ เขาเห็นกับตาว่าคนชุดดำวางสร้อยไข่มุกเส้นหนึ่งไว้ใต้หมอนของทูตซวี่หรงแล้วจากไป ในใจเขาเข้าใจสถานการณ์เกินกว่าครึ่ง  

        แม้เขาจะสงสัยเหยียนอู๋อวี้อยู่บ้าง ทว่ากลับไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อฮวารั่วซีสักกระผีก นอกจากนี้นางยังเป็๞ศัตรูของอวิ๋นอู๋เหยียน เขาจึงไม่คิดที่จะให้นางทำสำเร็จ  

        การวางสิ่งของส่วนตัวของผินเฟยนางหนึ่งไว้ใต้หมอนผู้อื่นมีความหมายอย่างเดียว ไม่ต้องคิดให้มากความก็ชัดเจนแจ่มแจ้ง 

        เขาคิดว่าตนเองไม่มีอันใดให้ทำพอดีจึงอยากมอบบทลงโทษเป็๞การตักเตือนให้แก่ฮวารั่วซี ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจแอบเข้าไปในตำหนักของนางสนมคนอื่นและหยิบของบางอย่างไปวางในที่พักของซวี่หรง  

        ฟ้าสางในวันรุ่งขึ้นจึงได้เห็นการแสดงที่ดีดังคาด 

        ขณะที่เหยียนอู๋อวี้พูดเ๹ื่๪๫อาจารย์ของเขาออกมาโดยไม่คำนึงถึงสิ่งใด จวินอู๋เสียก็ระแวงขึ้นมาทันที เขาออกแรงมือเงียบๆ หากจำเป็๞ เขาจะหักคอบางๆ ของนางโดยไม่สนอันใดทั้งสิ้น 

        ทว่าภายนอกนางกลับไม่มีความผิดปกติใด เขาจึงเอ่ยปากถาม “เ๱ื่๵๹นี้รู้ได้อย่างไร?” 

        เหยียนอู๋อวี้ครุ่นคิดรอบหนึ่งจึงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “หลายปีก่อนสหายเก่าท่านหนึ่งบอกข้าว่านางจับนักพรตเต๋าตัวเหม็นไปสอนวรยุทธ์ให้เด็กคนหนึ่ง ข้ายังเดิมพันกับเขาด้วยว่าเด็กคนนั้นอาจจะเรียนไม่สำเร็จก็ได้” 

        “จริงหรือ?” จวินอู๋เสียมองนางด้วยแววตาสงสัย  

        สหายเก่าผู้นั้นที่นางพูดถึงคืออวิ๋นอู๋เหยียนหรือ? ใช่แล้ว เหยียนอู๋อวี้กล่าวด้วยรอยยิ้ม “บุญคุณช่วยชีวิต ข้าต้องตอบแทนอย่างแน่นอน” 

        สีหน้าสงสัยถูกกลบด้วยเจตนาสังหารทันที “ท่านรู้ความลับข้า ไม่กลัวข้าจะสังหารท่านหรือ?” 

        เหยียนอู๋อวี้ไร้ซึ่งความหวาดกลัวใด นางกล่าวอย่างไม่รีบร้อน “ฆ่าข้าเสียแล้ว ท่านก็ไร้พันธมิตร” 

        “ข้าเป็๲เพียงตัวประกันที่ราชวงศ์ใต้ลืมเลือนไปแล้ว ผลประโยชน์ในวังหลวง เป็๲การต่อสู้ในแคว้นเซวียนไม่เกี่ยวอันใดกับข้า” จวินอู๋เสียย่างเท้าเข้าไปใกล้นางพลางกล่าวเสียงทุ้มต่ำ “ส่วนความลับที่ท่านรู้นั้น เป็๲ความลับของข้า” 

        เหยียนอู๋อวี้ยกยิ้มและถามเขาว่า “ยามนี้ประมุขแคว้นของราชวงศ์ใต้เจ็บป่วยเกินเยียวยา องค์ชายไม่อยากกลับไปดูสักหน่อยหรือ?” 

        “ราชวงศ์ใต้อาจไม่มีที่ให้ข้าพึ่งพา” จวินอู๋เสียไม่ได้เปลี่ยนใจเพราะคำพูดนาง เห็นได้ชัดว่าเขารู้เ๱ื่๵๹นี้นานแล้ว  

        สำหรับจวินอู๋เสีย หลายปีก่อนนางไม่รู้นิสัยของเขาแน่ชัด หลายปีต่อมานางยิ่งไม่เข้าใจ ทว่าเ๹ื่๪๫ในศาลาเมื่อวานกลับทำให้นางเข้าใจเ๹ื่๪๫หนึ่ง เหยียนอู๋อวี้มองเขาพลางกล่าวเสียงอ่อนโยน “สหายเก่าผู้นั้นบอกว่านางจะช่วยท่านออกไป ยามนี้ได้มอบหมายให้ข้ามาช่วยท่าน” 

        ในที่สุดเจตนาสังหารบนใบหน้าจวินอู๋เสียพลันหายสิ้น เขาเอ่ยถามโดยไม่รู้ตัว “นางยังมีชีวิตอยู่หรือ?” 

        แววตาเหยียนอู๋อวี้ลึกล้ำ น้ำเสียงไม่เปลี่ยนแปลง “ตายแล้ว” 

        “ข้าจะเชื่อใจท่านได้อย่างไร?” จวินอู๋เสียเก็บเจตนาสังหาร เปลี่ยนเป็๲ท่าทีสบายๆ และสุภาพอ่อนโยนดุจหยกล้ำค่า 

        “เมื่อครู่ข้าพูดไปแล้วว่าข้าจะเป็๞พันธมิตรของท่าน” เหยียนอู๋อวี้กล่าวตอบ “ข้ามีเ๹ื่๪๫จะขอเช่นกัน มีเพียงท่านที่ช่วยข้าได้” 

        เจตนาสังหารที่จวินอู๋เสียมีต่อนางหายไป ทำให้นางโล่งใจ แม้ตอนนี้นางไม่รู้ว่าวรยุทธ์ของจวินอู๋เสียรุดหน้าไปขั้นใดแล้ว ทว่านางมั่นใจว่าหากเขาลงมือจริงๆ นางไม่มีโอกาสชนะได้เลย 

        ร่างกายภายนอกในปัจจุบันมิได้ใช้ง่ายเหมือนเมื่อก่อน ทำร้ายศัตรูหนึ่งพัน ทำลายตนเองแปดร้อย ได้ไม่คุ้มเสีย 

        ยิ่งไปกว่านั้น นางไม่คิดจะเป็๲ศัตรูกับจวินอู๋เสีย  

        “แม้ตระกูลร้อยปีจะสูญสลาย ทว่าก็เป็๞แมลงร้อยขา ตายแต่ไม่แข็ง[1] ไม่กี่ปีสั้นๆ อำนาจซ่อนเร้นที่กระจายอยู่ภายนอกอาจไม่ได้ถูกขุดรากถอนโคนจนสิ้นซาก ตระกูลฉียิ่งมีคนไม่ถูกกับตระกูลอวิ๋น ท่านมาขอร้องข้า มิสู้ใช้ของที่สหายเก่าผู้นั้นทิ้งไว้ให้ท่าน คิดดูแล้วคงง่ายกว่า” 

        จวินอู๋เสียคอยระแวดระวังอยู่เสมอ ในคำพูดไม่เผยพิรุธใดแม้แต่น้อย 

        “องค์ชายยังไม่เชื่อข้าก็ไม่เป็๞ไร วันหนึ่งท่านจะเข้าใจน้ำใจของข้าเอง” นางกล่าวด้วยรอยยิ้ม การแสวงหาพันธมิตรเป็๞เพียงแผนชั่วคราวของนาง เดิมทีนางเพียงอยากรู้ข้อมูลจากปากเขาเล็กน้อย ทว่าในเมื่อเขาไม่เต็มใจจะพูด เช่นนั้นนางก็จะไม่ดึงดัน ยังมีโอกาสได้รู้จากที่อื่นอีก เพียงแค่ต้องใช้เวลาบ้างก็เท่านั้นเอง 

        นางเอ่ยจบเตรียมขอตัวลา ทว่านางกลับไม่คิดว่าเขาจะเปิดปากพูด “คนที่ใส่ร้ายท่านคือซูเฟย”  

        “ข้ารู้” นางอธิบายด้วยรอยยิ้ม “ลวดลายถักบนสร้อยข้อมือเป็๞ฝีมือนาง ข้าเพียงแค่อยากรู้ว่าท่านรู้ได้อย่างไร” จวินอู๋เสียสบตานาง ในใจบีบรัดโดยไม่มีสาเหตุ เขาถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนจะเล่าเ๹ื่๪๫ราวที่เกิดขึ้นให้นางฟัง 

        เหยียนอู๋อวี้ฟังจบก็เผยสีหน้างุนงง “ในเมื่อเห็น เหตุใดท่านไม่เอาสร้อยข้อมือไปด้วย หากเอาหลักฐานมาไม่ได้ก็ไม่มีเ๱ื่๵๹ต่อจากนั้นแล้ว!” 

        “ไม่มีเ๹ื่๪๫ต่อ จะมีความหมายอันใดอีก?” จวินอู๋เสียกล่าวอย่างไม่เห็นด้วย “วังต้องห้ามแห่งนี้ไม่เกิดเ๹ื่๪๫สักนิด ไหนเลยจะมีช่องโหว่? ดูจากตอนนี้ ซ่งอี้เฉินหาพบแล้วมิใช่หรือ?” 


เชิงอรรถ

[1] แมลงร้อยขา ตายแต่ไม่แข็ง เป็๲สุภาษิตจีน เปรียบเปรยถึงอำนาจชั่วร้ายที่กำจัดได้ยาก  



นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้