หลินเสี่ยวหยางทำงานที่โรงงานเครื่องจักร โรงงานเครื่องจักรค่อนข้างใกล้กับเขตชานเมืองของอำเภอจินชุ่ย จึงมีต้นสนฉัตรลำต้นหนาอวบ ทั้งยังเติบโตมาหลายปีขึ้นอยู่รอบบริเวณ โรงงานมีขนาดใหญ่โต ข้างในมีคนงานมากกว่าพันคน อีกทั้งผลตอบแทน สวัสดิการของโรงงานก็ดี ่เทศกาลมักจะแจกพวกเนื้อกระป๋องประจำ คนเลยดิ้นรนสมัครเข้าโรงงานกันแทบไม่หวาดไม่ไหว เหล่าสาวๆ ก็อยากแต่งให้พ่อหนุ่มในโรงงานตามไปด้วย หลินเสี่ยวหยางหน้าตาสุภาพงดงาม อัธยาศัยดีพร้อม แถมยังทำงานบัญชีที่ดูสะอาดสะอ้าน จึงเป็เขยเต่าทองคำ [1] ที่หลายคนหมายปอง ชาติก่อนสาวชนบทอย่างเจิ้งหยวนได้ในท้ายที่สุด ทำคนตกตะลึงไม่รู้ตั้งเท่าไร คงต้องขอบคุณที่เธอหน้าตาสะสวย และรู้จักแต่งเนื้อแต่งตัว เลยดูไม่ด้อยไปจากคนในเมืองนัก
หน้าประตูโรงงานเครื่องจักรปักป้ายสีขาว ตัวอักษรดำไว้สามแผ่น แผ่นหนึ่งเขียนว่า ‘โรงงานเครื่องจักรรัฐวิสาหกิจอำเภอจินสุ่ย’ ส่วนอีกแผ่นเขียน ‘กรมกองทัพประชาชน โรงงานเครื่องจักรรัฐวิสาหกิจอำเภอจินสุ่ย และแผ่นสุดท้าย ‘คณะกรรมาธิการสหภาพแรงงาน โรงงานเครื่องจักรรัฐวิสาหกิจของอำเภอจินสุ่ย’ ไว้ เมื่อมองเข้าไปในโรงงาน สิ่งแรกที่สะดุดสายตาคือผ้าคำขวัญสีแดงสดที่มีตัวอักษร จริงจัง เคร่งครัด สามัคคี กระฉับกระเฉง’ ประดับอยู่ ตอนนี้เกือบเก้าโมงเช้าแล้ว เพราะลูกจ้างในโรงงานเริ่มลงมือทำงานกันแล้ว หน้าประตูจึงไม่มีใคร ชาติก่อนเจิ้งหยวนมาหาหลินเสี่ยวหยางที่นี่นับครั้งไม่ถ้วน ต่อมายังรบเร้าให้หลินเสี่ยวหยางช่วยเธอหางานเป็ลูกจ้างชั่วคราวในโรงงาน เธอเคยอิจฉา เคยรัก และเคยชิงชังที่แห่งนี้ ทว่าพอได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง ความรู้สึกกลับเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมแล้ว
่เวลานี้ยามเฝ้าประตูยังไม่เคยพบเจิ้งหยวน เขาเห็นเจิ้งหยวนเดินวนไม่ไปไหนสักที เลยออกมาถามเธอ “สหาย เธอมาหาใครเหรอ?”
เจิ้งหยวนหลุดออกจากภวังค์แล้วตอบ “ฉันมาหาคนที่ชื่อหลินเสี่ยวหยางค่ะ”
ยามเฝ้าประตูเป็คนหนุ่มกระตือรือร้น เขาบอก “เธอรอเดี๋ยวเดียว ผมจะไปเรียกมาให้!”
ยามเฝ้าประตูตัวน้อยยังบอกให้เจิ้งหยวนเข้าไปนั่งในห้องประชาสัมพันธ์ แต่เจิ้งหยวนปฏิเสธไป เธอยืนมองรอบๆ หน้าโรงงานเครื่องจักร ถัดจากโรงงานเครื่องจักรไปจะเป็ห้องพักของโรงงาน ข้างในสร้างแบบอาคารแฟลต ทุกห้องมีขนาดสิบกว่าตารางเมตร ซักผ้า ทำอาหารล้วนจัดการตรงระเบียงทางเดิน บ้านไหนทะเลาะกัน เด็กคนไหนดื้อจนโดนตี ครอบครัวใครตุ๋นเนื้อทาน คนในอาคารเลยรู้หมด ระหว่างเพื่อนบ้านย่อมขัดแย้งบ้าง แต่ก็เอื้อเฟื้อกันมากกว่า อย่างสมัยเธอตั้งครรภ์ครั้งแรก บังเอิญชนกับน้องสาวสามีเข้า แม่สามีเอาแต่ห่วงลูกสาวตนเองหลังน้องสามีล้ม ไม่สนใจความเป็ความตายของเธอสักนิด ส่วนตอนนั้นหลินเสี่ยว
หยางก็ไปทำงาน สุดท้ายเป็เพื่อนบ้านพาเธอไปโรงพยาบาลแทน น่าเสียดายที่มันสายเกินไป เธอไม่อาจรักษาลูกไว้ได้
ภายหลังแม่สามีกล่าวโทษเธอว่าไม่ระวัง ทั้งที่น้องสาวสามีเป็คนะโโลดเต้นไม่ดูตาม้าตาเรือ แถมยังชนเข้ากับเธอก่อน ตอนนั้นเธอแค้นใจสุดๆ หลินเสี่ยวหยางที่สูญเสียเด็กคนนี้ไปก็เสียใจเช่นกัน แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อเด็กไม่อยู่แล้ว เขาเลยอยากให้เจิ้งหยวนปล่อยวาง น่าเสียดายที่พูดไม่เป็ กลับบอกว่าน้องสาวอายุยังน้อย ไม่รู้ความ ส่วนแม่ก็อายุเยอะให้เธอยอมๆ หน่อย อย่าไปคิดเล็กคิดน้อยกับท่าน เจิ้งหยวนไฉนจะทนลมปากนี้ได้? สรุปเธอก็ทะเลาะกับแม่สามียกใหญ่จนครอบครัวเข้าหน้ากันไม่ติด หลินเสี่ยวหยางไกล่เกลี่ยทั้งสองฝ่ายไม่ลงตัว ต้องคอยรับแรงอารมณ์อยู่ตรงกลาง แต่แม้จะเป็อย่างนั้น หลินเสี่ยวหยางก็อดทนทุกอย่าง ยกชาเสิร์ฟน้ำให้เจิ้งหยวน ดูแลเธอตอนอยู่เดือนหลังคลอดตลอด และยังแอบสัญญากับเธอว่าต่อไปจะตั้งใจทำงานหนักเพื่อแยกบ้านให้ได้ จากนั้นจะย้ายออกไปอยู่ด้วยกัน
[1] เขยเต่าทองคำ หมายถึง ลูกเขยที่มีฐานะและหน้าที่การงานดี
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้