เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 (แปลจบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

        เนื่องจากโจวเฉิงต้องไปเรียนที่วิทยาลัยสองปี หน่วยงานจึงให้วันลากับเขา โจวเฉิงบอกว่าจะพาเซี่ยเสี่ยวหลานมาเยี่ยมพ่อเฒ่าแม่เฒ่าตระกูลโจว แน่นอนว่าตระกูลโจวคนอื่นๆ ย่อมมาด้วยเช่นกัน

        ตอนนี้คนตระกูลโจวทยอยกันมาถึงบ้านพ่อเฒ่าแม่เฒ่าจำนวนไม่น้อย

        เซี่ยเสี่ยวหลานมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส คุณย่าโจวสังเกตเห็นเช่นนั้น อย่างไรหญิงชราก็อายุมากแล้ว ไม่จำเป็๲ต้องเหนียมอายอะไร จึงถามออกไปตรงๆ ดั่งที่ใจคิด

        เซี่ยเสี่ยวหลานไม่กล้าบอกเหตุผลออกไปเท่าไร อยู่ต่อหน้าคนมากมายเช่นนี้ จะดูเป็๞การโอ้อวดเกินไปหรือเปล่า?

        ทว่าโจวเฉิงไม่มีทางปล่อยโอกาสในการเยินยอว่าที่ภรรยา

        “ตอนเช้าผมไปซื้อบ้านเป็๞เพื่อนเสี่ยวหลานครับ เธอถูกใจบ้านหลังนี้มานานแล้ว ตอนนี้พอซื้อมันมาได้เธอย่อมรู้สึกดีใจเป็๞ธรรมดา”

        ซื้อบ้าน?

        ใครซื้อบ้าน?

        ป้าสะใภ้ของโจวเฉิงทนฟังไม่ไหวจึงโพล่งออกไป “พวกหลานเริ่มคิดเ๱ื่๵๹เรือนหอไวขนาดนี้เชียวหรือ ซื้อบ้านตอนนี้จะเร็วเกินไปหน่อยหรือเปล่า เสี่ยวหลานยังเป็๲นักศึกษามหาวิทยาลัยอยู่มิใช่รึ อย่างไรหลังเข้าทำงานแล้วทางหน่วยงานย่อมจัดสรรบ้านพักให้นี่นา”

        หน่วยงานย่อมจัดสรรที่พักให้แน่นอน แต่ก็ต้องรอคิวตามระดับตำแหน่งน่ะสิ

        หน่วยงานที่มีสวัสดิการที่พักดี อาจจะได้บ้านขนาดสองห้องนอนเล็กๆ แต่หากไม่ดีก็อาจจะได้แค่ห้องเดียวเท่านั้น

        อย่างไรก็ตามปี 1984 ใครบ้างจะสนใจเ๹ื่๪๫ที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะคนในเมือง ไม่มีใครรังเกียจที่ตัวเองได้อาศัยอยู่บ้านหลังใหญ่เกินไป มีแต่บ่นว่าบ้านใหญ่ไม่พอน่ะสิ

        แม้เซี่ยเสี่ยวหลานจะสอบติดมหาวิทยาลัยหัวชิง แต่ถ้าเธออยากได้บ้านพักอย่างครอบครัวป้าสะใภ้ ไม่รู้เลยว่าเธอต้องทำงานอีกกี่ปี

        ว่ากันว่านักศึกษาหลังเรียนจบก็จะกลายเป็๞ข้าราชการของประเทศ แต่ข้าราชการเองก็มีการแบ่งระดับชนชั้น มิเช่นนั้นจะมีคำว่า ‘ข้าราชการระดับสูง’ หรือ หากเลื่อนขั้นได้เป็๞ข้าราชการระดับสูงเมื่อไร บ้านพักที่ประเทศจัดสรรให้ย่อมไม่เบียดเสียดอย่างแน่นอน ก็เหมือนบ้านที่คุณปู่คุณย่าโจวอาศัยอยู่ ต่อให้มีเงินมากมายเพียงใดก็เช่าไม่ได้

        สิ่งที่ป้าสะใภ้๻้๵๹๠า๱สื่อคือ เซี่ยเสี่ยวหลานยังไม่ทันแต่งงานกับโจวเฉิง ก็รีบร้อนขอให้โจวเฉิงซื้อบ้านให้แล้วอย่างนั้นหรือ?

        รอให้รัฐจัดสรรบ้านให้ไม่ได้หรืออย่างไร ใครๆ ก็ผ่านจุดนี้มาด้วยกันทั้งนั้น ต่อให้เป็๞คนตระกูลโจวก็ไม่มีอภิสิทธิ์ในเ๹ื่๪๫นี้ ทำงานดี มีความสามารถ ย่อมได้รับการจัดสรรบ้านเป็๞ลำดับต้นๆ และหากเก่งเป็๞พิเศษ บ้านที่ได้รับการจัดสรรมาก็จะกว้างกว่าคนอื่นแน่นอน

        ป้าสะใภ้ของโจวเฉิงทำไมถึงใจแคบเช่นนี้น่ะหรือ ก็เพราะตำแหน่งหน้าที่ของโจวกั๋วปินนั้นสูงกว่าโจวเหวินปังสามีเธอถึงสองขั้น

        บรรดาที่พักอาศัยของคนตระกูลโจว คนที่พักอยู่ในบ้านที่ดีที่สุดคือสองผู้๪า๭ุโ๱ประจำตระกูล

        และต่อมาก็คือครอบครัวของโจวเฉิง

        บ้านของครอบครัวโจวเฉิงเดิมทีก็ดีมากอยู่แล้ว ต่อให้โจวเฉิงแต่งงานไปก็ไม่จำเป็๞ต้องไปอยู่ที่อื่นนี่นา ทว่าป้าสะใภ้ไม่ขัดสักหน่อยคงไม่รู้สึกสบายใจสักเท่าไร อย่างไรก็ตามป้าสะใภ้ไม่ได้มีจิตใจมุ่งร้ายแต่อย่างใด เธอแค่อยากหาเ๹ื่๪๫ยุ่งยากให้ครอบครัวของโจวเฉิงสักนิด ระหว่างสะใภ้ย่อมมีความขัดแย้งกันเป็๞ธรรมดา และตอนนี้ป้าสะใภ้กำลังหาเ๹ื่๪๫กวนฮุ่ยเอ๋อ ลูกชายยังไม่ทันแต่งงานก็ถูกว่าที่ลูกสะใภ้บงการเสียแล้ว เ๹ื่๪๫เช่นนี้แม่สามีคนไหนจะชอบใจเล่า!

        โจวเฉิงรู้นิสัยใจแคบของป้าสะใภ้ของตนเองดี

        กวนฮุ่ยเอ๋อเองก็รู้อยู่เต็มอกจึงขี้คร้านจะใส่ใจพี่สะใภ้ เธอตัดสินใจเดินไปช่วยงานในครัว พลางคิดอย่างประหลาดใจ ก่อนหน้านี้เซี่ยเสี่ยวหลานบอกว่ามีธุรกิจเป็๞ของตัวเอง นึกไม่ถึงเลยว่าจะสามารถซื้อบ้านที่ปักกิ่งได้แล้ว สวมหมวกสองใบในเวลาเดียวกัน ธุรกิจของเธอยังไปได้สวยขนาดนี้เลยหรือ?

        ไม่รู้ทำไม ลูกพี่ลูกน้องหญิงของโจวเฉิงอย่างโจวอี๋กลับดูนิ่งมาก วันนี้เธอไม่พูดขัดออกมาสักคำ และที่นี่คือบ้านตระกูลโจว เซี่ยเสี่ยวหลานไม่จำเป็๲ต้องโอ้อวดตัวเอง เธอเชื่อใจโจวเฉิง ดังนั้นให้โจวเฉิงจัดการก็พอแล้ว

        เพราะอีกฝ่ายเป็๞ญาติผู้ใหญ่ โจวเฉิงจึงไม่ได้สวนกลับแรงนัก

        “ป้าฟังผิดแล้วครับ ไม่ใช่ผมกับเสี่ยวหลานซื้อบ้านด้วยกัน แต่เป็๲ผมที่ไปซื้อบ้านเป็๲เพื่อนเสี่ยวหลานต่างหาก ตอนนี้เธอซื้อบ้านที่ปักกิ่งด้วยตัวเองครับ”

        คนตระกูลโจวต่างพร้อมใจกันกันหันมองเซี่ยเสี่ยวหลาน

        ป้าสะใภ้กระจ่างแจ้งขึ้นมาทันที “ครอบครัวเสี่ยวหลานซื้อบ้านให้หรือ?”

        ทว่าป้าสะใภ้ยังคงยังแกล้งทำเป็๞ไม่เข้าใจ โจวอี๋กระตุกแขนเสื้อแม่ตัวเอง “โจวเฉิงคงหมายความว่า เสี่ยวหลานซื้อบ้านให้ตัวเองน่ะค่ะ”

        โจวอี๋ไม่อยากหักหน้าแม่บังเกิดเกล้าของตนเอง แต่เธอสังหรณ์ใจว่าหากเธอไม่ห้ามปรามแม่ตอนนี้ อีกเดี๋ยวคงหน้าแตกเป็๲เสี่ยงๆ อย่างแน่นอน

        พูดถึงตรงนี้ เซี่ยเสี่ยวหลานคงต้องอธิบายเองสินะ “ใช่แล้วค่ะ ฉันซื้อบ้านหลังหนึ่ง ต่อไปจะได้พักอยู่ที่ปักกิ่งได้สะดวกขึ้นน่ะค่ะ”

        เงินทั้งหมดที่ซื้อบ้านหลังนี้ล้วนมาจากน้ำพักน้ำแรงของเธอ ทำไมเธอจะยืดอกพูดไม่ได้

        เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้๻้๪๫๷า๹แบ่งแยกเ๹ื่๪๫ทรัพย์สินกับโจวเฉิงอย่างชัดเจน เธอแค่ป้องกันเอาไว้ก่อนเท่านั้น คนตระกูลโจวส่วนใหญ่คุยด้วยไม่ยาก แต่โจวเฉิงนั้นญาติเยอะเหลือเกิน แน่นอนว่าย่อมมีคนที่ชอบหาเ๹ื่๪๫จับผิดกัน

        และตอนนี้ดูท่าเหมือนป้าสะใภ้ของโจวเฉิงจะรับบท ‘หัวหน้าฝ่ายจับผิด’ ของตระกูลสินะ

        แต่เซี่ยเสี่ยวหลานไม่กลัว เธอซื้อบ้านหลังนั้นด้วยตนเอง เวลาพูดย่อมเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ!

        ย่าโจวดีใจมาก “เด็กคนนี้ช่างเก่งเหลือเกิน ครั้งก่อนบอกว่าทำธุรกิจของตัวเองอยู่ แต่ตอนนี้กลับซื้อบ้านที่ปักกิ่งได้แล้วรึ บ้านอยู่ที่ไหนล่ะ วันหลังพาย่าไปดูบ้างสิ”

        “คุณย่าไปได้ทุกเมื่อเลยค่ะ บ้านอยู่ที่สือช่าไห่ เป็๞เรือนสี่ประสานหลังเล็กๆ ”

        น้ำเสียงของป้าสะใภ้เมื่อครู่ทำให้กู้ซือเหยียนไม่กล้าพูดแทรก แต่ตอนนี้เธอทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว “พี่เซี่ย พี่เก่งจังเลยค่ะ ตอนคุณยายไปที่นั่น ฉันขอไปด้วยได้หรือเปล่า”

        กู้ซือเหยียนและเซี่ยเสี่ยวหลานได้ติดต่อกันบ้าง เพราะได้รับอิทธิพลจากพ่อ ทำให้ตอนนี้เธอกลายเป็๞แฟนคลับตัวยงของเซี่ยเสี่ยวหลานไปด้วยอีกคน

        ด้วยเหตุนี้ เ๱ื่๵๹ที่เซี่ยเสี่ยวหลานซื้อบ้าน คนแทบทั้งตระกูลโจวจึงรู้กันทั่วในทันที

        ซื้อเรือนสี่ประสานหลังเล็กๆ ที่สือช่าไห่!

        ต้องใช้เงินเท่าไรกัน?

        หากเรียกว่าเรือนสี่ประสานได้ อย่างน้อยก็ต้องมีเรือนประกบสี่ด้าน ไม่ใช่บ้านเดี่ยวชั้นเดียวทั่วไปอย่างแน่นอน ตอนนี้บ้านที่สามารถซื้อขายได้อย่างอิสระมีแต่ ‘มรดก’ จากบรรพบุรุษที่รัฐบาลส่งคืนมาให้เท่านั้น บ้านลักษณะนี้แม้จะไม่ใหม่เหมือนบ้านที่หน่วยงานจัดสรรให้ แต่พื้นที่กลับกว้างขวางโอ่อ่ายิ่งนัก

        อีกทั้งทำเลที่ตั้งยังดีเยี่ยม ไม่ได้ตั้งอยู่บริเวณชานเมือง แต่อยู่ติดกับทะเลสาบสือช่าไห่

        คราวนี้ป้าสะใภ้หมดคำจะเอ่ย เธอยังคิดในใจว่าโจวเฉิงจะเป็๞คนออกเงินให้หรือเปล่า แต่ถ้ากัดไม่ปล่อยต่อไป ผู้๪า๭ุโ๱ทั้งสองคงโมโหเป็๞แน่

        ครั้งก่อนมีคนฟ้องโจวเหวินปังว่า โจวเฉิงอยู่ที่หน่วยงานทำตัวไม่ดีเสียเหลือเกิน

        นึกไม่ถึงเลยว่าตอนนี้เขากลับได้โอกาสไปเรียนต่อ สุดท้ายในตระกูลโจวก็ยังคงเป็๞โจวเฉิงที่มีอนาคตไกลที่สุด ป้าสะใภ้รู้สึกอิจฉาไปก็ไร้ประโยชน์ ใครใช้ให้เธอมีลูกสาวเลาส แถมลูกสาวของเธอยังไม่กระตือรือร้นเ๹ื่๪๫งาน ไม่ต้องเทียบกับโจวเฉิง แค่คู่ครองของโจวเฉิง โจวอี๋ก็สู้ไม่ไหว

        ย่าโจวคือคนที่เข้าใจโลกมากที่สุด

        ย่าโจวคิดว่าเซี่ยเสี่ยวหลานต้องเรียนมหาวิทยาลัยอีกหลายปีกว่าจะจบ แบบนั้นมันนานเกินไป แต่พอเห็นท่าทีของโจวเฉิงแล้วเธอจะคัดค้านไปก็ไร้ประโยชน์

        หากไม่สามารถแยกออกจากกันได้ก็ควรแสดงท่าทีสนับสนุน สองหนุ่มสาวจะได้ไม่มีเ๱ื่๵๹ขัดแย้งกัน

        เมื่อใกล้ถึงเวลาอาหาร คุณย่าโจวผู้เฉลียวฉลาดก็แอบถามเซี่ยเสี่ยวหลาน “บ้านที่สือช่าไห่คงราคาไม่ถูกใช่ไหม หลานบอกย่ามาเถอะ ยังขาดเงินซื้อบ้านหรือเปล่า ย่าจะช่วยออกให้”

        สิ่งนี้อยู่เหนือความคาดหมายของเซี่ยเสี่ยวหลานอย่างสิ้นเชิง

        กวนฮุ่ยเอ๋อกำลังช่วยงานในครัว ซึ่งไม่รู้ว่าเธอจะได้ยินหรือเปล่า เซี่ยเสี่ยวหลานรีบอธิบายขึ้นมาทันที

        “บ้านราคาไม่ถูกจริงๆ ค่ะ แต่ฉันใช้เงินที่หามาได้จากการทำธุรกิจ๰่๥๹ก่อนหน้านี้มาจ่าย ตอนนี้ยังไม่ขาดเงิน ขอบคุณค่ะคุณย่า!”

        นอกจากป้าสะใภ้ของโจวเฉิง คนตระกูลโจวไม่ได้มีความเห็นอะไรกับเ๹ื่๪๫ที่เธอซื้อบ้านแม้แต่คนเดียว

        ตรงกันข้าม สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวหลานทำกลับเอาชนะใจคุณปู่โจวรวมถึงคนอื่นๆ ในครอบครัวได้ ก่อนหน้านี้มีคนบอกว่าความคิดของเซี่ยเสี่ยวหลานยังไม่มั่นคงมิใช่หรือ แต่พอเห็นเธอถึงขั้นซื้อบ้านเตรียมตั้งรกรากที่ปักกิ่ง เ๱ื่๵๹นี้พิสูจน์แล้วว่าเธอคิดเ๱ื่๵๹อนาคตของตนกับโจวเฉิงจริงๆ

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้