“เ้าเอา...เ้าเอาโสมโบราณนับร้อยปีมารักษาฉี่เจ๋อหรือ?” ใบหน้าของอวี๋ฝูหลิงฉายแววซาบซึ้งระคนละอายใจ“ขอบใจเ้า...และขอโทษด้วย ภายหน้าข้าจะไม่พูดว่าเ้าไม่คู่ควรกับน้องชายของข้าแล้ว”
ในวันที่เดินตากฝนพรำลงเขานึกไม่ถึงว่าระหว่างทางอวี๋เจียวจะพบกับโสมโบราณอายุร้อยปีขณะอวี๋ฝูหลิงมองดูนางขุดโสมูเาแก่ออกมา นางทั้งนึกอิจฉาและริษยานางวิ่งขึ้นลงเขาชิงเหยียนเพื่อเก็บสมุนไพรไม่น้อยครั้งแต่กลับไม่เคยขุดเจอโสมูเาสักครั้ง ทว่าอวี๋เจียวเพิ่งจะขึ้นเขาครั้งแรกนึกไม่ถึงว่าจะโชคดีได้ขุดโสมูเาอายุนับร้อยปี
นางเคยไปขายสมุนไพรที่ร้านขายยาในตำบล รู้ว่าหากขายโสมอายุห้าสิบปีให้ร้านขายยาในตำบลจะได้ราคาสี่สิบตำลึงเงินแล้วจะนับประสาอะไรกับโสมูเาอายุมากกว่าร้อยปีนั่นถือเป็เงินจำนวนไม่น้อยทีเดียว
หลังจากกลับมาในหลายวันนี้อวี๋ฝูหลิงเห็นว่าอวี๋เจียวไม่นำโสมออกมาอีกทั้งยังไม่บอกผู้เฒ่าอวี๋ว่านางพบโสมอายุร้อยปีบนูเาอวี๋ฝูหลิงคิดว่านางจะแอบเก็บเอาไว้คนเดียว รอกระทั่งภายหน้าค่อยขายเอาเงินเพราะเห็นแก่ที่อวี๋เจียวจะช่วยรักษาร่างกายของอวี๋ฉี่เจ๋ออวี๋ฝูหลิงตั้งใจจะปิดบังช่วยนาง นางจึงไม่ได้เอ่ยถึงเื่โสมอายุร้อยปีเช่นกัน
ทั้งสองล้วนไม่เอ่ยสิ่งใด อวี๋เฉียวซานกับอวี๋จือหางล้วนไม่ใช่คนเื่มากทำให้ไม่มีผู้ใดปริปากเอ่ยถึง
ครั้นยามนี้เห็นว่าอวี๋เจียวเอาโสมอายุร้อยปีมาปรุงยาให้อวี๋ฉี่เจ๋ออวี๋ฝูหลิงรู้สึกละอายใจเพราะความคิดก่อนหน้านี้ของนางอย่างยิ่ง
อวี๋เจียวแย้มยิ้ม "ไม่เป็อะไร" เพราะนางก็ไม่ได้สนใจวาจาก่อนหน้านี้ของอวี๋ฝูหลิงแม้แต่นิดในสายตาของนาง อวี๋ฉี่เจ๋อเป็เพียงผู้ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับตนอีกทั้งนางก็ไม่ใช่เมิ่งอวี๋เจียว ไม่มีทางยอมเป็ภรรยาเสริมมงคลอะไรทำนองนั้นไม่ช้าก็เร็วจะต้องออกไปจากสกุลอวี๋แน่นอน
ครั้นต้มยาใกล้จะเสร็จ ด้านนอกเรือนสกุลอวี๋มีเสียงอึกทึกครึกโครมดังแว่วมามีคนในหมู่บ้านะโอยู่นอกประตูจวนว่า "ท่านหมออวี๋มีแขกผู้มีเกียรติมาเยือนจวนของท่านแล้ว! ยังไม่รีบออกมาต้อนรับอีก!"
ข้างนอกคึกคักยิ่งนัก อวี๋ฝูหลิงชะโงกหน้าออกไปนอกหน้าต่างแต่อวี๋เจียวไม่ได้อยากรู้อยากเห็นอะไร นางจดจ่ออยู่กับหมอต้มยาบนเตา
คนของครอบครัวสามสกุลอวี๋ได้ยินเสียงจึงรีบเปิดประตูอย่างอดใจรอไม่ไหวเมื่อเห็นรถม้านอกจวน อวี๋ฮั่นซานพลันจำได้ว่าเป็คนของสกุลมู่ สีหน้ายินดีปรีดาขณะเดียวกันต้อนรับคนเข้าประตูจวนอย่างกระตือรือร้นพลางส่งสายตาบอกให้สตรีแซ่จ้าวไปแจ้งท่านผู้เฒ่าให้รับทราบ
ชายวัยกลางคนสวมอาภรณ์สีน้ำเงินเดินลงมาจากรถม้าไม่นานมู่เหยี่ยนลงจากรถม้าเช่นกันแตกต่างจากท่าทีเย่อหยิ่งเช่นเมื่อครั้งเยือนสกุลอวี๋ก่อนหน้านี้เพราะครั้งนี้มู่เหยี่ยนลงจากรถม้าั้แ่นอกประตูจวนสกุลอวี๋
อวี๋ฮั่นซานเดินเข้ามา มู่เหยี่ยนแย้มยิ้มพลางพยักหน้าให้เขา
"นายท่านมู่ เชิญท่านรีบเข้าไปข้างในเถิดขอรับ"อวี๋ฮั่นซานเห็นสีหน้าอ่อนโยนของมู่เหยี่ยนจึงรู้ทันทีว่าเทียบยาของเมิ่งอวี๋เจียวได้ผลคนผู้นี้ไม่ได้มาสร้างปัญหา จะต้องมาจ่ายเงินค่ารักษาอย่างแน่นอน
มู่เหยี่ยนเหลือบมองบ่าวรับใช้ของตนบ่าวรับใช้ผู้นั้นรีบให้บ่าวรับใช้สองคนที่เดินตามมาขนสิ่งของในรถม้าลงมา
ผ้าฝ้ายสองผืน ผ้าดิ้นเงินดิ้นทองอีกหนึ่งผืนนอกจากนั้นยังมีกล่องไม้ที่มองไม่เห็นว่าข้างในคืออะไร
อวี๋ฮั่นซานจ้องเขม็งไปยังสิ่งของที่อยู่ในมือของบ่าวรับใช้สกุลมู่ดวงตาทั้งสองเป็ประกาย รอยยิ้มบนใบหน้าฉายแววประจบสอพลอยิ่งขึ้นเขาเดินมาอยู่ข้างกายมู่หยี่ยนเพื่อแทนที่ตำแหน่งบ่าวรับใช้สกุลมู่จากนั้นค้อมกายประคองมู่เหยี่ยนเดินเข้าลานเรือน
มู่เหยี่ยนชำเลืองมองอวี๋ฮั่นซานครู่หนึ่งแต่ไม่ได้สะบัดมือของเขาออกชายวัยกลางคนสวมอาภรณ์ตัวยาวสีน้ำเงินที่ยืนอยู่ด้านข้างก็เดินตามหลังมู่เหยี่ยนเข้าไปในประตูจวนสกุลอวี๋เช่นกัน
อวี๋หรูไห่ทราบเื่ก็รีบออกมาต้อนรับในลานเรือนไม่ว่าจะพยายามอย่างไรก็ไม่อาจหุบรอยยิ้มบนใบหน้าลงได้
“ท่านหมออวี๋” เมื่อเทียบกับอารมณ์แปรปรวนในครั้งก่อนครั้งนี้กลับเป็มิตรยิ่งนัก
“นายท่านมู่ เชิญข้างใน”อวี๋หรูไห่แย้มยิ้มขณะเชื้อเชิญผู้อื่นเข้าไปในห้องโถง
หลังจากพวกเขาไม่กี่คนนั่งลงมู่เหยี่ยนแนะนำบุรุษวัยกลางคนผู้สวมอาภรณ์ตัวยาวสีน้ำเงิน“นี่คือท่านหมอเจียงจากสำนักหุยชุนในตำบล”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้