ภายในบ้านตระกูลเซี่ย หวางลี่ลี่มองบุตรสาวที่อาละวาดจนเหนื่อยและหลับไปด้วยสายตาอ่อนล้า
เดิมทีเธอคิดว่า แม้ชายหัวล้านคนนั้นจะมารู้ตอนหลังว่าเซี่ยอวิ๋นสติไม่ดีแล้วเอาตัวมาคืนก็ไม่เป็ไร เธอยังสามารถหาคนอื่นมาแต่งงานกับบุตรสาวของเธอได้อีก
การยกบุตรสาวให้แต่งงานกับคนไปเรื่อย เพื่อแลกกับสินสอดให้เธอไว้ใช้จ่ายก็ไม่เลวเช่นกัน ใครใช้ให้เซี่ยอวิ๋นดูแลบุตรชายสุดที่รักของเธอไม่ดีจนทำให้ต้องตายจากไปก่อนวัยอันควรกันล่ะ
ไม่กี่วันก่อน พี่ชายพาบุตรสาวมาส่งให้เธอได้พูดเอาไว้ว่า “ที่หมู่บ้านรู้เื่เซี่ยอวิ๋นแล้ว ตอนนี้ถึงยกให้เปล่าก็ไม่มีใครเอา สองแม่ลูกคู่นั้นไม่รู้จะทำอย่างไรเลยเอาตัวมาคืน”
ความจริงแล้วมีคนให้เงินพี่ชายหวางลี่ลี่เพื่อนำตัวเซี่ยอวิ๋นมาส่งคืนต่างหาก
เดิมทีเขาก็อยากทำตามเจตนาของน้องสาว หาคนอื่นมาแต่งงานกับเซี่ยอวิ๋นอีก แต่ในเมื่อมีคนจ้างวานมาพร้อมเงินจำนวนหนึ่ง เขาก็เลยทำตาม
ตอนนี้ในหมู่บ้านล้วนทราบเื่ที่เซี่ยอวิ๋นสติไม่ดีแล้ว ต่อให้หาผู้ชายที่จะมาแต่งงานด้วยใหม่ได้ ก็ไม่แน่ว่าจะให้สินสอดเยอะเท่าคนเก่า เมื่อเป็เช่นนี้พวกเขาก็คงได้เงินตอบแทนไม่คุ้มค่าเหนื่อย
หวางลี่ลี่เพิ่งนึกขึ้นได้จึงเอ่ยถาม “แล้วสินเดิมที่ฉันให้ไปล่ะ”
พี่ชายเธอถอนหายใจออกมาทีหนึ่ง “สองแม่ลูกคู่นั้นบอกว่าเอาไปซื้อของหมดแล้ว เงินไม่มีเหลือแล้ว”
หวางลี่ลี่นึกว่าคือเื่จริง ครั้งนี้เธอเสียเปรียบแล้ว แต่จะให้เอาบุตรสาวไปทิ้งข้างนอกแล้วปล่อยให้ใช้ชีวิตตามยถากรรมก็ไม่ได้
เธอยัง้าหน้าตาในสังคม ส่วนจะให้ฆ่าคนก็ทำไม่ลงอีกเช่นกัน หากบุตรสาวถูกผู้อื่นฆ่าตาย ให้เธอแกล้งร้องไห้เสียใจยังพอทำเนา
ในเมื่อไม่มีทางเลือกอื่น เช่นนั้นเธอคงต้องเลี้ยงดูบุตรสาวเอง แค่หาข้าวหาน้ำให้กิน ไม่ปล่อยให้อดตายก็พอแล้ว
เซี่ยอวิ๋นกลับมาครั้งนี้อาการคุ้มร้ายคุ้มดีเหมือนจะรุนแรงกว่าก่อนหน้ามาก
อาละวาดแต่ละทีจำใครไม่เคยได้ เธอเลยไม่รู้ว่าจะรับมืออย่างไร
คนในหมู่บ้านรู้เื่ที่เซี่ยอวิ๋นถูกสามีขอหย่าและโดนส่งตัวกลับมาที่บ้านเดิมแล้ว ทุกคนต่างพากันมาดูเพื่อสมน้ำหน้า
หวางลี่ลี่ไม่กล้าทำร้ายบุตรสาว เพราะหากใครจับสังเกตได้ ชื่อเสียงของเธอคงเสียหาย
วันเวลาเคลื่อนคล้อยผ่านไปวันแล้ววันเล่า อยู่มาวันหนึ่งหวางลี่ลี่ก็พบความผิดปกติ บุตรสาวเธอจะมีระดูในทุกปลายเดือน เดือนนี้ผ่าน่ปลายเดือนไปเจ็ดถึงแปดวันแล้ว ทว่าระดูของบุตรสาวกลับยังไม่มา
หลายวันที่ผ่านมาลืมคิดถึงเื่นี้ไปได้อย่างไร คงไม่ใช่ว่าบุตรสาวที่เสียสติของเธอกำลังตั้งครรภ์หรอกกระมัง
ตอนนี้เธอพอมีเงินติดมืออยู่บ้าง เลยให้หมอรักษาเท้าซึ่งเป็อาจารย์ของเซี่ยโม่มาจับชีพจรให้
หลังจากจับชีพจรเพื่อตรวจร่างกายขั้นต้น คุณหมอก็ยิ้มกว้างพร้อมกับกล่าวแสดงความยินดี “ยินดีด้วย เธอกำลังจะกลายเป็คุณยายแล้ว”
หวางลี่ลี่ลมแทบจับ การค้าขายครั้งนี้ขาดทุนพินาศย่อยยับ
เธอได้รับสินสอดมา แบ่งเป็สินเดิมให้บุตรสาวแปดสิบหยวน และเป็ค่าตอบแทนให้พี่สะใภ้สิบหยวน เหลือถึงเธอเบ็ดเสร็จแค่หนึ่งร้อยสิบหยวน แต่ตอนนี้ไหนจะต้องดูแลคนโต ต่อไปยังจะต้องมาดูแลเด็กอ่อนเพิ่มมาอีก ด้วยเงินจำนวนเท่านี้จะเพียงพอได้อย่างไร
เธอโมโหเป็ฟืนเป็ไฟ ทิ้งบุตรสาวไว้ที่บ้านแล้วออกเดินทางไปบ้านพี่ชายที่หมู่บ้านเฉินเจียโกวทันที
“พี่ พี่สะใภ้ ฉันไม่ยอมนะ ฉันจะไปหาไอ้หัวล้านกับแม่ของมัน”
พี่ชายทำหน้างุนงงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เื่อดีตบ้านสามีขอหย่าเซี่ยอวิ๋นผ่านมาตั้งหลายวันแล้ว เหตุใดน้องสาวตนเพิ่งจะมาโมโหเอาป่านนี้
“ลี่ลี่ ทำไมถึงเพิ่งจะมาเอาเื่ตอนนี้”
“พี่ ไม่ใช่ว่าฉันความรู้สึกช้า แต่เซี่ยอวิ๋นของฉันท้อง”
สองสามีภรรยาตระกูลหวางตาโตด้วยความตกตะลึง ทำไมถึงเกิดเื่แบบนี้ขึ้นได้
พี่สะใภ้ตบเขาดังฉาดก่อนจะเอ่ยว่า “น้องสาว เธออย่าเพิ่งร้อนใจไป หากบ้านตาหัวล้านนั่นรู้ว่าเซี่ยอวิ๋นท้องจะต้องมาเอาตัวกลับไปแน่”
ได้ยินดังนั้นหวางลี่ลี่รู้สึกมีความหวังขึ้นมาทันที ยุคนี้ใครบ้างไม่ให้ความสำคัญกับเื่สืบลูกหลาน อีกประการหนึ่งที่สำคัญคือ ลูกสาวเธอยังบริสุทธิ์ไร้มลทินในตอนที่แต่งออกไป
“พี่สะใภ้ ที่พี่พูดมาตรงกับใจฉันพอดี งั้นเดี๋ยวฉันไปด้วย”
“ได้”
ทั้งคู่เดินตรงไปที่บ้านของชายหัวล้าน
เมื่อไปถึงพบว่าทั้งแม่ทั้งลูกอยู่บ้านด้วยกันทั้งคู่ หวางลี่ลี่เปิดฉากปะทะคารมออกไปทันที “พวกแกนี่มันใจร้ายเหลือเกิน แต่งลูกสาวฉันไปแล้วแท้ๆ คิดอยากจะส่งคืนก็ให้คนเอามาคืนเลยงั้นเหรอ ลูกสาวฉันร้องห่มร้องไห้หาแต่สามีทุกวัน ตอนนี้ยังมาท้องอีก กินอะไรก็ไม่ค่อยได้ แล้วจะให้เธอมีชีวิตต่อไปยังไง”
สองแม่ลูกถูกอดีตสะใภ้อาละวาดใส่ทุกวัน ถึงได้ส่งตัวเซี่ยอวิ๋นคืนกลับไป แต่พอได้ยินว่าตั้งท้อง ทั้งคู่ต่างตาโตด้วยความใ
มารดาของชายหัวล้านเป็ฝ่ายได้สติขึ้นมาก่อน “นี่เธอไม่รู้เลยเหรอว่าลูกสาวเธอเป็ยังไง ยังมีหน้ามาเอาเื่ถึงบ้านฉันอีก อีกอย่างลูกสาวเธอท้องเกี่ยวอะไรกับลูกชายฉันด้วย”
หากต่อว่าเื่เซี่ยอวิ๋นสติไม่ดี เธอยังพอทนฟังได้เพราะมันคือเื่จริง แต่นี่ลูกสาวเธอแต่งให้ลูกชายอีกฝ่ายแล้ว เ้าหัวล้านทำลูกสาวเธอท้อง แต่กลับบอกว่าไม่มีอันใดเกี่ยวข้องกัน แล้วแบบนี้จะให้เธอทนไหวได้อย่างไร
“แกพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง ลูกสาวฉันบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์ถามลูกชายแกก็รู้ ตอนนี้เธอท้องได้เดือนกว่าแล้ว เด็กในท้องเป็ลูกของใคร ลูกชายแกย่อมรู้ดี” หวางลี่ลี่ชี้หน้าด่าสองแม่ลูกด้วยโทสะ
ชายหัวล้านออกอาการร้อนรน รีบเอ่ยกับมารดาตนว่า “แม่ เด็กในท้องเธอเป็ลูกผม”
ทว่าผู้เป็มารดากับถลึงตาใส่บุตรชาย “แกเงียบไปเลย ลืมไปแล้วเหรอว่าเธออาละวาดจนตอนนั้นบ้านเรามีสภาพยังไง”
ครั้นชายหัวล้านถูกมารดาพูดใส่เช่นนี้ก็ไม่กล้าหือไม่กล้าอือ
ผู้เป็มารดาหันไปเอ่ยกับหวางลี่ลี่อย่างคนใจจืดใจดำ “ไม่ว่าเธอจะพูดยังไงยังไงฉันก็ไม่เอาคืนแล้ว ส่วนลูกในท้องจะเป็ลูกของใครก็ไม่เกี่ยวอะไรกับบ้านฉัน”
หวางลี่ลี่ทั้งโมโหและร้อนใจ “พูดแบบนี้ได้ยังไง เด็กในท้องลูกสาวฉันเป็ลูกของลูกชายแกชัดๆ พูดแบบนี้ไม่กลัวฟ้าผ่าหรือยังไง หรืออยากให้วงศ์ตระกูลสิ้นสุดแค่นี้?”
ชายหัวล้านก้มหน้าด้วยความอับอาย เอาแต่เงียบปากไม่กล้าพูดอะไร
“ไม่ว่าเธอจะพูดยังไง ยังไงฉันก็ไม่รับกลับมาเด็ดขาด อยากให้ฉันรับกลับมาบอกเลยว่าฝันไปเถอะ หรือคิดจะอยากได้ค่าชดเชยจากพวกฉันก็อย่าหวังเลย พวกเราไม่มีทั้งเงินทั้งอาหาร เธอจะไปพูดยังไงก็เื่ของพวกเธอ” มารดาของชายหัวล้านยังคงยืนยันเสียงแข็ง
พี่สะใภ้ของหวางลี่ลี่เห็นอีกฝ่ายเอาแต่ไม่ยอมท่าเดียว ก็เลยลองใช้ไม้อ่อนดู “พี่ ถ้าเซี่ยอวิ๋นไม่ท้อง น้องสาวฉันก็คงไม่เป็เดือดเป็ร้อนถึงขนาดนี้ พี่ไม่คิดจะรับผิดชอบเลยเหรอ แล้วแบบนี้จะให้น้องสะใภ้กับลูกมีชีวิตต่อไปยังไง”
ทว่ามารดาชายหัวล้านกลับเอ่ยอย่างรังเกียจ “พวกเธอรีบกลับไปเถอะ อย่ามาอาละวาดที่นี่เลย ไม่ว่าจะเซี่ยอวิ๋นหรือลูกในท้องเธอก็ล้วนไม่เกี่ยวกับพวกฉันทั้งสิ้น”
หลายปีที่ผ่านมา หวางลี่ลี่คิดว่าตัวเองเป็คนที่มีความอดทนที่ดีมากคนหนึ่ง ค่อยๆ ฝึกเซี่ยฟู่กุ้ยจนยอมเชื่อฟัง ฝึกเซี่ยโม่จนกลายเป็คนรับใช้ส่วนตัวของเธอโดยยินยอมพร้อมใจ แถมยังกำราบเซี่ยเฉินเฟิงจนอยู่หมัด
แต่ไม่รู้ทำไมหลายเดือนมานี้ทุกสิ่งทุกอย่างกลับอยู่เหนือการควบคุมของเธอไปเสียหมด แม้แต่หญิงชราคนหนึ่งเธอก็ยังเอาไม่อยู่ ทำให้เธอสงสัยว่าตัวเองเป็อะไรไป ทำไมถึงได้ไร้ประโยชน์เช่นนี้
“ยายแก่ แกนี่มันไร้ความรับผิดชอบสิ้นดี งั้นก็รอวันที่วงศ์ตระกูลของพวกแกต้องจบสิ้นได้เลย!”
เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร จึงทำได้แค่พูดทิ้งท้ายอย่างอาฆาต ก่อนจะเดินกลับไปพร้อมกับพี่สะใภ้
หลังจากพวกหวางลี่ลี่กลับไปแล้ว ชายหัวล้านถามผู้เป็มารดาด้วยความไม่เข้าใจ “แม่ เด็กนั่นเป็เืเนื้อของพวกเรา ทำไมแม่ถึงได้พูดแบบนั้นออกไป”
“เ้าลูกโง่ ตอนนี้ไม่ว่าอย่างไรแกก็อย่าไปยอมรับเด็ดขาด รอให้เด็กเกิดมาก่อนแล้วค่อยว่ากัน ถ้าไม่พิการไม่เสียสติก็ค่อยรับกลับมา” ผู้เป็มารดาอธิบายให้ฟัง
ชายหัวล้านถึงค่อยเข้าใจเจตนาของมารดา ก่อนจะยกนิ้วโป้งให้อย่างนับถือ “ล้ำลึกนัก ทำให้พวกนั้นยอมเลี้ยงเด็กให้โดยที่พวกเราไม่ต้องเสียเงินสักหยวน แม่สุดยอดไปเลย”
หวางลี่ลี่ไม่มีวันนึกถึงแน่ว่า ตัวเองจะถูกสองแม่ลูกเล่นงาน ทั้งที่แล้วมาตัวเองเป็ฝ่ายล่าห่านป่ามาตลอด แต่วันนี้กลับต้องถูกห่านป่าจิกจนตาบอด[1]เสียได้
------------------------------
[1] เป็ฝ่ายล่าห่านป่ามาตลอด แต่วันนี้กลับต้องมาถูกห่านป่าจิกจนตาบอด หมายถึง ที่ผ่านมาคิดเล่นงานคนอื่นมาตลอด แต่วันหนึ่งกลับต้องโดนคนอื่นเล่นงาน
