“ในที่สุดเ้าก็มาแล้ว” บุรุษผู้นั้นหัวเราะ สีหน้าคล้ายเปี่ยมด้วยอารมณ์ยากจะหยั่งถึง “ข้ารอคอยมาห้าร้อยปี ในที่สุดก็มีคนมาหาข้า ของที่เ้าเฒ่านั่นสร้าง ร้ายกาจเสียจนไม่มีผู้ใดกล้ารับ ทว่า…”
ในดวงตาคู่นั้นท่วมท้นด้วยประกายเจิดจ้ายามจับจ้องร่างของฮวาชีเยว่ ราวทอดถอนใจด้วยคลื่นอารมณ์ถาโถม ทว่าในขณะเดียวกันก็ยังดูคล้ายกำลังวางแผนร้าย
ฮวาชีเยว่มองบุรุษผู้นี้อย่างใจเย็น
ทุกสิ่งล้วนแปลกประหลาด นางอธิบายไม่ได้ ได้เพียงแต่ถามเขาเสียงต่ำ “ที่นี่มันอะไรกัน? แล้วท่าน...ท่านเป็ใคร? เหตุใดข้าจึงมาอยู่ที่นี่ได้?”
เสียงหัวเราะของเขายั่วยวน ฝีเท้าแ่เบา ทว่าเพียงพริบตากลับมายืนเบื้องหน้าฮวาชีเยว่
ดวงตาดำขลับโชนแสงแดงประหลาด ฮวาชีเยว่รู้สึกคล้ายมือนางถูกดึงเอาไว้ ยังมีกลิ่นฉุนแปลกที่ทำให้นางเวียนศีรษะ
เสียงของเขาแหบพร่า ดังก้อนหินที่ถูกโยนใส่ทะเลสาบเย็นเฉียบในใจฮวาชีเยว่
“ชีพจรลมปราณเ้าบุบสลาย สวะโดยแท้... โชคดีนักที่ข้ายังมีโอสถเพาะปราณ รับไปเสีย!”
คำกล่าวของเขาดังเช่นคำสั่ง ฮวาชีเยว่ตกตะลึงนัก นางไม่อาจต่อต้านเขาได้แม้แต่น้อย มืออีกข้างของเขาขยับปากนางด้วยความเร็วแสง ปากนางอ้าออกด้วยพลังแข็งแกร่ง จากนั้นยาขมจึงไหลลงสู่ลำคอนาง
ฮวาชีเยว่กลืนมันลงไปด้วยท่าทีราวกับกลืนแมลงวัน
ในชั่วพริบตา นางรู้สึกถึงความสดชื่นในลำคอ ราวกับฝนชุ่มฉ่ำหลังความแห้งแล้งยาวนาน ความเย็นนี้ไหลลื่นลงไปยังท้อง ทันใดนั้นทั่วร่างนางก็เย็นเยือก พลังลมปราณในร่างพุ่งปะทะกันอย่างเสรี ราวกับกลุ่มควันที่ถูกกักขังเอาไว้ยาวนาน
ฉับพลัน ฮวาชีเยว่ลืมตาขึ้น จ้องมองบุรุษปีศาจเบื้องหน้าตน
เขาหัวเราะอย่างไม่สงวนท่าที ดวงตาคมคายทอประกาย “เอาละ เรียกข้าว่าอาจารย์สิ!”
ฮวาชีเยว่กดข่มพลังแล้วคุกเข่าลงไปเบื้องหน้าบุรุษผู้นั้น นางทั้งโกรธทั้งอับอาย เพราะนางเพิ่งเกิดใหม่ ถึงได้รู้สึกต่อต้านทุกคน!
ยิ่งกว่านั้น บุรุษประหลาดผู้นี้ยังปรากฏกายขึ้นกะทันหัน เขาดูชั่วร้ายนัก ราวกับปีศาจกระหายเืในตำนานอย่างไรอย่างนั้น
ฮวาชีเยว่มองบุรุษเบื้องหน้าตนอย่างเกรี้ยวกราด เขายังคงยิ้มเ้าเล่ห์ ในสายตาปราศจากแรงกระหายในการสังหาร “เป็เด็กดีแล้วเรียกข้าว่าอาจารย์เสีย ข้าจะช่วยให้เ้าเป็ปรมาจารย์ยุทธ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกใบนี้!”
ปรมาจารย์ยุทธ์!
ดวงตาของฮวาชีเยว่ทอประกายขึ้น การได้เป็ผู้ใช้วรยุทธ์เป็ความใฝ่ฝันทั้งชีวิตของผู้คนนับไม่ถ้วน แม้จะมิได้แข็งแกร่งที่สุด ทว่าได้เอื้อมััถึงระดับสี่ ภูมิลักษณ์ัก็นับว่าดีมากแล้ว
แต่ เหตุใดนางถึงต้องเชื่อฟังเขา?
“เหตุใดข้าจึงต้องเชื่อเ้า? เ้ามีจุดประสงค์อื่นหรือไม่?”
ฮวาชีเยว่แค่นหายใจเ็า ประกายเย็นเยียบปรากฏขึ้นในดวงตาคู่งาม
“เ้าไม่เชื่อข้าหรือ? หากไม่เชื่อ เ้าก็ต้องตาย!” บุรุษปีศาจรูปงามหุบยิ้ม รังสีกระหายเืแผ่กำจายจากทุกรูขุมขน ความเย็นเยียบกัดกินไปทั่วทั้งบริเวณ!
ฮวาชีเยว่รีบกักเก็บสายธารพลังลมปราณและบีบคั้นมัน พลังปราณราวกับดาบคมกริบ บางสายถึงกับบาดผิวจนนางเืออก
เสียงฝีเท้าแห่งความตายก้าวเข้ามาใกล้ ฮวาชีเยว่รู้สึกราวกับหัวใจนางกำลังจะหยุดเต้น ทั่วร่างนางแข็งทื่อ ทันใดนั้น นางก็คิดถึงเทียนซี บุตรชายวัยหกปีของตนขึ้นมา ดวงตากลมโตคู่งามบริสุทธิ์ของเขายังคงเต็มไปด้วยความไร้เดียงสา
หากนางตายไป เช่นนั้นเทียนซีย่อมต้องมีองค์หญิงฮุ่ยเจินเป็มารดาบุญธรรม ถูกนางทรมานทุกวัน!
“ไม่!”
ฮวาชีเยว่กรีดเสียงร้องออกมา แรงกดดันแห่งความตายหยุดลง พลังลมปราณเบื้องหน้านางหายวับไป บุรุษปีศาจส่งยิ้มให้แก่นาง
ฮวาชีเยว่คุกเข่าลงในทันใด “ท่านอาจารย์ โปรดรับการคารวะจากข้าด้วย!”
“ดี! ดียิ่ง! ฮ่าฮ่า ข้ายินดีนัก!” บุรุษจอมมารยาช่วยประคองฮวาชีเยว่ลุกขึ้น ในดวงตาทอประกายหยิ่งผยอง ั์ตาสีเืเลือนเป็สีดำอย่างช้าๆ
โลกนี้พลันสงบเงียบ
บุรุษปีศาจหัวเราะ “ข้าคือเทียนพี่ นับแต่นี้ข้าคืออาจารย์ของเ้า น้ำเต้าหยกเขียวที่เ้าถือครองคือน้ำเต้าปริภูมิ ในน้ำเต้าก็คือที่กักเก็บโลกแห่งนี้ ดูเถอะ ที่นี่รกร้างว่างเปล่า ทว่ายังคงมีบางส่วนเป็พื้นดินอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็สมุนไพริญญาหรือเห็ดหลินจือะ หากเพาะปลูกลงไป ล้วนเก็บเกี่ยวได้ในหนึ่งวันทั้งสิ้น”
ฮวาชีเยว่ตกตะลึงสุดขีด ดวงตางดงามกลอกไปมา หากดินแดนนี้อุดมสมบูรณ์ดังที่เทียนพี่กล่าว นางย่อมสามารถปลูกพืชสมุนไพรหายากดุจสมบัติล้ำค่าได้ ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน นางจะกลายเป็เศรษฐีนีแน่นอน
“มิติแห่งนี้เป็ของเ้า เ้าอยากปลูกอะไรก็ปลูก ในฐานะศิษย์ข้า เ้าย่อมต้องได้รับทุกสิ่งที่ดีที่สุดในโลกใบนี้” เทียนพี่หัวเราะชั่วร้าย ทว่าฮวาชีเยว่มิได้ถามสาเหตุว่าเหตุใดเขาจึงรับนางเป็ศิษย์ ทั้งยังปฏิบัติต่อนางดีเพียงนี้
ทุกสิ่งล้วนแต่มีเป้าประสงค์
ยามนี้ นาง้ามีชีวิต นาง้าพบลูกชายของนาง เทียนซี!
“อีกนัยหนึ่งท่านหมายถึง ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน ข้าจะสามารถปลูกสมุนไพริญญาได้นับไม่ถ้วน แลกเปลี่ยนเป็เงินทองนับไม่ถ้วนใช่หรือไม่?”
ฮวาชีเยว่กะพริบตามองรอบกาย โลกแห่งนี้คล้ายกับไร้ที่สิ้นสุด ที่นี่เป็ของนางจริงหรือ?
“ใช่แล้ว!”
เทียนพี่ตอบโดยไม่ลังเล
“ข้าเองย่อมสอนวรยุทธ์ให้แก่เ้า ยามนี้เ้าเปิดเส้นลมปราณแล้ว อีกหน่อยข้าจะถ่ายทอดศาสตร์กักิญญาแก่เ้า” เทียนพี่หัวเราะดุดัน เขามีเสน่ห์เหลือเกิน หากมิได้สวมชุดบุรุษอยู่ ฮวาชีเยว่คงคิดว่าเขาเป็ปีศาจสาวตนหนึ่งแล้ว
ยั่วยวนเหลือคณานับ น่าหลงใหลเหลือเกินจะกล่าว
นิ้วเรียวยาวของเขาราวหยกงาม ริมฝีปากแดงก่ำดุจโลหิต
ดวงตาดำคู่นั้นดึงดูดราวผลองุ่นดำ
ทว่า บุรุษผู้นี้คือใครกันแน่?