ใช่ว่าเ่ิูจะไม่เคยคิดอยากลองปลุกิญญาลักษณะอย่างอื่น ทว่าสุดท้ายก็ยอมแพ้ไปอยู่ดี
ต้องจ่ายราคาแพง ใช้เวลาก็นานไป ได้ไม่คุ้มเสียเป็แน่
เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้ว เขาก็ค่อยๆ ลุกขึ้นจากเบาะนั่ง เดินมาจนถึงหน้าบานหน้าต่าง
นอกหอคอยอาชาขาวนั้น หิมะขาวกำลังล่องลอยเคล้าคลอกับลมหนาวโหยหวน
อาณาเขตที่ด่านโยวเยี่ยนตั้งอยู่นี้ มีหิมะปกคลุมเป็จำนวนมาก อย่างน้อยในหนึ่งปีก็จะมีหน้าหนาวปาไปเสียครึ่ง แม้แต่จะหาทั้งอาณาจักรเสวี่ยก็ยังหาที่ที่หนาวยิ่งกว่าที่นี่ได้ยากมาก หากฝึกพลังปราณน้ำแข็งหนาวจริงๆ แล้วล่ะก็ ที่นี่แหละเหมาะสมที่สุด
เ่ิูเคยอ่านเจอวิธีและจังหวะของการปลุกิญญาจากหอสมุดคลังแสงของสำนักกวางขาวมาแล้ว
วิชายุทธ์นี้ สำหรับจอมยุทธ์ทั้งหมดทั้งมวลแล้ว หาใช่ความลับอันใดไม่
เมื่อความคิดนี้แลบแล่นขึ้นมา เ่ิูจึงค่อยๆ กางแขนออก
ปุยหิมะปุยหนึ่งตกบนฝ่ามือของเขาชั่วนาที
ความเย็นเล็กๆ จู่โจมเข้ามา
เทียบกับพลังของเ่ิูในตอนนี้แล้ว ต่อให้ยืนเปลือยก็ไม่กลัวความหนาวเหน็บ เมื่อพลังไต่เต้าได้ถึงอาณาเนื้อฟ้า บุกเบิกน้ำพุิญญาในโลกตันเถียนได้แล้วไซร้ จักเข้าถึงระดับที่ไฟน้ำไม่อาจกล้ำกราย เมื่อปุยหิมะตกต้องฝ่ามือเขา ชั่วพริบตากลับละลายหาย
“อยากจะปลุกิญญา ควบคุมปราณน้ำแข็งหนาว ต้องรับเอาความเย็นจากใต้หล้าเข้ามาในกายก่อน หลอมรวมประสานกับกำลังภายใน มีเพียงเช่นนี้เท่านั้น ที่จะทำให้มีพลังแห่งน้ำแข็งหนาวได้ พลังน้ำแข็งหนาวแข็งแกร่งมาก สมัยาว่ากันว่า ผู้แข็งแกร่งบางกลุ่มที่ฝึกฝนจนได้ปราณน้ำแข็งมา ปลดปล่อยพลังปราณออกไปเมื่อใดก็แช่แข็งได้ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่เหล็กกล้า แม้แต่เวลายังถูกแช่แข็งได้!”
เ่ิูนึกถึงคำพรรณนาในนิยายตำนานที่เขาเคยอ่านผ่านมา บอกเล่าเื่ราวของผู้แข็งแกร่งระดับตำนาน
กล่าวกันว่าสมัยานั้น มีผู้แข็งแกร่งเผ่ามนุษย์ระดับตำนานท่านหนึ่ง รับเอาพลังเย็นซึ่งมืดครึ้มแห่งใต้หล้าเข้าร่างกาย เป็ที่โจษจันว่าไร้ผู้ใดต่อกรได้ ฉายาว่าสามารถแช่แข็งเวลาและอากาศ กลายเป็เ้าผู้ไปชั่วระยะเวลาหนึ่งยุคเต็ม
เ่ิูเคยคาดคะเนมาก่อน ว่าการจะนำพลังน้ำแข็งหนาวอันบริสุทธิ์มาแช่แข็งเวลาได้นั้น มันช่างเหลวไหลสิ้นดี ที่ทำได้ก็คงไม่วายเป็เพราะผู้แข็งแกร่งในตำนานท่านนั้นเข้าถึงกฎเกณฑ์แห่งพลังน้ำแข็งหนาวได้อย่างรู้แจ้งเท่านั้น
ไม่ว่าจะเอ่ยอย่างไร ปราณสายน้ำแข็งล้วนคือทางเลือกที่เยี่ยมยุทธ์ทั้งสิ้น
“ฟู่”
เขาจมดิ่งสู่ห้วงสมาธิ ค่อยๆ สูดเอาอากาศหนาวเหน็บเข้าปอด
เ่ิูตัดสินใจลองสักครั้งตอนนี้
น้ำพุิญญายี่สิบตาเป็จุดเริ่มปลุกิญญาที่ใครๆ ก็ทราบกันดี ตอนนี้เขามีน้ำพุสิบห้าตา ควรจะลองไว้ก่อนดีที่สุด ครั้นไต่ระดับถึงน้ำพุิญญาที่ยี่สิบแล้วจะได้ไม่หลงทาง สั่งสมประสบการณ์ให้มากกว่า เพื่อปลุกิญญาให้สัมฤทธิ์ผล
เ่ิูลังเล ในตำนานนั้นบอกว่าเหล่าอัจฉริยะที่ปลุกิญญาสำเร็จตอนอยู่อาณาน้ำพุิญญายี่สิบตา มีความเป็ไปได้สูงมากที่จะเคยเตรียมตัวเตรียมใจมามากแล้ว
กระตุ้นกำลังภายใน ทั่วกายเข้าสู่สภาวะเบาสบาย
เ่ิูโคจรวิชาลมหายใจไร้ชื่อทางหนึ่ง อีกทางหนึ่งก็บงการร่างกาย ให้รูขุมขนทุกจุดบนผิวเนื้อเปิดออกโดยพร้อมเพรียง จากนั้นก็ผนึกปากและจมูกตัวเอง ให้ิัเป็ฝ่ายหายใจเอาอากาศแทน รูขุมขนทุกตารางนิ้วเปิดออกและปิดลงช้าๆ อย่างเห็นได้ด้วยตาเปล่า อกขึ้นๆ ลงๆ ยามดูดซับเอาพลังเย็นแห่งใต้หล้า
จอมยุทธ์อาณาน้ำพุิญญาสามารถหายใจได้โดยไม่ต้องพึ่งจมูกหรือปาก
สำหรับเื่ระดับการควบคุมส่วนเล็กส่วนน้อยของร่างกายนั้น ทุกกล้ามเนื้อและเนื้อหนังสามารถสับเปลี่ยนควาสามารถกันได้หมด เื่การหายใจก็มิใช่ข้อยกเว้น
ไอศักดิ์สิทธิ์ปกคลุมเรือนกาย
เ่ิูรู้สึกได้ชัดเจนนัก ว่าภายใต้สภาวะเช่นนี้ พลังเย็นแห่งใต้หล้ากำลังแล่นผ่านรูขุมขนเข้ามาทีละหยาดหยด รุกล้ำเข้าสู่ภายในร่างกาย
รวมกับพลังของเขาในตอนนี้แล้ว จึงรับรู้ถึงความเย็นเยียบเป็ริ้วๆ ได้อย่างรวดเร็ว
“ดูดเอาพลังเย็นเข้าร่างกาย นี่คือขั้นตอนแรก รอจนพลังเย็นสะสมจนถึงขั้นสุดที่ร่างกายจะรับไหว แล้วค่อยใช้พลังปราณภายในหุ้มเอาพลังเย็นเอาไว้ พาไปให้ทั่วชีพจรน้อยใหญ่ เปลี่ยนแปลงสภาพร่างกาย กระบวนการนี้ต้องระวังอย่างเข้มงวด อย่างไรก็ไล่พลังเย็นออกไปไม่ได้เด็ดขาด แล้วก็ห้ามให้มันทำร้ายร่างกายด้วย”
เ่ิูคิดวิธีการที่ในหนังสือแนะนำไว้ขึ้นมา จากนั้นจึงเริ่มดำเนินการ
หนังสือที่เขาเคยอ่านมาจากห้องสมุดคลังแสงของสำนักกวางขาว วิธีปลุกิญญาที่แนะนำเอาไว้นั้นล้วนเป็วิธีขั้นพื้นฐานและง่ายดายทั้งสิ้น เ่ิูเชื่อนัก ว่าในบรรดาครอบครัวชนชั้นสูงที่มีเส้นสายทั้งหลาย ต้องมีความลับในการปลุกิญญาที่อัศจรรย์ยิ่งกว่ามุ่งตรงสู่ปราณที่แตกต่างกัน แต่มีบางจุดที่ไม่อาจเถียงได้ในโลกแห่งวรยุทธ์ใบนี้ คือเื่ง่ายนั่นแหละยาก หลายครั้งหลายครานัก ที่วิธีเรียบง่ายจืดชืดเห็นได้ทั่วไป กลับกลายเป็วิธีกล้าแกร่ง ไร้ช่องโหว่ที่สุดในทั้งหมด
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจจะใช้วิธีธรรมดาที่สุดในการปลุกิญญา
่ของการควบคุมลมหายใจเป็ไปอยู่หนึ่งชั่วยามเต็ม
เ่ิูค่อยๆ ััได้ถึงความเย็นในร่างกายกำลังใกล้ถึงขีดจำกัด ร่างกายเสมือนว่าหนาวจนตัวแข็ง ร่างกายคล้ายจะใกล้เป็รูปปั้นน้ำแข็งเต็มที
นี่บ่งบอกว่าถึงขั้นถัดไปแล้ว
เขาค่อยๆ กระตุ้นกำลังภายในอย่างระมัดระวัง ห่อหุ้มเอาพลังเย็นดั่งหิมะและน้ำแข็งในกายเอาไว้ โลดแล่นไปทั่วชีพจรและจุดฝังเข็มทั่วทั้งตัว
กระบวนการนี้ ทรมานยิ่งยวด
เหมือนมีเข็มเหล็กหมื่นเล่มทิ่มแทงซ้ำๆ บนเืเนื้อและกระดูก
การฝึกวิชา คือ่เวลาอันแสนสาหัสมาั้แ่ไหนแต่ไร
เ่ิูกัดฟันแน่นนัก เขากระตุ้นกำลังภายในต่อไป
เด็กหนุ่มรู้ดีว่า่แรกของการปลุกิญญาต้องผ่านขั้นตอนอันทรมานนี้ไปให้ได้ก่อนเป็อย่างแรก ความเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็ตามเกี่ยวกับสภาพร่างกายของเขาต้องเป็เช่นนี้ รอจนร่างค่อยๆ ปรับจนเข้ากับพลังเย็นลมเหมันต์ ความรวดร้าวก็จะหายไป กลับกันจะกลายเป็ความรู้สึกเข้ากันได้ดีกับจิติญญา รอจนกำลังภายในโคจรครอบคลุมและชุ่มชื้นเมื่อใด ก็จักสามารถควบคุมพลังปราณน้ำแข็งได้แล้ว
อีกหนึ่งชั่วยามผ่านพ้นไป
เ่ิูเนื้อตัวมีแต่เหงื่อเย็นเป็ชั้นๆ
เม็ดเหงื่อเย็นเม็ดโตผุดออกมาจากหน้าผากเป็ว่าเล่น
อาภรณ์บนเรือนร่างเปียกเฉอะแฉะราวกับแช่น้ำ
การลองครั้งแรกเสร็จสิ้น พลังลมหิมะน้ำแข็งหนาวใช้ได้เจ็ดในสิบส่วนตอนโลดแล่นไปทั่วชีพจรและร่างกาย พอกระตุ้นกำลังภายในจึงไม่เจ็บเพียงนั้นอีกแล้ว
ฝ่ามือเ่ิูสำรอกเอาพลังภายในเป็ริ้วๆ ออกมา
พลังปราณอ่อนจางยามอยู่ใต้เปลวแสง นำพาไอหมอกหยาบกร้านและความเย็นเยียบมาน้อยๆ
“ลองปลุกิญญาครั้งแรกสำเร็จแล้ว”
เขาดีใจเป็อย่างมาก
หมอกเย็นในพลังปราณคือการเริ่มต้นที่ดียิ่ง
จากนี้ขอเพียงพยายามฝึกฝนต่อ เก็บเล็กผสมน้อย ไม่ช้าก็เร็วต้องมีสักวันที่สามารถควบคุมปราณน้ำแข็งได้เต็มรูปแบบ พอถึงเวลานั้นค่อยกระตุ้นกำลังภายใน กระหน่ำโจมตีทีเดียว ทุกอย่างจะกลายเป็น้ำแข็ง นั่นต่างหากคืออานุภาพแท้จริงของปราณน้ำแข็ง
นอกหน้าต่างนั้น ราตรียาวนานกำลังบรรเลง
ใต้ท้องฟ้าครอบพิภพ มีวายุหิมะไร้สุดขอบ
เ่ิูพักผ่อนครู่หนึ่งจึงเริ่มฝึกฝนต่อ
...
...
หลายวันต่อมา เ่ิูเอาแต่ฝึกอย่างคุ้มค่าทุกวินาที
ระหว่างนั้นเวินหว่านเข้ามาหอคอยอาชาขาวอยู่หลายครั้ง ทว่าก็ยังไม่ได้ข่าวของเย่ฉงอวิ๋น
ตามคำแนะนำของเวินหว่าน เ่ิูไม่มีคำอนุญาตจากคำสั่งของสำนักเ้าเมือง เลือกเอาทาสกระบี่อาชาขาวคนใหม่เข้ามาในค่ายทัพหน้า ตอนนี้ลมฝนยังไม่ผ่านพ้นไป ทุกอิทธิพลกำลังจับจ้องมองหอคอยอาชาขาว ไปหาคนเอาตอนนี้ น่ากลัวว่าจะมีคนที่จิตอกุศลชิงส่งหูส่งตามามองเข้าจนได้
เ่ิูยังไม่มั่นคงในด่านโยวเยี่ยน ยากจะวินิจฉัยอะไรได้
เวินหว่านเสนอว่าจะเลือกยอดฝีมือจากบรรดาทหารเกราะเงินใต้บัญชาเขาสิบนายมาคุ้มครอง แต่เ่ิูคิดแล้วก็ปฏิเสธ
เขาคะเนไว้ ว่าตนควรจะต้องอยู่ที่ด่านโยวเยี่ยนนี้ไปอีกนาน
รายชื่อของทาสกระบี่อาชาขาวมีได้เพียงสิบคน ทุกคนล้วนมีค่าสูงส่ง เ่ิู้าคัดเลือกด้วยตัวเอง นอกเหนือจากไป๋หย่วนสิงแล้ว อีกเก้าคนต้องจงรักภักดีและมีพร์ ต้องมีค่าน่าชุบเลี้ยง ภายหลังอาจได้เป็มือซ้ายมือขวาของเขา รับภาระแต่ละด้านไป
ดังนั้นตอนนี้ เ่ิูจึงตัดสินใจว่ามีช้าดีกว่ามีแบบชั้นเลว
เวลาผ่านไปทีละวันๆ
เวลาแห่งการออกศึกใกล้เข้ามาทุกทีๆ
เ่ิูนอกจากฝึกฝนแล้วก็เลือกอาวุธเหมาะมือจากบรรดาศาสตราวุธที่เ้านายของอาชาขาวรุ่นก่อนทิ้งไว้ให้ เพิ่มระดับความชินมือ ควรจะได้ใช้งานในสนามรบ และยังไปโรงยุทธ์ของกองทัพ เลือกเอาหนังสือเกี่ยวกับา กฎวรยุทธ์ในกองทัพ สถิติการรบของกองทัพด่านโยวเยี่ยน แผนที่ทุ่งน้ำแข็งทลายหิมะ ยุทธวิธีการรบของเผ่าปีศาจและหนังสืออีกหลายๆ ประเภท
รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง
เวินหว่านมาที่หอคอยอาชาขาวอย่างน้อยวันละครั้ง เขาจะตอบคำถามที่เ่ิูถามอย่างใจเย็น เขาบอกกล่าวประสบการณ์การศึกและากับเผ่าปีศาจทั้งหมดที่มีให้เ่ิูฟัง สาธยายหัวใจสำคัญแห่งการสู้รบของผู้แข็งแกร่ง ถ่ายทอดให้ได้รับรู้
พลังระดับอาณาน้ำพุิญญาสิบห้าตาในสำนักกวางขาวนั้น เป็ยอดฝีมือของยอดฝีมืออีกที ในด่านโยวเยี่ยนเองก็นับได้ว่ายืนหยัดได้อย่างมั่นคง ทว่าพออยู่ในสมรภูมิ มีดดาบฆ่าฟันไม่เลือกหน้า แม้แต่ยอดฝีมือน้ำพุิญญาที่ปลุกิญญาสำเร็จแล้วยังไม่วายสิ้นใจ หากโชคไม่ดี เมื่อสองฝ่ายปะทะกัน เ่ิูอาจตกอยู่ในอันตราย
เวินหว่านเป็กังวลกับาามารเย่เห็นได้ชัด
“ข้าจะลงเข้ายุทธการครั้งนี้ จะได้ดูแลเ้าได้” เวินหว่าน่หลังมานี้เอาแต่ยื่นคำร้องต่อฝ่ายบัญชาการของทัพหน้า ว่าอยากเข้าร่วมยุทธการเดินทัพวายุว่อง อย่างน้อยยังดูแลเ่ิูในสมรภูมิได้ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับ
เวลาลาลับไปท่ามกลางฟ้าที่โปรยปรายด้วยหิมะ
พริบตาเดียวเท่านั้น ก็เหลืออีกห้าวันก่อนดำเนินยุทธการ
จากกำหนดการก่อนหน้านี้ เ่ิูสามารถจุดประกายหยกคำสั่งทหารได้แล้ว
เขาเปิดหยกตามวิธีที่ท่านชายหลิวบอกมา ปลดผนึกหยก นำเอาจิติญญาเข้าไปภายใน ชั่วครู่เดียวก็รับรู้สิ่งที่จุมาในนั้น
ข้อมูลและรายงานจำนวนมากต้องรวบรวมให้เสร็จสิ้นก่อนยุทธการระดับกลางและใหญ่จะเริ่มต้น ต้องผ่านการใคร่ครวญซ้ำหลายครั้ง แผนการรบที่เป็ความลับสุดยอดครอบคลุมทั้งกำลังคน กำลังทรัพย์ กำลังสติปัญญาและกำลังวัตถุ มิใช่สิ่งที่ผู้นำจะคิดและตัดสินใจขึ้นมาได้ในเวลาชั่วแวบเดียว
ดังนั้นในหยกคำสั่งทหารนี้ถึงได้ระบุทุกอย่างไว้อย่างละเอียดยิบ
แน่นอนว่า ข่าวที่เ่ิูได้หยกมานี้ยังเป็แค่ส่วนหนึ่งของแผนการทั้งหมด...มีเพียงแม่ทัพระดับสูงมีอำนาจตัดสินใจเท่านั้นจึงจะได้อ่านแผนการทั้งหมด นายทัพระดับกลางลงไปได้แค่บางส่วนเท่านั้นเอง
เมื่ออ่านหยกคำสั่งจบแล้ว เ่ิูเงียบงันครู่หนึ่งจึงเริ่มเตรียมตัว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้