เด็กสองคนถึงแม้อายุยังน้อยแต่เพราะอยู่ในวัยกำลังโต จึงกินได้มาก เซียวยวี่เองก็เช่นกัน อ่านตำราต้องใช้สมองมากจึงกินได้มากเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น อาหารเช้าที่เซี่ยยวี่หลัวตระเตรียมเทียบเคียงกับอาหารในภัตตาคารได้มีทั้งสีสัน กลิ่น และรสชาติครบถ้วน ทั้งสามคนกินคำโต กินอาหารเช้าจนหมดเกลี้ยง
เมื่อเห็นแต่ละจานถูกกินจนเกลี้ยงเซี่ยยวี่หลัวรู้สึกประสบความสำเร็จเป็อย่างมาก
กินอาหารเช้าเสร็จ เซียวจื่อเซวียนจึงไปล้างชาม
เซี่ยยวี่หลัวไม่อยากอยู่ที่บ้านแล้วต้องพบหน้าท่านราชบัณฑิตน้อยดังนั้นหลังจากเซียวจื่อเซวียนล้างชามเสร็จ จึงบอกว่าจะขึ้นูเาไปจับปลามาจำนวนหนึ่ง
เซียวจื่อเซวียนย่อมเห็นด้วยเก็บชามกับตะเกียบเสร็จ จึงไปบอกกล่าวกับเซียวยวี่
เซียวยวี่กำลังอ่านตำราได้ยินว่าน้องชายน้องสาวจะขึ้นเขา เซียวยวี่ขมวดคิ้ว “พวกเ้าไปกันสองคน? ”
“เปล่าขอรับ พี่สะใภ้ใหญ่ก็ไปทุกครั้งล้วนเป็พี่สะใภ้ใหญ่พาพวกเราขึ้นเขาขอรับ! ” เซียวจื่อเซวียนกล่าว
เซี่ยยวี่หลัวพาเด็กสองคนขึ้นเขา?
“ปลาในบ่อปลาในสวนหลังบ้านที่เราขุดไว้ล้วนเป็พี่สะใภ้ใหญ่ที่จับมาเ้าค่ะ! ” เซียวจื่อเมิ่งกล่าวเสียงใส
เซียวยวี่ไม่วางใจ “พวกเ้าขึ้นเขาไปทำอะไร? ”
เซียวจื่อเซวียนกล่าวด้วยท่าทางมีความสุข“ครั้งก่อนตอนพี่สะใภ้ใหญ่ขึ้นเขาไป พบต้นหยางเหมยจำนวนหนึ่ง ออกผลหยางเหมยแล้ว ครั้งนี้จะไปดูว่าสุกหรือยังพี่สะใภ้ใหญ่บอกว่าหากสุกแล้วก็จะเด็ดกลับมาขอรับ”
เซียวยวี่ขานตอบ “เช่นนั้นก็รีบไปรีบกลับ!”
เซียวจื่อเซวียนวิ่งออกไปด้วยท่าทางดีใจผ่านไปครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงปิดประตู
เซียวยวี่วางตำราลง หันไปมองสวนด้านนอก
ดอกไม้ป่าที่ไม่รู้ชื่อเรียกเจริญงอกงามดอกไม้สีสันสดใสหลากหลายสีที่เบ่งบานอยู่ส่วนยอด บานสะพรั่งอย่างแ่า มีกลิ่นอายแห่งความเจริญรุ่งเรือง
เซี่ยยวี่หลัวพาเด็กสองคนขึ้นเขาไปอย่างชำนาญเส้นทาง
นางเคยขึ้นเขาลูกนี้มาไม่ต่ำกว่าห้าสิบถึงหกสิบครั้งแล้วจึงจดจำเส้นทางได้อย่างแม่นยำ ทว่านางไม่กล้าประมาท จูงมือเด็กสองคนเดินไปทางต้นหยางเหมยที่เห็นก่อนหน้านี้
ต้นหยางเหมยเติบโตมานานหลายปีแล้วหยางเหมยป่ามีผลเล็กมาก บนต้นเต็มไปด้วยผลหยางเหมยลูกเล็กสีแดงบ้างสีเขียวบ้าง ผลหยางเหมยขึ้นเต็มทั้งต้น
เซี่ยยวี่หลัวเด็ดผลสีแดงลูกหนึ่งมากินดูเปรี้ยวจนนางขมวดคิ้วมุ่น ยังดีที่มีรสหวานเล็กน้อย ไม่อย่างนั้นคงกินไม่ลงจริงๆ
เด็กสองคนกินลูกหนึ่งก็ไม่ยอมกินอีกเปรี้ยวเกินไป เปรี้ยวจนฟันแทบหลุด
เซี่ยยวี่หลัวดูผลหยางเหมยป่าที่กลายเป็สีแดงจำนวนไม่น้อยรู้สึกเสียดายยิ่งนัก
แต่หากเด็ดกลับไป เปรี้ยวถึงเพียงนี้ก็ไม่มีคนกิน หากไม่เด็ด มีจำนวนมากขนาดนี้ ก็น่าเสียดายเกินไป
ถ้าอย่างไร เด็ดกลับไปทำสุราหยางเหมยและน้ำซวนเหมยดีกว่ากระมัง?
เซี่ยยวี่หลัวเคยหมักสุราหยางเหมยมาก่อนง่ายมาก ขอเพียงมีสุราขาว แช่หยางเหมยที่ล้างสะอาดและกรองน้ำออกหมดก็พอแล้ว หนึ่งเดือนให้หลังก็จะดื่มได้แต่หากยิ่งแช่ไว้นาน สีของสุราจะยิ่งเข้ม รสชาติก็จะดียิ่งขึ้น
นอกจากนั้น น้ำซวนเหมยน้ำซวนเหมย ไม่เปรี้ยวจะเรียกน้ำซวนเหมยได้อย่างไร!
พอคิดได้ว่าสามารถนำมากินได้สองรูปแบบเซี่ยยวี่หลัวจึงลงมือเด็ดทันที เลือกเฉพาะผลที่สุกงอมจนเป็สีแดงออกม่วงแล้ว ส่วนผลอื่นๆสามารถปล่อยไว้ได้อีกหลายวัน จึงไม่ได้เด็ด คิดว่าอีกสักสองวันค่อยมาใหม่
ทั้งสามคนเด็ดเต็มหนึ่งตะกร้าอย่างรวดเร็ว
เด็ดหยางเหมยป่าเสร็จ เซี่ยยวี่หลัวจึงไปจับปลามาสองตัวปลาตัวใหญ่แล้ว ลำตัวอ้วนเนื้อนุ่ม เหมาะสำหรับนำไปตุ๋นน้ำแดงที่สุด เวลายังเช้าอยู่เซี่ยยวี่หลัวยังไม่อยากกลับไป
ที่บ้านมีเซียวยวี่อยู่ทำให้นางรู้สึกอึดอัด
เซี่ยยวี่หลัวพาเด็กสองคนเดินเล่นอยู่บนูเาต่อเซี่ยยวี่หลัวพบรอยเท้ากระต่ายจำนวนหนึ่ง ยามนางออกจากบ้านจะพกอุปกรณ์ติดตัวไม่น้อยเมื่อเห็นรอยเท้ากระต่าย ดูครู่หนึ่ง แล้วจึงวางบ่วงไว้ห้าถึงหกบ่วง
ด้านล่างูเา เซียวยวี่ยกตำราขึ้นแล้วจึงวางลง
สายตาหันมองไปทางสวนหลังบ้านอย่างอดไม่ได้ ดอกไม้ป่าโบกพลิ้วตามสายลมสีแดงหนึ่งกลุ่ม สีชมพูหนึ่งกลุ่ม ดูงดงามยิ่งนัก
พวกเขาสามคนไปนานหนึ่งชั่วยามแล้วเหตุใดถึงยังไม่กลับมาอีก?
อย่างไรอาเซวียนและอาเมิ่งก็ยังเป็เด็กบนเขาก็อันตราย เซียวยวี่รู้สึกกังวลใจอยู่ตลอด เขาเป็ห่วงความปลอดภัยของเด็กสองคน
“ก๊อกก๊อกก๊อก...” เสียงเคาะประตูดังขึ้นจากทางประตูใหญ่
เซียวยวี่นึกว่าเป็เด็กสองคนกลับมาแล้วรีบวางตำราลง เดินไปทางประตู
พอเปิดประตู คนที่อยู่ด้านนอกก็กล่าวด้วยท่าทางใระคนยินดี“อายวี่ เ้ากลับมาแล้วงั้นหรือ! ”
“ท่านลุงสี่...” เซียวยวี่เอ่ยเรียกด้วยความเคารพจากนั้นจึงกล่าว “กลับมาเมื่อวาน่พลบค่ำขอรับ”
เมื่อวานตอนกลับมา่พลบค่ำบนถนนไม่มีคน และไม่มีใครรู้ว่าเซียวยวี่กลับมาแล้ว
บิดามารดาด่วนจากไป ครอบครัวตกอับคนที่เป็ห่วงเขามีน้อยจนนับนิ้วได้ จึงไม่มีใครสนใจว่าเขาจะกลับมาแล้ว
ท่านลุงสี่รู้สึกตื่นเต้นยินดี“ดูเ้าสิ กลับมาก็ไม่บอกสักคำ หากไม่ใช่เพราะข้านำของมาส่ง เกรงว่ายังไม่รู้เลยว่าเ้ากลับมาแล้ว!เอ้า นี่ให้เ้า”
เนื้อหมูที่มีส่วนเนื้อแดงสลับกับชั้นไขมันคาดว่าจะหนักสองจินกว่า
เซียวยวี่ “ท่านลุงสี่เนื้อหมูนี่...”
“ภรรยาเ้าให้ช่วยซื้อซื้อทุกๆ สามวันห้าวัน บอกว่าจะทำหมูตุ๋นน้ำแดงให้จื่อเซวียนกับจื่อเมิ่งกิน เ้าดูจื่อเซวียนกับจื่อเมิ่งสิโตขึ้นมากทีเดียว! ภรรยาเ้าดูแลคนเก่งจริงๆ ! ” ท่านลุงสี่กล่าวด้วยท่าทางอิจฉา “ภรรยาของเ้าเป็คนดีนิสัยก็ดี รู้จักใช้ชีวิตอย่างดี! ”
เป็คนดี? นิสัยดี? รู้จักใช้ชีวิต?
ท่านลุงสี่ ท่านคงไม่ใช่ไม่รู้ใช่หรือไม่ว่าคนที่ข้าแต่งด้วยชื่อเซี่ยยวี่หลัว
เซียวยวี่รับเนื้อมา ขมวดคิ้ว“ท่านลุงสี่ ท่านรอก่อน ข้าจะไปเอาเงินมาให้! ”
“เอาเงินทำไม เมื่อวานตอนเช้าภรรยาเ้าก็ให้เงินแล้ว!”
เช่นนั้นเนื้อหมูนี่ น่าจะฝากซื้อั้แ่ตอนที่ยังไม่รู้ว่าเขาจะกลับมา
ไม่ใช่เพราะเขากลับมา จึงจงใจซื้อเนื้อหมู
ท่านลุงสี่ย่อมไม่พูดปดบอกว่าซื้อเนื้อหมูเป็ประจำ เช่นนั้นต้องซื้อเป็ประจำแน่ เด็กสองคนทั้งอ้วนทั้งขาวย่อมเกี่ยวข้องกับเื่ที่ได้กินเนื้อหมูเป็ประจำด้วย
เซียวยวี่เม้มปากเผยรอยยิ้มบาง“ขอบคุณท่านลุงสี่ขอรับ”
“จะเกรงใจทำไม ข้าไม่ได้ซื้อให้เปล่าๆเสียหน่อย ภรรยาเ้าให้ค่าซื้อของด้วย” ท่านลุงสี่หัวเราะอย่างมีความสุข “อายวี่ อีกสักสองวันท่านป้าเ้าจะทำอาหารหนึ่งมื้อเ้าต้องมาที่บ้านมาดื่มกับลุงสี่ให้ได้! ”
เซียวยวี่ดื่มสุราเป็เล็กน้อยเห็นท่านลุงสี่ยืนกรานเชื้อเชิญให้ไป ก็ได้แต่ตอบตกลง “ได้ เช่นนั้นก็ขอบคุณท่านลุงสี่ขอรับ”
“ขอบคุณอะไรกัน ล้วนอยู่หมู่บ้านเดียวกัน เ้ามาดื่มเป็เพื่อนลุงสี่ได้ลุงสี่รู้สึกเป็เกียรติด้วยซ้ำ! ” ท่านลุงสี่เดินจากไปอย่างมีความสุข
เซียวยวี่ก้มมองเนื้อหมูที่หิ้วอยู่ในมือหันขวับเดินเข้าไปในห้องครัว วางไว้ในตะกร้า พอกวาดสายตา ก็เหลือบไปเห็นสิ่งของแปลกประหลาดที่แช่อยู่ในอ่างไม้บนเตาปรุงอาหาร
เขาหยิบขึ้นมาหนึ่งชิ้นมองดูอยู่ครู่หนึ่งเขามั่นใจว่าเป็หน่อไม้ พอได้กลิ่นเฉพาะตัวของหน่อไม้ เซียวยวี่ก็รู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนจนอึดอัด
เซียวยวี่รีบโยนหน่อไม้ลงออกจากห้องครัวไป
ขณะเดินผ่านห้องของเซี่ยยวี่หลัวหน้าต่างห้องเปิดไว้ ด้านในเป็ระเบียบเรียบร้อย เก็บกวาดอย่างสะอาดหมดจด เซียวยวี่เหลือบมองเพียงแวบเดียวก็รีบเดินจากไป
เปิดประตูจากห้องโถง มายังสวนหลังบ้านเบื้องหน้ามีแต่สีเขียว
ระหว่างยืนอยู่ในสวน กับตอนยืนอยู่ในห้องหันมองออกด้านนอกเป็ความรู้สึกที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้