หลังจากที่หลินเยว่ผ่ามีดที่ 6 แล้วท่านฉางไท่ก็ได้สังเกตสีหน้าของหลินเยว่อยู่ตลอดท่านพบว่าอีกฝ่ายยังไม่มีสัญญาณการผ่อนคลายใดๆ เลย ในใจของท่านจึงเริ่มคาดหวังมากยิ่งขึ้น
เขาสามารถยืนหยัดได้จนถึงมีดที่ 6 จริงๆ
ส่วนเื่สภาวะจิตสงบนิ่งไม่ว่อกแว่กนั้นท่านฉางไท่รับรู้บางส่วนจากหลินเยว่เท่านั้น แต่ไม่ได้เข้าใจทั้งหมดอย่างแท้จริงแต่ทว่าความหมายลึกซึ้งของมันได้เกินความสามารถในการทำความเข้าใจของท่านแล้วแต่จากประสบการณ์การแกะสลักมาหลายปีทำให้ท่านรู้ว่าสภาวะเช่นนี้จะต้องเป็พลังอันยิ่งใหญ่ที่จะทำให้การแกะสลักสามารถพัฒนาได้อย่างก้าวไกลและการมีสมาธิจดจ่อเช่นนี้ย่อมเป็สิ่งที่ช่างแกะสลักใฝ่ฝันยิ่งนัก
สำหรับท่านฉางไท่แล้ว หลินเยว่ก็เหมือนกับลูกศิษย์ที่์ประทานมาให้กับตนเอง
และสำหรับสำนักวิชาของท่านแล้วหลินเยว่ก็เหมือนกับผู้สืบทอดที่์ส่งมา
อนาคตของเขาย่อมควรค่าแก่การคาดหวัง
คนที่ยืนอยู่นอกห้องเรียนก็ค่อยๆถูกฝีมือการลงมีดอันยอดเยี่ยมล้ำลึกของหลินเยว่ดึงดูดจนหมดสิ้นทุกการกระทำของหลินเยว่สามารถสะกดสายตาของพวกเขาได้ตลอดเวลาถึงแม้ว่าการยกมีดมันจะเรียบง่ายธรรมดามาก แต่ทว่ามันกลับสามารถดึงดูดความสนใจได้อย่างไม่น่าเชื่อ
หลินเยว่เดินไปยังธูปดอกที่ 7 สีหน้าของเขายังคงไร้ความรู้สึกกล้ามเนื้อบนใบหน้าดูผ่อนคลาย แต่สีหน้าของเขากลับดูนิ่งผิดปกติ นิ่งจนเหมือนแข็งทื่อเลยทีเดียว
ท่ามกลางสายตาอันแรงกล้าและการร้องะโอย่างบ้าคลั่งอยู่ในใจของทุกๆ คน หลินเยว่หยุดเท้าลงและปรับตำแหน่งให้ถูกต้องแม่นยำอย่างรวดเร็วราวกับหุ่นยนต์ที่แสนว่องไวปราดเปรียวตัวหนึ่ง
ธูปดอกที่ 7 ผ่าออกมา
ไม่มีความลังเลใดๆ
ทุกคนในที่แห่งนี้ต่างได้ัักับแสงที่เป็ประกายชั่วครู่อย่างเงียบๆดวงตาจ้องเขม็งไปยังจุดสีแดงของธูปดอกที่ 7 พวกเขารู้สึกบีบหัวใจเป็อย่างมาก
ดับหรือว่าไม่ดับ?
ไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ ยังคงเหมือนดอกที่ 6เช่นเคย ธูปดอกที่ 7 ดับหายไปกลางอากาศอย่างรวดเร็ว
ผ่าถูกอีกครั้ง!
เย่~~
ทุกคนต่างร้องเฮเสียงดังอยู่ในใจอย่างอดไม่ได้หากไม่ได้กลัวว่าจะเป็การรบกวนหลินเยว่ ณ เวลานี้พวกเขาคงะโกรีดร้องออกมาตั้งนานแล้ว
ตอนนี้มีคนจำนวนไม่น้อยที่ตื่นเต้นจนตัวสั่นระริก
7 มีดแล้ว ทำได้ 7 มีดแล้วจริงๆ!
ตอนนี้ไม่มีใครรู้สึกกังขาว่าหลินเยว่จะสามารถผ่าได้9 มีดหรือไม่เพราะผลงานที่ทำออกมาจนถึงตอนนี้สามารถใช้คำว่าสมบูรณ์แบบได้อย่างแท้จริง
สุขุมเยือกเย็น ถูกต้องแม่นยำ รวดเร็วว่องไวใจจดใจจ่อ......
สามารถพูดได้ว่าเขามีบุคลิกลักษณะของมือสังหารพร้อมสมบูรณ์
แต่ทว่าเขาไม่ใช่มือสังหาร แต่เขากำลังผ่าธูป
บนโลกใบนี้จะมีใครที่สามารถฝึกวิชาการผ่าธูปได้อย่างยอดเยี่ยมภายในระยะเวลาสั้นๆ1 เดือนหรือเปล่า?
มี!
ณเวลานี้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างเชื่อกันหมดแล้ว เป็ความเชื่อมั่นที่ไม่มีความเคลือบแคลงใดๆเลย
เขาเป็คนธรรมดาคนหนึ่งจริงๆ หรือ? หรือว่าเขาเป็มนุษย์ดาวอังคารที่มาจากนอกโลก?
เขาทำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร?
หรือว่าเหมือนกับสิ่งที่เขาพูดมีเพียงคำเดียวเท่านั้น......ทำ!
คำว่า “ทำ” ทำให้เขาทำได้สำเร็จจริงๆ หรือ?
เพียงแค่ “ทำ” มันจะทำให้ทำได้สำเร็จจริงๆ หรือ?
ความสงสัยมากมายพลันถูกถามขึ้นในสมองของพวกเขาพวกเขาไม่มีคำตอบในใจแต่ทว่าคนเบื้องหน้านี้กลับใช้การกระทำเป็ตัวบอกคำตอบให้กับพวกเขา
คำตอบมีเพียงคำเดียว
ทำ!!!
“ขอแค่ทำก็ประสบความสำเร็จ”นี่คือคำพูดเดิมของเขา ในที่สุด ณเวลานี้ทุกคนต่างััได้กับความหมายของประโยคนี้อย่างลึกซึ้ง
เมื่อผ่าครั้งที่ 7 แล้ว สีหน้านิ่งแข็งเริ่มเกิดการผ่อนคลายไม่ได้ดูเรียบเฉยเหมือนตอนแรกอีกต่อไป แต่เริ่มดูมีชีวิตขึ้นเล็กน้อย มุมปากของเขามีรอยยิ้มค้างอยู่เล็กน้อยเป็รอยยิ้มที่เกิดจากความพึงพอใจและมีความสุข
หลินเยว่ไม่มีความลังเลใดๆเพราะความลังเลจะทำให้สภาวะในตอนนี้ยากที่จะรักษาเอาไว้ได้เขาจึงเดินไปยังธูปดอกที่ 8 ทันที
“มีดที่ 8! มีดที่ 8! มีดที่ 8!......”
พวกเขาต่างร้องะโในใจขึ้นอีกครั้งถึงแม้ว่าจะไม่มีการส่งเสียง แต่ทว่าพวกเขาก็รู้สึกถึงความแหบแห้งของเสียงในลำคอหากพวกเขาร้องะโต่อไป อาจจะเกิดการอักเสบขึ้นมาก็ได้แต่ทว่าก็ยังไม่มีใครหยุดการกระทำนี้พวกเขาใส่ความกระตือรือร้นอย่างเต็มที่เพื่อเป็การตอบแทนคนที่สามารถทำให้ความฝันของพวกเขาขยายขอบเขตมากยิ่งขึ้นและทำให้มันกลายเป็ความจริง
หลินเยว่ในเวลานี้ก็สามารถรับรู้ถึงพลังอันไร้เสียงจากคนรอบๆตัว ในใจของเขาก็เกิดความตื่นเต้นเป็ระลอกๆ
แต่ทว่าเขาก็สามารถปรับระดับลมหายใจของตัวเองให้กลับมาเหมือนก่อนหน้านี้อย่างรวดเร็วเขากดความตื่นเต้นนั้นลงไป เพื่อให้สมองของตนมีแต่ความสงบเยือกเย็นต่อไป
เขาเดินมายังเบื้องหน้าของธูปดอกที่ 8 หลินเยว่ยังคงไม่มีความลังเล เขายกมีดขึ้นและผ่าลงมา
ประกายมีดสะท้อนผ่านไป จุดแดงๆพลันเป็ประกายอยู่ชั่วครู่
ครั้งนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกบีบหัวใจขึ้นมา หรือว่าจะผ่าไม่ถูก?
ความมหัศจรรย์จะสิ้นสุดลงตรงนี้แล้วหรือ?
ขณะที่ทุกคนกำลังมองธูปดอกนั้นอย่างตื่นเต้นประกายธูปก็สะท้อนแสงสุดท้ายของมันออกมา แล้วก็ดับไปตลอดกาล
มีดที่ 8 ผ่าถูกอีกครั้ง!
ยังขาดอีก 1 มีด ขาดอีก 1 มีดก็จะเป็ไปตามที่คำพูดก่อนหน้านี้ ... ลงมีด 10 ครั้งผ่าถูก 9 ครั้ง
เขาจะทำได้สำเร็จหรือไม่? เขาจะสามารถผ่าได้อีก 1มีดหรือไม่?
ณ เวลานี้ จิตใจของทุกคนกลับรู้สึกสงบนิ่งลงมาเป็ความสงบนิ่งในจิตใจลึกๆ แต่ทว่าพวกเขาต่างรู้ดีว่าในใจของตนเองกำลังคิดอะไรอยู่เพราะการสงบนิ่งในตอนนี้เกิดขึ้นเพื่อที่จะได้ะเิอารมณ์ได้อย่างบ้าคลั่งมากยิ่งขึ้น
ขณะที่ทุกคนต่างคิดว่าหลินเยว่จะค่อยๆเดินไปยังธูปดอกที่ 9 เหมือนกับก่อนหน้านี้นั้นเขากลับพุ่งตัวเข้าไปยังเบื้องหน้าของธูปดอกที่ 9 อย่างรวดเร็ว และขณะที่ยังไม่มีใครปรับตัวได้ทันเขาก็ได้ผ่ามีดลงมาทันที
เมื่อผ่าธูปดอกที่ 9 แล้ว เขาก็ไม่ได้หยุดชะงัก เขาเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วราวกับิญญาและมาถึงเบื้องหน้าของธูปดอกที่10 และก็ผ่ามีดลงมาอีกครั้ง
ระหว่างการลงมีดทั้งสองครั้งนี้แทบจะไม่มีการเว้นระยะสองมีดสุดท้ายเป็การเคลื่อนตัวอย่างเป็ธรรมชาติราวกับก้อนเมฆล่องลอยหรือสายน้ำไหลรินทีเดียว
เมื่อลงมีดสองครั้งสุดท้ายเรียบร้อยแล้วร่างกายของหลินเยว่จึงเกิดอาการกระตุกอย่างรุนแรงและสภาวะสงบนิ่งที่หลงเหลือเพียงเล็กน้อยส่วนนั้นพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอย ผ้าสีดำเบื้องหน้าก็ปิดแสงสุดท้ายนั้นได้อย่างมิดชิดรอบๆ ตัวของเขาเหลือเพียงความมืดสนิท
หลินเยว่ยกมือขึ้นดึงผ้าสีดำลงมา เขายืนพิงแท่นสำหรับการบรรยายด้านหน้าอย่างช้าๆเพื่อเป็การพักผ่อน ณ เวลานี้ มุมปากของเขามีรอยยิ้มน้อยๆ ปรากฏอยู่ ในที่สุดเขาก็สามารถรักษาสภาวะสงบนิ่งได้ถึงมีดที่6 อย่างต่อเนื่องแล้วขั้นตอนถัดไปเขาก็สามารถเรียนเทคนิคการแกะสลักได้อย่างแท้จริงความใฝ่ฝันที่เขามีมานานก็สามารถเป็จริงได้แค่เพียงเอื้อมมือ ณ เวลานี้ในใจของเขาเริ่มการความคาดหวังและความเคร่งเครียด
เขามองออกว่าขั้นตอนแรก “แกะรูป” ในหนังสือ“คัมภีร์การแกะสลัก” เล่มนั้นมีความลำบากซับซ้อนขนาดไหน ความยากไม่มีทางด้อยกว่าการผ่าธูปอย่างแน่นอนอีกทั้งไม่มีทางฝึกสำเร็จในระยะเวลาสั้นๆ และจำเป็ต้องฝึกฝนทุกวัน ดังนั้นเขาจึงต้องเตรียมใจให้พร้อม
หลินเยว่ไม่เคยคิดว่าเขาจะทำเื่ใดเื่หนึ่งไม่สำเร็จโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเื่ที่เขาใฝ่ฝันเอาไว้มานานแล้ว
ทำไปเถอะ ไม่ว่าจะมีความยากลำบากขนาดไหน
หลินเยว่พูดกับตัวเอง
การกระทำสุดท้ายของหลินเยว่ทำให้ทุกคนตั้งสติไม่ทัน
สองมีดสุดท้าย......มันจบดื้อๆ อย่างนี้เลยหรือ?
พวกเขาทุกคนต่างมองการกระทำของหลินเยว่อย่างอึ้งสนิท...เขาดึงผ้าดำปิดตาลงมา แล้วพักตัวลงบนแท่นบรรยายสีหน้ามีรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจ......
และเวลานี้เองมีเสียงก้าวเท้าจากที่ไหนก็ไม่รู้ดังมาจากทางด้านนอกจึงเป็การเรียกสติของทุกคนให้กลับมาจากความตกตะลึง
พวกเขามองจุดสีแดงสองจุดสุดท้ายอย่างไม่รู้ตัวแต่ทว่าพวกเขากลับไม่เห็นอะไรเลย
ขณะที่ทุกคนกำลังมองหาอย่างข้องใจนั้น พลันมีคนคนหนึ่งกรีดร้องออกมาเบาๆและเสียงกรีดร้องนี้ก็ทำให้ทุกคนตื่นขึ้นมาจากความสงสัย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้