เซี่ยจื่ออวี้ไม่รู้สึกโกรธแต่อย่างใด
ตู้เ้าฮุยก็แค่เกิดมารวยทว่าเขาไม่ได้มีตาทิพย์ คนที่มีดวงตาแต่มองไม่เห็นความจริง หาได้มีเพียงตู้เ้าฮุยแค่คนเดียวเท่านั้น
“ก่อนที่จะพูดเื่การร่วมมือกัน ฉันคงต้องแสดงให้เห็นถึงความจริงใจของฉันก่อนสินะคะ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเถ้าแก่ตู้จะมีเื่เดือดร้อน ทำให้ลูกชายข้าราชการระดับสูงของปักกิ่งาเ็สาหัสเช่นนี้ ครอบครัวของเขาย่อมไม่มีทางปล่อยไปง่ายๆ หากเป็เช่นนั้นเถ้าแก่ตู้คงปวดหัวน่าดู ขณะเดียวกันลูกชายข้าราชการคนนี้ก็เหมือนจะสนิทกับน้องสาวของฉัน คุณเลยคิดถึงอารองของฉันขึ้นมาเพราะหวังอยากให้เขาช่วยคลี่คลายสถานการณ์นี้ให้... ขอโทษทีค่ะ ดูท่าฉันจะออกนอกเื่ไปหน่อย มาคุยกันเื่น้องสาวฉันดีกว่า เซี่ยเสี่ยวหลานเป็คนสวย ฉลาดเฉลียว อีกทั้งยังเ้าคิดเ้าแค้น แฟนของเธอมาจากตระกูลผู้มีอำนาจเช่นนั้น คงทำให้เถ้าแก่ตู้ปวดหัวไม่น้อยเลยทีเดียว”
อยากข่มขู่แต่ก็ต้องระแวงภูมิหลังของตระกูลโจว แค่คิดตู้เ้าฮุยก็รู้สึกอัดอั้นเหลือเกิน
ขณะที่ตู้เ้าฮุยกำลังมองเซี่ยจื่ออวี้อย่างพิจารณา เซี่ยจื่ออวี้ก็สังเกตปฏิกิริยาของอีกฝ่ายเช่นกัน คนที่คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดอย่างตู้เ้าฮุย คงไม่ยอมถูกใครเอาเปรียบง่ายๆ แน่นอน
เซี่ยจื่ออวี้คิดว่าตนมีประสบการณ์การรับมือกับคนประเภทนี้มาก่อน ดังนั้นเธอต้องยกยออีกฝ่าย ตามใจอีกฝ่าย และต้องทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าตนมีประโยชน์!
เธอเล่าเื่ของตระกูลโจวให้เขาฟัง
เธอตั้งใจสืบเื่ของตระกูลโจว ยิ่งหร่านซูอวี้กับหวังเจี้ยนหัวพยายามปิดบัง เซี่ยจื่ออวี้ก็ยิ่งอยากรู้ความเป็มาของตระกูลโจว หลังรู้ว่าโจวกั๋วปินมีตำแหน่งสูงกว่าหวังก่วงผิง เซี่ยจื่ออวี้ก็ยังไม่คิดที่จะหยุด เธอสืบเื่งานของพ่อแม่โจวเฉิง โดยเฉพาะครั้งนี้ที่หวังก่วงผิงถูกสั่งย้ายไปสังกัดสำนักงานประวัติศาสตร์พรรคคอมมิวนิสต์ เซี่ยจื่ออวี้รู้สึกว่าความปลอดภัยของตนในตอนนี้ไม่ค่อยมั่นคงนักจึงรู้สึกระแวงตระกูลโจวเป็อย่างมาก ดังนั้นเธอจึงพยายามสืบค้นหาข้อมูลของตระกูลโจวอย่างไม่ลดละ
เซี่ยเสี่ยวหลานช่างโชคดีเหลือเกินที่สามารถจับทายาทหนุ่มผู้มีอนาคตไกลที่สุดของตระกูลโจวไว้ได้ เซี่ยจื่ออวี้ยังไม่เคยเจอโจวเฉิง แต่แค่ดูจากประวัติครอบครัวและอนาคตที่สดใสแล้ว ต่อให้โจวเฉิงหน้าตาเหมือนหมูเหมือนหมา ก็ถือว่าเป็ตัวเลือกคู่ครองที่ดีเสียยิ่งกว่าอะไร
ทว่าสิ่งที่เซี่ยจื่ออวี้รู้ความจริงก็เป็เพียงเื่ผิวเผินเท่านั้น เธอสามารถบอกตำแหน่งงานของโจวกั๋วปินกับโจวเหวินปังได้ สามารถบอกได้ว่าตอนผู้เฒ่าโจวเกษียณราชการ เขาอยู่ในตำแหน่งไหน แต่เื่ที่ตระกูลโจวสนิทหรือเป็ศัตรูกับใคร เธอไม่รู้เลยแม้แต่น้อย
แต่ข้อมูลที่เธอนำมาให้ก็ทำให้ตู้เ้าฮุยรู้รายละเอียดเกี่ยวกับตระกูลโจวมากขึ้น
สิ่งนี้ทำให้ตู้เ้าฮุยรู้สึกหงุดหงิดจนแทบคลั่ง มีคนมาช่วยยืนยันประวัติคู่ครองของเซี่ยเสี่ยวหลานแล้ว หากทังหงเอิน ตระกูลคังและตระกูลโจวร่วมมือกัน ัพลัดถิ่นอย่างเขาคงไม่ต่างอะไรกับหนอนตัวจ้อย
“คุณอิจฉาเซี่ยเสี่ยวหลานรึ?”
ตู้เ้าฮุยไม่มีทางแสดงออกให้เซี่ยจื่ออวี้เห็นว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เซี่ยจื่ออวี้เสนอน้ำใจให้กับตู้เ้าฮุย แต่กลับถูกอีกฝ่ายสวนกลับเช่นนี้ เธอจึงรู้สึกโมโหแทบอกแตกตาย
“เถ้าแก่ตู้!”
“การอิจฉาใครสักคนมันเป็เื่ปกติ อย่างไรก็ตามความอิจฉาคือบ่อกำเนิดของแรงฮึดสู้”
ตู้เ้าฮุยลองคิดในมุมของเซี่ยจื่ออวี้ เซี่ยจื้ออวี้มีน้องสาวที่ดีกว่าตัวเองทุกอย่าง ั้แ่หน้าตาที่์ประทานมาให้จนถึงมันสมองที่ชาญฉลาด ไหนจะเื่คู่ครองอีก เซี่ยจื่ออวี้สู้เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้สักอย่าง จะรู้สึกโกรธก็ไม่แปลกแต่อย่างใด
ครอบครัวหนึ่งไม่อาจมีคนทะเยอทะยานอยู่ร่วมกันสองคนได้ เพราะทั้งคู่จะ่ชิงความสนใจ ่ชิงความก้าวหน้า หากตู้เ้าฮุยมีลูกพี่ลูกน้องชายที่เก่งกว่าเขาทุกอย่างเช่นนี้ มีโอกาสกำจัดอีกฝ่ายเมื่อไร เขาก็คงไม่ออมมือเช่นกัน!
ยิ่งตระกูลเซี่ยยากจนก็ยิ่งต้องแก่งแย่งชิงดีกัน แย่งเสื้อผ้า แย่งอาหาร แย่งโอกาสการศึกษาเล่าเรียน
สีหน้าของเซี่ยจื่ออวี้ไม่เปลี่ยนแม้แต่น้อย เธอมีความอดทนสูงมาก หากเป็เซี่ยเสี่ยวหลานที่เจอกับท่าทีเช่นนี้ของตู้เ้าฮุย ป่านนี้คงสะบัดหน้าเดินหนีออกไปแล้ว
“เถ้าแก่ตู้ ฉันแสดงความจริงใจแล้ว เช่นนั้นพวกเราจะคุยเื่การร่วมมือกันได้หรือยังคะ”
ตู้เ้าฮุยหยุดคิดไปสักพัก ก่อนจะบอกให้คนคุ้มกันหิ้วกระเป๋าของตนเข้ามา
“ข้อมูลของคุณมีค่าเป็อย่างมาก ดังนั้นผมจะจ่ายค่าตอบแทนให้ ผมชอบคิดเงินเป็สกุลเงินหยวน แต่ชาวเผิงเฉิงบางคนกลับชอบเงินดอลลาร์ฮ่องกงมากกว่า เพราะมันสามารถใช้ซื้อสินค้าจากฮ่องกงได้โดยตรง”
ให้จ่ายเช็คก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ตู้เ้าฮุยไม่ชอบวิธีแบบนั้น การเขียนจำนวนเงินไม่ถึงหนึ่งแสนหยวนลงบนแผ่นกระดาษ มันดูไม่มีน้ำหนักเลยสักนิด
แต่การให้เงินสดนั้นต่างออกไป โดยเฉพาะเงินหยวนที่มีธนบัตรมูลค่ามากสุดแค่สิบหยวน หากจะให้เงินหนึ่งหมื่นหยวนนั่นก็เท่ากับว่าต้องให้ธนบัตรสิบหยวนจำนวนถึงสิบปึก ดูแล้วช่างน่าตื่นตาตื่นใจกว่ามากจริงๆ
เซี่ยจื่ออวี้นิ่งอึ้งกับการกระทำของตู้เ้าฮุย
ตู้เ้าฮุยขอบคุณที่เธอคาบข่าวมาบอก ก่อนจะเอาเงินหนึ่งหมื่นหยวนมากองไว้ตรงหน้าเธอ
ถ้าเธออยากได้แค่เงินหนึ่งหมื่นหยวนจริง เธอจะเสี่ยงมาหาตู้เ้าฮุยที่โรงพยาบาลไปทำไมกัน สู้ขอเงินจากเซี่ยต้าจวินแล้วกลับปักกิ่งเลยเสียไม่ดีกว่าหรือ!
เซี่ยจื่ออวี้เข้าใจแล้ว ตู้เ้าฮุยไม่คิดจะเก็บ ‘การร่วมมือ’ ที่เธอเสนอให้มาใส่ใจเลยสักนิด
หากเธอเอาแต่ใจตัวเองมากกว่านี้คงหันหลังกลับไปแล้ว แต่หวังก่วงผิงถูกสั่งย้ายไปประจำตำแหน่งอยู่ที่สำนักประวัติศาสตร์พรรคคอมมิวนิสต์ หวังเจี้ยนหัวแม้จะดูมีอนาคต ทว่าภายในระยะเวลาอันสั้นคงยังไม่อาจช่วยอะไรเธอได้ ทั่วปักกิ่งเต็มไปด้วยคนมีอำนาจ แต่เซี่ยจื่ออวี้ไม่มีปัญญาไปผูกสัมพันธ์ด้วย กว่าจะใช้เซี่ยต้าจวินเป็ทางผ่านเพื่อให้ได้พูดคุยกับเถ้าแก่ฮ่องกงคนนี้ก็ไม่ง่ายเลยสักนิด ถ้าเธอทิ้งโอกาสนี้ไป เซี่ยจื่ออวี้ไม่รู้เลยว่าจะมีโอกาสครั้งต่อไปอีกหรือไม่
ในปี 1985 คนที่สามารถบริจาคเงินหลายล้านหยวนให้มหาวิทยาลัยหลายแห่งในปักกิ่งได้อย่างสบายๆ เช่นนี้ เซี่ยจื่ออวี้คงไม่อาจหาเจอได้อีกแล้ว
“เถ้าแก่ตู้ ข้อมูลพวกนี้ฉันขอมอบให้คุณโดยไม่รับค่าตอบแทน ในเมื่อคุณไม่อยากฟังเื่การร่วมมือของเรา ฉันก็คงต้องขอตัวก่อนค่ะ”
เซี่ยจื่ออวี้เอาผ้าพันคอมาปิดใบหน้ครึ่งล่างไว้ ก่อนจะเดินออกจากโรงพยาบาลไป
ตู้เ้าฮุยคลี่ปึกธนบัตรในมือของตัวเอง สองพี่น้องตระกูลเซี่ยช่างน่าสนใจจริงๆ คนที่ภายนอกน่าจะชอบความหรูหรากลับปฏิเสธเงินของเขา ทั้งที่หากสามารถจัดการปัญหาครั้งนี้ได้ เงินที่ตู้เ้าฮุยจะมอบให้ย่อมไม่ใช่แค่หนึ่งหมื่นหยวนเท่านั้น แต่ต้องเติมเลขศูนย์ไว้ด้านหลังอีกสองตัวอย่างแน่นอน
ส่วนคนที่หน้าตาดูซื่อสัตย์ ทั้งที่มาเพื่อเงินชัดๆ แต่กลับปฏิเสธอย่างเสแสร้ง
ไม่ใช่ไม่อยากได้เงิน แต่ดูแคลนที่เขาให้น้อยเกินไป เธอ้าเงินจากเขามากกว่านี้ ก็เหมือนแฟนสาวที่เขาเคยควงด้วย ถ้ายอมรับของขวัญแต่โดยดี ตู้เ้าฮุยก็จะเต็มใจสนองความ้า แต่ถ้าไม่รับของขวัญเอาไว้ในอนาคตคงเกิดเื่ยุ่งยาก แสดงว่าผู้หญิงคนนั้นอยากรักษาภาพลักษณ์เพื่อแต่งงานเข้าตระกูลเศรษฐีน่ะสิ!
—-----------------------------------------------------
“จื่ออวี้ คุยกับคุณชายใหญ่เสร็จแล้วหรือ”
เซี่ยต้าจวินเข็นตัวเองมาหา เซี่ยจื่ออวี้เปลี่ยนจากสีหน้ากรุ่นโกรธมาเป็รอยยิ้มทันที
“อารอง ฉันคุยเสร็จแล้ว ดูเหมือนเถ้าแก่ตู้กำลังยุ่งอยู่ ฉันจึงขอตัวออกมาก่อน อาพักที่ไหนหรือ ฉันจะช่วยเข็นไปส่ง”
พอคิดว่าเซี่ยเสี่ยวหลานอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ด้วย เซี่ยจื่ออวี้ก็รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวเหลือเกิน เธอต้องพยายามตีสนิทตู้เ้าฮุยให้มากขึ้น ทว่าเธอไม่ควรรีบร้อนจนเกินไป เดี๋ยวตู้เ้าฮุยจะดูแคลนเธอเอาได้
เซี่ยจื่ออวี้ต้องหาที่พักให้ตัวเองเช่นกัน
ก่อนหน้านี้เซี่ยต้าจวินเป็คนคุ้มกันให้ตู้เ้าฮุย เขาจึงไม่มีบ้านพักส่วนตัว เพราะไม่ว่าตู้เ้าฮุยจะพักที่ไหน เซี่ยต้าจวินก็จะพักอยู่ห้องข้างๆ เสมอ
ฉลองตรุษจีนคนเดียวคงเหงาเกินไป ในเมื่อเซี่ยจื่ออวี้มาหาเขาถึงเผิงเฉิง เซี่ยต้าจวินย่อมอยากให้เธออยู่ต่ออีกหลายๆ วัน เดิมทีเขาจะให้เซี่ยจื่ออวี้ไปพักกับเสียวอวี่ที่เป็คนบ้านเกิดเดียวกัน แต่พอคิดถึงสิ่งที่คุณชายใหญ่ตู้เคยหยอกเย้า เขาก็รู้สึกว่าคงไม่เหมาะสมสักเท่าไร
“ไปพักที่บ้านพักรับรองเถิด ตอนนี้อามีเงินแล้ว หลานไม่ต้องช่วยอาประหยัดหรอก!”
เซี่ยต้าจวินคิดว่าการทำเช่นนี้จะทำให้ตนดูเป็คนใจกว้าง แต่เซี่ยจื่ออวี้ที่กำลังเข็นรถเข็นกลับขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ
ไม่ได้พักอยู่กับตู้เ้าฮุย เช่นนั้นเธอก็หาข้ออ้างเจอตู้เ้าฮุยยากขึ้นน่ะสิ