7 วันต่อมา
ิเทียนเยว่ตัดสินใจมาเดินเล่นในงานเทศกาล เนื่องจากไม่อาจห้ามใจตัวเองได้...เขาไม่ได้มาเที่ยวเล่นเช่นนี้นานยิ่งคราวก่อนที่ออกมาเดินเล่นก็มีปัญหาพัวพัน
วันนี้เป็วันสุดท้ายของงานประลองผลลัพธ์ก็แน่นอนว่าถังจื่อเป็ผู้ชนะ ชนะด้วยการสังหารสิ้นเช่นนี้ทำเอาเขาเป็ศัตรูกับทุกสำนักทั่วหล้า แต่ที่น่าแปลกใจคือ ตัวตนระดับมหายานผู้นั้นกลับออกตัวปกป้องเสียอย่างนั้น
ทำเอาเหล่าเฒ่า ชรา งงกันเป็ไก่ตาแตก...ถึงกระนั้นก็ไม่กล้าผลีผลามลงมือทำอะไรทำให้สุดท้ายงานก็จบลงไปอย่างสงบ
ิเทียนเยว่มองดูแล้วรู้สึกสับสนยิ่ง เขามองออกทันทีว่าคนผู้นั้นตั่งใจประจบศิษย์ตน...
'เ้าเด็ดขาดยิ่ง...' ิเทียนเยว่ได้แต่คิดพร้อมส่ายหัวเบาๆ 'มาร' เป็สัญลักษณ์ของความกระหายเืและความแข็งแกร่งไร้เมตตา การเลือกเขาฝั่งกับตัวตนเช่นนั้น เสี่ยงยิ่งนัก แม้แต่เขาผู้เป็อาจารย์ยังลังเล ถึงขนาดที่ว่าหากตัดสายสัมพันธ์ได้เขาคงตัดไปแล้ว จนใจนักสายสัมพันธ์สิบปีสำหรับเขายาวนานยิ่ง เขายังคงเสียดายนักแต่หากเ้าศิษย์ตัวดีทำเขาเดือดร้อนเขาก็คงไม่มีทางเลือกเช่นกัน...
เดินเล่นอยู่นานสองนานิเทียนเยว่ก็หมดความสนใจเดินทางกลับเขาสงบจิตอย่างรวดเร็ว
'ถือว่าได้เปลี่ยนบรรยากาศ' ิเทียนเยว่นั่งลงบนเบาะเซียนล่องนภาอย่างสงบ ่ปีที่ผ่านมานี้เขาเคลียดยิ่งนักเพราะเขาระแวงผู้คนที่เดินทางมาอยู่ตลอดเวลา...
...
วันต่อมา
ิเทียนเยว่ลืมตาขึ้น แววตาแสดงความสับสนเล็กน้อย
เขาได้ยินข่าวคราวจากิฝานเื่ที่ถังจื่อเมินพวกเขาแล้ว แต่ถึงกระนั้นตอนนี้เขากลับััได้ว่าถังจื่อกำลังเดินทางมาหาตน...ทั้งยังไร้ซึ่งเจตนาอันใด สิ่งนี้เขาััได้ ต่างจากผู้คนที่เดินทางมาด้วยความโลภเด็กคนนี้กลับไม่ได้ให้ความรู้สึกเช่นนั้น
เมื่อถังจื่อมาถึงเขาค่อยๆเดินขึ้นเขาอย่างช้าๆ มองไปรอบๆด้วยความสงบนิ่ง ด้านหลังของเขามีหลินทั่วเดินตามมาด้วย...ใช่แล้ว หลินทั่วผู้นี้ยอมสยบง่ายยิ่ง ที่แตกต่างคือตนนี้แววตาของเขาคมกริบยิ่ง ขอบตามีสีดำอยู่เล็กน้อย
"เซียนนภาของเขาลูกนี้ก็เป็คนของท่าหรือขอรับ" หลินทั่วอดไม่ได้ที่จะกล่าวถาม ในใจแฝงความหวาดกลัวต่อูเาลูกนี้ไว้ไม่น้อย ตั่งเขาขึ้นเขามา ััได้ถีงไอเซียนมหาศาลน่าหลาดหวั่นยิ่ง แต่มันก็ยิ่งทำให้เขาไม่กล้าโลภที่จะ
เมื่อเดินมาถึงยอดเขาถังจื่อพลันได้ยินเสียิเทียนเยว่ดังขึ้น
"เ้ายังคงเป็คนเดิมหรือไม่"
ถังจื่อได้ยินก็เงียบไป เขาแปลกใจเล็กน้อยที่อาจารย์ผู้นี้รู้เื่ที่เขาปลุกความทรงจำได้ เขามองแผ่นหลังของิเทียนเยว่พล่างกล่าวเบาๆ
"...ที่แท้เป็ท่านนี่เอง ข้านึกว่าพวกลูกหมาข้างบนนั่นเสียอีกที่แอบดูรากิญญาข้า" ถังจื่อยิ้มบางๆ แววตาแปลเปลี่ยนเล็กน้อย
สอดส่องรากิญญาของเขาได้เช่นนี้คงมีแค่ระดับเซียนเท่านั้น...
หารู้ไม่ว่าจริงๆแล้วิเทียนเยว่แค่มีิญญาระดับเซียน...ต้องกล่าวเลยว่าตั่งแต่เริ่มจนถึง ณ จุดๆนี้ทางที่ิเทียนเยว่เดินนั้นแปลกยิ่ง ข้ามขั้นไปมาสลับสับสนไปหมด
'...เดี๋ยวนะ!' ิเทียนเยว่ที่ได้ยินประโยคดังกล่าวพลันแข็งทื่อไป...ถังจือจะบอกว่าเซียนเบื่องบนสามารถสอดส่องได้ตลอดเวลาเช่นนั้นหรือ อย่าบอกนะว่าทัณฑ์์บัดซบนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเอง
ิเทียนเยว่ขมวดคิ้วแน่น แต่เนื่องจากเขาหันหลังอยู่จึงไม่มีใครเห็นสีหน้าในตอนนี้
"ช่างเถิดข้าเพียงมาเยี่ยมเยือนเท่านั้น หากท่านกลับขึ้นแดนเซียนเมื่อไหร่ก็มาหาข้าได้" ถังจื่อประสานมือคำนับเล็กน้อยแล้วหันหลังจากไปทันที
หลินทั่วเองก็ไม่รั้งอยู่เช่นกันประสานมือคารวะแล้วเดินตามถังจื่อไปติดๆ
...
เหนือน้านฟ้า
ถังจื่อบินด้วยความเร็วสูงตามหลังมาด้วยหลินทั่ว
"...หลังจากข้าขึ้นไปข้างบนแล้ว เฝ้าดูชายผู้นั้นให้ดีตบะเขาไม่ธรรมดา" ถังจื่อกล่าวกันหลินทั่วด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"รับทราบขอรับ" หลินทั่วพยักหน้าเข้าใจ ตอนนี้เขาได้รับสือทอดวิชามารระดับเทพมาวิชาหนึ่งแข็งแกร่งยิ่ง ตบะเขาก้าวหน้าอย่างที่ไม่เคยเป็มาก่อน ทำให้เขาเลื่อมใสนัก
'ข้าััได้ว่าเขาเป็เพียงระดับจิติญญาเท่านั้น วิชาซ่อนตบะลึกล้ำนัก' ถังจื่อครุ่นคิด เขาเคยเป็ถึงระดับจักรพรรดิเทพ ตัวตนที่เบิกมรรคาแห่งตนขึ้น แม้แต่ในแดนเทพเขาก็นับเป็สิ่งมีชีวิตระดับต้นๆ กลับมองตบะของิเทียนเยว่ไม่ออก ตบะที่ััได้กับจำนวนพลังเวทที่เขารู้สึกนั้นไม่ตรงกัน! อีกทั้งของล้ำค่าบนูเานั้นทรงพลังนักแม้แต่ในแดนเทพก็หาได้น้อยยิ่ง...
ความเข้าใจผิดเช่นนี้ยังคงดำเนินต่อไป...
...
ด้านิเทียนเยว่นั่งเหม่อมองฟ้าอย่างหงุดหงิด มิใช่ว่าตอนนี้ก็กำลังมีคนแอบดูเขาอยู่หรอกนะ
บัดซบ หากเป็เช่นนี้ก็ตัดสายสัมพันธ์มิได้แล้วไม่ใช่หรือ ความแตกตั่งแต่แรกแล้ว!
แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากถอนหายใจ
ิเทียนเยว่หลับตาลง ฝืนใจลืมเื่ราวทั้งหมดไป
...
9 ปี ต่อมาิเทียนเยว่ลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาโล่งใจนักที่เวลาที่ผ่านมานี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เขาไม่รีรอกดสุ่มทันที
[เริ่มการสุ่ม]
[ติ๊ง!! ยินดีด้วยท่านได้รับ พร์ระดับสูง - กายาทองคำ]
[ติ๊ง!! ยินดีด้วยท่านได้รับ ของล้ำค่าฟ้าดินระดับ์ - เมล็ดต้นท้อเซียน]
[ติ๊ง!! ยินดีด้วยท่านได้รับ ของวิเศษระดับสูง - รองเท้ายมโลก]
[ติ๊ง!! ยินดีด้วยท่านได้เปิดความสามารถใหม่ - อาณาเขตเทพสถิตระดับ 1]
ิเทียนเยว่มองไปยังความสามารถใหม่อย่างสนใจ คราวนี้เขายังได้หินิญญามาอีก 100 ก้อน
[อาณาเขตเทพสถิต - ระดับ 1 สร้างอาณาเขตปิดกั้นทุกสรรพสิ่งในระยะ 3 ลี้]
ิเทียนเยว่เลิกคิ้วเล็กน้อย ยอดเยี่ยมนัก! เขากำลังคิดจะศึกษาเื่ค่ายกลที่ใช้ปิดกั้นการสอดแนมอยู่พอดี แต่เมื่อได้ความสามารถเช่นนี้มาก็ สบายแล้ว!
เขารีบเปิดใช้งานทันที่ขอบเขตคือรอบจุดที่ิเทียนเยว่นั่งบำเพ็ญเพียร
ซึบ! ทันทีที่เปิดใช้งานราวกับเขาถูกตัดขาดจากทุกสรรพสิ่ง บ่วงกรรมที่เคยรู้สึกถึงก็พลันหายไป เหลือเพียงแค่บ่วงกรรมที่มาจาก กำยาสามภพเท่านั้น
เท่านี้เขาก็หดหัว แค๊กๆ หมายถึงสงบจิตได้แล้ว!
ิเทียนเยว่พอใจยิ่ง แม้จะไม่สามารถป้องกันการโจมตีได้แต่แค่นี่ก็นับว่าดีแล้ว
ข้อเสียคงเป็เขาไม่สามารถออกไปเดินเล่นในระยะเกินกว่า 30 ลี้ได้...
หลังจากชื่นชมสักพักเขาก็นำเมล็ดต้นท้อเซียนออกมา
นำไปปลูกไว้ข้างๆ บ่อน้ำวิสุทธิ์ ระหว่างกำลังกลบดินเขาก็เรียกข้อมูลของมันออกมาดู
[เมล็ดต้นท้อเซียน - ของล้ำค่าฟ้าดินระดับ์เมื่อโตเต็มวัยสามารถผลิตท้อเซียนได้ 5 ลูกในทุกๆหนึ่งพันปี ส่งเสริมไอเซียนบริเวรรอบข้างมหาสาล]
เมื่อปลูกเสร็จครานี้ไม่เหมือนครั้งก่อนๆที่มีพลังงานหลายสายะเิพลุ่งพล่านออกมา เพียงแต่ค่อยๆเพิ่มอย่างช้าๆเท่านั้น
จากนั้นเขาก็หยิบรองเท้ายมโลกขึ้นมาดู
[รองเท้ายมโลก - ของวิเศษระดับสูง สามารถทำให้ะโข้ามไปยังยมโลกได้ 1 ครั้งหลังจากนั้นสมบัติชิ้นนี้จะถูกทำลาย]
ิเทียนเยว่แทบจะปามันทิ้ง นี่มันตั๋วเที่ยวเดียวมิใช่หรือ เขาตัดสินใจเก็บมันไว้ในช่องเก็บของ คาดว่าจะไม่นำมันออกมาใช้หากไม่จนมุมจริงๆ
จากนั้นเขาก็เปิดข้อมูลของ กายาทองคำขึ้นมา เพราะเขาััได้ว่ากายาทองแดงของเขาถูกดูดกลืนไปแล้ว
[กายาทองทำพันปี - พร์ระดับปฐี กายาหายากในแดนเซียน พลังป้องกันสูงส่งเป็อันดับห้าในหมู่กายาทั้งมวล]
ิเทียนเยว่เลิกคิ้ว...มันวิวัฒนาการเองเสียด้วยน่าจะเป็เพราะกลืนกิน กายาทองแดงเข้าไป เพราะเป็พร์ป้องกันทำให้เขาอุ่นใจขึ้นเล็กน้อย
...
ณ โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งในห้องส่วนตัว
สี่พี่น้อง ิฝาน ิเหยา ิหลิงและิหนิงหนิง นะสลดกันอยู่
ไม่น่าเชื่อว่าพวกเขาจะถูกพี่ใหญ่ที่อยู่ร่วมกันมานับสิบปีทอดทิ้งได้
"เื่นี้ต้องมีลับลมคมในแน่ๆ ข้าจะสืบดู" ิฝานกัดฟันกล่าว เหล่าพี่น้องพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
...
ณ แดนเซียน
ในสำนักแห่งหนึ่ง...ที่นี่มีนามว่าสำนักสยบโลกา เป็สำนักที่ดูแลโลกมนุษย์นับหมื่นถือเป็สำนักอันดับต้นๆของแดนเซียนที่เก้า
"หืม...หายไปไหนกัน" ชายผู้นั่งอยู่ที่หัวโต๊ะกล่าวพึมพำด้วยสีหน้าสับสนเล็กน้อย
"มีเื่อะไรหรือขอรับ" ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ข้างๆกล่าวถาม
"มนุษย์ที่ดึงดูดทัณฑ์์าเมื่อปีนั่น หายไปแล้ว" ชายผู้นั้นกล่าวพร้อมขมวดคิ้ว เมื่อครู่จู่ๆเขาก็ััถึงตัวตนของอีกฝ่ายไม่ได้
"...มิใช่ว่ามนุษย์ผู้นั้น ถูกสำนักพุทธจ้องเล่นงานอยู่หรือ" ชายอีกคนกล่าวถามอย่างสับสน
"ใช่แล้วขอรับ คนผู้นั้นไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวด้วยเลย ถึงขั้นเลี้ยงดูเทพมารองค์หนึ่้งจนเติบใหญ่ สมองกลับยิ่งนัก"ชายชราที่นั่งอยู่ไกลๆกล่าวเสริม
เนื่องจากพร์ระดับที่ดึงดูดทัณฑ์์าได้นั้นอย่างๆน้อยๆต้องมีรากิญญาระดับเทพอยู่ในตัว ทั้งยังเกิดในโลกมนุษย์สามัญนับว่าประหลาดนัก ประมุขสำนักสยบโลกาจึงมีความคิดอยากดึงตัวิเทียนเยว่เข้ามาเป็พวก
หลังจากพูดคนโต้แย้งกันสักพักก็มีชายผู้หนึ่งกล่าวขึ้นมา
"...ส่งเซียนปฐีคนใหม่ไปเถิด เ้าหลินทั่วผู้นั้นเลี้ยงไม่เชื่องยิ่ง ไม่สังหารเทพมารทั้งยังยอมกลายเป็สุนัขรับใช้อีก"
"ไม่เหมาะกระมัง หากส่งเซียนปฐีไปอีกรายแดนมนุษย์จะไม่พังทลายหรือ"
"พังก็พังไปสิ ถือโอกาสสังหารเทพมาร ทำความดีความชอบแก่แดนเทพ"
เหล่าเทพเซียนยังคงถกเถียงกันต่อไปมีเพียงประมุขสำนักสยบโลกาที่นั่งอย่างสงบแววตาครุ่นคิด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้