ภายในห้องน้ำชา ป๋อชางโหวนั่งที่นั่ง้า เผยฉางชิงนั่งลดหลั่นรองลงมา ส่วนเฉินอี้เหอยืนฝั่งตรงข้ามเขาอีกที
ทั้งสามมองกันไปมา เ้ามองข้า ข้ามองเขา แต่กลับไม่มีผู้ใดปริปากทำลายความเงียบงันก่อนสักคน
ป๋อชางโหวส่งสายตาให้เฉินอี้เหอ ทว่าเฉินอี้เหอนั้น...
สายตาราบเรียบทอดมองไปเบื้องหน้า มองเผยฉางชิงที่นั่งตัวเกร็งอยู่ตรงนั้น ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มองไปทางป๋อชางโหวเสียที
“คุณชายเผย”
ป๋อชางโหวหมดหนทาง จึงต้องเอ่ยปากขึ้นในที่สุด
เผยฉางชิงหันกายกลับมา พลางกุมมือทำท่าคารวะไปทางป๋อชางโหว “ข้าน้อยอยู่นี่ขอรับ”
“คือว่า ลูกชายข้าเคยเล่าเื่คุณชายเผยให้ฟังแล้ว ประเดี๋ยวการสอบของเมืองหลวงก็จะจัดขึ้นแล้ว มิทราบว่าคุณชายเผยมั่นใจหรือไม่?”
เมื่อได้ยินดังว่า เผยฉางชิงจึงขมวดคิ้วมองเฉินอี้เหอที่อยู่ตรงข้ามครู่หนึ่ง บทสนทนานี้พวกท่านสองพี่น้องก็เคยถามแล้วมิใช่หรือ ไฉนยามนี้ถึงถามอีกรอบเล่า?
เฉินอี้เหอยังคงตั้งหน้าตั้งตามอง แสร้งเหมือนไม่รู้เื่สักนิด ไม่ได้ยินอะไรแม้แต่น้อยอย่างไรอย่างนั้น
เผยฉางชิงตอบ “ผู้น้อยย่อมพยายามให้ถึงที่สุดขอรับ การสอบของเมืองหลวง ผู้เข้าร่วมล้วนแล้วแต่เป็อัจฉริยภาพจากทั่วสารทิศทั้งสิ้น ผู้น้อยมิกล้ากล่าวเกินจริงหรอกขอรับ”
“อืม นับว่าเป็คนถ่อมตัวเลยทีเดียว” ป๋อชางโหวเอ่ยประเมิน
ทว่าหลังจากนั้น บรรยากาศในห้องกลับเย็นะเืลงยิ่งกว่าที่เคย เขาไม่รู้ว่าต้องทำเช่นไรถึงจะขุดเื่ราวที่ตนอยากถามขึ้นมาได้
ครั้นเห็นชายทั้งสามเบื้องหน้าเอาแต่ถลึงตาโตจ้องกันไปมา เฉินจิ้งเจียที่อยู่หลังฉากกั้นก็รู้สึกจนปัญญาขึ้นแล้ว นางผลักฉากกั้นออกแล้วปรี่เข้าไปทันใด
หนานจือที่คิดลากรั้งไว้ข้างหลังไม่ทันยื่นมือคว้า ทำได้เพียงมองเฉินจิ้งเจียตรงเข้าไปตาปริบๆ
“เจียเอ๋อร์ เ้ามาทำไมกัน?” เฉินอี้เหอถามก่อนใคร
ป๋อชางโหวขมวดคิ้วตามเช่นกัน “เจียเอ๋อร์ เรากำลังคุยธุระกับคุณชายเผย เ้ากลับไปก่อนเถิด”
คุยธุระ?
หากรอพวกเขาคุยกัน จะคุยเื่นี้เสร็จเมื่อใดนั้นคงพูดได้ยากทีเดียวจริงๆ
เฉินจิ้งเจียเข้าไปคำนับป๋อชางโหว จากนั้นจึงหันกลับมามองเผยฉางชิง “คุณชายเผย ขอคารวะ”
ท่าทีของนางสง่างามยิ่งยวด โดยเฉพาะยามทำความเคารพนั้นยังคงความองอาจของตนเอาไว้ไม่คลาย
เผยฉางชิงลนลานหยัดกายยืน คารวะทำความเคารพเหมือนกันกลับไป “คุณหนูเฉิน”
นี่คือครั้งที่สามที่เขาเจอเฉินจิ้งเจีย แต่กลับเป็ครั้งแรกที่เห็นนางอยู่ในอาภรณ์สตรีเช่นนี้
ที่แท้ยามนางอยู่ในอาภรณ์ของกุลสตรีก็ดูอ่อนโยนยิ่ง ทรงสง่าผึ่งผายไม่แพ้ยามสวมอาภรณ์บุรุษเลยด้วยซ้ำ กระทั่งว่าเพิ่มความน่ารักไร้เดียงสาของหญิงสาวขึ้นหลายส่วนเลยทีเดียว หากนางไม่เอ่ยปากละก็...
“คุณชายเผยเคยแต่งงานมาก่อนหรือไม่?”
แค่เฉินจิ้งเจียอ้าปากก็สร้างความตกตะลึงแก่พวกเขาทั้งหลายในห้องนี้แล้ว
เผยฉางชิงที่สงบไม่สะทกสะท้านต่อสิ่งใดเสมอมา ยังติดอ่างไปทันใด “ยัง ยังไม่เคย คุณหนู คุณหนูถามเื่นี้ใช่หรือไม่?”
เฉินจิ้งเจียไม่มองเขาเช่นกัน หันขวับไปทางป๋อชางโหว “ท่านพ่อ ท่านได้ยินหรือยังเ้าคะ? เขายังไม่เคยแต่งงาน”
ดวงหน้าเล็กเชิดขึ้น ท่าทางดูโอหัง ป๋อชางโหวเริ่มมีโทสะขึ้นนิดหน่อยแล้ว กระนั้นเพียงพริบตาก็อันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ป๋อชางโหวยกมือปิดปาก กระแอมไอสองครั้ง ก่อนมองไปยังเผยฉางชิง “ข้าได้ยินเจียเอ๋อร์เคยพูดไว้ คุณชายเผยเดินทางเข้าเมืองหลวงครั้งนี้ เดิมทียืมบ้านสหายเป็ที่พำนัก แต่กลับเจอเื่บางอย่างจนเป็เหตุให้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางขาดไป”
พูดจบ จึงเบนสายตาไป “บังเอิญว่าข้ามีบ้านพักหลังหนึ่ง ห่างจากจวนป๋อชางโหวไม่ไกล อยู่ใกล้สภาสอบคัดเลือกด้วยเช่นกัน สามารถให้คุณชายเผยยืมพำนักได้”
เผยฉางชิงเลิกคิ้ว “หยิบยกค่าตอบแทนให้ทั้งที่ไร้ซึ่งคุณูปการเช่นนี้ มิทราบว่าเหตุใดท่านโหวช่วยข้าน้อยเผยขอรับ?”
เหตุใดน่ะหรือ? เฉินจิ้งเจียมองเผยฉางชิงอย่างประหลาดใจเล็กน้อย มิใช่ว่านางบอกเขาไว้แล้วหรือไร?
เห็นอยู่ชัดๆ ว่าตกลงรับปากตนแล้ว ไฉนถึงได้?
“ข้าน้อยเผยยังมีสติรู้จักเจียมตนอยู่ขอรับ ตัวข้าในยามนี้ไม่มีค่ามากพอให้ท่านป๋อชางโหวต้องคอยเป็ธุระรบกวนให้ ต่อให้คุณหนูและท่านแม่ทัพเฉินจะเคยช่วยข้าไว้คราหนึ่งก็ตามที”
ครั้นเขาพูดเช่นนี้ เฉินจิ้งเจียถึงได้เข้าใจ ที่แท้ก็คิดว่าตนไม่มีค่ามากพอจึงอยากฟังจากปากป๋อชางโหวเอง เช่นนั้นเขาจะได้เชื่อจริงๆ สักที
นับว่ารอบคอบทีเดียวเชียวนี่!
เฉินจิ้งเจียคิดในใจ อดที่จะยกยิ้มมุมปากขึ้นเสียมิได้ รอบคอบไว้บ้างก็ไม่เสียหายอะไร อย่างน้อยจากนี้ก็เบาใจเื่เขาลงไปได้บ้าง
หากแต่ จำต้องให้นางห่วงเขาด้วยอย่างนั้นหรือ?
ชาติก่อนเขาก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ภายหลังสถานะตัวตนที่แท้จริงเปิดเผย ก็สามารถบีบเค้นไท่จื่อจนเกือบถูกกำจัดได้
ครั้นเห็นเฉินจิ้งเจียจดจ้องเผยฉางชิง เฉินอี้เหอเป็อันต้องยกมือกุมหน้าผาก
ตอนที่เพิ่งกลับมายังพูดไว้ว่าน้องสาวผู้นี้เติบโตอย่างฉับพลัน รู้เื่ว่าอะไรควรไม่ควรเร็วจนเขาปวดใจยิ่ง
ไฉนพอเห็นหน้าคุณชายเผย ถึงยอมอยู่ได้ตายได้เพื่อเขากัน?
ตอนนี้ยังจดจ้องบุรุษต่อหน้าท่านพ่ออีก จริงๆ เลย ทนดูต่อไม่ไหวแล้ว!
สีหน้ารับไม่ได้ของป๋อชางโหวเริ่มแดงก่ำ เื่ราวอย่างการเจรจาแต่งงานเช่นนี้เขาเองก็หาได้เคยทำมาก่อน หากจะให้เขาพูดว่า้ายัดเยียดลูกสาวให้เผยฉางชิงละก็ นับว่าเป็เื่กะทันหันที่พูดยากทีเดียว
เฉินจิ้งเจียมองบิดาของตน ชายผู้ที่ไม่เคยประหม่ายามอยู่ต่อหน้าราชสำนัก ผู้ที่แม้นอยู่ต่อหน้าพระพักตร์ฮ่องเต้ยังสามารถถกเถียงด้วยเหตุผลได้นั้น ไฉนเพียงครู่เดียวถึงกังวลจนอยู่ในสภาพนี้ได้เล่า...
จริงๆ เลย ทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว!
“ก็ไม่มีอะไรหรอก ข้าแค่ชอบเ้า อยากแต่งงานกับเ้า เ้ายินยอมหรือไม่?” เฉินจิ้งเจียเองก็ไม่สนใจว่าท่านพ่อและพี่ชายจะตื่นใกับนางเพียงใด ทำธุรกิจสำคัญจำต้องหนักแน่น
เดิมทีเผยฉางชิงที่กำลังรอคำพูดจากป๋อชางโหว แต่กลับไม่คาดคิดว่าเฉินจิ้งเจียจะชิงพูดก่อน ทั้งยังพูดวาจาทำนองนี้อีกด้วย
หากมิใช่เพราะตนอยู่ในเรือนพักของวัดอันเหริน หากมิใช่เพราะเฉินจิ้งเจียในชุดกระโปรงยาวสีขาวตรงหน้า เขาคงคิดว่าตนเข้ามาในหมู่บ้านกองโจรเป็แน่
“เจียเอ๋อร์! อย่าได้พูดจาซี้ซั้ว!”
ป๋อชางโหวตะคอกเสียงดัง
มีสาวน้อยสกุลไหนบ้างที่ไปถามผู้ชายเองว่าจะยอมแต่งงานกับนางหรือไม่น่ะ?
หาก้าถาม เช่นนั้นก็ต้องชวนคุย พูดอ้อมค้อมเพื่อสืบสาวราวเื่เสียก่อน มีอย่างไหนเหมือนนางที่อ้าปากได้ก็ถามตรงๆ ว่าข้าอยากแต่งงาน เ้าจะยอมแต่งหรือไม่เช่นนี้?
หากจะถามตามตรง เช่นนั้นก็ต้องมีความเขินอายเยี่ยงกุลสตรีบ้างมิใช่หรือ? สีหน้านางสุขุมยิ่ง ดวงตาฉายแววแน่วแน่ไร้ซึ่งความสับสน หน้าตาหาได้มีความกระดากอายแม้แต่น้อย นี่มัน...เหมาะแล้วหรือ?
“ท่านพ่อ ลูกหาได้ซี้ซั้วเสียหน่อย”
เฉินจิ้งเจียมองป๋อชางโหวอย่างจริงจัง “เื่นี้เกี่ยวข้องกับชีวิตลูกชั่วชีวิต ไหนเลยลูกจะเอาเื่แบบนี้มาล้อเล่นเ้าคะ!”
นางเอ่ยจบจึงกวาดสายตามองไปยังเฉินอี้เหอที่นิ่งเงียบตลอดมา “ท่านพี่ ท่านว่าข้าพูดถูกใช่หรือไม่?”
เมื่อถูกเรียกชื่อกะทันหัน เฉินอี้เหอร้อนรนขึ้นทันตา มองเฉินจิ้งเจียและป๋อชางโหวด้วยท่าทีตึงเครียด “ใช่ ใช่ เจียเอ๋อร์พูดถูก!”
เขาเอ่ย ก่อนเผยรอยยิ้มที่ดูย่ำแย่เสียยิ่งกว่าร้องไห้ออกมา
ไม่ว่าพวกเขาจะพูดอย่างไร ขอเพียงบอกว่าน้องสาวถูกต้อง ท่านพ่อก็ไม่มีทางทำอะไรได้!
อีกอย่าง นั่นคือใคร นั่นเป็ถึงคุณหนูใหญ่แห่งจวนป๋อชางโหว เป็น้องสาวโดยสายเืของเฉินอี้เหอ! ไฉนนางจะเป็ฝ่ายผิดเล่า!
ครั้นเห็นท่าทางเซ่อซ่าของเ้าลูกชายโง่เง่าของตนแล้ว ป๋อชางโหวเป็อันต้องกลอกตา สรุปแล้วเขารู้หรือไม่ว่าเมื่อครู่เฉินจิ้งเจียพูดอะไร อ้าปากได้ก็โพล่งว่า “เจียเอ๋อร์พูดถูก” ไม่พอยังยกยิ้มน่าเกลียดเช่นนี้อีก...
ให้ตายเถอะ ทนดูไม่ได้เสียจริง!
ป๋อชางโหวตัวแข็งทื่อหันหน้ากลับมา มองเผยฉางชิงที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาว “เจียเอ๋อร์พูดถูก”
