เมื่อเสิ่นเยี่ยนกลับมาจากทำงานในตอนเย็น เขาก็เห็นกู้เจิงกำลังรดน้ำดอกไม้อยู่ในสวน อากาศกลับมาอุ่นขึ้น ดอกไม้ในสวนต่างกำลังผลิบาน
กู้เจิงถางวัชพืชรอบๆ แปลงดอกไม้ออก มีเฟิงไหลที่แต่งตัวเป็สาวใช้ยืนดูอยู่เงียบๆ
“ฮูหยิน ใต้เท้ากลับมาแล้วเ้าค่ะ” เฟิงไหลกล่าวบอก
“ท่านพี่” กู้เจิงทักทาย นางเห็นสามีสวมชุดเฉาฝูมองกลับมาอย่างอบอุ่น “รีบมาดูสิเ้าคะ เมล็ดดอกไม้ที่เอามาจากท่านแม่เริ่มแตกหน่อแล้ว”
เสิ่นเยี่ยนเดินเข้าไปดู ภายในแปลงดอกไม้มีต้นหน่อขึ้นเต็มไปหมด ยากที่จะบอกได้ว่าคือดอกอะไร เขายกมือขึ้นเช็ดสิ่งสกปรกบนแก้มภรรยา “ดูวันนี้เ้าจะมีความสุขเป็พิเศษ”
เฟิงไหลมาหยิบจอบอันเล็กในมือกู้เจิงไป “ตอนที่นอนพักเมื่อยามบ่าย ข้าฝันถึงซู่เหนียงด้วยเ้าค่ะ”
“ฝันถึงว่าอะไร?”
“เหมือนซู่เหนียงกำลังขุดอะไรบางอย่างอยู่ ข้าลืมรายละเอียดไปแล้ว แต่รู้สึกมีความสุขมากเ้าค่ะ” ความฝันที่มีความสุข ทำให้กู้เจิงรู้สึกสบายใจกับเื่ที่ซู่เหนียงไปเิเป่ยไม่น้อย
เสิ่นเยี่ยนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ซู่เหนียงกำลังขุดไหใต้ต้นกุ้ยฮวาในจวนกู้ใช่ไหม?”
กู้เจิงถึงกับร้องอุทานออกมา “ข้าลืมเื่นี้ไปเสียได้ ข้ายังไม่ได้ขุดใต้ต้นไม้นั่นเลย กลับไปจวนคราวหน้าจะลืมไม่ได้เด็ดขาด” นั่นเป็ของที่ซู่เหนียงทิ้งไว้ให้นาง ถึงจะไม่ได้ใช้ แต่ก็ถือเป็การรำลึกถึงซู่เหนียง
ทั้งสองพูดคุยพลางเดินไปทางห้องโถงใหญ่ เหอเซียงเห็นนายท่านกลับมาก็สั่งให้แม่ครัวยกอาหารมาเตรียมไว้ จากนั้นนางก็ไปยกน้ำมาให้นายหญิงกับนายท่านล้างมือ
“คุณหนูสี่ยังไม่กลับมาอีกหรือ?” กู้เจิงไม่เห็นกู้เหยาจึงถามขึ้น
“ในวังส่งข่าวมาบอกว่า คุณหนูสี่จะอยู่ร่วมมื้ออาหารกับองค์หญิงสิบเอ็ดเ้าค่ะ” เหอเซียงรายงาน
กู้เจิงพยักหน้ารับรู้ นางคิดจะเรียกให้เฟิงไหลมากินอาหารด้วยกัน ถึงอย่างไรเฟิงไหลก็ไม่ใช่สาวใช้จริงๆ
เสิ่นเยี่ยนเข้าใจในสิ่งที่นางคิด จึงเอ่ยว่า “ไม่เป็ไร กินข้าวเถอะ”
หลังอาหาร เสิ่นเยี่ยนนั่งดูภรรยาทำงานเย็บปักอยู่ในห้อง แสงเทียนที่ส่องมากระทบใบหน้างดงามของภรรยา ทำให้นางยิ่งดูอ่อนโยน นางจดจ่ออยู่กับการเย็บผ้า ห้องนี้ เตียงนี้ แสงเทียนนี้ และท่าทางสงบนิ่งของภรรยา ดูราวกับเป็ภาพวาดอันสวยงามและอบอุ่น
“ท่านเอาแต่มองข้าทำไมเ้าคะ?” กู้เจิงหน้าแดงเล็กน้อย นางรู้ว่าสามีมองตนอยู่พักหนึ่งแล้ว
“เพราะเ้างดงาม”
แม้ทั้งคู่จะแต่งงานกันมานาน แต่น้อยครั้งยิ่งที่เสิ่นเยี่ยนจะพูดอะไรแบบนี้
“่นี้องค์รัชทายาทได้ไปหอสมุดกับคุณหนูเซี่ยหรือไม่?” เสิ่นเยี่ยนถาม
“ชุนหงกับลุงหม่าไม่ได้เอ่ยถึงอีก น่าจะไม่มีแล้วเ้าค่ะ” กู้เจิงตอบ “ตวนอ๋องคงไปเตือนองค์รัชทายาทแล้ว”
เสิ่นเยี่ยนพยักหน้า และหยิบหนังสือบนโต๊ะขึ้นมาอ่านบ้าง
จู่ๆ ม่านในห้องก็ถูกยกขึ้น เหอเซียงเดินเข้ามารายงาน “นายหญิง คุณหนูสี่กลับมาแล้วเ้าค่ะ”
“ขอบใจมากที่มาแจ้งข้า เ้าไปพักเถอะ” กู้เจิงมองสามีพลางกล่าวว่า “จริงสิท่านพี่ พรุ่งนี้ข้าจะออกไปเที่ยวเดินเล่นกับน้องสี่ น้องสาม และองค์หญิงนะเ้าคะ”
“ไปเถอะ ฤดูใบไม้ผลิท้องฟ้าแจ่มใสเหมาะกับการจะออกไปเดินเล่น”
กู้เจิงมองเรือนร่างที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบของสามี ในใจพลันเกิดคำถามขึ้นมา นางวางเข็มลงและเดินไปนั่งลงข้างกายเสิ่นเยี่ยน “ท่านพี่ ถ้าไม่มีข้า ท่านจะแต่งงานกับสตรีประเภทไหนหรือเ้าคะ?”
เสิ่นเยี่ยนสบตาที่เป็ประกายของภรรยา “ไม่รู้สิ”
“ต้องมีที่คิดไว้บ้างกระมัง”
“เหมือนเช่นเ้านี่แหละ”
กู้เจิงไม่พอใจเล็กน้อย “ตอบอะไรกันเ้าคะ? ข้าจำได้ว่าแววตาครั้งแรกที่ท่านมองข้า นั่นไม่ใช่ความชอบ” นางยังรู้สึกว่าตอนนั้นเสิ่นเยี่ยนเกลียดนางเลย
“สัญชาตญาณของเ้านับว่าเฉียบแหลม”
“พูดอย่างนี้แสดงว่าความรู้สึกตอนที่ได้พบกันครั้งแรกคือเกลียดหรือเ้าคะ?” กู้เจิงแสร้งตีแขนเขาอย่างโกรธเคือง
“ความรู้สึกตอนได้พบกันครั้งแรกน่ะหรือ” เสิ่นเยี่ยนมองแก้มป่องของภรรยาอย่างขบขัน “ข้ารู้สึกว่าเ้างามมาก แต่ก่อนหน้านั้น ท่านอ๋องเคยเล่าให้ข้าฟังถึงสิ่งที่เ้ากับซู่เหนียงทำกับเขา ข้าจึงมีอคติอยู่บ้าง”
“ดังนั้น ที่ท่านรับปากว่าจะแต่งงานกับข้า อันที่จริงในใจรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งกระมังเ้าคะ?”
เสิ่นเยี่ยนตอบแบบไม่ต้องคิด “ไม่นะ”
“ไม่งั้นหรือ?”
“ในชีวิตนี้ข้าไม่มีความคิดจะแต่งภรรยาั้แ่แรก การแต่งงานของข้าคงขึ้นอยู่กับพ่อแม่ของข้าเป็หลัก”
กู้เจิงมองเขาอย่างไม่เข้าใจ “หมายความว่ายังไงที่ไม่คิดจะแต่งภรรยาเ้าคะ?”
“ข้ามีเื่ที่สำคัญกว่าต้องทำ”
กู้เจิงกำลังจะถามว่าเื่สำคัญอะไร จู่ๆ เสิ่นเยี่ยนก็ลดเสียงลงแล้วกระซิบข้างหูนาง “เมื่อคืนข้าคงไม่ได้ทำเ้าเจ็บกระมัง?”
กู้เจิงชะงักงันไปในทันที ทันใดนั้นหน้าก็แดงเป็กุ้งต้มสุก นางรีบลุกขึ้นเถิบตัวออกห่างจากเขา “คืนนี้ท่านอย่าแม้แต่จะคิดเชียวนะ”
“เมื่อคืนถูกขัดจังหวะ คืนนี้เราต้องชดเชย” เสิ่นเยี่ยนลุกขึ้นพร้อมเดินเข้ามาหากู้เจิงทีละก้าว
“ไม่ได้เ้าค่ะ” กู้เจิงพูดอย่างเด็ดเดี่ยว ทว่าดวงตากลับชำเลืองมองต้นขายาวคู่นั้นของเสิ่นเยี่ยน แสงเทียนส่องผ่านกางเกงชั้นในเผยให้เห็นขายาวอันแข็งแกร่ง กู้เจิงเพ่งมองั้แ่เอวลงมา ก่อนจะบังคับให้ตัวเองถอนสายตากลับมา
เสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้น เสิ่นเยี่ยนเดินไปหาภรรยา เขาใช้นิ้วชี้เชยคางของนางขึ้น ก่อนมองสบเข้ากับั์ตาฉ่ำวาวคู่นั้น “ดวงตาเ้าซื่อตรงกว่าร่างกายเสียอีก” ว่าแล้วเขาก็รวบเอวอุ้มกู้เจิงขึ้นมา
“ไม่ได้จริงๆ รอบเดือนข้าใกล้จะมาแล้วเ้าค่ะ ่สองสามวันนี้ท้องข้าปวดหน่วงๆ” กู้เจิงรีบพูดอย่างร้อนรน
เสิ่นเยี่ยนคำนวณวันดูแล้ว รอบเดือนของภรรยาอยู่ใน่ไม่กี่วันนี้จริงๆ “งั้นคืนนี้ข้าจะปล่อยเ้าไปก่อน พรุ่งนี้ให้ซู่หลันไปสั่งยามาเผื่อไว้ด้วย”
กู้เจิงรีบพยักหน้าตกลง นางถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เช้าวันรุ่งขึ้น กู้เจิงได้นอนหลับสนิททั้งคืน จึงตื่นขึ้นมาอย่างสดใส
กู้เจิงนอนลืมตามองม่านเตียงเหนือศีรษะ พลันนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนนางลืมถามเสิ่นเยี่ยนเื่องครักษ์เงาและก็เหมือนกับยังมีเื่อะไรที่จะต้องถามอีก แต่นางนึกไม่ออกแล้ว
ประตูห้องเปิดออก ซู่หลันนำผ้าเช็ดหน้าสะอาดเดินเข้ามา ด้านหลังของนางมีสาวใช้ถืออ่างน้ำเดินตามมาด้วย “นายหญิง ตื่นได้แล้วเ้าค่ะ ท่าน คุณหนูสี่และองค์หญิงสิบเอ็ดมีนัดกันจะไปเที่ยวเล่น ตอนนี้คุณหนูสี่กำลังกินข้าวเช้าอยู่เ้าค่ะ”
“นางตื่นแต่เช้าเชียว” กู้เจิงพลิกตัวลุกขึ้น
ซู่หลันยิ้มพลางผูกม่านเตียงทั้งสองข้าง “คุณหนูสี่ตั้งตารอมาหลายวันแล้ว วันนี้เลยตื่นแต่เช้าตรู่เลยเ้าค่ะ”
เมื่อกู้เจิงมาถึงห้องโถงเล็ก กู้เหยาก็ทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว
“พี่ใหญ่ตื่นเสียที” กู้เหยาทักทายเสียงดัง “ถ้ายังไม่ตื่นอีก ข้าว่าจะไปช่วยปลุกท่านแล้วเ้าค่ะ”
“วันนี้น้องสี่แต่งตัวพิถีพิถันนัก” กู้เจิงเห็นวันนี้เหยาเอ๋อร์สวมชุดผ้าไหมสีชมพู ปักปิ่นชั้นดี ใบหน้าเล็กแต่งแต้มด้วยแป้งชาดเล็กน้อย ดูบริสุทธิ์และงดงาม
“แน่นอนเ้าค่ะ” กู้เหยาหัวเราะคิกคักพลางหมุนตัว “พี่ใหญ่ สวยไหมเ้าคะ?”
“สวยสิ หนุ่มน้อยที่ไหนเห็นเข้า เกรงว่าหัวใจจะเต้นแรงเอา”
กู้เหยาหน้าแดงระเรื่อ “ท่านอย่ามาหยอกล้อข้าหน่อยเลย”
กู้เจิงยิ้มขัน อาหารเช้าบนโต๊ะมีเมี่ยนปิ่ง* ปาท่องโก๋ นางมองซู่หลันด้วยความประหลาดใจ “เ้าไปซื้อมาหรือ?”
(*เป็ขนมปังแบบจีนที่มีทั้งเป็แป้งเปล่าๆ หรืออาจจะมีแบบใส่ไส้ ทำเป็ชิ้นกลมแบน แล้วนำไปนาบกับกระทะ)
“เ้าค่ะ ชุนหงบอกว่านายหญิงชอบกิน บ่าวเลยไปที่ร้านขนมเฉินหลางทางใต้ของเมืองั้แ่เช้าตรู่เ้าค่ะ”
“เ้าช่างใส่ใจ” กู้เจิงคิดถึงเมี่ยนปิ่งของร้านขนมเฉินหลางมากจริงๆ ทว่านางมองกู้เหยาพร้อมถามว่า “น้องสี่เองก็ชอบกินเ้านี่เหมือนกันหรือ?”
“อร่อยกว่าอาหารเช้าที่บ้านเรามากเลยเ้าค่ะ” กู้เหยาตบท้องเล็กๆ ของตัวเอง
ที่กู้เหยาชอบอยู่บ้านกู้เจิงมีอีกเหตุผลหนึ่ง นั่นก็คือแม้ว่าอาหารจะดูธรรมดา แต่ล้วนเป็อาหารที่แปลกใหม่
องค์หญิงสิบเอ็ดมากับพระชายาตวน เมื่อพวกนางมาถึง กู้เจิงกับกู้เหยาก็มายืนคอยอยู่หน้าประตูใหญ่นานแล้ว
“พี่ใหญ่กู้ ข้าคิดถึงท่าน” พอกู้เจิงขึ้นนั่งบนรถม้า องค์หญิงสิบเอ็ดก็ดึงนางไปใกล้พลางเอ่ยอย่างสนิทสนม
“องค์หญิง ไม่ได้เจอกันหลายวัน องค์หญิงสูงขึ้นหน่อยหรือเปล่าเพคะ” กู้เจิงทักทายตอบ
“พี่ใหญ่กู้เป็คนพูดได้น่าฟังเสียจริง เมื่อวานกู้เหยาเข้าวังมาเล่นกับข้า นางบอกว่าข้าอ้วน ข้าอ้วนตรงไหน นางต่างหากที่อ้วน” องค์หญิงสิบเอ็ดกล่าวเสียงออดอ้อน
“ข้าอ้วนตรงไหน องค์หญิงนั่นแหละอ้วน” กู้เหยาเถียงกลับ นางไม่มีทางยอมรับว่าตัวเองอ้วนเด็ดขาด
กู้เจิงยิ้มขัน พลางมองสาวน้อยทั้งสองทะเลาะกัน กู้อิ๋งแม้จะมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้า แต่ก็เป็การฝืนยิ้ม กู้เจิงเห็นดังนั้นจึงกุมมือน้องสามแล้วกล่าวว่า “ยากนักที่พวกเราจะได้ออกมาเที่ยวเล่นด้วยกัน อย่าคิดถึงเื่ที่ไม่มีความสุขเลย”
เมื่อสบกับแววตาห่วงใยของพี่ใหญ่ กู้อิ๋งก็รู้สึกอบอุ่นนัก นางพยักหน้าตกลง