จวินเหยียน “อืม” ออกมาหนึ่งเสียง “ในเมื่อรู้แล้วก็จงจำไว้ นางคือสตรีที่ข้าสู่ขอเข้าจวนมาอย่างถูกต้อง เป็พี่สะใภ้ใหญ่ของพวกเ้า ดังนั้น ยามปกติก็เคารพนางเอาไว้หน่อย มิเช่นนั้นข้าจะถลกหนังเ้าออกมาเสีย”
ในสมองของอวิ๋นหวนปรากฏฉากเืสดๆ เจิ่งนอง ถลกหนัง? เหตุใดจึงต้องข่มขู่ให้น่าหวาดกลัวเพียงนี้ วิธีการบ้าเืเช่นนั้นของพี่ใหญ่ไม่ควรนำมาใช้กับพี่น้อง นี่มันเกินไปแล้วจริงๆ
“เอาล่ะ รีบทำงานต่อเถอะ” อวิ๋นซีเห็นท่าทีร่ำรี้ร่ำไรของอวิ๋นหวนก็พาลให้คิดอยากจะพุ่งเข้าเตะอีกฝ่ายสักที เนื่องด้วยตัวนางคุ้นชินแต่กับการทำอะไรรวดเร็วและเด็ดขาด ดังนั้น เมื่อได้เห็นคนชักช้าอืดอาดก็มักจะทำให้รู้สึกขัดใจ
เมื่ออวิ๋นหวนถูกนางจ้องเช่นนี้ ทั้งยังมีถ้อยคำกรีดแทงที่น่าเกรงขามของพี่ใหญ่ก้องกังวานอยู่ในโสตประสาท เขาก็รีบเดินไปด้านหน้าเพื่อปิดตาอุดปากบุรุษที่ถูกตรึงบนเสาไม้ด้วยตัวเอง ทันทีที่อวิ๋นซีเห็นการกระทำอันรวดเร็วนั้น นางก็พยักหน้าด้วยความพอใจ ก่อนจะก้าวไปเบื้องหน้าอวิ๋นหวนแล้วกระซิบเสียงเบาสองสามประโยค
จวินเหยียนที่ยืนอยู่อีกด้าน เห็นภรรยาและน้องชายมีท่าทีใกล้ชิดกันเพียงนี้ก็อดไม่ได้ให้ขมวดคิ้ว ทั้งยังคิดในใจว่า วันหน้าหากจะพานางออกไปด้านนอกจักต้องไตร่ตรองให้ดียิ่งกว่านี้ เพราะอวิ๋นซีนั้นยอดเยี่ยมเกินไป นางแตกต่างจากสตรีในห้องหอทั่วไปอย่างสิ้นเชิง และทำให้คนรู้สึกดีด้วยได้ง่าย ดังนั้น หากพาออกไปด้านนอกให้ผู้อื่นได้พบเห็นเข้า เกรงว่านั่นจะยิ่งอันตรายมากกว่าปกติ
เขาไม่อยากจะชักนำศัตรูหัวใจให้เข้าหาตนโดยไม่รู้ตัว
เมื่ออวิ๋นหวนฟังจบแล้วก็รีบออกไปยกน้ำเข้ามาถังหนึ่ง จากนั้นวางลงด้านล่างในตำแหน่งที่ตรงกับมือของคนผู้นั้น ส่วนองครักษ์ที่เดินตามหลังเขาเข้ามา มาพร้อมกับกรงที่ด้านในมีหนูตัวเล็กๆ อยู่จำนวนหนึ่ง
อวิ๋นซีสั่งเสียงดัง “ไป ทำให้พี่ชายที่มีใจภักดี คิดปกป้องผู้เป็นายผู้นี้ได้หลั่งเืเสียหน่อยด้วยการสร้างาแที่ฝ่าเท้าให้เขาสักรอย ทาน้ำผึ้งไว้้า แล้วปล่อยให้บรรดาหนูตัวน้อยที่หิวโหยมาถึงสองวันเต็มได้เข้าไปลิ้มรสชาติเนืุ้์สักหน่อย”
อวิ๋หวนที่กำลังเตรียมจะเข้าซ้อมคนให้เืไหลเมื่อได้ฟังประโยคสุดท้ายของอวิ๋นซี ร่างแข็งแรงพลันโซเซจนแทบจะล้มลง ก่อนจะหันกายไปมองอวิ๋นซีอย่างไม่อยากจะเชื่อ “รสชาติเนืุ้์? ”
อวิ๋นซีพยักหน้า “ใช่แล้ว รสชาติเนืุ้์นั่นแหละ”
อวิ๋นหวนกลืนน้ำลาย จากนั้นก็ก้าวเดินไปหาคนผู้นั้นอย่างยากลำบากพลางคิดในใจว่า ั้แ่เมื่อไรกันที่ความคิดความอ่านของสตรีน่าสะพรึงกลัวเพียงนี้? จู่ๆ เขาก็รู้สึกเสียใจขึ้นมานิดหน่อยที่ก่อนหน้านี้หน้ามืดตามัวไปพนันกับสตรีนางนี้เข้า เขาบรรจงใช้คมมีดกรีดลึกลงไปบนร่างของคนผู้นั้นสองสามแผล จากนั้นก็ปล่อยให้เืค่อยๆ ไหลหยดลงในถังที่มีน้ำ ชั่วขณะนั้นคุกใต้ดินที่เงียบเชียบก็เริ่มมีเสียงน้ำหยดติ๋งๆ พร้อมกับเสียงหนูที่ร้องจี๊ดๆ
จากนั้นอวิ๋นหวนก็กรีดไปบนฝ่าเท้าของบุรุษผู้นั้นอีกแผลหนึ่ง แล้วนำน้ำผึ้งที่องครักษ์ส่งให้มารดราดลงไปบนปากแผล ชั่วขณะนั้นหนูในกรงก็พากันเปล่งเสียงด้วยความยินดีปรีดา ฉับพลันนั้นชายที่นับแต่ถูกจับมาก็ยังไม่แม้แต่จะส่งเสียงให้ได้ยินเมื่อได้ยินเสียงของเหล่าสหายตัวน้อยก็พลอยให้ร่างกายสั่นไหว
เมื่ออวิ๋นซีเห็นท่าทางหวาดกลัวนั้นก็หัวเราะเ็า “ปล่อยหนู”
ทันทีที่บอกว่าปล่อยหนู อวิ๋นซีกลับเดินเข้าไปหาผู้เคราะห์ร้ายด้วยตนเองพร้อมหยิบเข็มเงินแหลมยาวไปด้วย จากนั้นจึงแทงเข้าที่ฝ่าเท้าของชายคนนั้น ทำให้ความเ็ปบาดหัวใจแล่นขึ้นมาจากฝ่าเท้าอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะดิ้นขลุกขลักไปมาไม่ยอมหยุดด้วยหวังจะสลัดเชือกที่มัดตนอยู่ให้หลุดออก ทว่าเชือกเหล่านี้เป็อวิ๋นหวนที่สั่งให้คนทำขึ้นเป็พิเศษร่วมกับการผนึกกำลังภายในไว้ ดังนั้น ไม่ว่าอีกฝ่ายจะดิ้นรนอย่างไรก็ไม่อาจหลุดพ้นจากพันธนาการที่จองจำ
อีกทั้ง ปากของเขายังถูกอุดไว้ หากคิดอยากจะส่งเสียงใดก็ไม่อาจกระทำได้ ชั่วขณะนั้นภายในห้องสอบสวนนี้ก็เหลือเพียงเสียงเืที่หลั่งรินจากฝ่ามือตกกระทบน้ำและเสียงหนูร้อง
ชายคนนั้นเริ่มมีท่าทีหวาดกลัว หวั่นเกรงให้ได้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ
ยิ่งกว่านั้น ดวงตาของเขายังถูกปิดไว้ ทำให้มองไม่เห็นแสงใด รอบด้านมีเพียงสีดำสนิท และได้ยินเพียงเสียงเืหยด และเสียงหนูร้อง จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าเวลาในนี้คลับคล้ายจะผ่านไปอย่างเชื่องช้าเสียเหลือเกิน
อวิ๋นซีมองสีหน้าเขาที่เปลี่ยนไป จากนั้นก็พูดเรียบๆ ว่า “เืหนึ่งถังแล้ว คนผู้นี้ปากแข็งจริงๆ ในเมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว แต่เ้ากลับยังไม่ยอมพูด เช่นนั้นให้ข้าดูหน่อยเถิดว่าเ้ามีเนื้อหนังให้หนูกัดแทะสักเท่าไร หรือมีเืให้ต้องเสียอีกมากเท่าไร”
“เปลี่ยนถังให้เขา” แม้อวิ๋นหวนจะไม่รู้จักกลวิธีอะไรพวกนี้ ทว่าจนถึงตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจเื่หนึ่งแล้ว แท้จริงแล้วความตายไม่ได้น่ากลัว แต่สิ่งที่น่ากลัวคือระหว่างทางที่รอความตายต่างหาก ซึ่งนางก็ได้อาศัยประโยชน์จากความรู้สึกเช่นนี้มาทำให้อีกฝ่ายยอมเปิดปาก
เมื่ออวิ๋นซีได้ยินคำของอวิ๋นหวน ในใจก็รู้ได้ในทันทีว่าคนคงเดาได้แล้วว่านาง้าทำสิ่งใด จึงไม่อาจไม่พูดได้ว่า อวิ๋นหวนผู้นี้ก็นับว่าเฉลียวฉลาดดี
เวลาผ่านไปได้ครู่หนึ่ง อวิ๋นซีก็ถามเสียงต่ำ “รสชาติของการรอความตายเป็อย่างไร? รู้สึกดีหรือไม่? ”
เมื่อชายคนนั้นได้ยินคำพูดของอวิ๋นซีก็เอาแต่ส่ายหน้าไม่หยุด ตอนนี้เขา้าร้องขอความตายแล้ว ยิ่งกว่านั้น สตรีนางนี้เป็ผู้ใดกันแน่ การกระทำของนางน่ากลัวเกินไปแล้ว ช่างน่ากลัวเกินไปแล้ว อีกทั้งดวงตาทั้งสองข้างของเขาที่ถูกปิดไว้ ทำให้มองไม่เห็นอะไรเลยสักอย่าง จึงไม่รู้ว่ายามนี้เวลาผ่านไปนานเพียงใดแล้ว
ตอนที่ตามองไม่เห็น ประสาทััที่หูก็จะดียิ่ง เขาได้ยินเพียงเสียงเืหยด เสียงหนูร้อง และรับรู้ได้ถึงความเ็ปที่มาจากทั้งมือและเท้า ยามนี้เขาแทบจะเป็บ้าแล้ว ความรู้สึกเช่นนี้น่ากลัวเหลือเกิน
อวิ๋นหวนมองอวิ๋นซีไปทีหนึ่ง สุดท้ายจึงเดินไปด้านหลังชายคนนั้นเพื่อดึงผ้าออก และปล่อยให้อีกฝ่ายได้พูด “พวกเ้าฆ่าข้าเสียเถอะ ฆ่าข้าเสียเถอะ”
อวิ๋นซียิ้มเย็น “ข้าลำบากทำเื่มากมายเพียงนี้มิใช่เพื่อจะฆ่าเ้า พูดมาเถอะ นายของเ้าเป็ใคร และจุดประสงค์ที่มาหานโจวนี้คืออะไร” ไม่รู้เพราะเหตุใด จู่ๆ นางก็มีความรู้สึกว่า วันนี้ตนอาจจะได้รู้ความลับที่ก่อนหน้านี้ไม่อาจล่วงรู้ได้จากปากคนผู้นี้ก็เป็ได้
ชายคนนั้นหัวเราะเ็า “ฆ่าข้าเสียเถอะ ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ไม่มีทางบอกเ้าหรอก”
“ดียิ่ง หากเ้าไม่บอก ข้าก็จะให้เ้านอนลงกับพื้น แล้วกรีดท้องเ้าเสีย ทว่าเ้าวางใจได้ วิชาแพทย์ของข้านับว่าดีมาก ต่อให้จะกรีดท้องเ้าไปแผลหนึ่ง ไม่ว่าอย่างไรเ้าก็ไม่มีทางตายแน่ เพียงแต่เ้าจะได้รับรู้ถึงความเ็ปทรมานอย่างที่คนไม่อาจทานทนได้ก็เท่านั้น จากนั้นข้าจะปล่อยให้หนูเหล่านี้เข้าไปในท้องเ้า กัดกินอวัยวะภายในของเ้าไปเรื่อยๆ ”
คำพูดของอวิ๋นซีราวกับลมหนาวอันเยือกเย็นจากแดนเหนือที่พัดผ่านหูของทุกคนในที่นี้ พวกเขาต่างอดไม่ได้ให้ตัวสั่นงันงก ส่วนอวิ๋นหวนนั้นถึงกับผงะถอยหลังออกไปสองสามก้าวแล้วกุมท้องตนเองไว้ด้วยเกรงว่า หากทำให้อวิ๋นซีไม่พอใจขึ้นมา นางอาจใช้วิธีเช่นนี้มาจัดการกับเขา
ทางด้านจวินเหยียน เขาได้แต่มองไปทางอวิ๋นซีด้วยสีหน้าซับซ้อน ตอนนี้เขาไม่รู้และไม่อาจทำความเข้าใจได้ว่า แท้จริงแล้วนางเป็ใครกันแน่? จะใช่บุตรสาวของอวิ๋นซานจริงๆ น่ะหรือ? แต่เหตุใดถึงได้แตกต่างจากที่อวิ๋นซานบรรยายไว้ลิบลับ อวิ๋นซีในตอนนี้ไม่ต่างจากพญามารในนรก เืเย็นไม่มีใครเทียบ
“ไม่ เ้าเป็ปีศาจ เ้ามันเป็ปีศาจ” ชายคนนั้นถูกคำพูดของอวิ๋นซีทำให้ใเสียจนหน้าขาวซีด จากนั้นจึงเอาแต่ะโว่านางเป็ปีศาจไม่ยอมหยุด ทั้งยังนึกอยากจะกัดลิ้นฆ่าตัวตาย ทว่าไม่รู้เพราะเหตุใดร่างกายกลับไม่มีเรี่ยวแรงให้ทำเช่นนั้น และต่อให้จะตัดสินใจกัดลิ้นตนก็คงได้แค่ทำให้ตนเองาเ็เท่านั้น ไม่มีทางตาย
ภารกิจก่อนหน้านี้ เขาไม่เคยกลัวสิ่งใดแม้แต่ความตาย ทว่าตอนนี้กลับเริ่มหวาดกลัวหน่อยๆ เสียแล้ว “ขอร้องล่ะ ฆ่าข้าเสียเถอะ ฆ่าข้าเสีย”
“บอกข้ามา พวกเ้า้าทำอันใดกันแน่? หากยังไม่ยอมพูดอีก ข้าจะกรีดเ้าเดี๋ยวนี้” อวิ๋นซีมองบุรุษตรงหน้าด้วยดวงตากระหายเื ทั้งยังอยากให้คนที่ถูกตรึงอยู่ตรงนี้คือโอวหยางเทียนหัวด้วยซ้ำ เพราะหากเป็บุรุษผู้นั้น นางคงจะเข้ากรีดท้องเขาโดยไม่ยั้งมือ และไม่มีให้แม้แต่ไมตรีเพียงนิด เพื่อให้เขาได้ลิ้มลองความรู้สึกอยู่ไม่สู้ตายเสียบ้าง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้