บทที่ 5 : แฟชั่นคนป่า และไก่อบดินสูตรสาวสตรีมเมอร์
"สภาพ..."
แป้งหอมยืนกอดอกมองตัวเองและเพื่อนชายตรงหน้า แล้วก็อดที่จะอุทานคำนี้ออกมาไม่ได้จริงๆ
หลังจากความตื่นเต้นเื่รูปร่างหน้าตาที่เปลี่ยนไปจนสวยหล่อระดับเทพสร้างผ่านพ้นไป ปัญหาปากท้องและปัจจัยสี่ก็เริ่มคืบคลานเข้ามา
เสื้อนักเรียนไซซ์ XXL ของแป้งหอม ตอนนี้มันใหญ่โคร่งจนแทบจะเอามาห่มเป็ผ้าห่มได้ กระโปรงนักเรียนที่เคยคับติ้วจนซ็อปแทบปริ ตอนนี้ถ้าเธอปล่อยมือ มันจะร่วงพรืดลงไปกองที่ตาตุ่มทันที
ส่วนต้นกล้าก็ไม่ต่างกัน กางเกงนักเรียนขาสั้นสีน้ำตาลหลวมจนต้องเอามือจับขอบกางเกงไว้ตลอดเวลาเหมือนเด็กหัดเดิน เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคร่งห้อยรุ่งริ่งดูเหมือนพวกฮิปฮอปหลงยุค
"เอาไงดีล่ะพ่ออัจฉริยะ" แป้งหอมถามเสียงประชดนิดๆ พลางดึงคอเสื้อที่ร่วงลงมาปิดไหล่ "ขืนเดินออกไปสภาพนี้ ได้สะดุดชายกระโปรงตัวเองตายก่อนเจอทางออกแน่"
ต้นกล้าขยับแว่น... เอ้ย ขยับนิ้วดันดั้งจมูกแก้เก้อ (เพิ่งนึกได้ว่าไม่มีแว่นแล้ว) เขาหันซ้ายหันขวา มองหาตัวช่วยในถ้ำ
"ต้องประยุกต์ใช้ทรัพยากรที่มี... รอแป๊บ"
ร่างสูงโปร่งเดินตรงไปที่ปากถ้ำที่มีเถาวัลย์ห้อยระโยงระยาง เขาเลือกเส้นที่ดูเหนียวและขนาดกำลังดี แล้วออกแรงดึง...
แคว่ก!
"เฮ้ย!" ต้นกล้าร้องเสียงหลง
เขาแค่ออกแรงกระตุกเบาๆ กะว่าจะทดสอบความเหนียว แต่เถาวัลย์เส้นเท่าแขนกลับขาดสะบั้นคามือราวกับด้ายเปื่อยๆ แถมแรงกระชากยังทำให้เขาเกือบหงายหลัง
"แรงเยอะชะมัด..." เขามองมือตัวเองด้วยความทึ่ง
"โหย... พ่อจอมพลัง" แป้งหอมแซว "ระวังจะเผลอไปบีบคอใครหักเอานะ"
ต้นกล้าไม่ตอบ แต่หน้าแดงระเรื่อ เขารวบรวมเถาวัลย์มาสองสามเส้น ใช้หินคมๆ ตัดเล็มใบออกจนเกลี้ยง แล้วเดินกลับมาหาแป้งหอม
"หันหลังสิ" เขาบอกเสียงเรียบ พยายามคุมโทนให้ดูนิ่งที่สุด
"ห๊ะ? จะทำไร?" แป้งหอมระแวง กอดอกแน่นกว่าเดิม
"จะมัดเอวให้ไง หรือจะเดินจับกระโปรงไปตลอดทาง?"
"อ๋อ..." แป้งหอมหน้าแตกเล็กน้อย เธอยอมหันหลังให้แต่โดยดี
ต้นกล้าค่อยๆ สอดเถาวัลย์ผ่านหูเข็มขัดกระโปรงของเธอ นิ้วเรียวของเขาเผลอััโดนเอวคอดกิ่วของหญิงสาวผ่านเนื้อผ้าบางๆ
ความรู้สึกเหมือนไฟช็อตแล่นผ่านปลายนิ้ว... เอวของเธอเล็กมาก เล็กจนเขารู้สึกว่าถ้าใช้มือเดียวโอบก็คงรอบ
ตึกตัก... ตึกตัก...
เสียงหัวใจของต้นกล้าเต้นแรงจนกลัวว่าคนข้างหน้าจะได้ยิน
ส่วนแป้งหอมเองก็ยืนตัวเกร็ง กลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว กลิ่นกายชายหนุ่ม (ที่ไม่มีกลิ่นเหงื่อเหม็นเปรี้ยวแล้ว แต่เป็กลิ่นหอมสะอาดเหมือนฝนตกใหม่ๆ) ลอยมาแตะจมูก
"เสร็จ... เสร็จแล้ว" ต้นกล้ารีบผูกปมเงื่อนพิรอดอย่างรวดเร็ว (ทักษะลูกเสือที่เพิ่งได้ใช้ประโยชน์จริง) ก่อนจะถอยฉากออกมาจัดการกับกางเกงตัวเองบ้าง
แป้งหอมหมุนตัวกลับมา ลองขยับเอวดู "โอ้! แ่าใช้ได้! ขอบใจนะนายช่าง"
เธอยิ้มกว้างจนตาหยี รอยยิ้มที่ตอนนี้ดูเจิดจ้าเสียจนต้นกล้าต้องเบือนหน้าหนีไปมองหินงอกหินย้อยแทน เพราะกลัวจะหัวใจวายตายก่อนวัยอันควร
"ปะ... ไปหาอะไรกินกันเถอะ หิวจนไส้กิ่วแล้ว" เขาตัดบท รีบเดินนำออกจากถ้ำ
...
ภายนอกถ้ำ ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็สีส้มอมม่วง บ่งบอกว่าดวงอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้า
ป่าดงดิบยามพลบค่ำดูสวยงามและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน ต้นไม้ใบหญ้าเริ่มเปล่งแสงเรืองรองออกมาเหมือนในหนังอวตาร
"จ๊อกกกกก~"
เสียงท้องร้องประสานเสียงดังขึ้นพร้อมกัน ทั้งคู่หันมามองหน้ากันแล้วหลุดขำ
"โอเค ภารกิจเร่งด่วน : ล่าอาหาร!" แป้งหอมประกาศ "จมูกฉันได้กลิ่นอะไรบางอย่าง... หอมๆ เหมือนไก่ย่าง!"
"ไก่ย่างในป่าเนี่ยนะ?"
"จริงๆ นะ! ทางนู้น!" แป้งหอมชี้นิ้วไปทางทิศเหนือ จมูกโด่งรั้นขยับฟุดฟิดเหมือนกระต่าย "เชื่อสัญชาตญาณนักชิมระดับมิชลิน(ริมทาง)ของฉันเถอะ!"
ทั้งคู่เดินลัดเลาะไปตามป่า และไม่นานพวกเขาก็เจอเป้าหมาย
มันคือไก่... แต่ไม่ใช่ไก่ธรรมดา
มันเป็ไก่ป่าขนาดเท่าไก่งวง ขนสีแดงเพลิงสลับทอง หงอนบนหัวเปล่งแสงสีแดงจางๆ กำลังจิกกินหนอนั์อยู่อย่างสบายใจ
"ไก่แฟนตาซีว่ะ..." ต้นกล้ากระซิบ "กินได้เหรอ?"
"ไก่ก็คือไก่! ดูน่องมันสิ น่าจะเนื้อแน่นน่าดู" แป้งหอมน้ำลายสอ "นายจัดการทีซิ พ่อหนุ่มแรงช้างสาร"
ต้นกล้าพยักหน้า เขาหยิบก้อนหินขนาดพอดีมือขึ้นมา เล็งเป้าไปที่หัวไก่
ด้วยสายตาใหม่ที่คมกริบ เขามองเห็นแม้กระทั่งจังหวะการเต้นของชีพจรที่คอไก่
ฟึ่บ!
เขาขว้างหินออกไปสุดแรง!
ตูม!!!
เสียงะเิดังสนั่นหวั่นไหว ต้นไม้ใหญ่ด้านหลังไก่ตัวนั้นหักโค่นลงมาครึ่งต้น ฝุ่นตลบอบอวล
เ้าไก่สะดุ้งสุดตัว ร้อง "กะต๊ากกกก!" ด้วยความใจนขนร่วงกราว มันรีบกระพือปีกบินหนีไปอย่างทุลักทุเล
"เฮ้ย! นายกะจะะเิูเาเผากระท่อมหรือไง!" แป้งหอมโวยวาย "ไก่หนีไปหมดแล้ว!"
"กะ... ก็กะแรงไม่ถูกนี่หว่า!" ต้นกล้าเหวอ มองดูซากต้นไม้ที่หักโค่นฝีมือตัวเอง "ใครจะไปคิดว่าแรงมันจะเยอะขนาดนี้!"
"ไม่ต้องแก้ตัว! ไปจับมันกลับมาเลยนะ มื้อเย็นฉันบินหนีไปแล้ว!"
ต้นกล้ารีบออกวิ่งไล่ตามไก่ตัวนั้นไป ทว่าด้วยความเร็วใหม่ที่ยังไม่คุ้นชิน ทำให้เขาวิ่งชนต้นไม้บ้าง สะดุดรากไม้บ้าง แต่ด้วยความเร็วระดับรถมอเตอร์ไซค์บิดหมดปลอก สุดท้ายเขาก็ะโตะครุบเ้าไก่ผู้โชคร้ายได้สำเร็จ
...
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
ริมลำธารใสสะอาด กองไฟกองเล็กๆ ถูกจุดขึ้น (ด้วยความพยายามของต้นกล้าที่เอาหินสองก้อนมาสีกันด้วยความเร็วสูงจนเกิดประกายไฟ)
แป้งหอมรับบทเชฟจำเป็ เธอจัดการถอนขนและควักไส้ไก่อย่างคล่องแคล่ว (ทักษะจากการช่วยแม่ทำกับข้าวที่บ้าน) ก่อนจะหันไปเด็ดใบไม้ใบใหญ่ที่มีกลิ่นหอมคล้ายตะไคร้มาพันรอบตัวไก่ แล้วพอกด้วยดินโคลนเหนียวๆ ที่ริมตลิ่งจนกลายเป็ก้อนดินกลมๆ
"ไก่อบดิน... เมนูเอาตัวรอดในตำนาน" แป้งหอมพูดอย่างภาคภูมิใจ พลางโยนก้อนดินเข้าไปในกองไฟ
"แน่ใจนะว่ากินได้?" ต้นกล้าถามอย่างหวาดๆ
"เชื่อมือเจ๊! รับรองอร่อยแสงออกปาก"
ผ่านไปพักใหญ่ กลิ่นหอมยั่วน้ำลายก็ลอยตลบอบอวล กลิ่นเนื้อไก่ผสมสมุนไพรทำเอาน้ำย่อยในกระเพาะประท้วงหนักกว่าเดิม แป้งหอมใช้ไม้เขี่ยก้อนดินออกมา ทุบดินที่แข็งตัวให้แตกออก
แครก...
ควันร้อนๆ พุ่งออกมาพร้อมกลิ่นหอมฟุ้ง หนังไก่สีเหลืองทองชุ่มฉ่ำปรากฏแก่สายตา
"ว้าว..." ต้นกล้ากลืนน้ำลาย
แป้งหอมฉีกน่องไก่ยื่นให้เขา "เอ้า ของคนเหนื่อย กินซะ"
ต้นกล้ารับมา กัดเข้าไปคำโต
ทันทีที่เนื้อไก่ััลิ้น รสชาติหวานนุ่มชุ่มฉ่ำก็ะเิในปาก อร่อยกว่าไก่ทอดแบรนด์ดังเ้าไหนๆ ที่เคยกินมาในชีวิต
แต่ที่แปลกประหลาดกว่านั้นคือ... ทันทีที่กลืนลงท้อง ความร้อนวูบวาบก็แผ่ซ่านไปทั่วร่าง ความเหนื่อยล้าหายเป็ปลิดทิ้ง ราวกับได้เติมพลังงานบริสุทธิ์เข้าไป
"อร่อย!" ต้นกล้าตาโต "แล้ว... รู้สึกเหมือนมีไฟวิ่งในตัวด้วย"
"ใช่ไหมล่ะ!" แป้งหอมเคี้ยวตุ้ยๆ อย่างมีความสุข (แต่ดูน่ารักกว่าเดิมล้านเท่า) "สงสัยไก่ตัวนี้จะไม่ใช่ไก่ธรรมดา กินแล้วรู้สึกเหมือนเลเวลอัพเลยอะ"
ทั้งสองนั่งกินไก่อบดินกันอย่างเอร็ดอร่อยท่ามกลางแสงจันทร์ที่สาดส่องลงมา
บรรยากาศที่เคยน่ากลัวและตึงเครียดผ่อนคลายลง
บทสนทนาเื่สัพเพเหระเริ่มดังขึ้น สลับกับเสียงหัวเราะ
"ถ้ารอดกลับไปได้ ฉันจะเปิดร้านไก่อบดินแข่งกับไก่ทอดหน้าปากซอย" แป้งหอมพูดติดตลก เลียคราบมันที่นิ้ว
ต้นกล้ามองภาพนั้นแล้วเผลอยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน
แสงไฟจากกองฟืนกระทบเสี้ยวหน้าของเธอ ทำให้ดูสวยซึ้งจนเขาไม่อาจละสายตาได้
ในโชคร้ายที่ต้องพลัดหลงมาต่างมิติ... เขากลับรู้สึกขอบคุณโชคชะตา ที่ทำให้เขาได้มานั่งอยู่ตรงนี้... กับเธอ
"นี่แป้ง..."
"หือ?" แป้งหอมเงยหน้าขึ้น สบตากับเขา
"สัญญาได้ไหม... ว่าจะไม่ทิ้งกัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น" น้ำเสียงของต้นกล้าจริงจัง แววตามั่นคงลึกซึ้ง
แป้งหอมชะงัก หัวใจเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง เธอวางกระดูกไก่ในมือลง ยิ้มตอบบางๆ แต่จริงใจ
"สัญญาจ้ะ... นายเป็ตาให้ฉัน ฉันเป็สมองให้นาย... เอ้ย ไม่ใช่! ฉันเป็คนสวยให้นายมองต่างหาก!" เธอแก้เก้อด้วยมุกตลก
ต้นกล้าหัวเราะพรืด "ครับๆ คุณคนสวย... กินเลอะปากหมดแล้วนั่น"
เขาเอื้อมมือมาเช็ดคราบซอสที่มุมปากเธอให้อย่างแ่เบา
ััอุ่นๆ ที่ปลายนิ้ว ทำเอาโลกทั้งใบหยุดหมุนไปชั่วขณะ
ท่ามกลางป่าดงดิบพันปี... ความรู้สึกบางอย่างที่มากกว่าเพื่อน กำลังค่อยๆ ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบเชียบและงดงามยิ่งกว่าดอกไม้ใดๆ ในป่าแห่งนี้
