ณ สวนที่พักของตระกูลเย่ภายในนครแห่งเทพ
อารมณ์ของเย่ชิงหนิวในตอนนี้ทั้งเป็กังวลและทั้งเฝ้าปรารถนา
เดิมทีด้วยฐานะและตำแหน่งของเขาไม่มีความจำเป็ที่จะต้องมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ เมื่อสิ้นสุดงานประลองาระหว่างเขตปกครองทุกครั้งที่ผ่านมาทางตระกูลจะส่งผู้าุโระดับขอบเขตาาจักรพรรดิเพียงคนสองคนเท่านั้นเพื่อมาคอยต้อนรับลูกหลานของตระกูล
เพียงแต่ในครั้งนี้แตกต่างออกไป ในครั้งนี้ลูกหลานของตระกูลเพียงคนเดียวที่มีอสูรศักดิ์สิทธิ์ถูกส่งให้มาเข้าร่วมงานประลองาระหว่างเขตปกครองบนเกาะแห่งความมืดมิดซึ่งเป็สถานที่แห่งความตายในครั้งนี้ด้วย หนึ่งเดียวที่เป็ความหวังของตระกูลเย่เดิมทีควรที่จะเติบโตขึ้นภายใต้การปกป้องดูแลของเหล่าผู้าุโของตระกูล แต่เนื่องด้วยเื่โง่เขลาที่เย่เจี้ยนและเย่ชิงขวงสองพ่อลูกทำไว้ บีบบังคับให้ทางตระกูลจำเป็ต้องส่งเย่ชิงหานให้มาเข้าร่วมงานประลองาระหว่างเขตปกครองในครั้งนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ผู้ที่เคยผ่านงานประลองาระหว่างเขตปกครองมาถึงสองครั้งอย่างเย่ชิงหนิว สำหรับอันตรายต่างๆ ที่แฝงเร้นอยู่บนเกาะนั้นเขารับรู้ได้เป็อย่างดี ดังนั้นเขาจึงเป็กังวลอย่างมาก กลัวว่าเย่ชิงหานจะตายไปั้แ่เยาว์วัย ในทางกลับกันเขาก็เฝ้าปรารถนา เฝ้าปรารถนาถึงการเติบโตขึ้นของอสูรศักดิ์สิทธิ์ท่ามกลางเืและไฟแห่งการต่อสู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลานสาวหัวแก้วหัวแหวนของตนเองมาเข้าร่วมงานประลองาระหว่างเขตปกครองในครั้งนี้ด้วย ดังนั้นเขาจึงจำเป็ต้องทำลายธรรมเนียมปฏิบัติสักครั้ง นำพาเย่ผิงมาด้วยกันกับตนเองรอคอยต้อนรับลูกหลานของตระกูลที่กำลังจะถูกส่งออกมา
“ท่านผู้าุโสูงสุด ข้าเพิ่งได้รับข่าวมาว่าหลายวันก่อนเยาเสพาคนจำนวนหนึ่งมายังนครแห่งเทพ ความเคลื่อนไหวในตอนนี้ไม่แน่ชัด!” ในเวลานี้เองเย่ผิงเดินเข้ามา มองเห็นเย่ชิงหนิวนั่งอยู่คนเดียวใต้ต้นไม้ใหญ่ในสวนที่พักจึงรีบเดินเข้าไปรายงานข่าวที่ได้รับมาในทันที
“อ้อ...เ้าแก่โรคจิตนี้มาทำไม?” คิ้วของเย่ชิงหนิวขมวดขึ้นอย่างแปลกประหลาดใจ จากนั้นคล้ายกับนึกอะไรได้จึงโบกมือขึ้นแล้วพูดออกมา “ไม่ต้องไปสนใจ คิดว่าคงมารอต้อนรับลูกชายสุดที่รักของเขากระมัง เ้าแก่โรคจิตนี่ได้ลูกตอนแก่จึงประคบประหงมดูแลยิ่งกว่าสมบัติล้ำค่าเสียอีก!”
“ท่านผู้าุโสูงสุดนี่ก็ใกล้จะได้เวลาแล้ว พวกเราออกไปกันเถอะ!”
เย่ผิงมองออกถึงความห่วงกังวลของเย่ชิงหนิว ภายในใจของเขาเองก็รู้สึกห่วงกังวลขึ้นมาเช่นเดียวกัน มองขึ้นไปบนท้องฟ้าเห็นว่าเวลาใกล้เที่ยงวันแล้ว เวลาเที่ยงวันเป็เวลาที่ทุกคนที่อยู่บนเกาะแห่งความมืดมิดจะถูกเคลื่อนย้ายออกมาสู่ลานเกียรติยศของนครแห่งเทพ
“อืม...ไป! ไปดูเด็กๆ ของตระกูลพวกเราว่าจะสามารถนำความยินดีมาสู่ตระกูลได้หรือไม่!” เย่ชิงหนิวถอนหายใจออกมาพร้อมกับหยุดคิดเื่ราวที่อยู่ภายในใจ เดินนำหน้าออกจากสวนที่พักมุ่งสู่ประตูใหญ่ทางทิศใต้ของนครแห่งเทพ
“คารวะผู้าุโเย่ชิงหนิว!”
เมื่อมาถึงประตูใหญ่ด้านทิศใต้พบว่าภายในลานกว้างนั้นมีผู้คนยืนอยู่มากมาย ตระกูลทั้งหลายต่างส่งตัวแทนมารอคอยต้อนรับลูกหลานของตนเอง ทางเขตปกครองเทพาเย่ชิงหนิวเป็ผู้มีาุโสูงสุดทั้งอายุและพลังฝีมือ ดังนั้นผู้ที่อยู่ใกล้เคียงจึงส่งคนมาแสดงการคารวะ
“ไม่ต้องมากพิธี รอคอยข่าวดีอยู่เงียบๆ พร้อมกันเถอะ!” เย่ชิงหนิวทำการกวาดตามองไปยังทุกคนปราดหนึ่งแล้วไปหยุดอยู่ที่ร่างของผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตาาจักรพรรดิของตระกูลเสว่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงละสายตาไปมองยังทิศทางอื่นโดยรอบ ทางด้านซ้ายเป็ตัวแทนของเผ่าคนเถื่อนซึ่งมีประมาณสิบกว่าคน พลังฝีมือสูงสุดเพียงแค่ระดับขอบเขตจักรพรรดิคนเถื่อนเท่านั้น ส่วนทางด้านขวาเป็ตัวแทนจากเผ่าปีศาจ แต่กลับไม่พบว่ามีเยาเสอยู่ด้วย ด้านหน้าเป็ตัวแทนของนครแห่งเทพที่ยืนเข้าแถวอยู่ในชุดเสื้อคลุมสีทอง
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
เมื่อพระอาทิตย์ลอยเด่นอยู่กลางศีรษะค่ายกลเคลื่อนย้ายขนาดใหญ่มหึมาที่อยู่ในลานกว้างพลันส่องสว่างขึ้นพร้อมกัน แสงสว่างขนาดใหญ่เปล่งประกายหลากสีสันลานตาขึ้นมา จากนั้นไม่นานแสงสว่างเ่าั้เลือนหายไป ลานเกียรติยศพลันปรากฏคนกลุ่มต่างๆ ที่มีเผ่ามนุษย์ เผ่าปีศาจ และเผ่าคนเถื่อนโผล่ออกมาจากอากาศพร้อมกับยืนอยู่กันอย่างเป็ระเบียบ
“เขตปกครองเทพาทุกคนเดินออกมายืนด้านหน้า เขตปกครองเทพคนเถื่อนไปยืนทางด้านซ้าย เขตปกครองเทพปีศาจไปยืนทางด้านขวา!” ทูตของนครแห่งเทพเริ่มจัดระเบียบผู้ที่ถูกส่งออกมาก่อน ค่ายกลเคลื่อนย้ายขนาดมหึมานี้สามารถเคลื่อนย้ายคนได้ครั้งละหนึ่งหมื่นคน คนที่เหลือยังคงต้องถูกเคลื่อนย้ายออกมาเรื่อยๆ ดังนั้นจึงต้องโยกย้ายคนให้หลบออกมาให้ไกลจากค่ายกลเคลื่อนย้ายเพื่อที่จะได้ง่ายต่อการจัดระเบียบคนที่ถูกเคลื่อนย้ายออกมาในชุดต่อไป
“รับทราบ!”
ที่ถูกเคลื่อนย้ายส่งมาก่อนล้วนเป็ทหารระดับต่ำ หลังจากได้รับคำสั่งจากหัวหน้าหน่วยของตนเองเหล่าทหารล้วนเริ่มขยับเคลื่อนย้ายในทันที
“อืม...”
เย่ชิงหนิวมองดูเหล่าทหารของเขตปกครองเทพาแต่ละคนบุคลิกลักษณะองอาจผ่าเผย ขวัญกำลังทหารฮึกเหิม สีหน้าพลันดูดีขึ้นมาหลายส่วน เหล่าตัวแทนของตระกูลต่างๆ ที่อยู่ข้างๆ ล้วนพูดคุยเบิกบานกันด้วยความดีอกดีใจ สภาพเช่นนี้หากไม่ใช่คนตาบอดล้วนมองออกว่าทหารทางฝ่ายของเขตปกครองเทพาบุคลิกลักษณะองอาจผ่าเผย ขวัญกำลังทหารฮึกเหิม ใบหน้าตื่นเต้นยินดี แต่เมื่อมองดูเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนที่มีทั้งเจ็บทั้งพิการ ใบหน้าแต่ละคนล้วนดำคล้ำ ก้าวย่างอย่างยากลำบาก แค่มองดูก็พอจะรู้แล้วว่าเขตปกครองเทพาได้รับชัยชนะในศึกใหญ่ตัดสินสุดท้าย
ฟิ้ว!
ค่ายกลเคลื่อนย้ายสว่างขึ้นอีกครั้ง ยังคงเป็กองกำลังที่ครบถ้วนสมบูรณ์ไม่เสียหายของเขตปกครองเทพาที่เดินออกมา ส่วนกองกำลังของเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนจำนวนคนเจ็บคนพิการกลับยิ่งมากมายและร้ายแรงขึ้นทุกที
ฟิ้ว!
ค่ายกลเคลื่อนย้ายสว่างขึ้นเป็ครั้งที่สาม สภาพที่เห็นเริ่มทำให้เย่ชิงหนิวและตัวแทนของเหล่าตระกูลต่างๆ เริ่มงุนงงไม่เข้าใจขึ้นมา...เนื่องจากว่าสภาพของทหารฝ่ายเขตปกครองเทพายังคงมีสภาพสมบูรณ์เหมือนเดิมทั้งหนึ่งหมื่นคน ส่วนทางฝ่ายเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนกลับเหลือหร็อมแหร็มเพียงแค่ครึ่งเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขาคล้ายกับว่าเห็นคนหัวโล้นที่คล้ายกับหมันก้านแต่มือข้างหนึ่งไม่มีนิ้วกลางรวมอยู่ข้างในเผ่าคนเถื่อนนั้นด้วย ส่วนทางฝ่ายเผ่าปีศาจกลับไม่พบเจอแม้แต่เงาของเยาขาข่า...
ฟิ้ว!
การเคลื่อนย้ายครั้งที่สี่ ไม่ผิดจากที่พวกเขาคาดคิดไว้คนของเขตปกครองเทพายังคงครบสมบูรณ์ดีทั้งหนึ่งหมื่นคน ส่วนแสงสว่างจากค่ายกลเคลื่อนย้ายของทั้งเผ่าคนเถื่อนและเผ่าปีศาจไม่ได้สว่างขึ้นมาอีก ทางฝ่ายเผ่าปีศาจเริ่มเอะอะโวยวายกันขึ้นมาแล้ว เนื่องจากว่าพวกเขาไม่พบบุตรชายเพียงหนึ่งเดียวของหนึ่งในสองปีศาจศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาซึ่งเป็ผู้นำทัพใหญ่มาในครั้งนี้ซึ่งก็คือ - เยาขาข่า
เยาขาข่าตายแล้ว? คนของเผ่าปีศาจนึกถึงท่านผู้ปกครองปีศาจศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาที่มีการเคลื่อนไหวอย่างแปลกประหลาดหลายวันมานี้ยิ่งทำให้พวกเขาแน่ใจยิ่งขึ้นไปอีก ภายในใจเริ่มว้าวุ่นขึ้นมาเพราะท่านปีศาจศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้ได้บุตรตอนแก่ เยาขาข่าจึงเป็ดั่งทุกสิ่งทุกอย่างของเขา ดูท่าครั้งนี้เผ่าปีศาจและเผ่ามนุษย์คงต้องเตรียมตัวรับมือกับความเดือดดาลของเขาที่จะระบายออกมาแล้ว...
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
เื่ที่เกิดขึ้นต่อมายิ่งทำให้พวกเย่ชิงหนิวเบิกตากว้างอ้าปากค้างยิ่งขึ้นไปอีกค่ายกลเคลื่อนย้ายของเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนหยุดการทำงานไปนานแล้ว แต่ค่ายกลเคลื่อนย้ายของทางฝ่ายเขตปกครองเทพากลับสว่างขึ้นอยู่ไม่หยุด และทหารที่ถูกเคลื่อนย้ายออกมายังสมบูรณ์ดีทุกอย่างไม่มีคนาเ็หรือพิการแม้เพียงสักคนเดียว สภาพเหมือนกับตอนที่เข้าไปยังเกาะแห่งความมืดมิดใหม่ๆ อย่างไรอย่างนั้น
“ท่านผู้าุโเย่ แปลกประหลาดมาก แปลกประหลาดจนเกินไปแล้ว คนของเขตปกครองเทพาหนึ่งแสนคน กลับมีถึงแปดหมื่นคนที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ไม่เป็อะไรเลย ไม่ใช่สิ...มีเคลื่อนย้ายส่งมาอีกแล้ว รวมเป็เก้าหมื่นคนแล้ว นี่มันเกิดเื่อะไรขึ้น? หรือพวกเขาไม่ได้เข้าร่วมศึกใหญ่ตัดสินสุดท้ายหรืออย่างไร? แต่ว่าถ้าหากไม่ได้อยู่ในเขตทุ่งหญ้าสีเืก็คงมาไม่ทันการเคลื่อนย้ายแน่ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
ผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตาาจักรพรรดิผู้หนึ่งที่อยู่ข้างๆ เย่ชิงหนิวเอ่ยขึ้น สายตาที่มองมายังเย่ชิงหนิวเต็มไปด้วยความตกตะลึงและสงสัยอยากที่จะรู้คำตอบ
“รอดูไปก่อนเถอะ รอพวกเขาถูกเคลื่อนย้ายมาเดี๋ยวก็รู้เอง!” เย่ชิงหนิวสีหน้ายังคงราบเรียบไม่เปลี่ยนแปลง ภายนอกยังคงแสดงบุคลิกลักษณะของยอดคนออกมาเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลงแม้ขุนเขาจะกดทับอยู่บนศีรษะ แต่ภายในใจตอนนี้นั้นตกตะลึงอย่างถึงที่สุดเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกิดความกังวลเล็กน้อยขึ้นมา สถานการณ์แปลกประหลาดเช่นนี้หรือว่าจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น?
ความกังวลใจของเย่ชิงหนิวถูกแสงสว่างจากค่ายกลเคลื่อนย้ายครั้งสุดท้ายที่เคลื่อนย้ายคนมาทำให้มลายหายไปจนหมดสิ้น มองดูกลุ่มคนชุดสุดท้ายที่ถูกเคลื่อนย้ายมาผู้ที่ยืนอยู่แถวหน้าสุดใบหน้าที่ทั้งแปลกหน้าและคุ้นเคยของเด็กหนุ่มเด็กสาว ทำเอาเขาเกือบจะน้ำตาอาบใบหน้าแก่ๆ ของตนเองขึ้นมา...
หลานสาวเติบโตเป็ผู้ใหญ่แล้ว ใบหน้าลักษณะอ่อนเยาว์ของเด็กสาวเปลี่ยนแปลงเป็หญิงสาวขึ้นมาแทน เย่ชิงหานดำคล้ำลงไปมากแต่ก็เติบโตสูงขึ้นมากเช่นกัน ดวงตาที่สดใสของเขาเปล่งประกายแสงแหลมคมเป็บางครั้ง พร้อมกับใบหน้ายิ้มจางๆ คล้ายกับกำลังบอกกับเย่ชิงหนิวว่า เขาเติบโตขึ้นมาแล้ว...
“ฮ่าๆ...ไปรับพวกเขากัน!” เย่ชิงหนิวขยับมุมปากยิ้มขึ้น จากนั้นรอยยิ้มค่อยๆ กว้างขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็หัวเราะเบาๆ จนสุดท้ายกลายเป็หัวเราะด้วยเสียงอันดัง
ทำได้ดีมาก! ยังมีชีวิตอยู่...ยังมีชีวิตอยู่ถือว่าดีที่สุด ยังมีชีวิตอยู่ย่อมสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้