กู้อวิ๋นหย่วนจ้องมองหวางเป่าติงที่ค่อยๆ เปียกชื้นเป็เวลานาน จากนั้นสายตาจึงเคลื่อนตัวมองบน ทันทีที่เห็นน้ำตาเป็สายของกูเฟยเยี่ยน ั์ตาของเขาจึงเกิดความเวทนาและความปวดใจโดยไม่รู้ตัว
เขาดูเหมือนจะลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็เดินเข้าไปใกล้พลางยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ “นังหนู เ้าตามหาอาจารย์ของเ้าไม่เจอใช่หรือไม่? เ้าโตจนป่านนี้แล้วทำไมถึงยังร้องไห้ขี้มูกโป่งอีก? มาๆ เช็ดซะ หยุดร้องไห้…”
เดิมทีกูเฟยเยี่ยนก็เสียใจอยู่แล้ว แต่เมื่อนางได้ยินน้ำเสียงกับการปลอบโยนที่แสนคุ้นเคยเข้าไป น้ำตาของนางก็พังทลายลงมาอย่างถึงที่สุด ทั้งๆ ที่หมอนี่ไม่ใช่ท่านอาจารย์อาภรณ์ขาว แต่ทำไมแม้แต่น้ำเสียงปลอบโยนถึงได้เหมือนกันเช่นนี้? เหมือนกันมากเลย!
ทันใดนั้นกูเฟยเยี่ยนก็ยื่นมือไปปิดปากของกู้อวิ๋นหย่วนด้วยความโกรธ “ท่านเงียบซะ! ท่านห้ามพูดนะ! ”
กู้อวิ๋นหย่วนไม่เพียงแค่ปิดปากเงียบแล้ว แต่ยังไม่กล้าขยับเขยื้อนอีกด้วย
กูเฟยเยี่ยนจ้องมองเขาด้วยน้ำตาที่ปกคลุมจนเบลอ เดิมทีนางอยากจะปล่อยมือออกแต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหวแล้ว! ทันใดนั้นนางก็โผกายเข้าสู่อ้อมอกของเขา กอดเขาไว้อย่างเนืองแน่นเหมือนกับ่วัยเด็ก นางซุกศีรษะเข้าไปในอ้อมอกแล้วร้องไห้ฟูมฟาย
“ทำไมท่านถึงไม่ใช่เขา! ทำไม? ”
“เขาเลี้ยงดูข้ามาสิบปี สิบปีเต็มๆ ! เขาพูดได้อย่างไรว่าไม่้าข้าแล้ว เขาไม่้าข้าแล้ว! ”
“ในเมื่อเขาไม่้าข้าแล้ว ทำไมถึงไม่ส่งข้ากลับบ้าน? ข้าไม่รู้ว่าบิดามารดาเป็ใคร ข้าไม่มีบ้าน ข้ามีแค่เขาเท่านั้น! ”
“ข้าไม่ชอบที่นี่เลย ข้าไม่อยากโต ข้าไม่้า! ”
“แม้แต่อาจารย์ข้าก็ไม่มีแล้ว ข้าจะโตไปทำไมกัน!? ”
กู้อวิ๋นหย่วนยกมือขึ้นเพื่อเตรียมผลักนางออก แต่เมื่อได้ยินประโยคสุดท้ายของนาง เขาจึงหยุดชะงักลง
เขาลังเลอยู่นานแต่สุดท้ายก็ไม่ได้ลงมือ เขายืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อนอยู่ครู่หนึ่งแล้วค่อยก้มศีรษะลงไปมองนาง เพียงแต่ทันทีที่เห็นก็หันไปมองทางอื่นทันทีโดยที่ไม่มองอีกต่อไป
ในเวลานี้คิ้วงดงามของเขาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ความอ่อนโยน เรียบร้อย ถ่อมตนและหวาดกลัวในตอนแรกเหมือนจะหายไปหมดแล้ว ความลุ่มลึกและความลึกซึ้งที่ไม่มีอยู่ใน่อายุนี้แทรกเข้ามา ไม่ช้าเขาก็ถอนหายใจเบาๆ
ด้วยเหตุนี้กู้อวิ๋นหย่วนจึงปล่อยให้กูเฟยเยี่ยนโอบกอด ปล่อยให้กูเฟยเยี่ยนร้องไห้ โดยที่เขาไม่เคลื่อนไหวและไม่พูดอะไรออกมา โชคดีที่ห้องนอนของเฉิงอี้เฟยลึกมาก ด้านนอกจึงไม่ได้ยินเสียงภายในห้อง
หลังจากที่ผ่านไปนานในที่สุดกูเฟยเยี่ยนก็หยุดลง
นางอาลัยอาวรณ์อ้อมกอดที่คุ้นเคยนี้เป็ที่สุด เพียงแต่ทันทีที่หยุดร้องไห้นางก็ปล่อยทันที
แม้ว่านางจะไม่เต็มใจเชื่อ แต่หวางเป่าติงจำเขาไม่ได้ ดังนั้นเขาไม่ใช่ท่านอาจารย์อาภรณ์ขาวอย่างแน่นอน
นางก้มหน้าเช็ดน้ำตาพลางกล่าวขอโทษ “แพทย์กู้ ข้าขอโทษที่เสียมารยาท ข้า ข้าจำคนผิดจริงๆ…”
ความลุ่มลึกในดวงตาของกู้อวิ๋นหย่วนหายไปนานแล้ว เขายื่นผ้าเช็ดหน้าไปแล้วถอนหายใจเบาๆ จากนั้นจึงพูดเกลี้ยกล่อม “หนูน้อย มนุษย์นั้นมีโชคชะตาต่อกัน เมื่อโชคชะตาหมดไปก็ไม่อาจดึงดันต่อได้ ในเมื่ออาจารย์ของเ้าไม่้าเ้าแล้ว เ้ายังคิดถึงเขาอีกทำไมกัน? ”
กูเฟยเยี่ยนรีบเงยหน้าขึ้นมาจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเขาอีกครั้ง
กู้อวิ๋นหย่วนที่มีลักษณะท่าทางใรีบก้าวถอยไปด้านหลัง คราบน้ำตาของกูเฟยเยี่ยนยังไม่แห้ง แต่ใบหน้ากลับเต็มไปด้วยความดื้อรั้น นางเอ่ยว่า “ท่านอาจารย์ข้าก็เคยพูดเช่นนี้มาก่อน แต่สำหรับเขาแล้วข้าก็จะดึงดันอยู่ดี! ข้าจะหาเขาให้เจออย่างแน่นอน! ”
กู้อวิ๋นหย่วนเลี่ยงสายตาของนางโดยที่ยังคงถอนหายใจเบาๆ พร้อมกับบ่นพึมพำ “การไม่ปล่อยวางก็คือโรคทางใจ โรคทางใจต้องรักษาด้วยยาใจ หากเ้าไม่ฟังคำโน้มน้าว ข้าน้อยพูดไปก็ไร้ประโยชน์! เฮ้อ…เ้าดูสิ เ้าทำเสื้อผ้าข้ากลายมาเป็แบบนี้แล้วจะให้ออกไปพบเจอผู้คนได้อย่างไร? ”
ในขณะที่เขาพูดเขาก็หยิบตะเกียงน้ำมันมาอังไฟบริเวณหน้าอกของตนเอง เพราะบริเวณหน้าอกของเขาเปียกชื้นไปด้วยน้ำตาของกูเฟยเยี่ยน
ในตอนนี้เองที่กูเฟยเยี่ยนนึกขึ้นได้ว่ายังมีกลุ่มคนรอพวกเขาอยู่ หนึ่งในนั้นมีจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยด้วย!
ในที่สุดนางก็สงบสติอารมณ์ลง ก่อนที่จะหาท่านอาจารย์เจอและก่อนที่จะหาความลับของปิงไห่กับตัวตนของตนเองเจอ นางยังต้องพยายามเป็แพทย์หญิงที่ดีของเขา นางจะต้องเอาชีวิตรอดและยืนหยัดอย่างมั่นคงในดินแดนที่แย่งชิงอำนาจและหลอกลวงกันและกันเสียก่อน
ความลับและความรู้สึกของนางทั้งหมดจะต้องเก็บซ่อนเอาไว้ให้ดี
ถึงแม้ว่าจะไม่ชอบสถานที่แห่งนี้แต่ก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว โชคดีที่ผู้คนที่นางได้พบไม่ได้สร้างความชิงชังไม่พอใจไปเสียหมด จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยช่วยเหลือนางเยอะมาก เฉิงอี้เฟยคือเพื่อนที่คู่ควรแก่การคบค้าสมาคม เซี่ยเสี่ยวหม่านเพียงแค่ปากไม่ตรงกับใจก็เท่านั้น ไหนจะยังมีพี่ถังจิ้งที่กระตือรือร้นและยุติธรรม หัวหน้าาุโที่หวงแหนในความสามารถ และยังมี…ยังมีนายก้อนน้ำแข็งเหม็นคนนั้น อันที่จริงแล้วก็ไม่ได้น่ารำคาญขนาดนั้น
เมื่อคิดถึงผู้คนเหล่านี้ ทุกอย่างจึงดูเหมือนว่าจะไม่ได้แย่ขนาดนั้นแล้ว ในที่สุดกูเฟยเยี่ยนก็เอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม “แพทย์กู้ เื่ของอาจารย์ข้า ท่านไม่พูดออกไปแน่นอนใช่หรือไม่? ”
กู้อวิ๋นหย่วนเหลือบตามองแวบหนึ่งโดยไม่พูดอะไร
กูเฟยเยี่ยนค่อยๆ หรี่ตาลง กู้อวิ๋นหย่วนจึงรีบย้ายตำแหน่งทันที เขาเว้นระยะห่างจากนางแล้วพูดอย่างไร้ซึ่งความอดทน “ข้าน้อยไม่ใช่คนที่พูดมาก แต่ถ้าเ้ากล้าก่อกวนข้าน้อยอีกก็อย่าหาว่าข้าน้อยไม่เกรงใจ! ”
กูเฟยเยี่ยนเชื่อมั่นในตัวเขา “ขอบคุณมาก! ”
นางรีบหยิบหญ้าสมุนไพรออกมาจากหวางเป่าติงแล้วนำมาประคบไว้บนเปลือกตาเพื่อลดอาการบวม หากนางออกไปด้วยดวงตาที่บวมแดง นางหลอกคนอื่นได้แต่หลอกจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยไม่ได้!
ทั้งสองคนไม่พูดไม่จา ต่างคนต่างก็ทำหน้าที่ของตนเอง ทางด้านของเฉิงอี้เฟยนั้นยังคงสลบไสลไม่ได้สติ
รุ่งสาง ในที่สุดทั้งสองคนก็จัดเก็บเตรียมตัวเรียบร้อย กู้อวิ๋นหย่วนกำลังจะไปเปิดประตูแต่ถูกกูเฟยเยี่ยนขวางไว้อีกครั้ง “เดี๋ยวก่อน! ”
กู้อวิ๋นหย่วนเกิดโทสะแล้ว “เ้ายังอยากจะทำอะไรอีก? ”
กูเฟยเยี่ยนส่งยิ้มแหยๆ ไปให้เขา
นางดื้อรั้นเหมือนกับเด็กน้อย แต่เมื่อยิ้มแย้มแล้วดูเหมือนจะเด็กน้อยยิ่งกว่า ดูเหมือนว่ากู้อวิ๋นหย่วนจะตกตะลึงเล็กน้อยแต่กูเฟยเยี่ยนไม่ได้สังเกตเห็น ทันใดนั้นนางก็เดินผ่านเขาไปบดบังประตูด้วยร่างกายของตนเอง
ประดุจว่าทุกสิ่งทุกอย่างก่อนหน้านี้ไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น น้ำเสียงของกูเฟยเยี่ยนเปลี่ยนเป็ประจบประแจงแล้วหัวเราะอีกครั้ง “แพทย์กู้ ข้า้าขอความช่วยเหลือจากท่านหนึ่งเื่”
กู้อวิ๋นหย่วนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพูดด้วยความเคร่งขรึมจริงจัง “หากว่า้าให้ไปรักษาคนอื่นนั้นก็ไม่ต้องคิดที่จะเจรจาได้เลย บรรพบุรุษตระกูลกู้มีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวด จดหมายแนะนำหนึ่งฉบับสามารถออกมาวินิจฉัยอาการได้เพียงหนึ่งรอบ รักษาได้เพียงหนึ่งคน ข้าน้อยไม่เพียงแค่รักษาขาของท่านแม่ทัพเฉิง แต่ยังรักษาโรคม้ามกับกระเพาะอาหารและปัญหาเล็กๆน้อยๆ ของท่านแม่ทัพเฉิง ข้าน้อยพยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว กฎเกณฑ์ของตระกูลนั้นไม่อาจละเมิดได้ หากเ้า้าให้ช่วยรักษาคนอื่นก็ไปนำจดหมายแนะนำมาอีกครั้ง! ”
กูเฟยเยี่ยนเข้าใจกฎเกณฑ์ของตระกูลกู้ กฎเกณฑ์ของตระกูลเช่นนี้ที่จริงแล้วคือการปกป้องตนเองอย่างหนึ่ง
จดหมายแนะนำทุกฉบับล้วนแสดงถึงหนี้บุญคุณและแสดงถึงเส้นสาย
เช่นเดียวกับในครั้งนี้ ท่านหัวหน้าาุโเป็ผู้เขียนจดหมายแนะนำ ดังนั้นหนี้บุญคุณจึงตกเป็ของหัวหน้าาุโ หากกู้อวิ๋นหย่วนเป็อะไรไป หัวหน้าาุโจะไม่มีทางนั่งมองโดยไม่สนใจอย่างแน่นอน
เมื่อมีหนี้บุญคุณเหล่านี้กับมีเส้นสายอยู่ในมือ แพทย์รักษาที่ซ่อนเร้นจึงสามารถอาศัยอยู่อย่างสันโดษได้โดยไม่เกรงกลัวการรบกวนจากโลกภายนอก และยิ่งไปกว่านั้นคือไม่เกรงกลัวการลักพาตัวและการคุกคามจากโลกภายนอกอีกด้วย
หากกู้อวิ๋นหย่วนทำลายกฎเกณฑ์ลงมันก็จะเป็การลดคุณค่าของตนเองและลดคุณค่าของจดหมายแนะนำเ่าั้ หากสูญเสียหนี้บุญคุณและเส้นสายไปเขาที่เป็แพทย์อ่อนแอจะไม่ดึงดูดให้ผู้คนจ้องตาเป็มันได้อย่างไร เขาจะมีชีวิตอยู่อย่างดีได้อย่างไร?
หลังจากที่แน่ใจว่าเขาไม่ใช่ท่านอาจารย์อาภรณ์ขาว สมองของกูเฟยเยี่ยนก็ใช้การได้ดีขึ้นมาก นางมีความสงสัยว่าแม้กระทั่งเหล่าผู้คุ้มกันในเยนอวิ๋นเจี้ยนนั้นก็อาจจะไม่ได้มาจากตระกูลกู้ั้แ่แรก แต่อาจจะส่งมาจากผู้คนที่้าตอบแทนหนี้บุญคุณ
ต่อให้ในตอนนี้กูเฟยเยี่ยนยังมีจดหมายแนะนำอีกหนึ่งฉบับ นางก็จะไม่ให้เทียนอู่ฮ่องเต้ใช้
นางรีบอธิบาย “แพทย์กู้ ข้าไม่ได้จะขอให้ท่านรักษา ข้าขอแค่ให้ท่านช่วยเื่เล็กๆ น้อยๆ อีกสักพักเมื่อออกไปท่านจะเห็นขันทีชราคนหนึ่ง ไม่ว่าเขาจะพูดอะไร ท่านก็ไม่ต้องไปสนใจ! ”