“เธอทำสำเร็จแล้ว เื่ที่เป็ไปไม่ได้แต่กลับเป็ไปได้แล้วภายใต้ฝ่ามือของเธอ นี่อาจพูดได้ว่า.......เธอเป็บุตรัแห่งสรวง์ที่จะมีอนาคตและโชคชะตาที่จะทำให้ใครต่อใครอิจฉาได้เลยนะ ถึงตอนนี้เธอจะผ่านมาได้ไม่ค่อยดี บางทีเธออาจจะคิดว่าตัวเองตกอยู่ในความสิ้นหวังอันไร้เรี่ยวแรง ในอนาคตสิ่งที่เธอสูญเสีย สิ่งที่เธอ้า สิ่งที่เธอวาดหวังจะกลับมาและมาปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอมากกว่าที่เธอคิดหลายเท่า เชื่อฉันสิ”
ดาบสังหารอเมทิสต์ที่ถูกประเมินเรียบร้อยแล้วถูกส่งกลับมาให้เย่เทียนเซี่ยและราคาค่าประเมิน 300 เหรียญทองก็ถูกโอนไปให้เฉินซินโดยอัตโนมัติ ไอเทมเซียนนั้นหายากมาก ค่าประเมินจึงมีราคาสูงตามไปด้วย ดังนั้นหากผู้เล่นนำไอเทมเซียนเลเวล 15 หนึ่งชิ้นมาประเมินจะต้องจ่ายค่าประเมินไป 300 เหรียญทองเต็มๆ แต่เมื่อเทียบกับราคาที่แท้จริงของไอเทมเซียนแล้วค่าประเมินเพียงแค่นี้ก็เป็แค่เศษเงินเท่านั้น
“ขอบคุณนายมากนะ.............ขอบคุณนายมาก...........” เฉินซินกัดริมฝีปากแล้วกระซิบออกมาเบาๆ ตอนนี้เธอเขาใจแล้วว่าเขาเข้าใจเธอจริงๆ เขาใช้วิธีการของตัวเองช่วยเหลือเธออย่างเงียบๆ......... เขาช่วยชีวิตเธอ......... ในเวลานี้เธอคิดว่าตัวเองไม่ได้โดดเดี่ยวอีกต่อไป แม้กระทั่งความเ็ปในหัวใจที่สั่งสมมาตลอดก็ราวกับจะเบาบางลงและสลายหายไป.......
ความหวัง........... อย่าได้ยอมแพ้ต่อความหวัง.......... ทุกอย่างจะต้องดีขึ้นแน่นอน..........
ขอเพียงมีใจสู้ปาฏิหาริย์ก็ไม่ไกลเกินเอื้อม ขอเพียงแค่พยายาม อย่ายอมแพ้ต่อความหวัง น้องสาวของเธอจะต้องดีขึ้นแน่นอน ในอนาคตพวกเธอจะมีบ้านสวยๆ มีอาหารอร่อยๆ มีครอบครัวที่สมบูรณ์ จะต้องมีความสุขโดยไม่ต้องกังวลเื่ใดๆ จะต้องมีทุกอย่างที่หวังไว้...........
เย่เทียนเซี่ยยิ้มออกมาอย่างโล่งอกแล้วหมุนตัวเดินจากไปเงียบๆ เมื่อเขาเดินจากไปได้สองก้าวเขาก็หยุดฝีเท้าลงแล้วพูดขึ้นมา “ความงดงามไม่ใช่สิ่งผิด แต่หลายครั้งมันก็นำเื่ชั่วร้ายมากมายมาให้ได้ ถึงตอนนั้นเธอสามารถเรียกหาฉันได้นะ”
พูดจบเขาก็เดินจากไปช้าๆ และออกไปจากถนนการค้าเส้นนั้นตรงกลับไปที่บ้านของเขา ขณะเดียวกันเขาก็หยิบดาบสังหารอเมทิสต์เล่มนั้นขึ้นมาดูคุณสมบัติของมัน
ดาบสังหารอเมทิสต์ : ไอเทมระดับเซียน
เงื่อนไขการใช้ : อาชีพนักรบเลเวล 15 คุณสมบัติพละกำลังมากกว่า 75 หน่วยขึ้นไป
ดาบระดับเซียนที่แฝงไว้ด้วยพลังสายฟ้า
คุณสมบัติ : พลังโจมตี+120, พละกำลัง+18, การสร้างความเสียหาย+10, ความเร็วในการโจมตี+35, โชค+2, เมื่อโจมตีจะเพิ่มความเสียหายที่มีคุณสมบัติสายฟ้าขึ้น 30-50 หน่วย เมื่อโจมตีจะมีความเป็ไปได้ 3% ที่จะติดสถานะอัมพาต 2-3 วินาที
ทักษะ
สายฟ้าฟาด : รวบรวมพลังสายฟ้าไว้ที่ตัวดาบแล้วปลดปล่อยพลังโจมตีด้วยสายฟ้าไปยังศัตรูที่อยู่ด้านหน้าทันที เป็การโจมตีเป้าหมายเดี่ยวที่อยู่ใกล้ตัว สร้างความเสียหายเท่ากับ 180% ของการโจมตีธรรมดาและสร้างความเสียหายธาตุสายฟ้า 300 หน่วย และมีความเป็ไปได้ 20% ที่จะทำให้ติดสถานะมึนงง 2-4 วินาที ใช้พลังเวทย์ 45 หน่วย ใช้เวลาคูลดาวน์ 30 วินาที
เย่เทียนเซี่ยอึ้งไป สมแล้วที่มันเป็อาวุธชั้ยเซียน แม้จะเพียงแค่เลเวล 15 แต่ก็มีคุณสมบัติถึง 7 อย่างและมีทักษะอันแข็งแกร่งด้วย และก็เห็นได้ชัดว่าทักษะอันทรงพลังอย่าง “สายฟ้าฟาด” นั้นมาจากมอนสเตอร์ชั้นเซียนตัวน้อยตัวนั้น เพียงแค่มีผลลัพธ์ที่แตกต่างกันเท่านั้น ระดับความแข็งแกร่งของคุณสมบัติเองก็แข็งแกร่งมาก ไม่เพียงการเพิ่มคุณสมบัติถาวรที่ปรากฏออกมา แต่ยังมีคุณสมบัติทางด้านการโจมตีที่เหนือกว่าไอเทมทองเลเวล 25 ด้วย
————
————
ภายในบ้านหลังน้อยของกั่วกัว จั้วพั่วจวินและมู่หรงชิวสุ่ยนั่งอยู่บนโต๊ะคนละมุมและดื่มชาลงไปอย่างใจลอย........ใบชานั้นลอยขึ้นมาจากชั้นวางในห้องโถงใหญ่ รสชาติของพวกมันแฝงไว้ด้วยรสชาติที่ทำให้คนที่ดื่มเข้าไปลุ่มหลงมัวเมา
“นี่! เทียนเซี่ย นายถึงไหนแล้วเนี่ย?” ซูเฟยเฟยหยิบอุปกรณ์สื่อสารออกมา นี่เป็ประโยคคำถามที่เธอพูดออกมาเป็ครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้
และแล้วเสียงแจ้งเตือนดังก็ขึ้นข้างหู ประตูถูกเปิดออกแล้วเย่เทียนเซี่ยก็เดินเข้ามา เขามองไปยังจั้วพั่วจวินและมู่หรวชิวสุ่ยแวบนึงจากนั้นก็ถามออกมาอย่างใ “ทำไมพวกนายกลับมาเร็วจังล่ะ?”
“ไม่ใช่ผมเป็คนเปิดทางหรอกนะ แต่เป็เ้าสี่ต่างหาก เกรงว่าถ้ารอต่อไปพรุ่งนี้ก็คงยังไม่ได้คิวเลยด้วยซ้ำ” จั้วพั่วจวินหยิบบัตรแปลกๆขึ้นมาอย่างพอใจ ผู้เล่นทุกคนสามารถมีบัตรเครดิตที่แลกเงินจริงและเงินในเกมได้อย่างรวดเร็ว ความรวดเร็วนั้นเป็เพียงแค่ด้านหนึ่งเท่านั้น ส่วนด้านความปลอดภัยก็ทำได้ไม่แพ้กัน
“เจ๊ใหญ่เองก็น่าจะได้มาเร็วๆนี้แหละ เธอน่ะมีช่องทางพิเศษอยู่แล้ว พี่รองพี่คงไม่รู้ว่าตอนนี้ลานกว้างน่ะมีคนเต็มไปหมดแล้วก็เบียดเสียดกันแทบตายเลยล่ะ” จั้วพั่วจวินส่ายหัวลูบหน้าอกแล้วพูดออกมา
“เฟยเฟย พ่อของเธอมีความคิดที่จะขยายธุรกิจของตัวเองเข้ามาใน World of Fate ไหม?”เย่เทียนเซี่ยนั่งลงบนโต๊ะแล้วถามขึ้นมา
ซูเฟฟยเฟยใช้มือลูบผมเล่นแล้วส่ายหน้าออกมาน้อยๆ “จริงๆแล้ว พ่อของฉันก็มองหาโอกาสในการทำธุรกิจใน World of Fate เหมือนกัน แต่ก่อนหน้านี้พ่อพูดว่าอายุยิ่งมากขึ้นความ้าในทรัพย์สินและการแข็งขันก็ค่อยๆหายไป พ่อหวังอยากมีความมั่นคงและสงบสุขมากกว่า ดังนั้นฉันคิดว่าต่อให้เขารู้ว่าที่นี่มีธุรกิจและพื้นที่อันยิ่งใหญ่ก็ไม่น่าจะเสียแรงมาที่นี่หรอก”
“โอ้! น่าเสียใจจริงๆ คุณลุงซูมีพร์ที่ทำให้ผู้คนชื่นชม เขายังเป็หนึ่งในสองคนที่เจ๊ใหญ่ชื่นชมที่สุดด้วยนะ” มู่หรงชิวสุ่ยพูดออกมา
คนสองคนที่เจ๊ใหญ่ชื่นชมที่สุด? เย่เทียนเซี่ยถามออกมาอย่างสนใจ “นอกจากซูลั่วแล้วอีกคนที่สามารถทำให้เจ๊ใหญ่ชื่นชมได้คือใครน่ะ?”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ.....” มู่หรงชิวสุ่ยเปิดปากหัวเราะ เขาหัวเราะจนทำให้คนอีกสามคนรู้สึกงุนงง “พี่รอง พี่นี่ใส่ใจเื่ของเจ๊ใหญ่อยู่ตลอดจริงๆเลยนะ คนอีกคนที่เจ๊ใหญ่ชื่นชมน่ะเหรอ.......... พี่รองพี่รู้จักกลุ่มการค้าเทียนหัวไหม?”
เย่เทียนเซี่ยส่ายหน้า จั้วพั่วจวินและมู่หรงชิวสุ่ยแสดงสีหน้าหมดคำพูดออกมาพร้อมกันทันที จะว่าไปแล้วตอนนี้ในหัวเซี่ยมีคนที่ไม่รู้จักชื่อนี้น้อยมากๆ เหมือนกับที่คนเมื่อร้อยกว่าปีก่อนไม่รู้จักเต๋าเถิงซวินนั่นแหละ
“กลุ่มการค้าเทียนหัว ฉันรู้จัก มันเป็กลุ่มการค้าที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยคนๆนึงที่มีชื่อว่าจ้าวเทียนหัว เริ่มแรกมันสร้างขึ้นมาจากร้านขายของเล็กๆเท่านั้น แต่ใช้เวลาสั้นๆเพียงสิบกว่าปีมันก็ขยายตัวอย่างมาก ปัจจุบันนี้มันมีความเกี่ยวข้องกับกิจการและธุรกิจมากมาย เงินลงทุนของพวกเขาก็มากจนถึงแสนล้านแล้ว เขาคือคนที่พ่อของฉันพูดถึงบ่อยๆ เขามักจะบอกว่าดวงตา สมอง หลักการ และวิธีการของจ้าวเทียนหัวคนนั้นทำให้เขานับถือจริงๆ” ซูเฟยเฟยพูดออกมา
มู่หรงชิวสุ่ยเล่นมือของตัวเองไปมาแล้วพูดออกมาเสียงนุ่ม “แต่เขาก็ยังเทียบไม่ได้กับพ่อของเธออยู่ดี......จริงๆแล้วปัจจัยที่เป็กุญแจสำคัญของเื่นี้ไม่ใช่ว่าเขาเทียบไม่ได้กับพ่อของเธอ ไม่ใช่ว่าเขาหนุ่มแน่นกว่าพ่อของเธอ หรือว่าใช้เวลาน้อยกว่าพ่อของเธอ แต่เป็เพราะว่า............”
“พ่อของฉันก็เคยพูดไว้ว่าเป็เพราะผู้หญิงคนหนึ่ง” ซูเฟยเฟยเม้มปากแน่นแล้วพูดออกมา “จ้าวเทียนหัวคนนี้น่ะบ้ามาก เพื่อผู้หญิงเพียงคนเดียวเขาได้ละทิ้งโอกาสและเวลามากมาย ไม่อย่างนั้นกลุ่มการค้าเทียนหัวคงได้ยิ่งใหญ่กว่าตอนนี้ไปมากแล้ว”
“อั๊ยหยา เธอพูดถูกสุดๆไปเลย เพราะผู้หญิง.......... เฮ้อ หญิงงามล่มเมืองเป็สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในโลกใบนี้จริงๆ....... แล้วเมื่อกี้ฉันก็ได้รับข่าวที่น่าสนใจข่าวนึงมา เมื่อวานจ้าวเทียนหัวเอาหุ้นทั้งหมดของตัวเอง 59% โอนให้เป็ชื่อของผู้หญิงที่เขาคลั่งไคล้คนนั้น แต่ผู้หญิงคนนั้น........เหอๆ วันนี้ตอนเช้าเธอได้โอนหุ้นทั้งหมดไปให้ตระกูลหยุน ดูเหมือนนี่จะเป็การวางแผนเอาไว้ล่วงหน้าของพวกเขา โอ้! ทำไมโลกนี้ต้องมีผู้หญิงแบบนี้ด้วยนะ” มู่หรงชิวสุ่ยส่งเสียงสะอื้นออกมา
“ห๊า!?” ซูเฟยเฟยร้องออกมาอย่างใ
“อะไรนะ? มีผู้หญิงแบบนี้ด้วยเหรอ?” จั้วพั่วจวินเบิกตาโต ผู้ชายคนหนึ่งทุ่มเทกายใจไปไม่รู้เท่าไรต่อสู้เพื่อธุรกิจอันใหญ่โต แต่กลับถูกขายออกไปอย่างไร้หัวใจแบบนี้………… ผู้หญิงคนนี้ยังมีความเป็คนอยู่ไหม! จ้าวเทียนหัวฉลาดขนาดนั้นทำไมถึงได้สนใจผู้หญิงแบบนั้นนะ
“ได้ข่าวมาจากไหนเหรอ?” เย่เทียนเซี่ยครุ่นคิดแล้วเอ่ยปากถามออกไป
“แน่นอนว่าต้องเป็เจ๊ใหญ่อยู่แล้ว ด้วยความสามารถของเจ๊ใหญ่ ฉันล่ะอยากรู้จริงๆว่าบนโลกใบนี้มีอะไรที่เธอไม่รู้บ้าง” แล้วใบหน้าของมู่หรงชิวสุ่ยก็เปลี่ยนไป เขาพูดออกมาอย่างจริงจัง “ด้วยความที่ฉันเข้าใจเจ๊ใหญ่ ถ้าเธอไม่ถือโอกาสนี้ทำอะไรบางอย่างขึ้นมา ก็คงไม่ใช่หลิ่วชีเยว่ที่มีรูปลักษณ์ราวกันนางฟ้าและซาตานที่ทำให้คนทั้งรักทั้งหวาดกลัวแน่นอน”
จั้วพั่วจวินกระตุกยิ้ม “เ้าสี่ นายเรียกชื่อฉันก็พอแล้ว แต่แม้แต่ชื่อของเจ๊ใหญ่แกยังกล้าเรียกเนี่ย......ถ้าเจ๊ใหญ่รู้เข้า ผลที่ตามมาจะต้องร้ายแรงแน่ นี่น่ะแม้แต่พี่รองยังไม่กล้าเลยนะ”
ทันใดนั้นอุปกรณ์สื่อสารของเย่เทียนเซี่ยก็ดังขึ้นมา เขาเพิ่งจะรับโทรศัพท์เสียงนุ่มๆที่เต็มไปด้วยความใและสั่นสะท้านอย่างชัดเจนก็ดังขึ้นมาทันที “เซี่ยเทียน.......พี่คะ ช่วยฉันด้วย.............”
เมื่อวางสายไปใบหน้าของเย่เทียนเซี่ยก็มืดมนลงทันที
“มีอะไรเหรอ?” จั้วพั่วจวินและมู่หรงชิวสุ่ยยืนขึ้นพร้อมกัน พวกเขามองไปทางเย่เทียนเซี่ยที่มีสีหน้ามืดมนด้วยความสงสัย
“ไม่มีอะไร แค่มีคนมารนหาที่ตายแค่นั้นแหละ ฉันจะไปดูซักหน่อย” พูดจบเย่เทียนเซ่ยก็เดินออกไปอย่างรวดเร็ว
“อา..........เดี๋ยวก่อนพี่รอง พวกเราไปด้วย..............”
ซูเฟยเฟยลังเลอยู่เล็กน้อยก่อนจะเดินตามคนอื่นๆออกไป เมื่อกี้เธอได้ยินอย่างชัดเจนว่าเสียงที่ดังขึ้นมาจากอุปกรณ์สื่อสารนั่นเป็เสียงของผู้หญิง
————
————
ที่ถนนการค้าของเมืองเทียนเฉินหน้าร้านประเมินหลังจากเย่เทียนเซี่ยจากไปไม่นาน
เฉินซินยืนอยู่ตรงนั้นเป็เวลานาน คลื่นความปั่นป่วนในใจของเธอยังคงไม่สงบลง วันนี้เธอได้รับเงินถึง 635 เหรียญทองจากการประเมินไอเทมให้เย่เทียนเซี่ย ดูเหมือนจะมากกว่าเมื่อวานสองเท่า เธอ้าเงินมาก สำหรับเธอแล้วนี่เป็เงินจำนวนไม่น้อยเลย แต่เงินเหล่านี้ก็ทำให้หัวใจของเธอสั่นไหวเช่นกัน
เขามอบเงินให้เธอ อีกทั้งยังมอบความอบอุ่นและความหวังให้เธอด้วย
เธอเช็ดน้ำตาแล้วเผยรอยยิ้มออกมา............... เธอเชื่อว่าตัวเองคือลูกัแห่งสรวง์ เชื่อในปาฏิหาริย์ เชื่อว่าทั้งหมดจะดีขึ้นมา เธอจะไม่เศร้าอีกแล้ว เธอแอบเช็ดน้ำตาอีกครั้ง............ ส่วนลึกในใจของเธอพูดขึ้นมาเบาๆ.......... แต่เธอเพิ่งจะเริ่มสงบจิตสงบใจได้เธอก็ได้รับการจู่โจมเข้าทันที
ความงดงามไม่ใช่เื่ผิด แต่มันกลับเป็ที่มาของความชั่วร้าย และสถานการณ์ใดก็ตามที่ดูเหมือนจะมีสาเหตุมาจากความงามก็จะมีหญิงสาวขี้ขลาดที่ดึงดูดความปรารถนาของผู้ชายเข้ามาได้อย่างง่ายดายอยู่ด้วย
ชายร่างสูงใหญ่ที่แบกมีดเล่มโตคนหนึ่งเดินมาถึงหน้าร้านประเมินแต่กลับไม่เดินเข้าไป เขาใช้สายตาเย่อหยิ่งและอวดดีกวาดมองไปที่เหล่านักประเมินที่รอทำการประเมินอยู่หน้าร้านวูบหนึ่ง จากนั้นก็หยิบรองเท้าระดับเงินขึ้นมาหนึ่งชิ้นแล้วะโออกมาเสียงดังด้วยความอวดดี “ไอเทมเงินหนึ่งชิ้น ใครก็ได้มาประเมินหน่อยซิ!”
ไม่สงสัยเลยว่าทำไมเขาถึงได้มีท่าทางภูมิใจเช่นนั้น คนที่สามารถไอเทมเงินได้แน่นอนว่าต้องมีความเย่อหยิ่งเป็ทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อได้ยินเสียงะโของเขาบรรดาผู้เล่นที่เดินผ่านไปมาก็จ้องมองไปทางเขาทันที สายตาของพวกเขาปรากฏแววตาอิจฉาริษยา บางคนก็คาดเดาเกี่ยวกับตัวตนของเขา เขาสามารถไอเทมเงินได้ ทั้งร่างั้แ่ไอเทมยันอาวุธล้วนส่องแสงที่เป็สีของไอเทมทองแดงออกมา คนๆนี้จะต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่
และไอเทมเงินชิ้นนั้นเขาก็เพิ่งจะได้รับมันมาจากบอสสามดาวเลเวล 10 ตัวหนึ่ง ในตอนที่เขารวมกลุ่มกับคนอีกเจ็ดคนเพื่อสังหารบอสสามดาวตัวนั้น เมื่อมันดรอปรองเท้าระดับเงินออกมาเขาก็แทบจะหุบรอยยิ้มเอาไว้ไม่มิด
