ท่ามกลางความมืดมัวที่จู่ๆ ก็สว่างวาบ ความรู้สึกที่ราวกับจมน้ำที่แสนอึดอัดในที่สุดก็ถูกทิ้งเอาไว้เื้ั หมี่หลันเยว่สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ
เฮ้อ...ยังดีที่ยังรอดชีวิตมาได้ แต่ไม่รู้ว่าใครกันที่ช่วยชีวิตเธอเอาไว้ เธออยากจะลืมตาขึ้นดูสักหน่อย แต่เรี่ยวแรงกลับไม่เอื้ออำนวยเลยสักนิด ช่างมันเถอะ รอให้ฟื้นตัวดีเสียก่อน ยังไงก็ต้องหาตัวผู้มีพระคุณให้เจอ
เธอหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์ของโลกมนุษย์เข้าปอดหลายครั้ง วิเศษจริงๆ นึกว่าจะต้องดิ่งลงสู่ยมโลกไปเสียแล้ว ใครจะคิดว่าตัวเองจะมีบุญหนัก ใน่เวลาวิกฤตเช่นนี้ ยังมีคนใจดีช่วยชีวิตเอาไว้ได้ หมี่หลันเยว่รู้สึกขอบคุณ์ที่เมตตาเธอนัก
เมื่อนึกถึงต้นเหตุที่ทำให้เกิดเื่ทั้งหมด หมี่หลันเยว่ก็แทบจะกัดฟันกรอด คนเราถ้าดวงซวย ต่อให้กินน้ำเย็นๆ ก็ยังสำลักได้เลย เธอเห็นข้อความแชตส่วนตัวใน QQ ของสามีกับคนอื่นเข้าโดยบังเอิญ บทสนทนาที่ไร้ยางอายและโจ่งแจ้งเ่าั้ ทำให้หมี่หลันเยว่โกรธจัดจนแทบจะเสียสติ เธอรีบคว้าเสื้อคลุมมาสวมแล้วตรงไปยังที่ทำงานของสามีทันที
แต่ใครจะรู้ว่ารถโดยสารที่หมี่หลันเยว่รีบร้อนขึ้นไปนั้นกลับพลิกคว่ำตกลงไปในแม่น้ำหลิวหลิงอย่างไม่คาดฝัน แม่น้ำสายเล็กๆ ที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็คูเมืองนี้ กลับกลืนกินรถโดยสารขนาดกลางคันนั้นลงไปทั้งคัน
หมี่หลันเยว่รู้สึกเสียใจเป็ที่สุด
เธอรีบร้อนออกมาแบบนี้ เพราะ้าผลลัพธ์แบบไหนกันนะ?
้าจะอยู่กับเขาต่อไป ให้เขากลับตัวกลับใจ หวนคืนสู่อ้อมอกของเธอ?
หรือ้าจะตัดความสัมพันธ์กับเขาให้ขาดสะบั้น แล้วทั้งสองคนจะไม่ข้องเกี่ยวกันอีกต่อไป?
หมี่หลันเยว่ได้แต่ตำหนิตัวเองในใจ
ในเมื่อใจของตัวเองยังไม่มั่นคง แล้วการที่รีบร้อนออกจากบ้านมาแบบนี้จะได้อะไรขึ้นมา? แค่เพื่อมาตายเปล่าอยู่บนรถโดยสารคันนี้อย่างนั้นหรือ?
เธอยังไม่ได้คิดให้ถี่ถ้วนว่าตัวเอง้าอะไรกันแน่ พออารมณ์ขึ้นก็ทำอะไรไม่คิด นี่มันจังหวะฆ่าตัวตายชัดๆ
ถ้าตัวเองใจเย็นกว่านี้ มีสติกว่านี้ ไตร่ตรองให้ดีว่าตัวเอง้าอะไร ไม่ใช่คิดอะไรไม่ออกก็คว้าเสื้อคลุมออกจากบ้านแบบนี้
หรืออย่างน้อยก็จะได้ไม่ต้องขึ้นรถโดยสารที่มุ่งหน้าสู่ยมโลกคันนี้ การที่เธอรีบร้อนออกมาแบบนี้ เหมือนกับจะเปิดทางให้เมียน้อยชัดๆ เลย นี่มันช่างน่าเศร้าเกินไปแล้ว
ยังดีที่มีคนช่วยชีวิตเธอเอาไว้ ไม่ปล่อยให้เธอตายอย่างไม่รู้เื่รู้ราว
‘แปะ!’
จู่ๆ เธอก็โดนตีที่ก้น แถมยังโดนจับห้อยหัวลงมาจนเืแทบจะไปกองรวมกันอยู่ที่หัวจนหมด
เฮ้ ฉันจมน้ำอยู่นะคะ คุณผู้ใจบุญ ถึงแม้จะทรมานแต่ก็ช่วยกดหน้าอกผายปอดให้หน่อยได้ไหมคะ? ไฉนเลยการตีที่ก้นแล้วจะสำรอกน้ำออกมาได้
หมี่หลันเยว่แทบจะเสียสติ แม้ว่าคนเหล่านี้จะช่วยชีวิตเธอไว้ แต่ในใจตอนนี้ กลับไม่รู้สึกว่าอยากจะขอบคุณเขาเลยสักนิด
"แว้...แว้..."
หมี่หลันเยว่้าจะโวยวาย บอกพวกโง่เง่าเหล่านี้ว่าการช่วยชีวิตคนจมน้ำไม่ได้ช่วยแบบนี้ แต่เสียงะโด้วยความโกรธกลับกลายเป็เสียงร้องไห้ดังลั่น
นี่มันอะไรกัน? ทำไมเธอถึงได้อ่อนแอขนาดนี้ แค่ตกน้ำเอง จะร้องไห้ทำไมกันเล่า?
แต่คิดอีกที เธอก็อยากจะร้องไห้ออกมาจริงๆ เพราะผู้ชายที่แต่งงานด้วยั้แ่อายุยี่สิบสอง ผู้ชายที่บอกว่าจะรักใคร่ดูแลเธออย่างดี ผู้ชายที่ให้อิสระปล่อยให้เธอทำอะไรตามใจมาตลอด ใครจะคิดว่าอยู่กินกันมาตั้งยี่สิบกว่าปี ตอนแก่ตัวกลับมาเจอเื่แบบนี้กัน? หมี่หลันเยว่แค้นจนแทบกระอักเื
ถ้าจะมีคนอื่นก็ควรจะมีไปนานแล้วสิ จะรอให้ตัวเองอายุมากขนาดนี้ทำไมกัน? ตอนนี้ตัวเธอเองหมดความหวังกับชีวิตไปแล้ว อายุสี่สิบกว่าแล้ว เธออยากจะแค่รอวันเกษียณ รอวันตาย ให้ชีวิตนี้จบลงง่ายๆ แค่นี้เอง
แต่ใครจะคิดว่าใน่วัยที่น่าสมเพชเช่นนี้ ผู้ชายที่อยู่กินกันมาตั้งยี่สิบกว่าปีจะหักหลังกันได้ลงคอ เวลาที่อยู่ด้วยกันมาตั้งยี่สิบกว่าปีกลับสู้ความสาวความสวยไม่ได้ สามีมานอกใจเอาตอนอายุขนาดนี้ ตัวเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว
พอนึกถึงนิสัยที่ปล่อยตัวตามสบาย ไม่คิดจะพัฒนาตัวเองของตนแล้ว ไม่ต้องพูดถึงผู้ชายเลย แม้แต่ตัวเธอเอง ให้มองตนทั้งวันยังเบื่อ
นี่คงเป็เคราะห์กรรมที่ลิขิตไว้แล้วกระมัง ช่างเถอะ ในเมื่อได้พบเจอกับความเป็ความตายมาแล้วครั้งหนึ่ง เธอก็ไม่มีอะไรให้คิดมากแล้ว ในเมื่อเขามีความคิดฟุ้งซ่านแบบนั้น ตัวเธอเองก็ไม่มีความจำเป็ต้องเหนี่ยวรั้งเขาเอาไว้
แม้ว่าในอดีตจะมีแต่ความทรงจำดีๆ มากมาย แต่ก็ไม่จำเป็ต้องยึดติดกับอดีต ตัวเธอเองเป็ผู้ใหญ่แล้ว ไม่จำเป็ต้องทำตัวเหมือนเด็กที่เอาแต่ใจอยากได้อะไรก็ต้องได้ ในเมื่อความสัมพันธ์มันขาดสะบั้นไปแล้ว ก็ปล่อยให้มันเป็ไป ว่าวที่ขาดสายแล้วจะดึงกลับมาได้หรือ? ปล่อยเขาไป ก็เหมือนปล่อยตัวเองไปเช่นกัน
"ดูสิ ร้องไห้เสียงดังเชียว เ้าหนูน้อยแข็งแรงดีนี่ พวกเธอสบายใจได้เลย ต้องเป็เด็กเลี้ยงง่าย ไม่เจ็บไม่ป่วยแน่ๆ"
เสียงพูดคุยดังแว่วเข้ามาในหู หมี่หลันเยว่ที่ลืมตาไม่ขึ้น ทำได้แค่ตั้งใจฟัง
"เอาล่ะ เ้าหญิงน้อยไปล้างตัวกันก่อนนะ เดี๋ยวค่อยเปลี่ยนชุดสวยๆ ให้"
หมี่หลันเยว่กำลังคิดว่าลูกสาวบ้านไหนกันถึงได้มีวาสนาดีขนาดนี้ เธอก็ถูกจุ่มลงไปในน้ำอุ่นๆ ความหวาดกลัวจากการจมน้ำเมื่อครู่ก็หวนกลับคืนมา หมี่หลันเยว่ดิ้นรนอย่างรุนแรง
เธอไม่เข้าใจ ทำไมเพิ่งช่วยขึ้นมาจากน้ำก็จับเธอใส่ลงไปในน้ำอีกแล้ว?
แต่ว่ามือใหญ่ๆ ที่ลูบไล้ไปมาบนตัวเธอ ทำให้เธอรู้สึกสบายตัวขึ้นจริงๆ อุณหภูมิของน้ำที่พอเหมาะพอดี ก็ช่วยคลายความตึงเครียดและความหวาดกลัวของเธอ เพียงแต่ว่ามือใหญ่นั้นใหญ่เกินไปหรือเปล่านะ? แค่ฝ่ามือเดียวก็แทบจะปิดหน้าท้องของเธอได้ทั้งผืนแล้ว
"เด็กคนนี้นี่ว่านอนสอนง่ายจริงๆ แค่ดิ้นนิดหน่อยก็เชื่อฟังแล้ว เ้าตัวเล็ก เดี๋ยวเราจะอาบน้ำให้เธอขาวจั๊วะ ทาแป้งหอมๆ แล้วใส่เสื้อผ้าสวยๆ ให้พวกหนุ่มๆ มองเหลียวหลังไปเลยดีไหมจ๊ะ?"
คนที่พูดจาอ่อนโยน แถมมือก็ไว เขาทำความสะอาดเช็ดตัวให้หมี่หลันเยว่จนสะอาดหมดจดในพริบตา
พออุ้มหมี่หลันเยว่ขึ้นมา ก็เอาแป้งอะไรก็ไม่รู้มาทาตัวให้ เธอไม่ต้องเอามือไปััเองก็รู้สึกได้ว่าตัวเธอเองนุ่มลื่น แต่ว่าตอนนี้เธอตกตะลึงไปหมดแล้ว ในเมื่อนอนอยู่บนฝ่ามือแบบนี้ แน่นอนว่าเธอรู้ดีว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในสภาพไหน เพราะเธอก็เคยเป็แม่คนมาแล้ว
"เอาลูกมาให้ฉันดูหน่อย"
เสียงแหบพร่าดังขึ้น แม้จะไม่ดังมาก แต่ก็เหมือนฟ้าผ่ากลางหู เป็เสียงที่คุ้นเคยยิ่ง แม้จะยังเด็ก แต่ก็ยังคงฝังลึกอยู่ในความทรงจำ
"จ้าๆ มาแล้วๆ เธอนี่ใจร้อนจริง กว่าจะใส่เสื้อผ้าให้เด็กเสร็จ ตอนนี้ไม่ใช่ว่าเข้าเดือนห้าแล้วหรือ แต่ว่าอากาศยังไม่ค่อยอุ่นเท่าไหร่หรอกนะ"
หลังจากใส่เสื้อผ้าเสร็จ และห่อตัวหมี่หลันเยว่ด้วยผ้าห่มอย่างดีแล้ว เธอก็ถูกอุ้มไปอยู่ตรงหน้าคนที่พูด
"มา อุ้มลูกไปสิ"
เธอรู้สึกว่าตัวเองถูกเปลี่ยนมือ แล้วเสียงที่คุ้นเคยนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง
"ลูกรัก แม่ดูหน่อยสิ ผิวพรรณนี่ชมพูระเรื่อ ไม่เหมือนเด็กแรกเกิดเลย"
หมี่หลันเยว่อยากจะลืมตาขึ้นดู แต่ก็ไม่สามารถยกเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้นได้ เธออยากจะเอื้อมมือไปััคนที่อยู่ตรงหน้า แต่ก็พบว่ามือเท้าของเธอถูกมัดไว้ในผ้าห่ม ขยับเขยื้อนไม่ได้ ในที่สุดหมี่หลันเยว่ก็สิ้นหวัง ะโออกมาว่า 'แม่'
เพียงแต่ว่าเสียงะโที่ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดของเธอ กลับกลายเป็เสียงร้องไห้ดังลั่น แม้เสียงร้องจะดัง แต่ก็ไม่สามารถแสดงความรู้สึกในตอนนี้ของเธอได้ เธอเอาหัวเล็กๆ ซุกเข้าไปในอ้อมอกของแม่อย่างแรง ดีใจจริงๆ ที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับเธออีกครั้ง
เธอเคยแต่คิดว่าถ้าได้เกิดใหม่อีกครั้งก็ดี จะได้ไม่เหลืออะไรให้เสียใจ แต่ใครจะคิดว่าความฝันจะเป็จริง
หมี่หลันเยว่ร้องไห้ออกมาอย่างสุดเสียง เพียงแต่เสียงร้องไห้ของเธอในตอนนี้ ทำให้พ่อกับแม่วุ่นวายกันยกใหญ่ ปลอบยังไงก็ไม่หยุด นึกว่าเ้าตัวเล็กไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?
เมื่อกี้เพิ่งป้อนน้ำให้กินไป เปลี่ยนเสื้อผ้าและผ้าปูที่นอนให้แล้ว ถึงจะง่วง ก็ไม่น่าจะร้องไห้เสียงดังขนาดนี้นี่นา
"ลูกเป็อะไรกันแน่เนี่ย ร้องไห้ขนาดนี้จะทำยังไงดี?"
เสียงพูดด้วยความเป็ห่วงของแม่ ในที่สุดก็ดังเข้ามาในหูของหมี่หลันเยว่ เธอร้องไห้จนเหนื่อย ร้องจนเหงื่อออก ตอนนี้ได้ยินเสียงของแม่ชัดเจนแล้ว เธอก็แน่ใจแล้วว่าตัวเองกลับมาเกิดใหม่ ณ ่เวลาที่ตัวเองเกิด เธอแค่อยากจะลืมอดีต ไม่อยากจะคิดถึงความหลัง แต่ใครจะรู้ว่า์จะช่วยให้เธอตัดขาดอดีตชาติขนาดนี้
เธอไม่รู้ว่าควรจะร้องไห้หรือจะหัวเราะดี ชีวิตมักจะทำให้เราจนปัญญาเสมอ ตอนที่เราอยากจะมีชีวิตที่ดี พยายามดิ้นรนต่อสู้ ก็ไม่มีอะไรสำเร็จเลย แต่พอเรายอมแพ้ มันกลับให้โอกาสเราเริ่มต้นใหม่ ครั้งนี้จะใช้ชีวิตอย่างไร คำถามนี้ก็กลายเป็โจทย์ใหม่ของหมี่หลันเยว่ไปแล้ว
สมองเล็กๆ ของเธอเริ่มทำงานหนัก เธอหวนคิดถึงอดีต แต่ว่าอดีตก็ไม่มีอยู่อีกแล้ว เธอจึงไปวาดฝันถึงอนาคต อนาคตที่เอื้อมมือไปถึง หมี่หลันเยว่หัวเราะ โลกใบนี้มีแต่สิ่งที่หวนคืนไม่ได้ ไม่มีอะไรที่ผ่านไปไม่ได้ ตอนนี้ตัวเองแม้แต่สิ่งที่หวนคืนไม่ได้ก็ยังหวนคืนมาได้ แล้วจะมีอะไรที่ผ่านไปไม่ได้อีก ในเมื่อข้างหน้าไม่มีอะไรมาขวางกั้นแล้ว
ดูเหมือนว่าตัวเธอเองจะจบสิ้นชีวิตแล้วจริงๆ บนรถโดยสารที่มุ่งหน้าสู่ยมโลกคันนั้น แต่การได้เกิดใหม่อีกครั้ง ก็ถือว่า์เมตตาแล้ว อดีตเ่าั้ ในที่สุดก็ผ่านพ้นไป สิ่งเดียวที่หมี่หลันเยว่ตัดใจไม่ได้ คือลูกสาวสุดที่รักของเธอ ก่อนที่เธอจะจากไป ลูกสาวเพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัย และเพิ่งจะเริ่มต้นชีวิตการทำงานเอง
"ดูลูกสิ ไม่รู้ว่าเมื่อกี้ร้องไห้ทำไม ร้องจนเหงื่อออกเลย นิสัยใจร้อนจริงๆ"
แม่หยิบผ้าขนหนูนุ่มๆ มาเช็ดเหงื่อที่หน้าผากให้หมี่หลันเยว่อย่างเบามือ หมี่หลันเยว่นอนนิ่งๆ อย่างสงบ ััถึงการดูแลของแม่ที่ยังสาว ได้รับรู้ถึงความรู้สึกของแม่ในตอนนี้ ในใจรู้สึกเหนื่อยล้าอย่างสุดจะพรรณนา สุดท้ายเธอก็ค่อยๆ หลับไป
ในความฝัน หมี่หลันเยว่กลับไปที่บ้านตัวเองในชาติที่แล้ว เห็นผู้ชายคนนั้นนั่งเหม่ออยู่หน้าคอมพิวเตอร์
อะไรกัน นี่ตัวเธอเองเพิ่งจากไป เขาก็แทบรอไม่ไหวแล้วหรือ? หมี่หลันเยว่ได้แต่เย้ยหยันในใจ การตายของตัวเธอ ทำให้เขามีอิสระ แม้ว่าจะไม่ได้อาลัยอาวรณ์อะไร แต่ในใจของหมี่หลันเยว่ก็ยังคงรู้สึกไม่ยุติธรรมอยู่ดี
เธอเดินไปข้างหลังผู้ชายคนนั้น อยากจะดูว่าผู้หญิงคนนั้นเป็ใครกัน ถึงได้ฆ่าเธอตายทั้งเป็ แต่พอเธอเห็นสิ่งที่อยู่บนหน้าจอแล้ว ก็เหลือแต่ความรู้สึกอยากจะร้องไห้ เธออยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ แต่ตอนนี้เธอเป็เพียงิญญาที่โดดเดี่ยว ต่อให้เ็ปแค่ไหนก็ไม่มีน้ำตาสักหยดให้ไหล
'จดหมายรักฉบับสุดท้าย : หลันเยว่ นี่คือจดหมายรักฉบับสุดท้ายที่ผมเขียนถึงคุณ และเป็คำสารภาพผิดที่ผมเขียนถึงตัวเอง พวกเพื่อนๆ หากิจกรรมมาทำ เพราะอยากจะทดสอบความอดทนของภรรยาตัวเองดู ว่าถ้าเจอกับเื่ชู้สาวของสามี พวกเธอจะมีปฏิกิริยาอย่างไร นี่ก็ถือว่าเป็ความสนุกแบบแปลกๆ ของพวกผู้ชายแก่ๆ ที่อายุใกล้ห้าสิบอย่างพวกเรา'
'พวกเราคุยกันหวานแหววใน QQ แล้วก็จงใจเปิดค้างไว้ให้ภรรยาตัวเองเห็น ยังไงพวกเราที่คุยกันก็เป็ผู้ชายด้วยกัน ไม่มีใครคิดว่ามันจะบานปลายขนาดนี้ เพราะสุดท้ายก็จะมีเพื่อนออกมาอธิบายเื่ตลกนี้ให้ แต่ไม่คิดเลยว่าผมจะต้องสูญเสียคุณไปเพราะเื่นี้เอง'
หมี่หลันเยว่ยื่นหน้าเข้าไปดู เห็นไหล่ของผู้ชายสั่นเล็กน้อย ภายใต้แสงสีฟ้าอ่อนๆ ที่ส่องออกมาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ เธอมองเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา นี่เป็ครั้งแรกที่ผู้ชายคนนี้ร้องไห้ให้เธอเห็น ชายคนที่ร้องไห้ให้เธอเห็นแค่สองครั้งเท่านั้น…