เพื่อจะได้ลูกธนูไล่ล่าที่มีความเร็วสูงมือปืนใช้ลูกธนูกลวงของมิตซูบิชิ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการบินเป็ 2.5 เท่าของคันธนูและลูกศรทั่วไป แต่พลังในการยิงทะลุลดลงไปมาก ระยะ 30เมตรเป็่ที่ทรงพลังที่สุดในการยิงธนูนักธนูโบราณสามารถยิงทะลุเกราะของอัศวินได้ในระยะนี้ แต่ ณตอนนี้มือสังหารเพิ่งจะยิงเข้าไปที่ Apple 10 ในอ้อมแขนของเสิ่นิ
แม้แรงยิงจะถูกลดทอนลงแต่ลูกธนูก็ยังคงทะลุเข้าไปในร่างและทิ้งรอยแผลรูปมิตซูบิชิไว้ที่หน้าอกของเสิ่นิตอนที่ดึงธนูออกมาจึงมีเืสดติดอยู่ด้วย
คานาโกะถูกเสิ่นิพาตัวไปที่ทางออกเธอยังตั้งสติไม่ได้และยังว้าวุ่นอยู่กับการที่เสิ่นิเอาตัวเข้ามาบังลูกธนูให้
ไม่รู้ว่าใครเป็คนเปิดเสียงสัญญาณเตือนไฟไหม้ทั่วทั้งอาคารสถานีโทรทัศน์เริ่มมีฝนตกหนักในตอนนี้มีการบันทึกเทปรายการมากกว่าหนึ่งโหล ถ่ายทอดรายการสดอีก 4 รายการ แล้วไหนจะยังพนักงานที่ทำงานอยู่ที่นี่อีกจำนวนคนที่อยู่ภายในใกล้เคียงกับ 2,000 คนที่เกิดเหตุวุ่นวายมากในขณะที่อพยพลงไปที่ชั้นล่าง
“เซี่ยวอี๋ คุณอยู่ที่ไหน?” ระหว่างทางเสิ่นิถามผ่านหูฟัง
“ฉันพาอาโออิและคนอื่นๆ ออกมาทางประตูหนีไฟ แล้วนายล่ะ ไม่เป็ไรใช่ไหม?”หลังจากผ่านประสบการณ์กับเสิ่นิมามากมายเซี่ยวอี๋ก็เรียนรู้ที่จะสงบสติอารมณ์
“ไม่เป็ไร ระวังตัวด้วย ไม่รู้ว่ามีนักฆ่าทั้งหมดกี่คน”เสิ่นิมาถึงทางหนีไฟแล้ว แต่เขายังไม่ได้เดินลงไป เขาให้คานาโกะไต่ขึ้นไปแทนฝูงชนกรีดร้องและกรูลงมาจากชั้นบน พอขึ้นไปได้สองชั้น เขาก็ให้คานาโกะกลับเข้าไปยังทางเดิน
ต่อให้เสิ่นิเป็พระเ้าเขาก็ไม่อาจหาตัวฆาตกรท่ามกลางฝูงชนอันวุ่นวายเช่นนี้ได้วิธีเดียวที่จะทำให้เขาหาเจอก็คือผละออกจากฝูงชน
“ทราบแล้ว นายระวังตัวด้วย ฉันช่วยอาโออิออกไปได้แล้วจะกลับมาช่วยนาย”
“ไม่ต้อง ผมจัดการเองได้” เสิ่นิทุบกล่องดับเพลิงข้างๆในระหว่างทางที่เดิน บอดี้การ์ดหนุ่มนำขวานดับเพลิงสีแดงออกมาจากกล่อง
เมื่อกลับไปยังห้องถ่ายทอดสดในเวลาเพียงแค่ 5 นาทีผู้คนก็ออกไปจากตัวอาคารกันหมด แม้แต่ประธานมิตสึโอกะเองก็ยังถูกเลขาพาหนีไปเลยมีเพียงเ้าโล้นไนติงเกลเท่านั้นที่ยืนอยู่กลางเวที 4 คนที่ยืนอยู่ขนาบข้างเขาคือนักฆ่าชั้นต้นในเครื่องแบบพร้อมรบชายหัวโล้นชูกำปั้นเหล็กคู่หนึ่งขึ้น คราบเืกระดำกระด่างบนแผ่นเหล็กนั้นไม่รู้ว่าไนติงเกลใช้หมัดเหล็กคู่นั้นสังหารมาแล้วกี่คน
“การล่าเริ่มขึ้นแล้ว! ทีมเทคนิค รายงานตำแหน่งของเหยื่อ”ไนติงเกลสวมถุงมือและหูฟังพลางมองย้อนกลับไปยังกลุ่มมือสังหาร
“พวกเขาอยู่ที่ชั้น 15” ภายในห้องรักษาความปลอดภัยนักฆ่าทั้งสี่ตามกันออกไปทีละคนอีกคนคอยรายงานและเฝ้าระวังอยู่ที่หน้าระบบกล้องวงจรปิด
เหตุผลที่พวกเขากล้าเล่นใหญ่ขนาดนี้นั่นเป็เพราะข้อมูลวิดีโอทั้งหมดจะถูกลบออกจากระบบ พยานทั้งหมดจะถูกฆ่าเพื่อการสอบเลื่อนขั้นแล้ว ขอลงแรงหน่อยจะเป็ไรไป
“ถ้าอย่างนั้นก็อย่าเสียงดัง ไปฆ่าพวกมันซะ”ไนติงเกลยิ้มแล้วเดินไปที่ประตูหลัง เขาพบสหายที่นอนจมกองเือยู่กับพื้น
“หัวหน้า ช่วยผมด้วย! ผมยังสู้ไหว” เ้ามือขวานหายใจอย่างกระหืดกระหอบ
“วางใจเถอะ ฉันจะจ่ายโบนัสให้แกงามๆ ส่วนเมียนาย ฉันก็จะช่วยพาเข้านอนให้ไปดีเถอะ!” ไนติงเกลนั่งลงต่อหน้าหมอนั่นและออกหมัดโดยที่ไม่มีการเตือนล่วงหน้าศีรษะของมือสังหารถูกะเิเป็โพรงเหมือนกับถูกลูกะุปืนใหญ่ยิงผนังด้านหลังศีรษะแทบจะจมลงไปในปล่องูเาไฟทรงกลม เืพุ่งใส่หน้าเขานักฆ่าชั้นต้นที่เหลือดูหวาดผวา ไม่มีใครกล้าแสดงความคิดเห็นใดๆ
พวกเขาเข้าใจถ้าอยากมีชีวิตอยู่ จะพลาดไม่ได้ หากพลาดขึ้นมาก็อย่าได้พบหน้ากับนักฆ่าเืเย็นไนติงเกลอีกเป็อันขาด...
อาจเป็เพราะเกิดแผ่นดินไหวอยู่บ่อยครั้งความตระหนักในการอพยพของผู้คนจึงเป็ที่ยอมรับในระดับโลกแม้แต่พลเมืองในตำนานที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ 9/11 ก็ยังต้องอับอายชาวญี่ปุ่นพวกเขาเรียนรู้วิธีการอพยพต่างๆ ั้แ่สมัยเรียนชั้นประถม มุดใต้โต๊ะความสามารถในการหาทางออกเปรียบได้กับหนูในร่างมนุษย์
ระหว่างที่เดินไปเดินมาอยู่บนชั้น15เสิ่นิก็ไม่เห็นคนที่หลงเหลืออยู่แล้วผู้คนออกไปจากอาคารอันว่างเปล่าอย่างมีประสิทธิภาพ ทันใดนั้นเขาก็พบช่องทางเดินช่องหนึ่ง เมื่อใช้ขวานผลักและเตรียมขึ้นไปที่ชั้นบนคานาโกะก็ถูกเรียกความสนใจด้วยเสียงร้องของเด็กสาวจากห้องข้างๆ
“มีเด็กอยู่!” หัวอกผู้เป็แม่อย่างคานาโกะเธอผลักประตูตรงหน้าโดยสัญชาตญาณ บนพื้นสำนักงานมีเด็กหญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งนั่งหันหลังให้ประตู เธอสวมชุดสีขาวที่เปียกโชกไปด้วยละอองฝน
“หนูน้อย มากับฉันเร็วเข้า!” คานาโกะยื่นมือออกไปแล้วเดินไปที่ประตู แต่ทันใดนั้นมือใหญ่ก็คว้าคอเสื้อของเธอไว้และเหวี่ยงไปที่ด้านหลังดาบซามูไรประกายแสงเกือบจะฟันลงกับฝ่ามือของคานาโกะถ้าเมื่อครู่เธอช้าไปแค่เพียงครึ่งวินาที มือของเธอคงจะหายไปแล้ว
“คราวหน้าอย่าเดินนำหน้าผมไปไหนนะ” เสิ่นิเตือนคานาโกะอย่างใจเย็นเขายกขวานดับเพลิงขึ้นแล้วรีบเข้าไปในห้อง
นักฆ่าที่ซ่อนตัวอยู่หลังบานประตูปิดประตูลงทันทีเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่แกล้งทำเป็ร้องไห้หันกลับมาและเช็ดหน้าเช็ดตาเผยให้เห็นใบหน้าของชายแคระอัปลักษณ์ ในมือของเขาถือมีดสั้นไว้
สามต่อหนึ่งในสำนักงานเล็กๆทันใดนั้น เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้นมา การต่อสู้เหมือนกับการรื้อบ้านเสียงของแตกทุกชนิด ดังอยู่เป็เวลา 20 วินาทีก่อนที่เสียงทั้งหมดจะหายไป เืสีแดงสดกระเซ็นออกมาราวกับสายฝนใต้รอยแยกของประตู
คานาโกะยืนอยู่กับที่ในสภาพที่เสียศูนย์เธอไม่กล้าผลักประตูไม้บานนั้นอีก
ประตูไม้เปิดเองจากด้านในเสิ่นิที่ตัวเปื้อนเืเดินออกมาพร้อมกับขวานดับเพลิงเขารอบคอบถึงขั้นปิดประตูไม้ด้วยหลังมือเพื่อไม่ให้คานาโกะเห็นมือสังหารทั้งสามที่มือและเท้าขาดจนสามารถเก็บไปฝันร้ายได้
“คุณ...โอเคไหม?” คุานาโกะถามด้วยความรู้สึกผิด
“มันไม่เคยดีไปกว่านี้แล้ว ไปกันเถอะ” เสิ่นิจูงคานาโกะอีกครั้งเขาพาเธอปีนขึ้นไปตรงทางหนีไฟ
ที่ชั้นล่างเซี่ยวอี๋พาอาโออิ โอบาตะ ทาเคชิและทีมงานไหลไปตามกระแสคนในที่สุดก็ออกมาพ้นตัวอาคารสถานีโทรทัศน์ พวกเขาเหลือเวลาแค่เพียงครึ่งนาทีก่อนที่ระบบป้องกันการโจรกรรมของอาคารจะถูกเปิดใช้งานแบบฉุกเฉินประตูเหล็กจะปิดกั้นทางเข้า-ออกทั้งหมดภายในพริบตาพนักงานหลายสิบคนที่วิ่งออกมาไม่ทันถูกขังอยู่ที่ด้านหลังประตูเหล็ก
อาคารสถานีโทรทัศน์เป็สถานที่ที่ล่อแหลมเนื่องจากสถานีเคยถูกโจมตีอย่างรุนแรงจากประชาชนหลายต่อหลายครั้งดังนั้นระบบป้องกันต่อต้านการจลาจลจึงถูกติดตั้งขึ้นมา เมื่อระบบทำงานหน้าต่างและทางเข้าทั้งหมดั้แ่ชั้นหนึ่งจนถึงชั้นหกจะถูกล็อกโดยสมบูรณ์
“เสิ่นิ! ทางออกถูกปิดหมดแล้ว!” เซี่ยวอี๋จับหูฟังแน่นและตะเบ็งเสียง
“คาดไว้อยู่แล้วล่ะ พวกมันเข้ายึดระบบรักษาความปลอดภัยของที่นี่การต่อสู้ครั้งใหญ่เช่นนี้เราจะรอดชีวิตออกไปได้อย่างไร? กฎของเกมนั้นง่ายมากถ้าฉันจะออกไปจากที่นี่ ฉันต้องชนะ” เสิ่นิไม่เคยคิดจะกำจัดนักฆ่าชั้นต้นทุกคนถ้าเขาคนเดียวเพียงลำพัง เขาก็อาจจะลองดูสักตั้ง แต่เมื่ออยู่กับคานาโกะความเสี่ยงนั้นสูงเกินไป
“ระวัง อย่าตายล่ะ” สิ่งที่เซี่ยวอี๋อยากบอกก็คือ ถ้ามันอันตรายเกินไปก็ทิ้งคานาโกะแล้วหนีออกมาก่อน แต่เมื่อคิดเช่นนั้นแล้ว ตัวเองก็ไร้เดียงสาเกินไปเมื่อมันเป็งาน เธอก็รู้อยู่แล้วว่าเขายอมทิ้งชีวิตตัวเองไว้เื้ันายจ้าง
ตลอดทางขึ้นเสิ่นิเผชิญหน้ากับการโจมตีอีกสองครั้งแต่พวกมันก็โดนเสิ่นิจัดการโดยเร็ว พวกมันเรียกกำลังเสริมก็เลยเข้าสู่สภาวะาอันยืดเยื้อ โดยพื้นฐานแล้วตราบใดที่ตกอยู่ในวงล้อมของนักเลง 4 คนเสิ่นิก็จะจัดการได้ภายในครั้งเดียว
เสิ่นิผู้สิ้นหวังเชือดนิ่มๆไปตลอดทางจนถึงชั้นบนสุด 6 ชั้นด้านล่างมีนักฆ่าประจำการอยู่เขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการจัดการกับกับดักต่างๆแต่เสิ่นิก็ไม่ได้ตั้งใจจะออกไปทางถนนธรรมดาอยู่แล้ว
ในแผนการอพยพของเขามีเพียงเส้นทางเดียวบนหลังคาของอาคาร 30 ชั้นซึ่งนั่นก็คือ “นั่งร้านด้านนอกหน้าต่าง” และนั่นเอง นอกจากเขาแล้วเ้าหัวโล้นไนติงเกลก็คิดเช่นเดียวกัน
บนลานกว้างเ้าหัวโล้นไนติงเกลที่สวมหมัดเหล็กนั่งรออยู่หน้านั่งร้านเขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวซึ่งปกคลุมไปด้วยจุดเืสีแดงสดถุงมือของเขายังคงมีเืหยดไหลลงพื้น เห็นได้ชัดว่าเขาเพิ่งจะจบชีวิตสหายที่พลาดไปหลายคน
“ช้ามาก...” ไนติงเกลถอนหายใจแล้วลุกขึ้นยืน
“ตำรวจและหน่วยดับเพลิงมาถึงแล้วพวกเขากำลังพยายามเปิดประตูป้องกันจากด้านนอก เรามีเวลาจำกัด ต้องรีบลงมือ”เมื่อไนติงเกลพูดจบ นักฆ่าชั้นต้นหลายสิบคนก็วิ่งออกมาจากทางออกพวกมันถืออาวุธหลายชนิดไว้ในมือมันมากพอที่จะตัดร่างกายของเสิ่นิให้เป็แปดท่อน
“1 ต่อ 1 แข่งกัน 5 นาทีผมสัญญาว่าจะไม่มีใครแตะต้องผู้หญิงคนนั้นภายใน 5 นาทีนี้แค่เราสองคน แข่งกันหนึ่งรอบ ถ้าคุณชนะ ผมจะถือว่าเราล้มเหลวในภารกิจลอบสังหารคำสั่งจะถูกถอนออกไป” ไนติงเกลนวดคอในขณะที่พูด
“คุณไม่รู้ว่าผม้าอะไร แล้วจะมาทำข้อตกลงกับผมได้ยังไง?” เสิ่นิมาถึงที่ข้างตึกพร้อมกับคานาโกะนักฆ่ามากกว่าหนึ่งโหลได้ล้อมพวกเขาเอาไว้แล้ว
“คุณมีทางเลือกอื่นอีกหรือ?” ไนติงเกลดูิ่
“ถนนอยู่ใต้เท้า ชีวิตอยู่ในกำมือ คุณไม่มีคุณสมบัติมากพอ หาก้าประมือกันจริงๆคราวหน้าก็พาสุนัขมาให้น้อยลงหน่อยนะ” เมื่อเสิ่นิเยาะเย้ยทันใดนั้นเขาก็ยกมือขึ้นแล้วผลักคานาโกะไปที่ด้านหลัง เขาออกไปจากอาคารคานาโกะเบิกตาค้างและลืมที่จะกรีดร้อง ร่างกายของเขาร่วงหล่นในแนวตั้ง นี่คืออาคาร30 ชั้น ถ้าตกลงไปตาย คงต้องใช้พลั่วแงะศพขึ้นมาเพื่อบรรจุใช่ไหม?
นักฆ่าเ่าั้เองก็ตกตะลึงเช่นกันวันนี้เปิดดันเจี้ยนผิดวิธีหรือเปล่านะ? เสิ่นิเป็หนทางเดียวของพวกเขาหรือ?
ประเด็นก็คือเสิ่นิไม่เพียงแต่จะช่วยแก้ปัญหาเป้าหมายในใจของพวกเขาเท่านั้นเขายังะโลงไปพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า ไนติงเกลรู้สึกว่ามันไม่ค่อยถูกต้องชายหัวโล้นรีบวิ่งไปที่ขอบตึกและมองลงไป
เสิ่นิผู้น่าขนลุกคว้าตัวคานาโกะไว้กลางอากาศ เขารัดเธอแน่นในอ้อมแขนเมื่อร่างของพวกเขาตกลงถึงชั้นที่ 15 แขนที่ถือขวานดับเพลิงไว้ก็กระแทกเข้ากับผนังด้านนอกของอาคารข้างลำตัว
แรงเฉื่อยอันทรงพลังฉุดให้เขาและขวานดำดิ่งลงไปอีก2เมตร หลังจากลดความเร็วในการหล่นลงมาเล็กน้อยผลที่ตามมาก็คือขวานเด้งออกจากกำแพง แต่เสิ่นิกลับไม่ได้หยุดพักเขาวาดขวานฟันเข้าไปที่กำแพงอีกครั้ง ฟันลึกที่สุดในครั้งนี้ ในขณะที่ตกลงมาขวานก็ลากยาวเป็รูลึกประมาณ 10 เมตรเฉกเช่นเดียวกับร่องรอยที่หลงเหลือจากกรงเล็บของ Godzilla
ในขณะที่เสิ่นิกอดคานาโกะและหยุดลงเขาอยู่เหนือพื้นดินแค่เพียงชั้นเดียว
การห้อยตัวลงมาจากชั้น30โดยที่ไม่ได้ติดตั้งอุปกรณ์...เป็หนึ่งในการสอบวิชาที่อันตรายที่สุดของเสิ่นิแต่นั่น เขาสอบผ่านโดยที่ะโลงมาเพียงลำพัง แต่นี่เป็การะโคู่ในความเป็จริงแม้แต่เขาเองก็หลั่งเหงื่อเย็นวาบ
“นั่นมันผู้นิพพานที่ไม่ใช่มนุษย์แล้ว...” ใบหน้าของไนติงเกลชุ่มเหงื่อ