“อันดับหนึ่งประจำมณฑลอวี้หนานของการสอบเกาเข่า เซี่ยเสี่ยวหลาน อายุ 19 ปี จบการศึกษาจากโรงเรียนอันชิ่งเซี่ยนอีจงเมืองเฟิ่งเสียน มาจากเขตอันชิ่งหมู่บ้านชีจิ่ง...”
ในโทรทัศน์ให้การแนะนำเช่นนี้ และประเด็นสำคัญที่หัวหน้าหมู่บ้านเฉินจับได้นั้นง่ายมาก : มาจากเขตอันชิ่งหมู่บ้านชีจิ่ง!
ใบหน้าของเฉินวั่งต๋าเปล่งประกายเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ โทรทัศน์ขาวดำในบ้านถูกย้ายมาไว้ในลานบ้านแทน และรวบรวมทุกคนจากทั่วทั้งหมู่บ้านมารับชม
เมื่อรายงานข่าวออกอากาศสิ้นสุดแล้วก็คือการสัมภาษณ์ ‘บัณฑิตเกาเข่า’ หน้าจอโทรทัศน์ขนาดเล็กไม่เป็อุปสรรคต่อการแยกแยะใบหน้าของเซี่ยเสี่ยวหลาน พอหวนคิดว่าบัณฑิตเกาเข่าผู้เป็เหวินฉวี่ซิงลงมาจุติคนนี้เคยรับซื้อไข่ไก่ด้วยราคาหนึ่งเหมาสองเหมาในหมู่บ้านมาก่อน ชาวบ้านจำนวนมากก็รู้สึกสับสนไม่น้อย!
หลังดูสัมภาษณ์จบ หลายๆ คนยังไม่ทันหายตกตะลึง เฉินวั่งต๋าก็โบกมือไปมา
“ฉันรู้ มีพวกเธอบางคนปากบอนลับหลัง ว่าอาเฟินเป็คนที่ออกเรือนไปแล้ว อาเฟินไม่ใช่คนของหมู่บ้านเรา การที่หมู่บ้านจะแบ่งที่ดินปลูกบ้านให้พวกเขาสองแม่ลูกมันเป็เื่ที่ผิด... แต่ตอนนี้ใครยังมีความเห็นอยู่อีก ยืนขึ้นมาพูดต่อหน้าทุกคนเสีย!”
แววตาอันน่าเกรงขามของเฉินวั่งต๋ากวาดมองชาวบ้านที่รวมตัวกันอยู่ในลานบ้าน ใครบ้างจะกล้าคัดค้าน?
เป็เื่มหัศจรรย์มากที่หมู่บ้านจะมีนักศึกษามหาวิทยาลัยสักคน นี่เป็ถึงสุดยอดบัณฑิตเกาเข่า คนที่สมองมีปัญหาเท่านั้นถึงจะผลักไสไล่ส่งไป!
ใช่ใช่ใช่ พวกหมู่บ้านต้าเหอนั่นโง่เง่ายิ่งนัก ส่งสุดยอดบัณฑิตเกาเข่ามาให้หมู่บ้านชีจิ่งเสียได้
ยังมีคนตระกูลเซี่ยด้วย เด็กดีขนาดนี้ บอกไม่เอาก็ไม่เอาเสียดื้อๆ ?
อาเฟินไม่ได้ให้ลูกชายแก่ตระกูลเซี่ยก็จริง ทว่าบุตรสาวที่เธอให้กำเนิดคนนี้ บุตรชายสิบคนมัดรวมกันยังเทียบไม่ได้ด้วยซ้ำ
----------------------------------------
บุตรชายคนรองหนีออกจากบ้านและหายสาบสูญ บุตรชายคนโตอกตัญญูแยกบ้านออกไป ชีวิตของแม่เฒ่าเซี่ยไม่ราบรื่นเอาเสียเลย
แต่ไม่ใช่ว่าคุณภาพชีวิตจะตกต่ำลง เพราะอย่างไรเสียเธอก็ตระหนี่ถี่เหนียวเื่เงินอย่างหนัก แม้จางชุ่ยจะให้ค่าใช้จ่ายประจำวันสำหรับการแยกบ้าน แม่เฒ่าเซี่ยก็รู้สึกเสียดายที่จะใช้จ่ายอยู่ดี บนโต๊ะอาหารบ้านเซี่ยมักจะเป็ผักดองเค็มฝอย ข้าวต้มมันเทศ หมั่นโถวที่ทำจากแป้งสาลีผสมแป้งข้าวโพด หัวไชเท้าและผักกาดขาวที่ปลูกเองโดยไม่ต้องซื้อ จางชุ่ยจ่ายค่าน้ำมัน 5 ชั่งต่อเดือนเป็เงิน และเมื่อเงินส่วนนี้เข้ากระเป๋าแม่เฒ่าเซี่ย ย่อมไม่มีทางถูกควักออกมาอีกแน่
ผัดผักเปลืองน้ำมันขนาดไหน ก็จับไชเท้าและผักกาดขาวต้มทั้งหมดอย่างไม่มีข้อยกเว้น
เดิมทีรับประทานอาหารแบบนี้มันไม่มีปัญหาอะไรนัก เมื่อก่อนในครอบครัวก็กินกันแบบนี้มิใช่หรือ แต่หลังจากไปช่วยงานที่ ‘จางจี้’ ได้เพียงไม่กี่เดือน เซี่ยหงเซี๋ยก็อ้วนขึ้นเป็เท่าตัว พอเคยได้กินดีอยู่ดี ย่อมไม่อยากกินของไม่ดีอีกต่อไป ไขมันที่เซี่ยหงเซี๋ยเก็บสะสมตอนอยู่ในตัวเมือง หายวับไปกับการอาศัยอยู่ในชนบทเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น
คนตระกูลเซี่ยไม่สนใจการสอบเกาเข่าอะไรทั้งนั้น แม้รู้ว่าเซี่ยเสี่ยวหลานจะสอบเกาเข่า พวกเขาคนไหนจะเห็นเป็เื่ใหญ่กัน?
มีแค่เซี่ยหงเซี๋ยเพียงผู้เดียว เป้าหมายของชีวิตก็คือการเปรียบเทียบตนเองกับเซี่ยเสี่ยวหลาน ตั้งตนแข่งขันชิงดีชิงเด่นกับเซี่ยเสี่ยวหลาน เธอจึงสนใจเื่ของเซี่ยเสี่ยวหลานมากเป็ธรรมดา
เซี่ยเสี่ยวหลานจะสอบเกาเข่าออกมาเป็อย่างไร?
ถุย เธอย่อมทุจริตแน่นอน จะสอบติดมหาวิทยาลัยเหมือนพี่จื่ออวี้ได้เชียวรึ!
หวังจินกุ้ยบอกว่าเซี่ยจื่ออวี้ไม่ใช่คนดีอะไรนัก หากกตัญญูจริงคงไม่เห็นชอบให้จางชุ่ยและเซี่ยฉางเจิงแยกบ้านออกไปเช่นนี้ นั่นนับว่าเป็คนเนรคุณที่ฝากผีฝากไข้ไม่ได้เหมือนกัน เซี่ยหงเซี๋ยไม่ยอมเชื่อ พี่จื่ออวี้ดีต่อเธอมากมาโดยตลอด จะเป็คนไม่จริงใจได้อย่างไร? และนอกจากนี้ เื่อย่างการแยกบ้าน พี่จื่ออวี้ตัวอยู่ไกลถึงปักกิ่ง ตัดสินใจแทนผู้ใหญ่ไม่ได้เสียหน่อย!
อย่างไรก็ตาม เซี่ยหงเซี๋ยเชื่อว่าทุกสิ่งที่เซี่ยจื่ออวี้ เซี่ยเสี่ยวหลานไม่คู่ควรแม้แต่น้อย
ยกตัวอย่างเช่นคู่ครองแบบหวังเจี้ยนหัว
ยกตัวอย่างเช่นการเป็นักศึกษามหาวิทยาลัย
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่คู่ควรทั้งสิ้น!
วันที่ 16 กรกฎาคม มีคนมากมายถือชามข้าวมารออยู่ในลานบ้านของลูกบ้านที่มีโทรทัศน์เหมือนเคย พวกเขาไม่ได้สนใจ 《รายงานข่าว》 สักเท่าไร แต่หลัง 《รายงานข่าว》 จบสถานีวิทยุโทรทัศน์มณฑลจะฉายละคร ่นี้ทางสถานีมณฑลฉาย 《นักสู้ฮั่วหยวนเจี่ย [1]》 ผู้คนทุกเพศทุกวัยล้วนชอบดู ติดตามรับชมทุกวันไม่ตกหล่นสักตอนเดียว บ้านเซี่ยที่ไม่มีโทรทัศน์ก็รีบกินข้าวให้เสร็จและยกม้านั่งมานั่งรอในลานบ้านคนอื่นเช่นกัน
ทว่าในวันนี้ รายการแรกหลังจาก 《รายงานข่าว》 กลับไม่ออกอากาศ 《นักสู้ฮั่วหยวนเจี่ย》 แต่เป็การรายงานข่าวถึงเกาเข่าของปีนี้
ทั้งเกณฑ์คะแนนรับเข้าเรียนของเกาเข่า ทั้งสถานการณ์เกาเข่าของมณฑลอวี้หนาน
“จื่ออวี้บ้านเซี่ยก็เรียนมหาวิทยาลัยครบหนึ่งปีแล้วเหมือนกันนี่นา เวลาผ่านไปไวจริงๆ ปีนี้นักศึกษาไม่กลับมารึ?”
นักศึกษามีวันหยุดปิดภาคเรียนฤดูร้อน ทว่าไม่เห็นเซี่ยจื่ออวี้กลับหมู่บ้านเลย ทั้งครอบครัวเซี่ยฉางเจิงทอดทิ้งพี่น้องและแม่แล้วสินะ? ขณะเผชิญหน้ากับสายตาสงสัยใคร่รู้ของคนในหมู่บ้าน แม่เฒ่าเซี่ยดันทุรังไม่ยอมเสียหน้า ะโตอบด้วยพลังเต็มเปี่ยม “จื่ออวี้เรียนมหาวิทยาลัยในปักกิ่ง มหาวิทยาลัยน่ะมีทั้งข้อดีข้อเสีย มหาวิทยาลัยที่ดีจะเหมือนกับที่ไม่ดีได้รึ? ที่จื่ออวี้ปิดเรียนแล้วไม่กลับมา ก็เพื่อการเรียนทั้งนั้น หลังเธอเรียนจบจะเป็ข้าราชการรัฐแน่นอน...”
แม่เฒ่าเซี่ยพูดไม่ผิด หวังเจี้ยนหัวไม่ถือว่าเป็คนในหมู่บ้าน เซี่ยจื่ออวี้ต่างหากที่ใช่
กระทั่งหัวหน้าหมู่บ้านยังมีอำนาจ ไม่ต้องพูดถึงข้าราชรัฐระดับสูง ต่อให้ตระกูลเซี่ยมีเื่น่าอับอายมากมายขนาดไหน ขอแค่มีเซี่ยจื่ออวี้ผู้มุ่งมั่น แม่เฒ่าเซี่ยก็สามารถเดินเหินอวดบารมีในหมู่บ้านได้เหมือนเดิม ทันใดนั้นผู้คนเต็มลานบ้านก็พากันยกยอปอปั้นทันที แยกบ้านแล้วอย่างไร ตราบใดที่เซี่ยจื่ออวี้คือหลานสาวของเธอ เธอจะเหนือกว่าทุกคนตลอดไป
จู่ๆ ภาพในโทรทัศน์ก็เปลี่ยนแปลง เสียงของพิธีกรหญิงชวนให้เกิดอารมณ์ร่วมยิ่งนัก
“ขณะนี้ ขอแนะนำให้ทุกท่านรู้จักกับอันดับหนึ่งประจำมณฑลในการสอบเกาเข่าของปีนี้ค่ะ เซี่ยเสี่ยวหลานอันดับหนึ่งสายวิทย์มณฑลคะแนนรวม 616 คะแนน จบการศึกษาจากโรงเรียนอันชิ่งเซี่ยนอีจงเมืองเฟิ่งเสียน มาจากเขตอันชิ่งหมู่บ้านชีจิ่งค่ะ...”
เสียงประจบประแจงเบาบางลงแล้ว ชาวบ้านหมู่บ้านต้าเหอมองในโทรทัศน์ด้วยความตกตะลึง
ชื่อแซ่เหมือนกันพอมีความเป็ไปได้ แต่การสัมภาษณ์นั้นมาในรูปแบบเทปบันทึกภาพ ในโทรทัศน์ถึงกับปรากฎภาพเซี่ยเสี่ยวหลานแล้ว คงไม่เกิดความผิดพลาดแน่นอน
ฝูงชนเงียบสนิท บางคนถือชามข้าวในมือไว้ไม่อยู่แล้วด้วยซ้ำ
แม่เด็กสาวเหลวแหลกของตระกูลเซี่ย เซี่ยเสี่ยวหลานที่โดนขับไล่ออกจากหมู่บ้าน คืออันดับหนึ่งประจำมณฑลในการสอบเกาเข่าปีนี้?
แม่เฒ่าเซี่ยพูดถูก มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งไม่เหมือนกัน ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ถามว่าอันดับหนึ่งมณฑลยื่นเข้ามหาวิทยาลัยใด แม้กั้นด้วยหน้าจอโทรทัศน์ ทว่าเสียงของเซี่ยเสี่ยวหลานดังฟังชัดมาก
“มหาวิทยาลัยหัวชิงน่ะค่ะ ฉันชอบมหาวิทยาลัยหัวชิง”
“ถ้าได้ 616 คะแนน มหาวิทยาลัยทั่วประเทศคงกำลังรอคอยนักเรียนเซี่ยเลือกกันทั้งนั้น...”
คำชื่นชมของชาวบ้านชนบทกับคำชื่นชมของผู้สื่อข่าวประจำสถานีมณฑล น้ำหนักช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เมื่อครู่เหล่าคนชนบทเพิ่งสอพลอแม่เฒ่าเซี่ย ว่าเซี่ยจื่ออวี้ยอดเยี่ยมเพียงใด ในขณะที่ผู้สื่อข่าวสถานีมณฑลกลับกำลังเยินยอเซี่ยเสี่ยวหลาน บอกผู้ชมทั่วมณฑลว่าเธอคือบุคคลที่ยอดเยี่ยมที่สุด!
ผู้คนต่างพากันมองแม่เฒ่าเซี่ยโดยไม่ส่งสุ้มเสียงใด เธอตาแดงก่ำ หลังจากยืนยันซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนมั่นใจว่าคนในโทรทัศน์นั้นคือเซี่ยเสี่ยวหลานที่ถูกเธอไล่ตะเพิดออกจากบ้านจริง เปลือกตาของแม่เฒ่าเซี่ยก็เลิกขึ้น หงายหลังทั้งที่ตัวตั้งตรง ชนม้านั่งหลายตัวล้มระเนระนาด สถานการณ์เต็มไปด้วยความวุ่นวาย
เซี่ยหงเซี่ยพูดไม่ออกแม้แต่นิดเดียว
...ไม่ใช่เซี่ยเสี่ยวหลานไม่คู่ควรกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัย แต่เป็มหาวิทยาลัยธรรมดาไม่คู่ควรกับอันดับหนึ่งมณฑลอย่างเซี่ยเสี่ยวหลานคนนี้!
หัวหน้าหมู่บ้านจ้องโทรทัศน์จนแทบเป็รู “ที่หนึ่งมณฑลของหมู่บ้านชีจิ่ง หมู่บ้านชีจิ่ง... เหลวไหล ที่หนึ่งมณฑลเป็ของพวกเราหมู่บ้านต้าเหอต่างหาก... เป็ของหมู่บ้านต้าเหอ”
เดิมทีควรเป็ของหมู่บ้านต้าเหอ
เดิมทีตระกูลเซี่ยควรปล่อยหงส์ฟ้าออกมารวมสองตัว แต่คนตระกูลเซี่ยไม่ต่างจากประสาทหลอน เชิดชูเซี่ยจื่ออวี้เทียมฟ้า ขับไล่เซี่ยเสี่ยวหลานผู้เป็หงส์ฟ้าทองที่แท้จริงเสียอย่างนั้น
ส่วนเหล่าชาวบ้านก็เยาะเย้ยเป็เื่ตลก หนุนคลื่นลมให้แรงขึ้น และบุ้ยใบ้ใส่ไฟจนใหญ่โต
หัวหน้าหมู่บ้านไม่ได้ช่วยสร้างเื่ร้ายเพิ่มก็จริง แต่ใน่เวลาวิกฤตินั้น เขาไม่ได้เลือกจุดยืนอยู่ฝ่ายยุติธรรมเช่นกัน และไม่ได้แก้ต่างให้หลิวเฟินและเซี่ยเสี่ยวหลานที่โดนขับไล่แม้แต่ประโยคเดียว เมื่อมีความสามารถแต่กลับไม่ใช้มัน บางครั้งก็คือการกำลัง ‘ทำชั่ว’ พอหงส์ฟ้าอย่างเซี่ยจื่ออวี้มีอันดับหนึ่งมณฑลเป็ตัวเปรียบเทียบ ก็เหมือนไก่บ้านแทนไปเสียแล้ว
ในละครยุคเก่าก็ดำเนินเนื้อเื่แบบนั้นมิใช่หรือ? จ้วงหยวนกลายเป็ขุนนาง สวมผ้าไหมกลับถิ่น สร้างนานาประโยชน์แก่บ้านเกิด เป็โชคดีของมิตรสหายร่วมเมืองนอน
จ้วงหยวนสามารถเป็ข้าราชการระดับสูงได้ถึงขั้นไหน? หมู่บ้านชีจิ่งอะไรกัน แรกเริ่มเดิมทีคือจ้วงหยวนของหมู่บ้านต้าเหอน่ะสิ!
เชิงอรรถ
[1]《大侠霍元甲》นักสู้ฮั่วหยวนเจี่ย คือ ละครชุดทางโทรทัศน์จากฮ่องกงซึ่งนำมาออกอากาศในแผ่นดินใหญ่ในปี 1983 เป็เื่ราวของ ฮั่วหยวนเจี่ย ปรมาจารย์นักสู้ผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมชิงอู่ สมาคมสอนศิลปะการป้องกันตัวในเซี่ยงไฮ้ และใช้ศิลปะการต่อสู้ของจีนเพื่อกู้คืนศักดิ์ศรีของชนชาติจีนจากต่างชาติที่รุกรานแผ่นดินในยุคนั้น ละครเื่นี้ออกอากาศในประเทศไทยด้วยชื่อ นักสู้ผู้พิชิต