Chapter 34
"เอาไงล่ะ? ทางการยังไม่ส่งสัญญาณอะไรเลยนะ" มิเกลถามขึ้นในวงสนทนาที่ตอนนี้มีทั้งกรีน ป๋าย เวย์ และเกรซ ซึ่งเหตุผลที่มิเกลพูดออกมาก็เพราะว่าในตอนเช้าของวันที่ผ่านมา ทางการประกาศแจ้งสิ้นสุดระยะการตรวจสุขภาพประจำปีเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้จะเริ่มตรวจเช็กสำหรับบ้านที่ไม่ได้พาครึ่งทางหรือเ้าเหมียวไปตรวจสุขภาพ
"คงไม่เกินวันพรุ่งนี้หรอก แต่แน่ใจนะว่าจะไม่ไปหาทางการด้วยตัวเอง โทษมันอาจจะลดลง" เวย์พูดเสริมขึ้นมา
"รอให้ถึงเวลาจริง ๆ นั่นแหละดีแล้ว ยังอยากอยู่ด้วยกันอีกหน่อย เพราะไม่รู้ว่าต่อจากนี้จะเป็ยังไง" กรีนพูดขึ้นในขณะที่สายตาจ้องมองลงไปที่พื้นด้วยความประหม่า
"ไม่ว่าจะยังไงก็แล้วแต่ เค้าจะจำทุกคนไว้อย่างดีที่สุดเลยนะ" ป๋ายเอ่ยขึ้นมากลางวงสนทนา
ถึงแม้ว่าในตอนนี้เื่นี้มันจะเกี่ยวข้องกับใครหลายคน แต่คนที่เสียใจมากที่สุดก็คงจะไม่พ้นเ้าของเื่อย่างป๋าย รวมถึงกรีนที่ต้องเผชิญกับความกลัวด้วย ตัวกรีนเอง แน่นอนว่าหวังที่จะให้ทางการตัดสินไปในทางที่ไม่ได้โหดร้ายกับพวกเขาสองคนเกินไป ถ้าไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้จริง ก็อยากจะขอโอกาสที่จะได้เจอกันบ้าง
ตัวเขาเองก็กำลังเผชิญอยู่กับความกลัวของโทษที่จะได้รับ อย่างที่ทุกคนรู้กันดี กรีนไม่เคยไปเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ผิดกฎของเมืองเลยแม้แต่น้อย นี่เป็ครั้งแรกที่เขาทำมัน และดูเหมือนว่ามันจะเป็เื่ใหญ่มากทีเดียว
อันที่จริงทั้งกรีนและป๋ายจะเดินไปหาเ้าหน้าที่และมอบตัวเลยก็ได้ แต่เหตุผลเดียวที่พวกเขาไม่ทำ ก็คือยังอยากอยู่ด้วยกันมากกว่านี้อีกหน่อย อาจจะเรียกว่ายืดเยื้อก็ได้ พวกเขายอมรับ แต่ถ้าหากผลของการยืดเยื้อในครั้งนี้ทำให้มีเวลามากขึ้น แม้จะไม่มากก็ตาม พวกเขาก็ยอมทำมัน
"ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้แล้วนะ ปล่อยใจให้สบาย เพราะเรากลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว อะไรที่มันจะเกิดต่อจากนี้ มันก็คือผลของการกระทำที่เราเลือกนั่นแหละ พี่ไม่อยากให้เราโทษใคร โทษกันและกันเลยนะ เื่มันไม่ได้เกิดขึ้นจากพวกเรา เข้าใจพี่ใช่ไหมครับป๋ายป๋าย?" กรีนพูดขึ้นมา
"อื้อ เค้าเข้าใจ" ป๋ายตอบกลับออกมา
ในตอนนี้ตัวป๋ายเองก็คงยอมไปทุกอย่างแล้ว ยอมเสี่ยง ยอมทิ้งความสุข และการเสี่ยงในครั้งนี้ มันก็ไม่มีอะไรมาการันตีได้ว่าผลลัพธ์มันจะออกมาอย่างที่เรามีความสุขกับมัน แต่ถ้ายังอยู่กันแบบเดิมต่อไป ก็คงต้องใช้ชีวิตแบบระแวงกันไปตลอดชีวิต
ตัวป๋ายเองเคยคิด ว่าบัตเลอร์อาจจะยอมก็ได้ ถ้าเราไปเจรจากันดี ๆ เพราะไหน ๆ บ้านนั้นก็ไม่ได้อยากเลี้ยงอยู่แล้ว ถ้าหากยื่นข้อเสนอให้กัน อาจจะไม่ต้องมานั่งกังวลกันแบบนี้ เพราะบัตเลอร์คงจะจัดการได้ แต่สิ่งนี้ป๋ายเป็คนตัดสินใจมันด้วยตัวเอง เขาจะไม่ยอมเอาตัวรอดคนเดียว ไม่รู้ว่ามันเป็ทางเลือกที่ดูโง่สำหรับคนอื่นหรือเปล่า แต่ป๋ายเองอยากช่วยออกัสออกมาด้วย และไม่อยากให้ครึ่งทางหรือแมวตัวไหนต้องเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้ที่เขาเจอ เพราะมันแย่มาก แย่มากจริง ๆ
ย้อนกลับไปเมื่อวาน่เช้า
"ทางการขอประกาศอย่างเป็ทางการ ว่าระยะการตรวจสุขภาพของครึ่งทางและแมวในเมือง No Land สิ้นสุดั้แ่วินาทีนี้เป็ต้นไป หากประชาชนคนใดมีข้อสงสัย กรุณาติดต่อมาที่ศูนย์ดูแลสัตว์ประจำเมือง No Land"
"ถึงเวลาแล้วใช่ไหม?" ป๋ายถอนหายใจและพูดออกมาเสียงแ่
"เธอกลัวมากเลยใช่ไหมครับคนดี?"
"อื้ม"
"พี่ก็การันตีไม่ได้ว่ามันจะเป็ยังไง แต่เราพยายามมันมากถึงมากที่สุดแล้วนะ พยายามที่จะได้อยู่ด้วยกัน พยายามที่จะเปิดโปงมัน โอเคไหมครับ? เพราะว่าเราเต็มที่กับมันมากที่สุดแล้ว ผลลัพธ์จะออกมาเป็ยังไง พี่ก็ไม่อยากให้เธอเสียดายสิ่งที่ทำมาตลอดนะ"
"เค้าเหนื่อยจัง ทำไมเื่นี้ต้องมาเกิดกับเราด้วย เค้ารู้นะว่าเราเลือกเอง แต่ทำไมล่ะ? ทำไมเค้าถึงได้ไปอยู่ในบ้านที่ใจร้ายกับเค้าขนาดนั้น ทำไมเค้าถึงโดนไล่ออกมา ทำไมพี่ถึงต้องแพ้ขนแมว ทำไมเราไม่ถูกลิขิตให้มาอยู่ด้วยกันั้แ่แรก"
"นี่ไง มันถูกลิขิตไว้หมดแล้วไงครับ เธอเห็นพี่ที่ศูนย์ดูแล เธอโดนไล่ออกมาจากบ้านหลังนั้น เธอก็มาเจอพี่ พี่ที่ตัดสินใจแน่วแน่ในตอนแรกแล้ว ว่าจะไม่เอาเธอมาเลี้ยง แต่พี่ก็ดันเปลี่ยนความคิดในวินาทีสุดท้าย ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็ยังไง แต่พี่ดีใจที่ได้เจอเธอนะ"
"พี่กรีนรู้ไหม? ถ้าสุดท้ายแล้วเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน ถ้าเค้าถูกส่งให้ไปเจอกับเ้านายคนใหม่ เค้าจะขอเ้านายชื่อว่าป๋ายป๋ายนะ" พอได้ยินสิ่งที่น้องพูดออกมา กรีนก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
"ป๋ายป๋าย"
"เค้าตัดสินใจมานานมาก ๆ แล้ว เค้าจะไม่ถอดปลอกคอที่ข้อมือ เค้าจะไม่ถอดสร้อยที่พี่กรีนให้ เค้าจะไม่เปลี่ยนชื่อ เค้าจะ เป็ป๋ายป๋ายตลอดไปเลย"
หลังจากที่น้องพูดจบ กรีนก็สวมกอดแน่น ๆ ให้ทันที เพราะอย่างที่คนตัวเล็กบอก เขาจะเป็ป๋ายป๋ายตลอดไป ถ้าหากว่าวันนึงได้ไปอยู่กับเ้านายคนใหม่ เขาก็จะเล่าให้เ้านายคนใหม่ฟังอย่างบริสุทธิ์ใจ ว่าในชีวิตที่ผ่านมาเขาเจออะไรมาบ้าง เหตุผลในการตัดสินใจเช่นนี้คืออะไร แน่นอนว่าเขาจะเป็แมวที่ดีให้กับบ้านหลังใหม่ เป็แมวที่ดีไม่ใช่เพราะกรีนบอกให้เป็ แต่เขาตั้งใจไว้แบบนั้น ถึงแม้ว่าจะยึดติดอยู่กับอะไรเดิม ๆ ป๋ายก็จะเป็แมวที่ดีและซื่อสัตย์ให้กับเ้านายคนใหม่อย่างแน่นอน ถึงภายในใจจะภาวนาอยู่ตลอดเวลาว่าอยากได้เ้านายคนเดิมก็ตาม
ผ่านมาสองวันหากนับจากระยะการตรวจสุขภาพครึ่งทางและแมวประจำปีเรียบร้อยแล้ว แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ ตอนนี้ทางการเริ่มออกตรวจสอบบ้านที่ไม่พาครึ่งทางหรือแมวมาตรวจสุขภาพ แน่นอนว่ากรีนและป๋ายก็รอมันอยู่เช่นกัน เพราะถ้าหากเ้าหน้าที่มาถึง กรีนและป๋ายก็จะยอมแต่โดยดี
ทั้งคู่รู้ดีว่ามันจะต้องเป็ไปตามกฎและบทลงโทษที่จะได้รับ แต่ก็ยังอยากภาวนาสักนิด ให้ทางการนึกถึงสภาพจิตใจ ยอมรับฟังเื่ที่ทั้งคู่เจอมา ยอมรับฟังสักนิดก็ยังดี
"ทำไมมันไม่ตอบรับวะ!?" เสียงพอล บัตเลอร์โวยวายขึ้น หลังจากที่ไม่ได้รับการตอบรับจากฝ่ายฝ่ายหนึ่ง เกี่ยวกับการตรวจสุขภาพประจำปีของครึ่งทางและเ้าเหมียว
"ขอโทษครับคุณพอล แต่ตอนนี้ทางการส่งเื่มาแล้วนะครับ ว่าทางบ้านของคุณพอลไม่ได้ส่งสัตว์เลี้ยงไปตรวจสุขภาพ จะให้ผมทำยังไงดีครับ?"
"กูให้เงินพวกมึงตั้งเท่าไหร่? ให้เพื่อที่พวกมึงจะมาตั้งคำถามโง่ ๆ กับกูแบบนี้เหรอ?" พอเดินมาประชิดลูกน้องคนนั้น มือหนายกขึ้นบีบคางแรง ๆ ก่อนจะสะบัดมันออกแรง ๆ
"ขอโทษครับคุณพอล"
"พวกมึงไปจัดการปิดข่าวกับนักข่าวก่อน สำนักพิมพ์เราไม่เท่าไหร่ แต่ไอ้พวกสำนักพิมพ์ตรงข้ามแม่งจ้องจะเล่นงานอยู่ตลอด ห้ามให้พวกมันรู้เื่นี้เด็ดขาด ส่วนเื่ทางการ กูจะนัดอีกที"
"รับทราบครับคุณพอล"
"ไปทำงานได้แล้ว แล้วอย่าให้พลาด" ลูกน้องก้มหัวให้พอลค้างไว้แบบนั้น หลังจากนั้นพอลก็เดินออกมาจากห้องทำงานของเค้าทันที
เป็เหมือนกับทุกครั้ง ที่พอลตั้งใจจะใช้อำนาจทางการเงินและอำนาจทางชื่อเสียงปกปิดความผิดที่ได้ทำไว้ พอลตั้งใจจะติดต่อกับทางการเพื่อให้ช่วยปิดข่าวว่าตนนั้นไม่ได้พาครึ่งทางหรือแมวในไปตรวจสุขภาพประจำปี ถ้าหากว่าเป็เหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา พอลก็จะได้รับความร่วมมือที่ดีเสมอ แต่ครั้งนี้มันไม่เป็เหมือนกับทุกครั้ง เพราะพอลเองก็ไม่รู้มาก่อนว่าเ้าหน้าที่ที่ดูแลระยะการตรวจสุขภาพครั้งนี้ไม่ใช่เฉพาะเ้าหน้าที่ในเมืองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเ้าหน้าที่ในเมืองอื่นอีกด้วย ก็เลยทำให้การติดต่อขอความร่วมมือไม่ได้เป็ไปอย่างราบรื่นตามที่พอลคิดเอาไว้
ซึ่งเหตุผลที่ตัวพอลเองไม่รู้ ก็เพราะว่าการตรวจสุขภาพประจำปีครั้งที่ผ่านมา พอลจะส่งไปตรวจเฉพาะออกัส ถ้าหากครั้งไหนผลการตรวจสุขภาพออกมาดีก็ดีไป แต่ถ้าครั้งไหนผลการตรวจสุขภาพมันออกมาไม่ดี ตัวพอลเองก็จะใช้อำนาจของตัวเองปกปิดข่าว มันเป็แบบนั้นมาตลอดทุกปี สิ่งที่พอลทำมากที่สุดที่ผ่านมา ก็คือการเปลี่ยนแปลงผลการตรวจสุขภาพของครึ่งทางในบ้านเท่านั้น ครั้งนี้เป็ครั้งแรกที่ต้องมาปกปิดว่าไม่ได้พาครึ่งทางของตัวเองไปตรวจสุขภาพ เขาจึงโมโหเอามาก ๆ ที่ใช้อำนาจทางการเงินหรือทางไหนก็แล้วแต่โกงไม่สำเร็จ
"สวัสดีครับท่านรัฐมนตรี ผมมีเื่จะขอความช่วยเหลือสักนิดหน่อยนะครับ" พอลต่อสายหารัฐมนตรีทันที เพื่อออกตามหาตัวป๋าย หรือครึ่งทางที่ชื่อซีที่เขาได้ตั้งเอาไว้เมื่อตอนพาออกมา
สำหรับแผนขั้นต่อไปที่ตัวพอลเองคิดได้ ก็คือการแสร้งว่าครึ่งทางที่เลี้ยงไว้ได้หายไปก่อนการตรวจสุขภาพประจำปี ในตอนนี้ยังตามหาตัวอยู่ ซึ่งมันก็เป็ไปตามแผนที่กรีน ป๋าย เวย์ และมิเกลคิดเอาไว้ ว่าทางด้านพอลจะใช้ไม้นี้ ก็คือการเสแสร้งว่าป๋ายหนีออกมา เพื่อไม่ให้โดนจับตามอง แถมยังได้คะแนนสงสารจากคนที่รู้เื่อีกด้วย
ส่วนขั้นตอนต่อมา ก็คือการรอ ป๋ายและกรีนจะรอให้เ้าหน้าที่ตามตัวจนเจอ ซึ่งพวกเขาก็ไม่ได้จะไปหลบอยู่ที่ไหน เพียงแค่อยู่ในบ้านตามปกติ ถ้าหากเ้าหน้าที่ตามเจอ ก็จะให้ความร่วมมือเป็อย่างดี จากนั้นตัวพอลเองก็จะวางใจ พอผ่านไปสักพัก มิเกลก็จะปล่อยหลักฐานเกี่ยวกับความชั่วของพอลที่มีทันที
ซึ่งถ้าถามว่าแผนที่ทุกคนคิดมามันรัดกุมแค่ไหน ก็ต้องบอกเลยว่ามีหลายจุดที่เสี่ยงเอามาก ๆ ว่าจะไม่สำเร็จ ในตอนแรกที่มิเกลจะช่วย ตัวเขาบอกว่าคนที่จะช่วยมีแค่ตัวของมิเกลเท่านั้น เขาไม่อยากไปขอความช่วยเหลือจากที่บ้าน จนในที่สุดก็ต้องพึ่งอำนาจของใครสักคนอยู่ดี มิเกลเลยรวบรวมความกล้าและเล่าเื่ที่เกิดขึ้นให้ที่บ้านฟัง เขาได้ปรึกษากับกรีนและเวย์เรียบร้อยแล้ว และถึงแม้ว่ามันจะเสี่ยงเอามาก ๆ เพราะขนาดตัวมิเกลเอง ก็ยังไม่รู้ว่าที่บ้านของตัวเองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทางพอล บัตเลอร์หรือเปล่า แต่สุดท้ายก็ต้องเสี่ยงเล่าไป และพอได้เล่า ผลมันกลับออกมาในทางที่ดี ทางบ้านของมิเกลเป็ศัตรูของพอล บัตเลอร์ หากถามว่า้ากำจัดกันขนาดนั้นหรือเปล่า ก็คงจะต้องตอบว่าไม่ แต่ถ้าหากมีโอกาสทำให้บัตเลอร์เสียชื่อเสียงได้ พวกเขามีหรือจะปฏิเสธ เพราะอาจจะทำให้ธุรกิจฝั่งตนก้าวหน้ามากขึ้น ถ้าหากกำจัดบัตเลอร์ออกไปได้
ทางบ้านของมิเกลตกลงที่จะให้ความช่วยเหลือในด้านของการปล่อยข่าว เพราะในแวดวงธุรกิจของพวกเขา ถือว่าเป็มิตรกับสำนักพิมพ์ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของบัตเลอร์ ในความคิดของกรีน ป๋าย มิเกล และเวย์เอง บัตเลอร์คงไม่ระแคะระคายแน่นอน ว่าจู่ ๆ จะมีการปล่อยข่าวไม่ดีของเขาเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ผ่านมาเป็ปี ๆ หรือเป็ 10 ปี เพราะทุกคนเองถือว่ามาจากที่เล็ก ๆ ไม่ได้มีบทบาทอะไรในชีวิตหรือแวดวงธุรกิจของบัตเลอร์อยู่แล้ว พูดได้ว่า มาจากไหนก็ไม่รู้ เลยก็ว่าได้
"มึงไปตามหาไอ้ครึ่งทางนั่นให้เจอ เจอแล้วก็ปิดปากมันให้เรียบร้อย"
กึก!
ออกัสที่ผ่านมาได้ยินถึงกับหยุดชะงัก เขาฟังไม่ผิดแน่ ว่าพอลกำลังจะกำจัดครึ่งทางอีกตัว สำหรับตัวออกัสเอง ก็ไม่ได้มีความเกลียดชังให้กับป๋ายแต่อย่างใด เขาเพียงแค่ไม่ได้อยากสนิทกับใคร ไม่ได้อยากเป็เพื่อนกับใคร ไม่ได้อยากไว้ใจใคร เพราะสุดท้ายแล้วการโดนหักหลัง หรือการเปลี่ยนแปลงในความสัมพันธ์มันแย่สำหรับเขา ป๋ายในสายตาออกัส ถือว่าเป็แมวที่ดื้อ ไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ ไม่เหมือนที่ออกัสกำลังเป็ เพราะป๋ายยังมีความคิดที่จะสู้อยู่ ส่วนออกัสหมดความตั้งใจไปั้แ่ที่ถูกทำร้ายแล้ว เพราะสิ่งที่เขากำลังมีอยู่เต็มไปหมดก็คือความกลัว เหมือนกับที่ได้ยินเมื่อสักครู่ ว่าพอลกำลังจะทำอะไร
"มีอะไร?" พอลถามขึ้นเมื่อเห็นออกัสอยู่ที่หน้าประตู
"มีเ้าหน้าที่มาหาครับ" พอลพยักหน้าและสะบัดมือเป็สัญญาณเพื่อไล่ออกัสให้ออกไป
"นี่ เดี๋ยว" ออกัสที่กำลังจะก้าวเท้าออกไปก็หยุดชะงักทันที
"ครับ?"
"ได้เจอไอ้ครึ่งทางตัวนั้นบ้างหรือเปล่า?"
"คือ ไม่ได้เจอนะครับ เหมือน เหมือนว่าจะไม่กลับมาอีกเลย"
"แน่ใจนะ? รู้ใช่ไหมว่าถ้าโกหกต้องโดนอะไร?" แววตาของออกัสสั่นไหว ไม่สู้สายตาพอลอีกต่อไป แต่ถึงแม้ว่าจะโดนขู่ ออกัสก็ไม่ได้คิดที่จะบอกอะไรพอล
"คะ ครับ แน่ใจ"
"อืม ดี ไปไหนก็ไป" ออกัสรีบเดินออกมาทันที
ก๊อก ๆ ๆ ๆ
เสียงเคาะประตูที่หน้าบ้านกรีนดังขึ้น กรีนและป๋ายที่ในตอนนี้แยกกันอยู่คนละมุมของบ้านก็หันมามองหน้ากันทันที เพราะพอจะรู้ว่าใครมา คงจะหนีไม่พ้นเ้าหน้าที่ที่มาตามหาแน่นอน คนตัวเล็กพยักหน้าก่อนที่จะเดินไปเปิดประตู และพบเข้ากับเ้าหน้าที่ในเครื่องแบบ ป๋ายขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าเ้าหน้าที่คนดังกล่าวเป็ใคร
"คุณ?" เขาคือคนที่เข้ามาขอช่องทางการติดต่อป๋ายที่ตลาด ตอนที่กรีนกับป๋ายไปเดินด้วยกัน
"อ้าว"
"แล้วไม่เดือดร้อนอะไรแบบนี้ แปลว่าเตรียมใจมาแล้วเหรอว่าจะเกิดอะไรขึ้น?"
"ก็คงใช่แหละ"
"เ้านายคุณไปไหน?"
"อ้อ อยู่โซนครัวนั่นแหละ"
"หมายถึงเ้านายจริง ๆ สิครับ"
"เรามีเ้านายแค่คนเดียว" คนตัวเล็กพูดออกมาเสียงแ่
"โอเค ๆ ผมจะไม่คาดคั้นอะไรนะครับ ที่ทำแบบนี้โดยที่รู้ตัวอยู่แล้ว ก็แปลว่าพวกคุณคงคิดมาดีแล้ว ผมจะไม่ถามอะไร แต่ยังไงเ้าหน้าที่ของทางการก็จะมาสอบปากคำนะ"
"แล้วเ้านายเราล่ะ?"
"เดี๋ยวจะมีเ้าหน้าที่มาพาตัวไป"
"ไปไหน?"
"อาจจะถูกคุมตัวไว้ก่อน ถ้าหากมันไม่ได้มีอะไรร้ายแรง หรือให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ก็คงจะไม่มีปัญหาอะไรนะ คุณไม่ต้องกลัวไปก่อน"
"แน่ใจเหรอ?" ป๋ายเงยหน้าขึ้นมองเ้าหน้าที่คนนั้น
"คู่กรณีเป็พวกบ้าอำนาจหรือเปล่าล่ะ?"
"ก็ ใช่"
"อ่า ถ้างั้นก็อาจจะยากหน่อยนะ แต่เธอไม่ต้องกังวล เ้าหน้าที่ที่มาดูแลเื่นี้ไม่ใช่แค่เ้าหน้าที่ในเมือง เป็เ้าหน้าที่จากเมืองอื่นด้วย"
"พวกเขาจะใจดีเหรอ?"
"ก็ถ้าคุณบอกว่าคู่กรณีคุณบ้าอำนาจ อำนาจของมันอาจจะใช้ไม่ได้ทั้งหมดไงครับ เพราะเ้าหน้าที่จากเมืองอื่นเขาไม่ได้มาสนใจอยู่แล้ว ว่าคนในเมืองเราจะมีชื่อเสียงอะไรมาจากไหน พวกเขามาทำตามหน้าที่แล้วก็ไป เพราะฉะนั้นแค่ให้ความร่วมมือมาก ๆ แสดงความจริงใจเยอะ ๆ ก็ไม่มีอะไรต้องกลัวเลย"
"เราจะได้เจอเ้านายเราอีกไหม?"
"อันนี้ผมตอบไม่ได้นะครับ เพราะถึงแม้ว่าเ้าหน้าที่จะเข้าใจถึงเหตุผลของการกระทำทั้งหมดแล้ว แต่การทำผิดก็คือการทำผิดนะ พวกคุณอาจจะต้องได้รับบทลงโทษตามที่ต้องได้รับ"
"เรากับเ้านายเราจะต้องแยกกันเหรอ?"
"ถ้ามีเหตุผลมากพอก็คงต้องเป็แบบนั้นครับ แต่ตอนนี้ยังไม่ต้องกลัว คุณไปกับผมก่อน"
หลังจากที่ได้ยิน ป๋ายก็พยักหน้าทันที คนตัวเล็กเดินตามหลังเ้าหน้าที่ไป โดยที่ไม่หันกลับมามองบริเวณด้านในของบ้านแต่อย่างใด เพราะตกลงกันไว้แล้ว ว่าไม่อยากเห็นตอนที่อีกฝ่ายเดินออกไปจากบ้านหลังนี้ เ้าแมวตัวน้อยกระชับปลอกคอที่อยู่ตรงข้อมือและลูบสร้อยคอที่ใส่อยู่เป็ประจำ จากนั้นก็เดินขึ้นรถเ้าหน้าที่ไป
ส่วนทางด้านของกรีน หลังจากนั้นไม่นานก็มีเ้าหน้าที่มารับตัวไป ทางเ้าหน้าที่ไม่ได้ถามอะไรมาก เพียงแค่ยืนยันว่าเขาคือกรีน โนเอลหรือเปล่า แล้วพอรู้ว่าใช่ก็พาตัวออกมาจากบ้านทันที กรีนขอตัวปิดประตูบ้านก่อน และพอขึ้นรถมา ก็บอกกับเ้าหน้าที่ว่า รอให้ประตูรั้วของบ้านปิดให้สนิทก่อนได้ไหม ตัวเ้าหน้าที่เองก็เห็นว่ากรีนไม่ได้ขัดขืนอะไร ก็เลยยอมทำตามคำเรียกร้องไป และหลังจากที่ประตูรั้วปิดสนิทเรียบร้อยแล้ว เ้าหน้าที่ก็ออกรถทันที
พี่รอให้ประตูรั้วปิดก่อนแล้วค่อยออกจากบ้านเหมือนกับทุกทีแล้วนะตัวเล็ก บ้านเราปลอดภัยแน่นอน
ร้านเครื่องหอม Your Cart
"เ้าหน้าที่มาพาทั้งคู่ไปแล้วนะ" เวย์พูดขึ้นหลังจากที่มองกรีนและป๋ายผ่านกล้องวงจรปิดในมือถือที่กรีนให้ไว้
"มันก็เป็ไปตามแผนทุกอย่างนะ แต่ทำไมเกรซใจหายจัง" เกรซถอนหายใจพร้อมกับขมวดคิ้ว เวย์เองก็เดินโอบไหล่เกรซแล้วลูบเบา ๆ
"ที่เหลือก็เป็หน้าที่เราแล้วแหละ มาทำเพื่อกรีนกัน" เวย์พูดขึ้นมาและมองหน้าเกรซไปด้วย
ทางด้านมิเกลเอง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้สนิทกับทุกคนในร้านเครื่องหอมขนาดนั้น แต่การแวะเวียนไปไหนมาไหนอยู่บ่อย ๆ ใน่นี้ ก็ทำให้ได้เห็นถึงความสัมพันธ์ของทุกคนในร้าน ว่ามันอบอุ่นและดีมากแค่ไหน
กรีนและป๋ายเองก็ยอมและทำเพื่อกันและกันด้วยความรักจริง ๆ ใน่แรกที่ได้ยินเื่ราวของทั้งกรีนและป๋าย ตัวมิเกลเองก็รู้สึกเฉย ๆ กับความพยายามของทั้งคู่ เข้าใจเพียงแค่ว่าพอรักกันชอบกัน เลยอยากที่จะอยู่ด้วยกัน เพียงแค่นั้น แต่พอเข้ามาเห็นถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ก็รับรู้ได้ว่ามันมากกว่านั้น คำว่าเติมเต็มคงเป็คำที่เหมาะกับกรีนและป๋ายมากที่สุดแล้ว
เอาเป็ว่าเกลจะช่วยให้เต็มที่ที่สุดเลยนะ
สิ่งตอบแทนที่จะให้เกล เกลขอแค่ทั้งคู่ได้กลับมาอยู่ด้วยกัน แค่นั้นก็พอ
"อย่างที่บอก ว่าต่อไปสิ่งที่เราจะต้องทำก็คือปล่อยหลักฐานการเอารัดเอาเปรียบทั้งหมดที่บัตเลอร์ได้ทำ ให้ประชาชนทุกคนได้รู้เนื้อแท้ของมัน" มิเกลพูดสรุปออกมา
"ตอนนี้รอมันเคลื่อนไหวก่อนใช่ไหมครับ?" เวย์ถามขึ้น
"ใช่ครับ เกลว่าอีกไม่นานหรอก ตอนนี้มันคงวิ่งเต้นอยู่กับรัฐมนตรี เพราะว่าทางโครงการตรวจสุขภาพให้ความช่วยเหลือมันไม่ได้ ถ้าเป็ไปตามที่เราคิดไว้ ก็คือมันจะเสแสร้งออกมาว่าป๋ายหนีออกจากบ้าน รอสัญญาณว่าถ้ามันพูดแบบนั้นออกมาเมื่อไหร่ เราก็ปล่อยหลักฐานได้ทันทีเลย"
"โอเค งั้นตอนนี้คงทำได้แค่รอ แล้วเราสามารถไปเยี่ยมพี่กรีนกับป๋ายได้ไหมคะคุณมิเกล?" เกรซถามขึ้นมา
"เกลคิดว่าถ้าตอนนี้เลยอาจจะยังไม่ได้ ต้องรอให้ป๋ายตรวจสุขภาพทุกอย่างเสร็จหมดเรียบร้อยก่อน"
อย่างที่ว่า พอเ้าหน้าที่คุมตัวเ้าครึ่งทางตัวน้อยไปแล้ว เขาก็จะโดนตรวจสุขภาพ แน่นอนว่าผลการตรวจสุขภาพของป๋ายจะเป็ผลตรวจสุขภาพที่ดีแน่นอน เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่กรีนมองข้ามเื่อาหารการกิน สุขภาพร่างกาย และสุขภาพจิตใจของป๋าย ป๋ายได้ถูกเลี้ยงจากคนที่ใส่ใจเขามากจริง ๆ เพราะฉะนั้นคงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทำให้ผลการตรวจสุขภาพออกมาไม่ดี นอกเสียจากว่าจะมีคนเล่นไม่ซื่อ