หลังจากมู่จื่อหลิงและเล่อเทียนเข้าไปในห้องที่หลี่เอินอยู่ หลงเซี่ยวอวี่จึงจากสวนจิ้งซินไปพร้อมกุ่ยหยิ่ง
นี่เป็การผ่าตัดใหญ่และพิเศษนัก มู่จื่อหลิงไม่อยากให้มู่เจิ้นกั๋วรู้ จึงมิได้ให้เขาเข้าไปด้วย
หลังจากมู่จื่อหลิงเข้าไป เื่แรกที่ทำคือเปิดระบบซิงเฉินตรวจร่างกายทุกส่วนของหลี่เอิน
เป็เพราะพิษเก่าถูกขับออกมา พิษที่กัดกร่อนเซลล์จึงถูกระงับเอาไว้ชั่วคราว
ดังนั้นหลี่เอินบนเตียงจึงยังคงมีร่างกายบวมฉึ่งเหมือนไม่กี่วันก่อนหน้า มิได้ดีขึ้น แต่ก็มิได้แย่ลงไปอีกขั้น
“หวางเฟย ร่างกายมู่ฟูเหรินบวมไปหมดเป็เพราะเหตุใด?” ในใจของเล่อเทียนเปี่ยมไปด้วยข้อสงสัย
เป็เพราะเหตุผลใดกันแน่? ช่างทำให้คนเข้าใจยากจริงๆ
หลายวันนี้เล่อเทียนมองต้นสายปลายเหตุใดไม่ออก อึดอัดใจจนจะบ้าอยู่แล้ว
“เพราะพิษในพิษ ท่านแม่ข้านอกจากอวัยวะภายในล้มเหลวแล้ว ในร่างนางยังไปกระตุ้นพิษอีกชนิด ซึ่งกำลังกัดกร่อนเนื้อของนาง ทำให้นางบวมไปทั้งกาย” มู่จื่อหลิงอธิบายเล่อเทียนอย่างง่ายๆ
เซลล์เป็ศัพท์ของชีววิทยาสมัยใหม่ หากพูดออกไปตรงๆ ให้คนสมัยโบราณเช่นเล่อเทียนว่ากัดกร่อนเซลล์ เขาคงไม่เข้าใจ
“ที่แท้ก็เป็เช่นนี้” เล่อเทียนกระจ่างแจ้งขึ้นมา ในใจกลับอุทานอย่างเงียบๆ
ที่แท้พิษที่ถูกกระตุ้นขึ้นมาใหม่กำลังกัดกร่อนเนื้อหนัง ความเร็วในการกัดกร่อนจะต้องเร็วมากแน่ เมื่อเทียบกันแล้วน่ากลัวเสียยิ่งกว่าอวัยวะภายในค่อยๆ ล้มเหลวอีก และชีวิตของผู้ป่วยก็จะค่อยๆ ดับสิ้นไประหว่างการกัดกร่อนนี้ กระทั่งตายไปในที่สุด
ฉีหวางเฟยผู้นี้ไม่ธรรมดาจริงๆ!
“เช่นนั้นยามนี้หวางเฟย้าทำอย่างไร?” เล่อเทียนถามต่อ เขามีลางสังหรณ์ว่าเขาติดตามมู่จื่อหลิงในวันนี้จะต้องรู้เื่ที่ไม่เคยรู้มาก่อนไม่น้อยแน่
“ตอนนี้อวัยวะภายในท่านแม่ข้าใกล้จะล้มเหลวแล้ว ดังนั้นข้าจะเอาอวัยวะภายในทั้งหมดของนางออกมาเพื่อกำจัดพิษและเพาะเลี้ยงไว้ เพื่อให้อวัยวะภายในกลับมาเป็ปกติได้อย่างสมบูรณ์ ขั้นต่อไปพิษตัวต่อไปค่อยวางแผนหาทางรักษา” มู่จื่อหลิงสีหน้าจริงจัง พูดเื่นี้อย่างเคร่งขรึม
“นำ นำออกมา กำจัดพิษ เพาะเลี้ยง?” เล่อเทียนสำลักน้ำลายขึ้นมาทันใด ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ
การผ่าท้องเปิดอกเป็วิธีการรักษาที่หาได้ยาก และทำให้คนส่วนใหญ่มิอาจยอมรับ แต่เขารักษาคนมาหลายปีก็เคยใช้วิธีนี้รักษาผู้ป่วยมาก่อน จึงไม่เห็นว่าแปลก ไม่รู้สึกว่ามีอันใดน่าประหลาดใจ
แต่ว่า้านำอวัยวะภายในออกมากำจัดพิษและเพาะเลี้ยง ทำให้พวกมันฟื้นฟูกลับมาเป็ปกติ ไม่เพียงเขาไม่เคยเห็นมาก่อน แม้แต่ได้ยินยังไม่เคยได้ยิน
กำจัดพิษและเพาะเลี้ยงอวัยวะภายในที่ฉีหวางเฟยพูด แน่ใจว่ามีวิธีการที่มหัศจรรย์เช่นนี้จริงๆ หรือ?
นี่ฟังแล้วน่าแตกตื่นนัก! ไม่น่าเชื่อ เขาเองก็ไม่เชื่อ
มู่จื่อหลิงรู้อยู่แล้วว่าเล่อเทียนจะมีการตอบสนองว่าไม่อยากเชื่อเช่นนี้
มู่จื่อหลิงยกมุมปากอันน่ามอง เปิดล่วมยาออก
หยิบขวดหยกใบเล็กที่ทำขึ้นอย่างประณีตงดงาม ข้างในขวดเล็กใสกระจ่างนี้บรรจุน้ำยาหลิงอวิ้นที่นางเตรียมไว้ในก่อนหน้า
“ก่อนหน้านี้อาจารย์ข้าคิดค้นน้ำยาหลิงอวิ้นนี่ออกมา สามารถหล่อเลี้ยงอวัยวะที่ใกล้จะตายได้โดยเฉพาะ ข้า้าใช้น้ำยาหลิงอวิ้นนี้เพื่อหล่อเลี้ยงอวัยวะภายในของท่านแม่ที่เกือบจะล้มเหลว” มู่จื่อหลิงส่งขวดหยกในมือให้เล่อเทียน อธิบายอย่างใหญ่โต
มู่จื่อหลิงรู้ว่าหากไม่อธิบายกับเล่อเทียนให้ชัดเจน เขาต้องไม่ตายใจแน่ ไม่ต้องพูดที่เล่อเทียนคงคิดว่านางบ้าไปแล้ว สะบัดแขนเสื้อ ส่ายก้นจากไปก็ได้
น้ำยาหลิงอวิ้นขวดนี้ไม่พอแม้แต่จะหล่อเลี้ยงด้วยซ้ำ นางเพียงเตรียมไว้เพื่อทำให้เล่อเทียนเชื่อถือ ที่ต้องเลี้ยงจริงๆ ยังต้องนำอวัยวะเข้าไปในสระน้ำหลิงอวิ้นหัวในระบบซิงเฉิน
สำหรับมู่จื่อหลิงจะปิดบังสายตาเล่อเทียนอย่างไร ลอบนำอวัยวะเข้าไปในระบบซิงเฉิน ยังต้องดูความจริงจังที่เล่อเทียนมีต่อการผ่าตัดนี้และท่าทีที่มีต่อน้ำยาหลิงอวิ้นแล้ว
เล่อเทียนรับขวดหยกใบเล็กมาจากมู่จื่อหลิงอย่างไม่อยากเชื่อ ส่องขึ้นลง มองโดยรอบอย่างละเอียด แล้วจึงยื่นมือไปเปิดขวดหยกเล็กออก
ฉับพลัน กลิ่นหอมที่มีควันสีขาวจางๆ ที่ทำให้คนเบิกบานก็ลอยปะทะจมูก ฟุ้งไปทั่วจู่โจมคน กลิ่นหอมกรุ่น ทำให้คนอยากหลับตาดื่มด่ำโดยไม่ทันรู้ตัว
เล่อเทียนอดไม่ได้ที่จะหลับตา เขาค่อยๆ ส่ายหัวและดมกลิ่นอย่างระมัดระวัง
กลิ่นหอมสะอาดเบาบางเช่นนี้ ทำให้คนดอมดมจิตใจเบิกบานผ่อนคลาย ราวกับว่าหัวใจ ตับ ม้าม และปอดได้รับการชำระล้างในครั้งเดียว คนสุขสบายผ่อนคลาย ทำให้คนตราตรึงไม่รู้ลืม
“เล่อเทียน? เล่อเทียน?” มู่จื่อหลิงเห็นเล่อเทียนที่หลับตาทั้งสองข้างด้วยใบหน้ามึนเมาเคลิบเคลิ้มอย่างขบขัน เรียกเสียงเบาสองครั้ง
ถึงแม้น้ำยาหลิงอวิ้นจะดีจริง แต่เ้านี่ไม่เหลือภาพลักษณ์แล้ว ไหนจะเป็คุณชายผู้สุภาพอีก
เล่อเทียนจึงได้สติกลับมาจากการดื่มด่ำกลิ่นหอม เขาลูบจมูกอย่างอับอาย กระแอมเบาอย่างขัดเขิน “น้ำยาหลิงอวิ้นนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ เพียงแค่ดม ก็ทำให้คนผ่อนคลาย”
เล่อเทียนอดคาดเดาในใจไม่ได้ อาจารย์ลึกลับของฉีหวางเฟยผู้นี้มีตัวตนจริงๆหรือ? เหตุใดทุกครั้งที่หวางเฟยลงมือล้วนแต่ทำให้คนตื่นตะลึง แค่เพียงสิ่งของในขวดนี้ก็ทำให้เขาชื่นชอบจนไม่อยากวางมือ
ถ้ามีอาจารย์เช่นนี้จริง ก็ทำให้เขาอิจฉาริษยายิ่งนัก!
มู่จื่อหลิงรู้ว่ายามนี้เล่อเทียนเชื่อคำพูดนางทั้งหมดแล้ว นางเลิกคิ้วให้เล่อเทียน ยื่นมือขาวนวลออกไปกระดิก ให้เล่อเทียนคืนขวดหยกเล็กนั่นให้นาง
“หวางเฟย น้ำยาหลิงอวิ้นน่ามหัศจรรย์นัก มีขวดนี้เพียงขวดเดียวหรือ?” เล่อเทียนถามอย่างไม่มั่นใจ กำขวดเล็กแน่นด้วยความชื่นชอบจนมิอาจตัดใจวางได้ ท่าทางอยากให้แต่ก็ไม่อยากให้
เล่อเทียนรู้ว่าบนตัวมู่จื่อหลิงจะต้องไม่ได้มีเพียงขวดเล็กนี่แน่ อวัยวะภายในต้องเพาะเลี้ยงทั้งหมด ขวดเล็กๆ แค่นี้จะไปพอได้อย่างไร
ใจเล่อเทียนคิดว่า น้ำยาหลิงอวิ้นนี้ต้องไม่ใช่สิ่งของธรรมดาแน่ และเขากล้ารับรองว่าสรรพคุณของน้ำยาหลิงอวิ้นคงมิใช่เพียงแค่สามารถหล่อเลี้ยงอวัยวะได้เท่านั้น ต้องมีประโยชน์ด้านอื่นอีกมากแน่
หากสามารถนำน้ำยาหลิงอวิ้นขวดหนึ่งกลับไปค้นคว้าได้ ยังจะไม่ยอดเยี่ยมอีกหรือ
ถ้ามู่จื่อหลิงรู้สิ่งที่เล่อเทียนคิดอยู่ในขณะนี้ ไม่รู้ว่าจะถอนหายใจเงียบๆ ที่เขาตาแหลมคมนักหรือเปล่า น้ำยาหลิงอวิ้นมิได้มีประโยชน์เพียงแค่หล่อเลี้ยงอวัยวะจริงๆ ยังมีประโยชน์ด้านอื่นอีกมากมาย
มู่จื่อหลิงไหนเลยจะไม่รู้ความหมายของดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความคาดหวังของเล่อเทียน
ดวงตามู่จื่อหลิงโค้ง ในดวงตาทอประกายรอยยิ้มอ่อนหวาน เหยียดยิ้ม “เ้าอยากได้หรือ?”
เล่อเทียนรีบผงกศีรษะ ไม่ปฏิเสธ
“ขวดนี้ก็มิใช่ว่าจะมอบให้เ้ามิได้” มู่จื่อหลิงทำท่าที้าเจรจา ลูบคาง พูดอย่างเอื่อยเฉื่อย “แต่ว่า...”
ดวงตาของเล่อเทียนสว่างวาบโดยพลัน เพียงคิดว่ามีความหวังแล้ว “แต่ว่าสิ่งใด?”
“อีกประเดี๋ยวเ้าผ่าตัดนำอวัยวะภายในออกมา ไม่มีปัญหาใดกระมัง?” มู่จื่อหลิงอมยิ้ม ผายมือไปทางเตียงของหลี่เอิน
“ไม่มีปัญหา!” เล่อเทียนเอ่ยปากอย่างไม่ลังเล ตอบรับอย่างตรงไปตรงมา
เขามาก็เพื่อช่วยเหลือมู่จื่อหลิง ผ่าตัดนำอวัยวะภายในออกมา สำหรับเขาแล้วก็แค่เื่กล้วยๆ เท่านั้น
ในใจมู่จื่อหลิงขบขันนัก ทว่าบนใบหน้ากลับถอนหายใจแ่เบา “ยามข้าหล่อเลี้ยงอวัยวะภายในไม่ชอบให้คนอื่นมอง และเกลียดที่ต้องโดนผู้อื่นรบกวน เ้าว่าทำเช่นใดดี?”
“หวางเฟยวางใจ ข้าน้อยจะไม่มองไม่ส่งเสียงเด็ดขาด ยามที่ข้าน้อยรักษาก็มิชอบให้ผู้อื่นรบกวนเช่นกัน” เล่อเทียนทำท่าสาบานรับรอง รับปากเป็มั่นเป็เหมาะ
มู่จื่อหลิงทำเสียงจุ๊ปากในใจ อดไม่ได้ที่จะค้อนควัก
เล่อเทียนเอ๋ย เล่อเทียน ภาพลักษณ์อ่อนโยนสง่างามเล่า? ปณิธานอันเด็ดเดี่ยวแน่วแน่เล่า?
“เช่นนั้นก็พอแล้ว ข้าจะตัดใจมอบน้ำยาหลิงอวิ้นขวดนี้ให้เ้า” มู่จื่อหลิงโบกมือ แสดงออกอย่างใจกว้างนัก
ตัดใจ? เชอะ! ในระบบซิงเฉินยังมีอีกเป็บ่อแน่ะ ทั้งยังใช้เท่าใดก็ไม่มีวันหมด
เล่อเทียนยินดีเสมือนได้รับพระกรุณาธิคุณ รีบเก็บน้ำยาหลิงอวิ้นขวดนั้นเข้าไปในอกราวกับของล้ำค่าก็มิปาน
มุมปากมู่จื่อหลิงกระตุก ในใจปรากฏความรู้สึกผิดอย่างเข้มข้น
ปั่นหัวเล่อเทียนเช่นนี้ดูเหมือนจะมิค่อยดีเสียเท่าใด! จะอย่างไรผู้อื่นเขาก็มาช่วยด้วยความปรารถนาดี
แต่เมื่อคิดถึงก่อนหน้าที่นางถูกเล่อเทียนปั่นหัว จนหลงเซี่ยวอวี่เอ่ยเตือนอย่างดุดันนั้น ในใจมู่จื่อหลิงก็พลันสมดุลขึ้นมา
เื่ที่จะไม่ให้เล่อเทียนแอบดูตอนนางนำอวัยวะภายในเข้าไปในระบบซิงเฉินแก้ไขได้แล้ว เื่หลังจากนี้ก็ไม่มีอะไรให้ต้องปิดบังอีก
ตอนนี้ก็เริ่มลงมือทำธุระจริงๆ ได้แล้ว
“ชุดนี้คือมีดผ่าตัด ผ่านการฆ่าเชื้อมาแล้ว มิต้องนำไปลนไฟอีก” มู่จื่อหลิงหยิบชุดมีดผ่าตัดที่ประณีตคมกริบขึ้นมาจากล่วมยา กางออกวางไว้บนโต๊ะไม้จันทน์
เล่อเทียนจ้องมีดผ่าตัดแวววาวชุดนั้นบนโต๊ะไม้จันทน์ตาไม่กะพริบพลันตกตะลึงขึ้นมา
เป็มีดผ่าตัดที่ประณีตนัก มีครบถ้วน และดูเหมือนจะคมกริบจนมิอาจเทียบ
เล่อเทียนหยิบมีดผ่าตัดสีเงินสะท้อนแสงขึ้นมาตามจิตใต้สำนึก แบมือออกใช้มีดัักับนิ้วมือชุ่มชื้นแ่เบา
“ซี้ด เป็มีดที่คมนัก!” เล่อเทียนอุทานด้วยความเจ็บ รีบเอานิ้วที่มีเืซึมเข้าไปในปาก
เล่อเทียนดูดนิ้วอย่างซื่อบื้อ จากนั้นก็หันไปจ้องล่วมยาของมู่จื่อหลิงตาเป็มัน ในนั้นต้องมีสิ่งของล้ำค่ามากมายแน่
มู่จื่อหลิงกำลังก้มหน้าก้มตานำอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการผ่าตัดออกมาจากล่วมยา เมื่อได้ยินเสียงอุทานอย่างเ็ปของเล่อเทียน จึงหันไปตามเสียง ก็เห็นท่าทางซื่อบื้อของเล่อเทียน พลันไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “รอผ่าตัดเสร็จ ให้เ้าหนึ่งชุด”
“จริงหรือ?” ดวงตาของเล่อเทียนสว่างวาบ ถามอย่างกระตือรือร้น
จริงดังคาด ในบรรดาผู้ที่เขารู้จัก ผู้ใดก็สู้ฉีหวางเฟยไม่ได้
สามารถมีมีดผ่าตัดอันประณีตที่คมกริบไม่มีที่เปรียบเช่นนี้ได้ เป็ความใฝ่ฝันของผู้ศึกษาวิชาแพทย์ทุกคนอย่างมิต้องสงสัย
เล่อเทียนคิดไม่ถึงว่ามาสวนจิ้งซินรอบหนึ่ง จะได้รับมากมายเช่นนี้
มู่จื่อหลิงค้อนปะหลับปะเหลือกใส่เล่อเทียนอย่างหมดอารมณ์ “ล้ำค่าเสียยิ่งกว่าไข่มุก”
หมอนี่ไหนเลยจะยังมีท่าทางสันโดษ สง่างามเหมือนคราแรกที่นางพบอยู่อีก ภาพลักษณ์สมบูรณ์แบบที่เคยฝังไว้ในใจนางนั้นถูกทำลายไปจนหมดสิ้นแล้ว
ภาพลักษณ์ของเล่อเทียนในยามนี้ช่างทำลายสามทัศนะ [1] ยิ่งนัก ทำให้ผู้อื่นแข็งใจมองตรงๆ ไม่ได้เลย
มู่จื่อหลิงนำชุดสำหรับผ่าตัดที่สะอาดออกมาสองชุด โยนให้เล่อเทียนหนึ่งชุด
เล่อเทียบรับไปอย่างสงสัยใคร่รู้ ตั้งท่าจะถามต่อ
แต่กลับเห็นมู่จื่อหลิงสวมใส่ชุดนั้นเรียบร้อยแล้ว มัดชุดกระโปรงที่พลิ้วบานแต่เดิมของนางไว้อย่างแ่า แผ่ความสุขุมเยือกเย็นออกมาจากภายใน
เล่อเทียนไม่ได้ถามอีก ดูเหมือนจะรู้หน้าที่ชุดนี้แล้ว จึงเรียนรู้จากต้นแบบสวมลงไปตาม
การผ่าตัดของฉีหวางเฟย อุปกรณ์ครบครันนัก!
มู่จื่อหลิงสวมถุงมือการแพทย์ เมื่อเตรียมทุกอย่างเรียบร้อย ก็เคร่งขรึมพูดอย่างจริงจังว่า “ลงมือเถิด”
เล่อเทียนพยักหน้าอย่างจริงจัง สีหน้าปรากฏความเคร่งขรึม เรียนรู้วิธีสวมถุงมือ หยิบมีดผ่าตัดจากมู่จื่อหลิง ไม่เหมือนท่าทางตามอำเภอใจเมื่อก่อนอีก
ในการผ่าตัดนั้น สีหน้าท่าทีของทั้งสองคนดูเหมือนกันไม่มีผิด เคร่งขรึม จริงจัง ละเอียดรอบคอบจนน่าประหลาดใจ
มีมีดผ่าตัดคมกริบชุดนี้เล่อเทียนก็เหมือนพยัคฆ์ติดปีก
ลดเวลาลนไฟฆ่าเชื้อลงไปได้ ความเร็วในการลงมือของเล่อเทียนก็ยิ่งไวขึ้น และการเคลื่อนไหวก็ยังเชี่ยวชาญและละเอียดรอบคอบนัก
มู่จื่อหลิงยืนถือภาชนะที่้านำมาใส่อวัยวะอยู่ด้านข้าง รอด้วยความสงบ
รับอวัยวะเข้าไปหล่อเลี้ยงในระบบซิงเฉินข้อนี้ต้องไวและไม่มีข้อผิดพลาด
-------------------------------------------------------
เชิงอรรถ
[1] สามทัศนะ ประกอบไปด้วย ทัศนคติต่อโลก ทัศนคติตุ่์ ทัศนคติต่อคุณค่า
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้