เปลวเพลิงสีทองลุกโชนในฝ่ามือ ต่อให้เป็ราชันนักปรุงยาผู้สูงส่งในชาติก่อน แต่ถังเหล่ยก็ไม่เคยัักับเพลิงัเช่นนี้มาก่อน
เมื่อถังเหล่ยมองเปลวเพลิงสีทองที่มีกลิ่นอายสูงส่งนี้บนฝ่ามือ ดวงตาของเขาก็เผยความยินดี ถึงจะไม่รู้ว่าเปลวเพลิงสีทองนี้มีระดับเท่าไร? แต่เขารู้ว่าต้องมีระดับสูงกว่าเพลิงโอสถของเขาในชาติที่แล้วแน่
แค่มองจากพลังงานที่เก็บซ่อนเปลวเพลิงนี้ได้อย่างดีก็รู้แล้ว!
เปลวเพลิงสีทองในฝ่ามือลุกโชนอยู่เงียบๆ แต่ถังเหล่ยก็ไม่ได้รู้สึกร้อนที่ฝ่ามือ แสดงว่าเปลวเพลิงนี้เก็บพลังได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ได้รั่วไหลออกมาแม้แต่น้อย
ตำนานกล่าวไว้ว่าเพลิงัสามารถหลอมรวมทุกสรรพสิ่งได้ เปลวเพลิงระดับสูงเช่นนี้เอามาปรุงยาน่าจะเป็แค่เื่เล็กน้อย
ถังเหล่ยงอนิ้วทั้งห้าเข้าหากันเล็กน้อยคล้ายถ้วยใบหนึ่ง จากนั้นก็ใช้มืออีกข้างโยนหญ้าพันใบลงไปในเปลวเพลิง นี่มันช่างเรียบง่ายนัก เพราะเขาสามารถใช้ฝ่ามือที่มีเปลวเพลิงนั้นแทนหม้อปรุงยาใบหนึ่งได้เลย
หญ้าพันใบสีเขียวขจีที่เพิ่งัักับเปลวเพลิงสีทองพลันแห้งเหี่ยวด้วยความเร็วที่มองเห็นด้วยตาเปล่า ถังเหล่ยคิดไม่ถึงว่าเปลวเพลิงสีทองจะเก่งกาจขนาดนี้ เขารีบเอาหญ้าพันใบที่กลายเป็ผงไปไว้อีกมือหนึ่ง
“เปลวเพลิงสีทองนี้เก่งกาจยิ่งกว่าเพลิงโอสถของข้าเมื่อชาติที่แล้วอีก นี่มันิญญายุทธ์ระดับไหนกันแน่!?”
ชาติที่แล้วถังเหล่ยทำให้ิญญายุทธ์เพลิงโอสถในร่างกายเพิ่มระดับถึงระดับนภาเพื่อที่จะปรุงยาให้ดีขึ้น แต่ขณะนี้ตัวเขาที่เพิ่งปลุกิญญายุทธ์ได้ พลังของเพลิงสีทองดูจะทรงพลังกว่าเพลิงโอสถระดับนภาในชาติก่อนเสียอีก
เมื่อเป็เช่นนี้ มันทำให้ถังเหล่ยสงสัยิญญายุทธ์ที่อยู่ในร่างขึ้นไปอีก
แต่ตอนนี้หาใช่เวลามาสนเื่พวกนั้น ถังเหล่ยทำตามวิธีเดิม เอาวัตถุดิบอีกสี่ชิ้นที่เหลือบดเป็ผง แล้วเหลือเพียงผลเหมันต์ิญญาผลเดียว
ผลเหมันต์ิญญานี้มีไว้เพื่อควบรวมยาสมุนไพร และรักษาแก่นอสูรภายใต้ความร้อนสูง
แก่นอสูรคืออัญมณีที่อยู่ในร่างของสัตว์อสูร ด้านในของมันแฝงด้วยพลังิญญาฟ้าดินที่บริสุทธิ์มาก น่าเสียดายที่สัตว์อสูรมีนิสัยดุร้าย ในแก่นอสูรจึงไม่เพียงแฝงด้วยปราณโลหิตต่างๆ แต่ยังมีกลิ่นอายสับสนต่างๆ อีกด้วย ถ้าให้ผู้ฝึกตนหลอมกลั่นโดยตรง ธาตุไฟคงเข้าไปแทรกจนแก่นอสูรเสียหาย
แต่นักปรุงยาจะใช้พลังิญญาฟ้าดินในแก่นอสูร ร่วมกับวัตถุดิบต่างๆ ควบรวมเป็ยาที่มีความสามารถแตกต่างกันออกไป
ขณะที่กำลังปรุงยา ก็ต้องหลอมกลั่นแก่นอสูรไปด้วย ต้องทำให้กลิ่นอายสับสนในแก่นอสูรถูกขจัดออกไปให้มากที่สุด
นี่ถือเป็ขั้นตอนสำคัญที่สุดในการทดสอบความสามารถของนักปรุงยา ยิ่งเป็สัตว์อสูรที่ทรงพลัง แก่นอสูรในร่างกายก็ยิ่งหลอมกลั่นยากมากขึ้น ดังนั้นทั้งโลกตงฮวง จึงมีแค่ถังเหล่ยคนเดียวที่เป็ราชันนักปรุงยาระดับหก
เมื่อถังเหล่ยรู้ถึงความเก่งกาจของเพลิงสีทอง จึงเอาแก่นอสูรระดับสองออกมาด้วยความรอบคอบ เขามีแก่นอสูรเพียงเม็ดเดียว ต้องห้ามผิดพลาดเด็ดขาด
“ฟู่วๆ...”
เมื่อแก่นอสูรััเปลวเพลิงสีทองก็มีพลังสีแดงเืหลายสายปรากฏออกมาทันที นี่คือปรากฏการณ์ปกติที่แสดงว่าสิ่งแปลกปลอมในแก่นอสูรถูกหลอมกลั่นออกมา
ถังเหล่ยค่อยๆ ปรับองศาแก่นอสูรอย่างระแวดระวัง พยายามรักษาให้อยู่ในขอบเขตที่ปลอดภัย
เวลาค่อยๆ ไหลผ่านไป บนหน้าผากของถังเหล่ยเริ่มมีเหงื่อซึมออกมา พลังของเขาในตอนนี้ยังอ่อนแอเกินไป การรักษาจิตให้จดจ่อเป็เวลานานเช่นนี้ยากลำบากมาก
แต่แก่นอสูรก็เริ่มโปร่งใสมากขึ้น แสดงว่ามันกำลังบริสุทธิ์มากขึ้นเช่นกัน
“เอ๊ะ...นี่เป็ไปได้เยี่ยงไร!”
เมื่อผ่านไปครู่หนึ่ง กลิ่นอายในแก่นอสูรก็ถูกหลอมกลั่นไปได้เจ็ดแปดส่วนที่สามารถเอามาใช้ปรุงยาได้แล้ว แต่ถังเหล่ยกลับพบว่ากลิ่นอายในแก่นอสูรยังคงหายไปอย่างต่อเนื่อง
นี่อยู่นอกเหนือความเข้าใจของถังเหล่ยอย่างสิ้นเชิง แก่นอสูรถึงอย่างไรก็กำเนิดในร่างของสัตว์อสูร ไม่มีทางขจัดกลิ่นอายในนั้นให้ออกไปได้สมบูรณ์
ต่อให้เป็ถังเหล่ยชาติที่แล้ว ก็เป็ไปไม่ได้ที่จะขจัดกลิ่นอายในแก่นอสูรระดับหนึ่งออกไปได้หมด
แต่ยามนี้ภายใต้การหลอมกลั่นของเพลิงสีทอง กลิ่นอายในแก่นอสูรระดับสองเม็ดนี้ยังคงอ่อนลงเรื่อยๆ นี่แทบจะเป็อัญมณีโปร่งใสไปแล้ว
“หรือว่า...”
ถังเหล่ยนึกความคิดหนึ่งที่บ้ามากขึ้นมา เขารู้ดีว่าความคิดของเขาบ้าแค่ไหน แต่หากเป็เื่จริง เช่นนั้นเขาจะประสบความสำเร็จอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ตอนนี้แก่นอสูรสามารถใช้ปรุงยาได้แล้ว แต่ถังเหล่ยยังไม่หยุดความคิดที่นึกขึ้น เขายังคงใช้เปลวเพลิงสีทองหลอมกลั่นแก่นอสูรไปต่อ
จนมองเห็นกลิ่นอายที่ลอยออกมาได้ แต่ยิ่งนานเท่าใด กลิ่นอายก็ยิ่งอ่อนลงเรื่อยๆ จนถึงขั้นที่ไม่อาจสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า
แต่ในฐานะที่เป็นักปรุงยาระดับหก ประสบการณ์ได้บอกกับถังเหล่ยว่ากลิ่นอายในแก่นอสูรยังถูกขจัดออกไปไม่หมด ในนั้นยังคงเหลือกลิ่นอายสับสนของสัตว์อสูรอยู่เสี้ยวหนึ่ง
เวลาผ่านไปอีกครึ่งก้านธูป
แล้วแก่นอสูรก็กลายเป็อัญมณีโปร่งใสก้อนหนึ่ง ถังเหล่ยค่อยๆ ใช้มือซ้ายหยิบแก่นอสูรขึ้นมา
“ไม่ผิดแน่ เป็ความจริง มันทำได้จริงๆ!”
ใบหน้าของถังเหล่ยฉายแววบ้าระห่ำ ในเมื่อชาติก่อนเขาเป็ถึงราชันนักปรุงยาระดับหก แล้วมีเื่ใดที่คู่ควรให้ถังเหล่ยดีใจเช่นนั้นหรือ?
เหตุเพราะในแก่นอสูรที่โปร่งใสเม็ดนี้ไร้ซึ่งกลิ่นอายสัตว์อสูร หรือกล่าวอีกนัยคือในแก่นอสูรนี้เหลือไว้เพียงพลังิญญาฟ้าดินบริสุทธิ์เท่านั้น ถ้าถังเหล่ย้า ก็สามารถดูดซับแก่นอสูรระดับสองเม็ดนี้เข้าร่างกายโดยไร้ซึ่งผลกระทบด้านลบได้เลย มันคงช่วยเพิ่มพลังิญญาในร่างของเขาได้มาก
“ฮ่าๆๆ ศิลา์ แก่นอสูรที่ผ่านการหลอมกลั่นของข้าถึงกับสามารถดูดซับได้โดยตรงราวกับศิลา์!”
ถังเหล่ยกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ เขาไม่สนว่าด้านนอกยังมีหมาป่านภาหลายสิบตัวกำลังตามหาตัวเขาอยู่หรือไม่
ศิลา์คือศิลาที่ไปแฝงด้วยพลังิญญาฟ้าดินบริสุทธิ์ ปกติแล้วมีเพียงฝีมือระดับยอดยุทธ์ที่จะมีคุณสมบัติได้ัักับศิลา์
มันไม่เพียงช่วยให้ผู้ฝึกตนฝึกฝนได้อย่างรวดเร็วเท่านั้น มันยังทำให้ิญญายุทธ์แข็งกร้าวและเพิ่มพลังของผู้ฝึกตนขึ้นอย่างมหาศาล แต่ศิลา์นั้นมีน้อยนิด ทุกครั้งที่พบเหมืองศิลา์ ล้วนดึงดูดให้เกิดาระหว่างขั้วอำนาจต่างๆ
และตอนนี้ถังเหล่ยสามารถหลอมกลั่นแก่นอสูรจนมีความบริสุทธิ์เท่ากับศิลา์ได้ แบบนี้ก็เท่ากับว่าถังเหล่ยสามารถสร้างศิลา์ได้อย่างไม่ขาดสาย ถึงแม้พลังิญญาฟ้าดินที่แฝงอยู่ในแก่นอสูรจะเทียบกับศิลา์ไม่ได้ แต่เื่เช่นนี้ก็เพียงพอจะสั่นสะท้านทั่วใต้หล้าแล้ว
หากใช้วิธีนี้ละก็ ถังเหล่ยก็เพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว! เขามองแก่นอสูรเม็ดนี้ด้วยความเสียดาย แม้ว่าเขาอยากจะดูดซับมันมากเพียงใด แต่ก็คิดเก็บมันเอาไว้ปรุงยาถอนพิษให้ถังจงเวยดีกว่า
สิ่งที่ต้องทำต่อไปค่อนข้างง่าย ยาถอนพิษระดับสองสำหรับถังเหล่ยแล้วก็ไม่ต่างจากการใช้มีดโคฆ่าไส้เดือน
ต่อให้ใช้กระป๋องยาผุพัง ถังเหล่ยก็ปรุงยาถอนพิษออกมาได้อย่างราบรื่น เพียงแต่ตอนท้ายกระป๋องยาแบกรับความร้อนไม่ไหวจึงะเิขึ้นมา
ในตอนแรกถังเหล่ยก็กังวลอยู่บ้าง เพราะหูของหมาป่านภานั้นอ่อนไหวมาก หากหมาป่าหลายสิบตัวล้อมปากถ้ำเอาไว้ เขาคงทำได้เพียงขุดถ้ำหนี
ทว่าด้านนอกกลับไม่มีเสียง
ระวังตัวไว้ก่อนเป็เื่ดี ถังเหล่ยไม่ได้ออกไปทันที เขากำลังหลอมกลั่นแก่นอสูรระดับหนึ่งอยู่ในถ้ำ คราวนี้เวลาในการหลอมกลั่นสั้นลงมาก หลังจากทำสำเร็จ เขานึกทนไม่ไหว จึงดูดซับแก่นอสูรโปร่งใสเข้าไปในร่าง
“เป็อย่างที่คิด!”
แก่นอสูรในมือถังเหล่ยแตกสลาย มีแค่พลังิญญาที่แฝงในนั้นไหลเข้าไปในร่างของถังเหล่ย
“ความรู้สึกเช่นนี้สบายยิ่งนัก!”
ถังเหล่ยโคจรปราณแท้ พลังสีทองในร่างดูดซับพลังิญญาสายนี้ไปจนหมด จากนั้นจึงส่งพลังกลับไปให้ร่างกายของเขาทันที
“ระดับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นที่แปด!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้