ทว่าหลินฟู่อินประเมินความอยากให้หลินต้าหลางโดดเด่นของหลินต้าซานไว้ต่ำเกินไป หลินต้าซานไม่เสียเวลาคิด กล่าวว่า “ฟู่อิน ข้าไม่เห็นด้วย ท่านพ่อพูดถูกแล้ว ซานหลางเป็คนเก็บตัว แล้วจะไปเรียนได้ยังไง? แล้วไปถึงโรงเรียนมันจะเรียนอะไรได้?”
หลินฟู่อินเห็นความหัวแข็งนี้แล้ว สายตาจึงเ็า เมื่อคิดว่าบ้านใหญ่คอยสนับสนุนหลินต้าหลางมาตลอดหลายปี การจะเดินเข้าสู่อนาคตอันมืดบอดนั่นไปจนสุดทางก็คงไม่น่าแปลกใจ นางจึงมิได้ผิดหวังอะไรมาก
นางเม้มปากเล็กน้อย แล้วปรายตามองใบหน้าของคนบ้านใหญ่ทีละคน ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา “ว่าโดยสรุป ข้าได้สิทธิ์สำหรับส่งคนไปเรียนในเมืองมา ข้าจะทำยังไงกับสิทธิ์นี้และจะใช้กับใครมันก็เป็เื่ของข้า ข้าจะให้พี่ซานหลางหรือใครก็ได้ ข้าให้พี่ซานหลางเป็คนได้สิทธิ์นี้ และข้าจะไม่เปลี่ยนใจ”
ทันทีที่กล่าวจบ ปู่หลิน หลินต้าหลาง และหลินต้าซานก็รู้สึกแย่ขึ้นมาทันที แต่จ้าวซื่อและอู๋ซื่อยังไม่เข้าใจ อู๋ซื่อจึงตะคอกใส่หลินฟู่อิน “นังเด็กนี่ หมายความว่ายังไงกัน? ต่อหน้าปู่และย่าเช่นข้าแล้วยังกล้าหืออีกหรือ น่าชังนัก!”
เห็นอู๋ซื่อเบ่งอำนาจแล้ว จ้าวซื่อจึงรีบตามน้ำ นางจ้องหลินฟู่อินเขม็งแล้วดุด่านางอย่างรุนแรง “นี่เ้าไม่เห็นพวกข้าเป็ครอบครัวเลยหรือยังไง?”
หลินฟู่อินชินชากับเสียงรบกวนของป้าใหญ่นี่แล้ว และไม่คิดจะสนทนาด้วยอีก หันไปมองปู่หลินด้วยรอยยิ้ม
ปู่หลินหรี่ตามองรอยยิ้มของหลินฟู่อินก็เม้มปากแน่น
หลินต้าซานและหลินต้าหลางเองก็เริ่มไม่สบายใจ หลินต้าหลางจึงขยิบตาให้ผู้เป็พ่อ หลินต้าซานจึงพยักหน้าและกำลังจะอ้าปากพูด แต่ปู่หลินกลับส่งเสียงขึ้นมาก่อน “ในเมื่อฟู่อินอยากสนับสนุนคนในตระกูลที่ชอบเรียน เช่นนั้นแล้วก็เรียกบ้านสองมาด้วยดีกว่า ความคิดของฟู่อินนั้นไม่เลว แต่ซานหลางก็ไม่ใช่คนที่มีหัวด้านการเรียนจริงๆ”
ได้ยินเช่นนี้หลินต้าซานจึงเบิกตากว้าง ในใจลิงโลดขึ้นมา พ่อของเขายังร้ายกาจจริงๆ จึงปรบมือแล้วรีบกล่าว “ความคิดดียิ่ง บางทีซานหลางอาจจะไม่อยากเรียนก็ได้ เราทะเลาะกันไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา เอาตามนี้ดีกว่า”
หลินต้าหลางเองก็เริงร่าขึ้นมา แล้วเสนอตัว “เช่นนั้นข้าจะไปเรียกบ้านพวกอาสองมาเอง”
กล่าวจบแล้วจึงวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวหลินฟู่อินจะห้ามไว้ก่อน
หลินฟู่อินเพียงมองเหตุการณ์ด้วยรอยยิ้มเสียดสี นางคิดไว้อยู่แล้วว่าสุดท้ายมันก็ต้องลงเอยเช่นนี้
โชคดีที่นางไปคุยกับคู่สามีภรรยาหลินต้าเหอไว้ก่อนแล้ว เพราะเดี๋ยวอู๋ซื่อคงได้อ้างความกตัญญูเพื่อกดหัวให้ยอมอีกแน่
เมื่อหลินต้าหลางออกไปเรียกพวกหลินต้าเหอแล้ว หลินต้าซานจึงสงบใจลงแล้วมองหลินฟู่อินอย่างหวาดระแวง “ฟู่อิน เ้าคิดไว้แล้วหรือว่าหากซานหลางไม่เรียน เ้าจะขายเก้าอี้นั้นให้คนอื่นแลกเงินน่ะ?”
หลินฟู่อินมองเขา ริมฝีปากโค้งขึ้นอย่างดูแคลน “ช่วยไม่ได้ ก็ในเมื่อบ้านหลินไม่อยากมีบัณฑิตเพิ่มอีกคน แล้วข้ายังมีน้องชายน้องสาวให้ต้องดูแล ข้าจะหาเงินจากที่ไหนได้อีก? จะวิธีไหนที่ได้เงินข้าก็ทำทั้งนั้น”
หลินต้าซานได้ยินแล้วจึงหน้าแดงก่ำ เพราะนี่เป็การดูิ่ว่าผู้เป็ลุงอย่างเขาไม่เคยไยดีครอบครัวกำพร้าของนางเลย…
แต่คนบางคนกลับไม่เข้าใจว่านั่นเป็การประชด จ้าวซื่อจึงโพล่งขึ้นมาทันทีที่ได้ยิน “ฟู่อิน พูดอะไรให้มีสติหนอย เงินหรือ ข้าไม่รู้หรอกว่าทั้งหมดมันเท่าไร แต่ในหมู่บ้านนี้ไม่มีใครร่ำรวยไปมากกว่าเ้าแล้ว!”
หลินฟู่อินคลี่ยิ้มบาง แล้วเมินนางไปเสีย
พูดกับจ้าวซื่อมันน่าเบื่อ นางจึงบิดๆ คอแล้วฮัมเพลงออกมา
เป็ตอนนี้เองที่หลินต้าเหอเดินคอตกตามเฟิงซื่อเข้ามา แต่ไม่รู้หลินต้าหลาง หลินซานหลาง และคนที่เหลือหายไปไหน บางทีหลินซานหลางและพวกหลินเฟินคงกำลังทำงานอยู่ หลินต้าหลางจึงไปตามหา
เมื่อไม่เห็นทั้งสาม คิ้วของหลินฟู่อินจึงขมวดขึ้นมาเล็กน้อย ไม่ว่าจะหลินต้าเหอหรือเฟิงซื่อต่างก็ไร้พลังเมื่อต้องปะทะกับปู่หลิน และปู่หลินก็คงรู้ดีอยู่แล้ว ดังนั้นเขาคงเริ่มบุกก่อนพวกพี่น้องมาถึงแน่
นี่เป็อะไรที่นางคาดไม่ถึง
เมื่อหลินต้าเหอและเฟิงซื่อทักทายปู่หลินและอู๋ซื่อแล้ว จึงเริ่มการสนทนา
“ต้าเหอ ฟู่อินได้ที่นั่งสำหรับโรงเรียนในเมืองมา และนางอยากให้ซานหลางเป็คนได้ไป แต่แม่ของเ้ากับข้าอยากให้ต้าหลางไป เ้าว่ายังไง?” น้ำเสียงของปู่หลินลดต่ำลงจนหลินต้าเหอรู้สึกราวกับถูกบดขยี้
ได้ยินคำปู่หลินแล้ว หลินต้าเหอจึงเศร้าขึ้นมา เขานั้นฟังที่ปู่หลินบอกมาตลอด จึงกล่าว “เอาตามที่พ่อว่า” เพราะหากเขาไม่พูดอะไร พ่อเขาก็จะไม่ว่าอะไร
“ต้าเหอเข้าใจอะไรง่ายนัก” ในที่สุดก็มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนหน้าของปู่หลิน แล้วจึงใช้มือนั้นลูบหนวดพลางมองหลินฟู่อินไปด้วย
หลินฟู่อินถอนหายใจ กำชับไปขนาดนั้นแล้วแท้ๆ แต่กลับสูญเปล่า
เ้าลูกทาสเอ๊ย…
แต่นางก็เดาไว้แล้ว และดูท่าหากพวกหลินเฟินยังไม่มา ก็มีแต่ต้องพึ่งเฟิงซื่อสถานเดียว
แต่หากคู่รักคู่นี้พึ่งไม่ได้ทั้งคู่ขึ้นมา การที่นางจะให้หลินซานหลางไปเรียนในเมืองก็จะยิ่งยุ่งยากขึ้นอีก นางควรจะเข้าขัด แต่โอกาสของนางยังมาไม่ถึง
นางหรี่ตาลงแล้วมองไปทางเฟิงซื่อ
เฟิงซื่อเห็นแล้วว่าสามีไร้ประโยชน์ นางจึงโมโหมากจนมือไม้สั่น แล้วใช้หัวโขกเข้าใส่หลินต้าเหอ ก่อนจะกล่าวด้วยเสียงดุดัน “หลินต้าเหอ เ้ามันไร้ความเป็ชาย รู้จักยางอายเสียบ้าง ข้าเป็ภรรยาของเ้านะ! เ้าน่ะทำตัวขี้ขลาดมาหลายครั้งและข้าไม่เคยว่าอะไรเพราะถูกเ้าอ้างว่าเ้าไม่มีลูกชาย ข้าไม่มีลูกชายให้เ้า แต่ตอนนี้เ้ามีลูกชายแล้ว หรืออย่างน้อยก็หลานชาย เ้าทำอะไรเพื่อเขาบ้างไม่ได้หรือ? หากเ้าทำไม่ได้ ก็บอกให้ข้าทำแทนให้ไม่ได้หรือ”
อาการโมโหของเฟิงซื่อสร้างความหวาดหวั่นให้ทุกคนในบ้านเดิม ที่จริงก็เป็เื่ที่รู้กันอยู่แล้วว่าเฟิงซื่อเป็คนอารมณ์รุนแรง แต่นางไม่เคยเดือดดาลมากขนาดนี้มาก่อนนับั้แ่ที่แต่งเข้าบ้านหลินมา จนทุกคนไม่รู้จะตอบสนองอย่างไรดี
หลินต้าเหอเองก็ตะลึงไป แต่ก็คิดได้เพราะเสียงด่าของเฟิงซื่อ เขาลืมไปได้อย่างไรกัน? หลินฟู่อินอุตส่าห์มาย้ำกับเขาถึงบ้านแล้ว ทั้งหลินฟู่อิน ทั้งภรรยา และลูกๆ ต่างก็ย้ำกับเขาว่าจะปล่อยให้เก้าอี้ของหลินซานหลางหลุดมือไปไม่ได้!
แต่เขาก็ดันพูดออกไปแล้ว แล้วเขาจะทำอะไรได้อีก?
หลินต้าเหอมองเฟิงซื่ออย่างอับจนหนทาง สีหน้าเต็มไปด้วยความอับอายและไม่พอใจ
เมื่อปู่หลินเห็นว่าทั้งสองกล้าต่อต้านเขา รอยยิ้มจึงหายไปอีกครั้ง
เขาลุกขึ้น แล้วตะคอกใส่อู๋ซื่อ “พวกเ้ารอบ้าอะไรอยู่ ไม่รีบไปจับแยกอีก”
“ท่านปู่ ท่านย่า พวกท่านไปดึงตัวแม่พวกข้าทำไมกัน? แม่พวกข้าทำหรือพูดอะไรขัดใจพวกท่านหรือ?”
เมื่ออู๋ซื่อรับคำสั่งจากปู่หลินแล้ว นางและจ้าวซื่อก็รีบไปดึงตัวเฟิงซื่อออกมาทันที ประจวบเหมาะกับตอนที่พี่น้องหลินเฟินและหลินซานหลางตามหลินต้าหลางมาถึงพอดี
ผู้ที่ส่งเสียงขึ้นมาคือหลินเฟิน ใบหน้างดงามนั้นแข็งตึงด้วยความพยายามอดกลั้นโทสะ แล้วเดินเข้าหาปู่หลินช้าๆ
เมื่อหลินต้าหลางได้เห็นว่าหลินเฟินหัวแข็งขึ้นจนกล้าต่อกรกับปู่หลินเช่นนี้ สีหน้าของเขาจึงแย่ลงอีก ระหว่างทางมาที่นี่เขาได้คุยกับทั้งสามไปบ้างแล้ว แต่ไม่คิดว่ามันจะมาถึงขั้นนี้….
นี่ทำให้เขาอารมณ์เสียมาก ก่อนหน้านี้พวกญาติๆ เหล่านี้ไม่เคยสร้างปัญหาอะไรให้เขาแท้ๆ แต่หลายเดือนหลังๆ มานี้มันกลับยุ่งยากขึ้นเรื่อยๆ!
“อาเฟิน นังเด็กบ้า อยากมีเื่กับข้าหรือ? อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ไปถามแม่เ้าเสียสิ นังนั่นกล้าถึงขั้นทุบตีพ่อเ้าเสียด้วยซ้ำ!” ทันทีที่อู๋ซื่อเห็นหลินเฟินปากกล้าขึ้นแล้ว นางก็เดือดดาลขึ้นมาทันที
แต่หลินเฟินมองหลินต้าเหอตรงๆ แล้วถาม “ท่านพ่อ คิดว่าแม่ทุบตีพ่อจริงๆ หรือ?”
หลินต้าเหอถูกลูกสาวตัวเองถามเช่นนี้ ด้วยสมองที่ยังพอเหลืออยู่บ้าง จึงรีบส่ายหน้าทันที “ไม่... แม่ของเ้าไม่ได้ทุบตีข้า ข้าแค่พูดผิดไปเท่านั้น…”
อู๋ซื่อเดือดดาลจนหน้าเปลี่ยนสีเมื่อได้ยินเช่นนี้
แต่ปู่หลินนิ่วหน้าอย่างแรง หันมามองหลินต้าเหอแล้วถาม “ต้าเหอ เ้าว่าอะไรนะ? ที่ว่าเ้าพูดผิดนั่นหมายความว่ายังไง?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้