ดวงตาของฮองเฮามืดมนลง อย่างไรก็ตาม ความโกรธก็คือความโกรธ นางเองก็ไม่มีทางอื่นที่จะขอความช่วยเหลือ
นางซ่อนความโกรธไว้และพูดด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะว่า “อวิ๋นซี เช่นนั้นเอาแบบนี้ดีหรือไม่ เ้าก็บอกว่าฉางผิงป่วย ส่วนเป็โรคอะไรนั้น เ้าก็ไม่ต้องพูดถึง อย่างไรมันก็ไม่ใช่เื่ดีสักเท่าไรที่จะแพร่งพรายออกไป”
“ฮองเฮา หมู่เฟยของข้าเองก็ไม่ใช่คนนอก นางไม่ไม่มีทางแพร่งพรายออกไปอย่างแน่นอน” หานอวิ๋นซีช่างเป็ลูกสะใภ้ที่ดีจริงๆ พูดปกป้องแม่สามีทันที
ฮองเฮาพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่าและเกลี้ยกล่อมนาง “แน่นอนอยู่แล้ว เพียงแต่...ท้ายที่สุดแล้วอาการป่วยของฉางผิงเป็โรคติดต่อ ทั้งยังอยู่บนใบหน้า บุตรสาวของข้าก็ยังไม่ได้ออกเรือน ดังนั้นก็ต้องไว้หน้านาง เ้าว่าเช่นนั้นหรือไม่?”
หานอวิ๋นซีพยักหน้าราวกับว่าเข้าใจ “ข้าเข้าใจ เช่นนั้นก็บอกไปว่า ฉางผิงเป็โรคหัวใจ ้าจักจั่นสิบปล้องเพื่อขับความร้อนและล้างพิษ”
“ใช่ๆ พูดแค่นั้นแหละ เ้า...จะไปที่นั่นด้วยตัวเองใช่หรือไม่?” ฮองเฮาถามอย่างลังเล
นางประนีประนอมมาถึงจุดนี้แล้ว เป็ไปไม่ได้ที่จะไปก้มหน้าอ้อนวอนอี้ไท่เฟย แค่นั้นมันก็เสียศักดิ์ศรีมากพอแล้ว!
ถ้าหานอวิ๋นซีไป เช่นนั้นสิ่งที่นางทำไปก็คงไม่มีความหมาย
นางที่ไม่้าไป ก็พูดอย่างจริงจังว่า “ทางฝั่งองค์หญิง ข้าจำเป็ต้องเฝ้าดูอาการ พิษอาจจะเกิดติดเชื้อขึ้นมาได้ ฮองเฮา เื่นี้ยังไม่สายเกินไป ท่านหาคนไปแทนข้าเถอะ”
ทันทีที่กล่าวถึงการติดเชื้อ ฮองเฮาก็เป็กังวลอีกครั้ง ด้วยความสิ้นหวัง นางจึงทำได้เพียงผลักเื่นี้ไปให้กู้เป่ยเยวี่ย
กู้เป่ยเยวี่ยไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ ตอบตกลงด้วยความเคารพและไปที่จวนฉินอ๋องทันทีเพื่อขอยา
ตลอดทั้งบ่าย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่จวนฉินอ๋องหรือไม่ จนถึงป่านนี้แล้วกู้เป่ยเยวี่ยก็ยังคงไม่กลับมา
ฮองเฮาที่อยู่ไม่สุขในห้องรับแขก รออย่างกระวนกระวาย อย่างไรก็ตาม หานอวิ๋นซีกลับไปหลบอยู่ในห้องครัว แสร้งทำเป็จดจ่อกับการเตรียมยาแก้พิษและไม่อนุญาตให้ใครมารบกวน ทั้งที่ความจริงแล้ว นางได้เก็บยาราคาแพงเ่าั้ใส่กระเป๋าไปแล้ว
นางนำยาที่มีราคาแพงเ่าั้และยาที่ไม่ได้เก็บไว้ในระบบล้างพิษออกมา จากนั้นก็ซ่อนไว้ในระบบล้างพิษ แล้วก็หยิบยาที่จะหาได้ทั่วไปออกมาผสมเข้าด้วยกันจนเดือด
ขณะนี้ตอนนี้ นางกำลังนั่งอยู่ข้างเตาเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่น ขณะเดียวกันก็คิดถึงสถานการณ์ในจวนฉินอ๋อง
อี้ไท่เฟยคิดเสมอว่ารู้สึกขายหน้าที่นางถูกจับเข้าห้องขัง ดังนั้นตอนนี้อี้ไท่เฟยก็ควรจะดีใจที่นางให้โอกาสทำให้มีหน้ามีตาขึ้น
ในเมื่อองค์หญิงฉางผิงป่วยและ้ายา จึงไม่มีเหตุผลที่อี้ไท่เฟยจะไม่ให้
หานอวิ๋นซีมั่นใจอย่างมากว่าอี้ไท่เฟยจะต้องให้ยานี้ และมู่หรงหว่านหรูคงต้องผิดหวังอย่างมากที่เห็นสินสอดที่รอคอยมานานถูกพรากไป เมื่อคิดถึงเื่นี้ หานอวิ๋นซีก็รู้สึกมีความสุขเหลือเกิน!
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หานอวิ๋นซีไม่คาดคิดก็คือเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน อี้ไท่เฟยและหมอหลวงกู้จะเข้ามาในวังด้วยกัน!
แม้แต่ฮองเฮาเองก็ยังประหลาดใจมากและฝืนยิ้มต้อนรับนาง
ฮองเฮาไม่ได้ถามอะไรมากมาย และพูดออกไปว่า “อี้ไท่เฟย ก็แค่ยาเท่านั้น ยังรบกวนเ้าเอามันมาให้ด้วยตัวเอง ฉางผิงคงเกินกว่าที่จะชดใช้ได้!”
ใครจะรู้ว่าใบหน้าของอี้ไท่เฟยเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด “ฮองเฮา ข้าบอกท่านแล้วไม่ใช่หรือไร เื่ใหญ่เช่นนี้ เหตุใดท่านถึงไม่บอกข้า? ข้าคิดว่าฉางผิงขอให้อวิ๋นซีเข้าวังเพื่อเล่นสนุก ใครจะรู้ว่าจะให้มารักษาโรค!”
ก่อนที่ฮองเฮาจะได้อธิบาย อี้ไท่เฟยก็เหลือบมองหานอวิ๋นซีที่นั่งอยู่ข้างๆ และพูดอย่างจริงจังว่า “ถ้ารู้ว่านางมาที่นี่เพื่อรักษาคน ข้าคงไม่ปล่อยให้นางมา นางมีทักษะทางการแพทย์เสียที่ไหนกัน? ไม่ใช่ว่าจะรักษาหรือสั่งยาตามอำเภอใจ แล้วทำให้อาการของฉางผิงแย่ลงหรอกหรือ?”
หานอวิ๋นซีก้มหน้าและไม่พูดอะไร
ทว่าฮองเฮากลับอธิบายอย่างรวดเร็วว่า “เป็ไปได้อย่างไรกัน มีหมอหลวงกู้คอยดูแลอยู่”
“หมอหลวงกู้แนะนำอย่างนั้นหรือ? เช่นนั้นก็ให้หมอหลวงกู้รักษาเถอะ จะได้ปลอดภัย!” อี้ไท่เฟยพูดพร้อมกับมองตรงไปที่หานอวิ๋นซี “นางเป็เด็กโกหกที่ไร้การศึกษา หากรู้วิธีรักษาโรคจริงๆ คงไม่ถูกด่าว่าไร้ประโยชน์หรอก เมื่อไม่กี่วันมานี้ก็เข้าห้องขังไป จะไปรักษาอะไรได้กัน?
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ใบหน้าของฮองเฮาก็มืดมนทันที เห็นได้ชัดว่านางกำลังหายใจเข้าลึกๆ!
วันนี้อี้ไท่เฟยมาเพื่อจับผิด!
อย่างไรก็ตาม ฮองเฮาก็คือฮองเฮา ความสามารถของนางยังคงยอดเยี่ยม
นางถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ “ไอ้หยา ไท่เฟยของข้า เ้าอย่าถ่อมตัวไปเลย ใครจะกล้าด่าทออวิ๋นซีว่าเป็คนไร้ประโยชน์กัน ข้าจะเป็คนแรกที่ขอค้าน! เื่ของแม่ทัพใหญ่เป็เื่เข้าใจผิด เข้าใจผิดสุดๆ! ฉางผิงเองก็ขอโทษไปแล้ว เ้าอย่าใส่ใจเลย”
อี้ไท่เฟยมีความสุขอย่างมากที่ได้ยินและเหลือบไปมองนาง “มีใครบ้างที่ไม่รู้ว่านิสัยที่ไม่ดีเช่นนั้นของฉางผิงมาจากการเลี้ยงดูของท่าน!”
ประกายแห่งความโกรธวาบขึ้นในดวงตาของฮองเฮา แต่นางยังคงอดทน ลุกขึ้นและโน้มตัวลง กึ่งจริงจังกึ่งล้อเล่น “ใช่ใช่ใช่ เป็ความผิดของข้าเอง ข้าต้องขอโทษไท่เฟยด้วย”
อี้ไท่เฟยแสร้งทำเป็กระวนกระวายและรีบพยุงนาง “ไม่ต้องหรอกๆ ข้าแค่ล้อเล่น เด็กน้อยน่ะ มีผู้ใหญ่คนไหนจะไม่รักไม่ตามใจบ้างล่ะ สำหรับอวิ๋นซีของเราแล้ว ข้าก็ไม่คุ้นเคยกับนางเลย”
ฟังสตรีสองคนที่กำลังโต้เถียงกันในตำหนักเซินกง ความไม่จริงใจเ่าั้ ทำเอาหานอวิ๋นซีและกู้เป่ยเยวี่ยขนลุกไปทั้งตัว พลางมองหน้ากันเงียบๆ
อย่างไรก็ตาม หานอวิ๋นซีรู้ว่า ในอนาคตหลังจากที่นางกลับไป อย่างน้อยก็คงไม่ได้มีชีวิตที่ทุกข์ทรมานเช่นแต่ก่อน
อี้ไท่เฟยแสนเ้าเล่ห์เต็มไปด้วยความสนุกสนาน!
นางมีอารมณ์และมีเวลาที่จะเสแสร้ง แต่ฮองเฮาไม่มี เมื่อนึกถึงเวลาในการแพร่ระบาดของพิษบนร่างกายองค์หญิงฉางผิงแล้ว นางไม่อยากที่จะเสียเวลาไปสักวินาทีเดียว
“อี้ไท่เฟย ทักษะทางการแพทย์ของอวิ๋นซีไม่ได้ด้อยไปกว่าหมอหลวงกู้เลย แล้วก็ไม่รู้ว่ามันแพร่กระจายออกไปภายนอกได้อย่างไร คิดไม่ถึงว่าจะพูดกันว่านางเป็คนไร้ประโยชน์เช่นนี้ ในความคิดของข้า ไท่เฟยพูดถูก ฉินอ๋องแต่งงานกับอวิ๋นซี นั่นเป็โชคดีเหลือเกิน” ฮองเฮาแสดงท่าทีจริงจัง
หากเป็ในอดีต อี้ไท่เฟยจะต้องรู้สึกเหมือนถูกประชดประชันอย่างแน่นอนเมื่อได้ยินเื่นี้ แต่ตอนนี้นางกลับรู้สึกสบายใจมากที่ได้ยิน
ในตอนแรกยังคิดว่าการรักษาแม่ทัพใหญ่ของหานอวิ๋นซีเป็เื่ยุ่งยาก แต่หลังจากที่ใน่บ่ายหมอหลวงกู้มาอธิบายสถานการณ์ให้นางฟัง นางถึงกับใไม่น้อย
ไม่มีใครคาดคิดว่าทักษะทางการแพทย์ของหานอวิ๋นซีจะดีขนาดนั้นจริงๆ
ตอนนี้ดูเหมือนว่า ไท่เฮาคงเสียใจไม่น้อยที่บังคับให้หานอวิ๋นซีแต่งงานกับฉินอ๋อง!
ฮองเฮาทั้งขอโทษ ทั้งพูดจาดี อี้ไท่เฟยรู้สึกดีอย่างมาก หลังจากต่อสู้กับไท่เฮามานานหลายปี เป็เวลานานมากแล้วที่นางไม่ได้คลายความโกรธลงเช่นนี้
ดังนั้น นางจึงหยิบคราบจักจั่นสิบปล้องออกมาอย่างง่ายดาย แต่แทนที่จะมอบให้ฮองเฮา นางกลับยื่นให้หานอวิ๋นซีเอง และพูดอย่างสุภาพว่า “อวิ๋นซี เ้าต้องระมัดระวังด้วยล่ะ ฝากองค์หญิงฉางผิงด้วยก็แล้วกัน”
หานอวิ๋นซียืนขึ้นและรับไว้ “หมู่เฟยวางใจได้เลยเพคะ ข้าเข้าใจแล้ว ข้าขอตัวไปต้มยาก่อน”
“หวังเฟย ข้าช่วยท่านเอง” กู้เป่ยเยวี่ยพูดอย่างเร่งรีบ เขารู้ว่าใบสั่งยาที่หานอวิ๋นซีให้นั้นเป็ของปลอม และเขาอยากรู้ว่ายาแก้พิษที่แท้จริงคืออะไร
หัวหน้าหมอหลวง้าช่วยหานอวิ๋นซีงั้นหรือ? อี้ไท่เฟยรู้สึกมีความสุขมากขึ้น นางยิ้มและพูดว่า “หมอหลวงกู้ ไปเร็วเข้า”
อย่างไรก็ตาม เมื่อเดินมาถึงครึ่งทาง หานอวิ๋นซีกลับพูดกับกู้เป่ยเยวี่ยด้วยประโยคเดียว
“หมอหลวงกู้ เ้าไปดูองค์หญิงฉางผิงเถอะ”
กู้เป่ยเยวี่ยรู้ว่านางไม่้าให้เขาตามไป เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง และ้าที่จะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะเงียบ ยิ้มแล้วพูดว่า “ข้าทราบแล้ว”
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เขากำลังจะเดินออกไป หานอวิ๋นซีก็หันหน้าไปและยิ้มราวกับดอกไม้ “กู้เป่ยเยวี่ย ขอบคุณนะ!”
หลังจากที่นางพูดจบก็หันหลังกลับแล้วเดินออกไป กู้เป่ยเยวี่ยตกตะลึงเล็กน้อย จากนั้นก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ พร้อมกับดวงตาที่ยิ้มและอ่อนโยนราวกับสายลมฤดูใบไม้ผลิในเดือนสี่
หานอวิ๋นซีไปที่ห้องครัว เทยาทั้งหมดที่เคยต้มก่อนหน้านั้น แล้วหยิบห่อยาแก้พิษออกมา ต้มจนกลายเป็ยาน้ำ และนำออกมาด้วยตนเอง
ฮองเฮาและอี้ไท่เฟยกำลังรออยู่ที่ประตูขององค์หญิงฉางผิง เมื่อเห็นหานอวิ๋นซีนำยามาด้วยตนเอง ฮองเฮาก็ดีใจอย่างยิ่ง “นี่คือยาใช่หรือไม่?”
“เพคะ” หานอวิ๋นซีพยักหน้า
ฮองเฮาเปิดประตูด้วยตนเอง เพียงแต่ไม่ได้ตามเข้าไป และหยุดอี้ไท่เฟยที่กำลังจะเข้าไปไว้ “ไท่เฟย ด้านในมีแต่กลิ่นยา ฉางผิงเองก็กลัวลม ในห้องจึงไม่ได้เปิดหน้าต่างมาหลายวันแล้ว เรารอข้างนอกจะดีกว่า”
อี้ไท่เฟยเป็คนที่รักในความสะอาด ตอนนี้นางเองก็ได้กลิ่นเหม็นด้วย นางจึงถอยกลับและพูดว่า “ได้สิ”
หมอหลวงกู้เองก็เดินตามเข้าไป โดยปล่อยให้ฮองเฮาและอี้ไท่เฟยรออยู่ด้านนอก
ว่ากันว่าสามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่จะหายดีหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับผลของการรักษา ฮองเฮารู้สึกประหม่าอย่างมาก ส่วนอี้ไท่เฟยที่เข้าวังมาอย่างอวดดีในวันนี้ แน่นอนว่าก็รู้สึกกังวลเล็กน้อยเช่นกัน
ใครจะไปรู้ว่ารอไปเพียงครึ่งชั่วยาม สุดท้าย ฮองเฮาก็นั่งไม่ติดอีกต่อไป
“ใครก็ได้ เข้าไปดูข้างในหน่อยว่าเป็อย่างไรบ้าง”
อี้ไท่เฟยขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางคิดในใจว่าหานอวิ๋นซีนะหานอวิ๋นซี วันนี้ข้ามาที่นี่เพื่อทำให้หน้าตาดูดีขึ้น ถ้าเ้าทำให้ข้าขายหน้าละก็ ทันทีที่กลับไปข้าจะไม่ปล่อยให้เ้าแค่อดตายอย่างแน่นอน!
นางกำนัลในวังกลัวติดเชื้อมากแต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเข้าไปในห้อง ทว่าขณะที่กำลังจะเปิดประตูเข้าไป ประตูก็ถูกเปิดออกจากด้านใน
กู้เป่ยเยวี่ยเป็คนเปิดประตู และมีหานอวิ๋นซีเดินตามหลังมา ในไม่ช้า หน้าต่างทั้งสองด้านก็ถูกเปิดออกเช่นกัน
ฮองเฮาและอี้ไท่เฟยลุกขึ้นแทบจะพร้อมกัน และพูดพร้อมกันว่า “เป็อย่างไรบ้าง?”
“ยาจะรักษาโรคได้ แต่่นี้องค์หญิงจะเหน็ดเหนื่อยง่าย ร่างกายยังคงอ่อนแอมากเช่นกัน นางต้องค่อยๆ พักฟื้น” หานอวิ๋นซีตอบอย่างใจเย็น
“จริงหรือ!” ฮองเฮามองด้วยความไม่เชื่อ “จริงหรือ...ทุกอย่างเรียบร้อยดีใช่หรือไม่?”
ความจริงแล้ว สิ่งที่นาง้าถามคือพิษยังคงติดต่อได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม นี่เป็เพียงการหยอกล้อของหานอวิ๋นซีเท่านั้น นางพยักหน้า “ฮองเฮา ฉางผิง้าพบท่านอย่างมาก ท่านรีบเข้าไปข้างในเถอะ”
ด้วยคำพูดของหานอวิ๋นซี ในที่สุดใจของฮองเฮาที่ใจเต้นไม่เป็จังหวะก็กลับมาสงบดังเดิมและเดินเข้าไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
อี้ไท่เฟยรู้สึกอยู่ตลอดเวลาว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่ก็บอกไม่ได้ว่ามันคืออะไร ดังนั้นนางจึงรีบตามเข้าไป
ภายในห้อง มือและเท้าขององค์หญิงฉางผิงไม่ได้ถูกมัดไว้แต่อย่างใด แม้ว่าร่างกายของนางจะไม่มีเรี่ยวแรง แต่นางกลับตื่นเต้นอย่างมาก!
นางที่กำลังสั่งให้สาวใช้ส่องกระจกให้ ถึงแม้ว่าผิวจะหยาบกร้านกว่าเดิมเล็กน้อย และมีรอยแผลเป็ที่แก้มซ้ายและขวาก็ยังดีกว่าเป็ตุ่มพิษทั่วหน้า!
แม้ว่าทั้งหมอหลวงกู้และหานอวิ๋นซีจะบอกว่ารอยแผลเป็บนใบหน้าของนางต้องใช้เวลาหลายเดือนในการรักษา แต่ตอนนี้ นางรู้สึกตื่นเต้นสุดๆ จนไม่ได้สนใจอะไรมากนัก
ใบหน้าของนางหายดี ไม่เสียโฉมและไม่แพร่เชื้อให้คนอื่น!
องค์หญิงฉางผิงไม่อยากที่จะยอมรับ แต่ต้องก็บอกว่าหานอวิ๋นซีได้ช่วยใบหน้าของนางไว้ตลอดชีวิต
ฮองเฮาที่รีบเข้าไป เมื่อเห็นใบหน้าขององค์หญิงฉางผิง ก็ยกมือปิดปากด้วยความใ
พระเ้า มันเป็เื่จริง!
หมอหลวงทั้งหมด รวมไปถึงหมอพิษที่มีชื่อเสียงบางคนก็ยังรักษาไม่ได้ คิดไม่ถึงว่าหานอวิ๋นซีจะรักษาหายด้วยยาเพียงถ้วยเดียวจริงๆ!
ทั้งยังเห็นผลเร็วอย่างมาก!
ฮองเฮานั่งลง มองใบหน้างดงามของบุตรสาวด้วยความตื่นเต้นและพูดไม่ออกเป็เวลานาน
แต่อี้ไท่เฟยกลับเต็มไปด้วยความสงสัย “ฉางผิง เ้าเป็โรคหัวใจ ทำไมถึงเจ็บหน้าล่ะ?”
“หรือว่าป่วยจนทนไม่ไหว เลยจับหน้า” ฮองเฮารีบหาข้อแก้ตัวตอบ
องค์หญิงฉางผิงที่กำลังจมอยู่ในความสุข จ้องมองไปที่กระจกอย่างไม่วางตา ไม่ว่าใครจะพูดอะไรก็ตามนางก็ไม่สนใจทั้งสิ้น
“ทำไมล่ะ อวิ๋นซีไม่ได้ช่วยนางรักษาไปแล้วหรอกหรือ?” อี้ไท่เฟยถามอย่างสงสัย
ขณะเดียวกัน มามาที่อยู่ข้างๆ ก็พูดขึ้นว่า “ทูลไท่เฟย หวังเฟยสั่งยาสำหรับใช้ภายนอกและบอกว่าจะใช้เวลาสองสามเดือนในการฟื้นตัว”
อี้ไท่เฟยพึงพอใจอย่างมากและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เช่นนั้นก็ดีแล้ว ฮ่าฮ่า ฉางผิง มีเสด็จอาหญิงเช่นนี้ ช่างเป็โชคดีของเ้าจริงๆ”