ชายคนนั้นกระแอมในลำคอ จากนั้นก็พูดซุบซิบต่อว่า “พวกเ้าตรากตรำบำเพ็ญเพียรมานาน คงไม่รู้ว่าองค์ชายสามเคยมีคู่หมั้นคู่หมายมาก่อน ต่อมาเขาเป็ฝ่ายขอองค์ชายสามถอนหมั้น พูดถึงอดีตคู่หมั้นขององค์ชายสาม ถือได้ว่าเป็บุคคลที่น่าทึ่ง เขาก็คือหานรุ่ย...ผู้มีพร์ในการบำเพ็ญเพียรจากตระกูลหาน”
เมื่อได้ยินชื่อของหานรุ่ย จุนตงและจุนหนานต่างเหลือบมองหานรุ่ยครู่หนึ่ง คิดในใจ อย่าบอกนะว่า ท่านแม่คือตัวละครในเื่นี้ พวกเขาไม่เคยได้ยินท่านพ่อและท่านแม่พูดเื่นี้มาก่อน ทว่าเมื่อคิดถึงพ่อของเขาที่ดูขี้หึงเป็พิเศษ เื่นี้มิควรถูกกล่าวถึง หากกล่าวถึงบ่อยครั้ง คงมีปัญหาแน่ เวลานี้จุนตงและจุนหนานคิดได้ทันที ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจ ว่าเหตุใดท่านพ่อถึงต่อสู้กับองค์ชายสามราวกับไก่ชน ที่ต่อสู้กับองค์ชายสามไม่หยุดหย่อน แท้จริงแล้วจุดเริ่มต้นเกิดจากตรงนี้ อย่าบอกนะว่าความรักของท่านแม่คือตัวถ่วงขององค์ชายสาม สุดท้ายจึงต้องมารับะุแทน หลังจากท่านแม่รับะุแทน พ่อของเขาก็เข้ามาช่วยไว้ กลายเป็ฮีโร่ไป เพื่อตอบแทนบุญคุณท่านพ่อ ท่านแม่จึงแต่งงานกับท่านพ่อ และในที่สุดก็ให้กำเนิดพวกเขา ต่อมาเื่ราวดำเนินไปอย่างที่เห็น หลังจากท่านพ่อท่านแม่มุ่งมั่นในการบำเพ็ญเพียร ก็เพื่อแก้แค้นองค์ชายสาม ทว่าองค์ชายสามมีดวงชะตาดั่งคลื่นั์ ทุกครั้งก็ปรับหนทางที่ขรุขระให้ราบเรียบเสมอ สุดท้ายยังส่งคนร้ายมากำจัดท่านพ่อและท่านแม่ของเขา เมื่อพวกเขาเติบโตขึ้น ต้องล้างแค้นให้ท่านพ่อและท่านแม่ สุดท้ายก็เดินบนเส้นทางเดิมของท่านพ่อท่านแม่ และถูกองค์ชายสามจำกัดทิ้ง ในที่สุด ครอบครัวของเขาก็กลายเป็ฐานที่จะเหยียบก้าวไปข้างหน้าขององค์ชายสาม เมื่อคิดถึงเื่นี้ จุนตงและจุนหนานก็รู้สึกถึงวิกฤต ตอนนี้เื่ราวต่างๆ กำลังไปในทิศทางที่พวกเขาจินตนาการ เด็กสองคนตัดสินใจทันทีว่า พวกเขาต้องขยันบำเพ็ญเพียรอย่างหนัก ถึงจะเอาชนะองค์ชายสามได้ เพื่อช่วยพ่อและแม่ของพวกเขา หากจุนห่าวและหานรุ่ยล่วงรู้ว่านี่คือสาเหตุที่ทำให้ลูกทั้งสองบำเพ็ญเพียรอย่างหนัก ต้องพูดว่า พวกเ้าคิดมากเกินไป องค์ชายสามมิได้อยู่ในสายตาของพวกเขาสักนิด
จุนตงและจุนหนานคิดว่าสิ่งต่างๆ ยังไม่เกิดขึ้นในตอนนี้ พวกเขายังคงฟังเื่ราวต่อไป รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งถูกไหม
จุนตงและจุนหนานเหลียวตามองหานรุ่ยและจุนห่าว พลางฟังต่อไปว่า “หานรุ่ยคนนี้ไม่เพียงเป็อัจฉริยะในการบำเพ็ญเพียร แต่ยังเป็ซวงเอ๋อร์ที่ขี้เหร่ที่สุดบนแผ่นดินชางหลาน ได้ยินว่าใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยตุ่มหนอง รูปร่างผิดปกติ ใบหน้าน่าเกลียดแบบหาที่เปรียบมิได้ ใครเห็นเป็ต้องหันหน้าหนี เด็กๆ เห็นก็ใจนร้องไห้ คนอย่างนี้ ต่อให้เป็อัจฉริยะในการบำเพ็ญเพียร ก็คงไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย พวกท่านว่าไหม? แต่โชคชะตาของเขาช่างดีนัก ที่ถือกำเนิดในตระกูลใหญ่อย่างตระกูลหาน ได้ยินว่าเขายังเป็ที่รักใคร่เอ็นดูจากประมุขของตระกูล และยังเข้าตาจักรพรรดิสุ่ยเย่ว์ ถึงกับกำหนดให้เขาแต่งงานกับองค์ชายสาม ส่วนองค์ชายสามน่ะหรือ ได้แต่ยอมรับอย่างเลี่ยงไม่ได้ ในความคิดข้า องค์ชายสามน่าจะชื่นชอบที่หานรุ่ยมีพร์ในการบำเพ็ญเพียร มิฉะนั้น เหตุใดถึงยอมแต่งงานกับซวงเอ๋อร์ที่ขี้เหร่เช่นนั้น แค่เห็นหน้าก็กินข้าวไม่ลงแล้ว หากข้าจำต้องแต่งงานกับซวงเอ๋อร์ผู้นั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเื่กินข้าวไม่ลง เดาว่าแม้แต่จะนอนร่วมเตียงก็ยังมิกล้า”
เมื่อได้ยินว่าคือซวงเอ๋อร์ที่ขี้เหร่ที่สุด จุนห่าวเลิกคิ้ว พูดกับชายคนนั้นอย่างกลั้นอารมณ์ว่า “ท่านเคยพบหานรุ่ยหรือ?” ในใจประทุความเดือดดาลถึงที่สุด คิดในใจ ต้องมีคนอยู่เื้ัข่าวลือนี้เป็แน่ จงใจทำให้หานรุ่ยเสื่อมเสีย เสี่ยวรุ่ยขคือหัวใจของเขา คิดไม่ถึงว่าในสายตาของคนนอกจะมีอัปลักษณ์เช่นนี้ ไม่ว่าใครก็ตามที่ปล่อยข่าวลือ คงไม่หวังดีต่อหานรุ่ย และเขาจะไม่ปล่อยไปแน่
ชายคนนั้นไม่เห็นความเดือดดาลของจุนห่าว กล่าวต่อว่า “ข้าไม่เคยพบ คนหนึ่งพูดว่าหานรุ่ยขี้เหร่ อาจเจตนาให้ชื่อเสียงของเขาแปดเปื้อน คนสองคนบอกว่าหานรุ่ยขี้เหร่ ก็อาจเจตนาให้ชื่อเสียงของเขาแปดเปื้อน แต่เมื่อคนสามคนบอกว่าหานรุ่ยขี้เหร่ งั้นอาจจะเป็เื่จริง ยิ่งไปกว่านั้น ผู้คนทั่วทั้งแผ่นดินชางหลานต่างพูดเป็เสียงเดียวกัน เช่นนั้นย่อมเป็เื่จริงแท้ที่สุด เ้าว่าข้าพูดถูกไหม? ผู้คนทั่วทั้งแผ่นดินคงไม่มีเจตนาให้หานรุ่ยเสื่อมเสียชื่อเสียงได้หรอก” พูดจบ ชายคนนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองจุนห่าวและหานรุ่ย อย่างรอคอยคำตอบจากพวกเขา ช่างเป็คนไร้ซึ่งการหยั่งรู้เสียจริง คนที่พูดถึงอยู่ตรงหน้าแล้ว ยังจะเอ่ยถามเช่นนี้ ผู้ชายคนนี้คงไร้ซึ่งสติโดยแท้
ในความคิดของจุนห่าว ช่างตรงกับคำที่ว่าสามคนกลายเป็เสือ [1] เสียจริง ทุกคนพูดเป็เสียงเดียวกัน แม้ว่าหานรุ่ยจะดูไม่เหมือนซวงเอ๋อร์ ทว่าเขาก็เป็ชายที่หล่อเหลาเอาการ กลับถูกใส่ร้ายโดยเจตนาแฝงเช่นนี้ ก็ไม่รู้ว่าคนนั้นจิตใจยังไง จุนห่าวแน่ใจว่าต้องมีคนคิดใส่ร้ายป้ายสีหานรุ่ย มิฉะนั้นคงไม่เลื่องลือไปทั่วทั้งแผ่นดิน ใครบางคนต้องอยู่เื้ัข่าวลือนี้แน่ พลังแห่งมติมหาชนช่างที่น่ากลัวที่สุด
หานรุ่ยมองออกว่าจุนห่าวโกรธแค้น เขาดึงแขนเสื้อของจุนห่าว เพื่อให้จุนห่าวใจเย็นๆ อย่าเพิ่งวู่วามให้อดทนรอดูเหตุการณ์ไปก่อน ตอนนี้เขาสนใจเื่นี้มาก เอ่ยกับชายคนนั้นด้วยรอยยิ้มว่า “ถูก ท่านพูดถูก สายตาของทุกคนล้วนกระจ่างชัด คงมิได้เจตนาให้หานรุ่ยเสื่อมเสีย หานรุ่ยคงขี้เหร่อย่างหาที่เปรียบมิได้เป็แน่ ท่านกล่าวต่อเถอะ” คิดในใจ เขาอยากฟังสิ่งที่คนอื่นพูดถึงเขาและองค์ชายสาม ก่อนหน้านี้ เขาไม่เคยคิดจะฟัง ทว่าเวลานี้กลับอยากจะฟังเื่นี้เสียแล้ว
ในที่สุด ชายคนนั้นก็เห็นหานรุ่ยเริ่มสนใจ ตื่นเต้นขึ้น จึงพูดต่อว่า “แม้ว่าหานรุ่ยจะขี้เหร่อย่างไม่มีอะไรเทียบได้ ทว่าองค์ชายสามก็รักและดูแลเขาอย่างดี มิได้ทอดทิ้งเขา ได้ยินว่าองค์ชายสามมักไปมาหาสู่ตระกูลหานเพื่อเยี่ยมเยียนคู่หมั้นของเขาอยู่บ่อยๆ มีของดีก็ไม่เก็บไว้ใช้เอง แต่กลับมอบให้คู่หมั้นของเขา เมื่อครั้งหานรุ่ยอายุ 16 ปี องค์ชายสามก็อดรนทนไม่ไหวอยากจะแต่งงานกับหานรุ่ยแล้ว แต่ทว่า หานรุ่ยกลับปฏิเสธองค์ชายสาม บอกว่าขี้เหร่อย่างหาที่เปรียบมิได้อย่างเขา ไม่คู่ควรกับองค์ชายสามั้แ่แรก ให้องค์ชายสามรออีกสองปี รอให้เขาอายุ 18 ปี บำเพ็ญเพียรได้สำเร็จ ถึงจะแต่งงานกับองค์ชายสาม เช่นนี้ เขาถึงมีความมั่นใจมากขึ้น หากองค์ชายสามตกหลุมรักผู้อื่นใน่สองปีนี้ เขาก็เต็มใจยกเลิกงานแต่งงาน องค์ชายสามจึงรอหานรุ่ยเช่นนี้เป็เวลาสองปี ชี้ให้เห็นว่าองค์ชายสามหลุ่มหลงในตัวหานรุ่ยเพียงใด”
พูดถึงตรงนี้ ชายคนนี้ก็เขากลืนน้ำลาย หยุดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดอย่างอิจฉาว่า “หากมีคนปฏิบัติต่อข้าเช่นนี้ ข้าตายก็ไม่เสียดาย น่าเสียดายนัก ที่ข้ามิได้โชคดีอย่างหานรุ่ย ที่พบคนที่รักเขาด้วยใจจริง” พูดจบก็ส่ายหัว และพูดต่อว่า “สองปีต่อมา ขณะที่องค์ชายสามและหานรุ่ยกำลังเตรียมตัวสำหรับการแต่งงานครั้งใหญ่ หานรุ่ยเกิดได้รับาเ็สาหัสในดินแดนลับ ไม่เพียงพลังปราณถูกทำลาย ยังกลายเป็คนป่วยที่ไม่อาจบำเพ็ญเพียรได้ และกลายเป็สวะโดยสมบูรณ์ หานรุ่ยเป็เช่นนี้ องค์ชายสามก็มิได้ทอดทิ้งเขา เขายังตั้งใจแต่งงานกับหานรุ่ยและแต่งตั้งให้เป็พระชายา”
ชายคนนั้นหยุดชะงักไป และกล่าวต่อว่า “พวกเ้าย่อมรู้ว่า องค์ชายสามคือว่าที่จักรพรรดิในอนาคต หานรุ่ยในฐานะพระชายาขององค์ชายสาม ก็จะกลายเป็จักรพรรดินีในอนาคต ราชินีของจักรวรรดิจะเป็สวะที่ทั้งขี้เหร่และไร้ซึ่งพลังปราณได้อย่างไรล่ะ”
พูดถึงตรงนี้ ชายผู้นั้นพลันรู้สึกเย็นหวาบ คิดในใจ อากาศก็มิได้แปรเปลี่ยน เหตุใดอุณหภูมิถึงเย็นลงล่ะ ทว่าเขาไม่เห็นแววตาอันมืดมนในสายตาของจุนห่าว
ชายคนนั้นชะลอตัวลงและพูดว่า “เพราะหานรุ่ยกลายเป็สวะที่ไม่อาจบำเพ็ญเพียร ข้อได้เปรียบเพียงอย่างเดียวของเขาจึงหมดสิ้น พวกขุนนางต่างเสนอให้ยกเลิกการแต่งงานระหว่างองค์ชายสามกับหานรุ่ย ทว่าหลังจากที่องค์ชายสามทรงทราบ กลับไม่เห็นด้วย จะแต่งงานกับหานรุ่ยให้ได้ หานรุ่ยกลายเป็เช่นนี้แล้ว องค์ชายสามยังยืนกรานให้หานรุ่ยเป็พระชายา ใครกล้าพูดว่าองค์ชายสามมิใช่คนที่มีความรักอย่างจริงใจหรือ การที่หานรุ่ยมีคู่หมั้นอย่างองค์ชายสาม นั่นถือเป็พรอันประเสริฐในชีวิตของเขาเสียจริง ท้ายที่สุด หานรุ่ยก็ถูกกดขี่เจียนตาย เพื่อช่วยชีวิตคนรัก องค์ชายสามจึงยอมยกเลิกการแต่งงาน ทุกคนต่างพูดว่า หานรุ่ยด้อยกว่า ถึงทำเช่นนี้ ทว่า สิ่งนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกต่อหานรุ่ยดีขึ้น หากยังไร้ยางอายไม่ปล่อยองค์ชายสามไป ก็ถือว่าเป็คนไม่รู้จักประมาณตนเอง น่าเสียดาย หรือ์คงอิจฉา ได้ยินว่าหานรุ่ยบำเพ็ญเพียรถึงขั้นที่แปดแล้ว จะเป็ผู้แข็งแกร่งนอนาคต กลับถูกตัดอนาคตั้แ่ยาว์วัย” พูดถึงเื่นี้ ชายผู้นั้นก็ส่ายหัวอย่างเสียดาย
หลังจากชายคนนั้นพูดจบ อารมณ์ของจุนห่าวยังนิ่งงัน ทว่ามีความหม่นหมองในดวงตา ในที่สุดเขาก็รู้ว่าใครเป็คนผู้อยู่เื้ัทำให้หานรุ่ยเสื่อมเสีย เขาคิดไม่ถึงว่าองค์ชายสาม...สุ่ยเย่ว์หรูหวาจะไร้ความปรานีเช่นนี้ เขาอกตัญญูและไม่เต็มใจแต่งงานกับหานรุ่ย จุนห่าวเข้าใจได้ สิ่งที่พอใจในตัวหานรุ่ยก็คือพร์ในการบำเพ็ญเพียร สิ่งที่จุนห่าวไม่อาจผ่อนปรนได้ก็คือ องค์ชายสามเป็ฝ่ายขอถอนหมั้น เพื่อรักษาชื่อเสียงของเขา แต่กลับแต่งเื่หลอกลวงผู้คนเช่นนี้ ทำให้ทุกคนคิดว่าเขาเป็คนที่มีอารมณ์อ่อนไหวที่ลุ่มหลงในรัก ทำให้ทุกคนรักและเคารพเขา สนับสนุนเขายิ่งขึ้น เพื่อวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับจักรวรรดิสุ่ยเย่ว์ เขามิได้เห็นหานรุ่ยอยู่ในสายตาสักนิด อาจคิดว่าหานรุ่ยคงไม่ออกมาเปิดเผยที่เขาโกหกแน่ หรือไม่เขาก็ไม่ต้องแยแสที่หานรุ่ยจะออกมาเปิดเผย เพราะผู้คนพูดเป็เสียงเดียวกันแล้ว ต่อให้หานรุ่ยออกมาพูดความจริง คงไม่มีใครเชื่อหานรุ่ย เพราะคิดว่าหานรุ่ยก็คือตัวตลกที่น่าเกลียด เกิดรู้สึกเสียดายที่ถอนหมั้น จึงออกมาทำลายชื่อเสียงขององค์ชายสาม จากนั้นก็บอกว่าหานรุ่ยเป็คนอกตัญญู องค์ชายสามดีต่อเขาเช่นนี้ เขากลับใส่ร้ายป้ายสีองค์ชายสาม
หานรุ่ยฟังจบ ในใจสงบนิ่ง เขารู้แต่แรกว่าองค์ชายสามเป็คนเห็นแก่ตัว และไร้ความปราณี เื่ราวกลายเป็เช่นนี้ หานรุ่ยไม่รู้สึกแปลกใจสักนิด หากยอมรับว่าเขาเป็ฝ่ายขอถอนหมั้น นั่นสิถึงจะแปลก ดังนั้น จึงแตกต่างจากคลื่นั์ในหัวใจของจุนห่าว คำพูดของชายคนนี้มิได้ทำให้จิตใจของหานรุ่ยกระส่ำกระส่ายไม่
หานรุ่ยขมวดคิ้วและพูดกับชายผู้นั้นด้วยรอยยิ้มว่า “ที่ท่านพูดมาทั้งหมดคือเื่ขององค์ชายสามและหานรุ่ย เหตุใดสิ่งนี้ถึงเกี่ยวข้องกับน้องสาวของหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่งล่ะ?” หานรุ่ยยังคงไม่เข้าใจ ชายคนนี้ปูเื่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้เพื่ออะไร หากมิใช่เพราะคนนี้ไม่รู้จักตัวเองอย่างแท้จริง หานรุ่ยคงคิดว่าชายคนนี้เจตนาแสดงความรังเกียจต่อเขา
ชายผู้นั้นยิ้มและพูดว่า “แน่นอนว่ามันเกี่ยวข้องกัน อย่างที่พูดไปแต่แรกว่า องค์ชายสามลุ่มหลงในตัวหานรุ่ย นับั้แ่ถอนหมั้นกับหานรุ่ย องค์ชายสามก็ไม่คิดแต่งงานกับใครอีก ดูจากอายุอานามขององค์ชายสามก็ไม่น้อยแล้ว สำหรับจักรวรรดิสุ่ยเย่ว์ถือได้ว่าการแต่งงานช้า ก็สมควรแก่เวลาที่จะผลิดอกอกผลให้แก่ราชวงศ์ โดยส่วนตัวทุกคนคิดว่าองค์ชายสามยังคงรอหานรุ่ยเปลี่ยนใจ ทว่าหลังจากหานรุ่ยได้รับาเ็ ก็หายไปจากสายตาผู้คน ทุกคนต่างคิดว่าหานรุ่ยตายแล้ว ส่วนองค์ชายสามที่สูญเสียหานรุ่ย ก็อยู่กับความเ็ป ดังนั้นจึงไม่คิดแต่งงาน” หลังจากพูดจบ ก็หยุดอยู่ครู่หนึ่ง และกล่าวต่อไปว่า “สำหรับน้องสาวของหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่ง...หงอวี้หรู ไม่เพียงทำให้องค์ชายสามตกหลุมรักนาง ยังทำให้องค์ชายสามคิดตบแต่งนางในฐานะพระสนม แต่ทว่า เพราะหงอวี้หรูมีชาติกำเนิดไม่ดี ดังนั้นจักรพรรดิและจักรพรรดินีจึงไม่เห็นด้วย องค์ชายสามสร้างความกังวลใจให้กับจักรพรรดิเป็เวลาหนึ่งปี ในที่สุดจักรพรรดิก็ยอมถอย เมื่อไม่กี่วันก่อน เขาเห็นพ้องต้องกันว่าจะให้องค์ชายสามแต่งงานกับหงอวี้หรูในฐานะนางสนม ท่านว่าการที่นางสามารถทำให้องค์ชายสามจากที่จิตใจด้านชาราวกับตายทั้งเป็ ได้ลบเลือนความเ็ปที่สูญเสียหานรุ่ย ทำให้องค์ชายสากลับมามีความคิดที่จะแต่งงาน ท่านว่านางมีสามารถไหม?” พูดจบก็มองหานรุ่ยและจุนห่าว
หานรุ่ยพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ช่างมีความสามารถจริงๆ”
จุนห่าวไม่ได้พูดอะไร ทว่าหายใจขึ้นและลงทั่วร่างหาย แม้แต่ผู้พูดในการซุบซิบยังรู้สึกสั่นอย่างไม่รู้สาเหตุ ในใจคิดว่าวันนี้อากาศดูท่าจะผิดปกติ
เมื่อเห็นหานรุ่ยเห็นด้วย ชายคนนั้นเอ่ยขึ้นอีกว่า “ในเมื่อองค์ชายสามให้ความสำคัญกับหงอวี้หรู หงอวี้หรูย่อมได้ใช้อิทธิพลขององสาม องค์ชายสามจะไม่ให้ความสำคัญกับกลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่งได้หรือ? เหตุผลที่กลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่งเหิมเกริมเช่นนี้ ก็เพราะว่ามีองค์ชายสามหนุนหลัง บัดนี้กลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่งเป็หนึ่งในสามของกลุ่มรักษาราชบัลก์ เ้าจะบอกว่ากลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่งไม่ยิ่งใหญ่หรือ”
จุนห่าวจ้องไปทางแคมป์ของกลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่งอย่างเฉยเมย และเอ่ยถามด้วยใบหน้าที่อึมครึม “ท่านหมายความว่ากลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่งคือกองสนับสนุนขององค์ชายสามหรือ?” ยังมิทันที่ชายคนนั้นจะตอบ จุนห่าวก็ยิ้มที่มุมปากด้วยรอยยิ้มที่พร้อมชักนำไปสู่อันตราย
[1] สามคนกลายเป็เสือ คือ กล่าวคือคนสามคนที่ทยอยพูดเื่เดียวกันให้คนคนหนึ่งฟัง คนที่ถูกหูกรอกหูซ้ำๆ ย่อมจะคล้อยตามคนพูดได้ ก็จะทำให้ข่าวลือหรือเื่เท็จกลายเป็จริ
