เฉิงชิงทำทีเป็จะขึ้นรถจากไป
แม่นางน้อยผู้มีใบหน้ากลมย่อมหลั่งน้ำตาอย่างร้อนรน “แม่นางซือซือ แม่นางบ้านข้ามีนามว่าซือซือ เ้ากล้ากล่าวว่าตนเองจำไม่ได้…”
“ซือซือแห่งหอิเยวี่ย?”
เช่นนั้นเฉิงชิงก็ยังคงจำได้จริงๆ
ไม่มีซือซือเป็หินทดสอบความบริสุทธิ์ของทองคำ[1] เฉิงชิงจะสามารถแยกแยะได้อย่างไรว่าว่าที่พี่เขยฉีเหยียนซงเป็สวะผู้หนึ่ง!
โอ๊ะ เป็อดีตว่าที่พี่เขย บัดนี้ครอบครัวนางและตระกูลฉีไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว ไม่ต้องพูดถึงการหมั้นหมาย แม้แต่ความเป็ญาตินี้ก็เกือบจะตัดขาดแล้ว
ซือซือแห่งหอิเยวี่ยหรือ!
ผู้คนที่ผ่านทางมายืนล้อมรอบดูอดไม่ได้ที่จะซุบซิบข้างหูกันและกัน
หอิเยวี่ยเป็หอคณิกาอันมีชื่อของเมืองเซวียนตู เห็นบัณฑิตอั้นโส่วของการสอบระดับเมืองปีนี้ยังอายุไม่มาก ยังมีความสัมพันธ์กับหญิงคณิกาของหอโคมแดงแล้ว?
เหล่าพี่ชายร่วมตระกูลล้วนเป็ใบ้กันหมดแล้ว
ไม่อาจดูคนแค่เพียงภายนอกจริงๆ น้องเล็กกับนางคณิกาของหอิเยวี่ยยังมีการไปมาหาสู่กัน… แต่ชื่อ ‘ซือซือ’ นี้คุ้นหูอย่างประหลาด
“งานชุมนุมวรรณกรรมกลางสารทฤดู!”
ใช่แล้ว งานชุมนุมวรรณกรรมกลางสารทฤดูของปีที่แล้ว มีหญิงคณิกามากมายมาร่วมงาน หลังได้ยินข่าว ซือซือแห่งหอิเยวี่ยก็เป็หนึ่งในนั้น
เหล่าพี่ชายร่วมตระกูลรู้สึกว่าตนเองเข้าใจข้อเท็จจริงแล้ว คาดว่าน้องเล็กและแม่นางซือซือคงจะรู้จักกันในงานชุมนุมวรรณกรรมกลางสารทฤดูสินะ
พี่ชายร่วมตระกูลผู้หนึ่งขมวดคิ้ว “ไม่ถูกสิ ข้ายังเคยได้ยินชื่อนี้จากที่อื่น”
เฉิงชิงรู้ว่าพี่ชายร่วมตระกูลและคนผ่านทางที่มุงดูย่อมมีความคิดบิดเบี้ยวแล้ว บัณฑิตและหญิงคณิกาหอโคมเขียวมีความสัมพันธ์กัน คนนอกได้แต่คิดไปทางเื่ลามก——น่าเสียดายที่เฉิงชิงผู้เป็เด็กหนุ่มปลอมผู้นี้ไม่เคยแม้แต่จะััมือเล็กของซือซือ ต้องมาถูกผู้อื่น YY[2] ก็ถือเป็ผู้บริสุทธิ์
“ข้าเคยได้ยินชื่อเสียงอันโด่งดังของแม่นางซือซือ แต่ข้าไม่เคยพบนาง ไม่รู้จักนาง”
เฉิงชิงยอมรับอย่างตรงไปตรงมา แม่นางผู้มีใบหน้ากลมราวกับได้รับกำลังใจ ก้าวขึ้นหน้าสองก้าวด้วยอารมณ์ตื่นเต้น
“ดีนี่ ในเมื่อเ้าไม่รู้จักแม่นางบ้านข้า เหตุใดจึงต้องป่าวประกาศจดหมายของแม่นางบ้านข้าต่อหน้าผู้คนด้วยเล่า? เห็นชัดๆ ว่าว่าที่พี่เขยของเ้าผู้นั้นไร้ยางอาย เข้าหาแม่นางบ้านข้า พวกเ้ากลับผลักความผิดทั้งหมดมาไว้กับแม่นางบ้านข้า นี่มิใช่การรังแกโดยไม่มีผู้ใดออกหน้าแทนแม่นางบ้านข้าหรอกหรือ!”
อ้อ!
นึกออกแล้ว!
พี่ชายร่วมตระกูลของเฉิงชิงตบศีรษะ ซือซือแห่งหอิเยวี่ย เป็สาเหตุหลักของการที่เฉิงชิงถอนหมั้นกับตระกูลฉีให้พี่สาวคนโตในครอบครัว
ทุกคนประหลาดใจมากเช่นกัน เป็คนงามโดดเด่นเช่นไรกัน ถึงได้ทำให้คุณชายรองฉีลุ่มหลงจนหัวปั่น ไม่้าญาติผู้น้องทางสายเืที่หมั้นหมายกันั้แ่ยังเล็ก กลับ้าไถ่ตัวสตรีหอโคมเขียวกลับบ้าน… สีหน้าของเหล่าพี่ชายร่วมตระกูลของเฉิงชิงคล้ำลงแล้ว เ้าคุณชายรองตระกูลฉีที่สมควรตาย เอาคุณหนูของตระกูลเฉิงแห่งหนานอี๋ไปเทียบกับหญิงคณิกาของหอโคมเขียว หลังจากนั้นขอแค่มีคนไปหาซือซือที่หอิเยวี่ยล้วนต้องนึกถึงเื่อุบาทว์นี่
ผู้ที่เดินผ่านทางล้วนมามุงดู นี่ก็คือซือซือนางคณิกามีชื่อผู้ทำให้คุณชายตระกูลใหญ่ยินยอมละทิ้งสตรีตระกูลเฉิง!
เป็เื่ขบขันที่ดีนัก
เอ่ยถึงหนึ่งครั้งก็ต้องเหยียบย่ำเฉิงฮุ่ยหนึ่งครั้ง
ถึงขนาดมีคนเอาเื่นี้ไปเป็กับแกล้มสุรา ่พักจากการหาความสำราญทางกายกับหญิงสาวก็เอามาหยอกล้อ
ซือซือไม่อาจอยู่ที่หอิเยวี่ยได้แล้ว ถึงขนาดไม่อาจอยู่ที่เมืองเซวียนตู ห่างจากหนานอี๋ยิ่งไกลยิ่งดี
เฉิงชิงได้สติกลับมาแล้ว ดูท่าแล้วอีกฝ่ายไม่ยอมจากไปแต่โดยดี?
เฉิงชิงไม่ได้มีใจดูถูกหญิงคณิกา หญิงคณิกามากมายต่างถูกขายให้หอโคมเขียวั้แ่ยังเล็ก สัญญาขายตัวอยู่ในกำมือของผู้อื่น ทุกคำพูดและการกระทำล้วนไม่ใช่พวกนางเป็คนเลือกเอง ไม่ว่ายามสาวจะโดดเด่นมากเพียงใด รับการเกี้ยวพาจากบุรุษเท่าไร ภายหลังแก่ชรา รูปลักษณ์โรยราส่วนใหญ่ก็จะอยู่อย่างโดดเดี่ยวและยากไร้ หญิงคณิกาอยากจะแต่งงานเป็อิสระก็ยากมาก——เห็นใจก็ส่วนเห็นใจ นั่นเป็กรณีที่ไม่เกี่ยวข้องกับคนในครอบครัวเฉิงชิง แต่เมื่อเกี่ยวข้องกับเฉิงฮุ่ย ใจของเฉิงชิงก็กลับแข็งดั่งหินก้อนใหญ่
เฉิงชิงเข้าใจจุดประสงค์ของอีกฝ่ายอย่างชัดเจนแล้ว ห้ามเหล่าพี่ชายร่วมตระกูล กล่าวต่อแม่นางผู้มีใบหน้ากลมผู้นั้น
“หากแม่นางซือซือมาแล้ว ก็ขอเชิญนางออกมาพบกันหน่อย นางมีอะไรไม่เข้าใจ ข้าสามารถเอ่ยต่อหน้านางได้ ไม่จำเป็ต้องให้สาวใช้ผู้นี้ส่งต่อข้อความ!”
“น้องเล็ก เ้าพบนางจึงจะเข้าแผนนาง สตรีของสถานเริงรมย์เหล่านี้เก่งกาจเื่เอ่ยคำทำให้เ้าเขินอายใจอ่อน…”
พี่ชายร่วมตระกูลรีบขวาง เฉิงชิงส่ายศีรษะ “ไม่เป็ไร ข้ามีแผน”
แม่นางน้อยผู้มีใบหน้ากลมปาดคราบน้ำตาออกไป มองไปยังตรอกเล็กหลังกายไม่หยุด “หงเซียว เ้ากลับมาเถอะ แม้คุณชายเฉิงอายุยังน้อย แต่เป็ผู้ที่ไม่อาจหลอกลวงได้ง่าย”
สตรีรูปโฉมเย้ายวนที่สวมหมวกคลุมหน้าเดินออกมาจากตรอกเล็ก ไม่ว่าเดินไปที่ใดก็ได้กลิ่นหอมทั้งยังไม่แสบจมูก ทั้งหมดล้วนพอเหมาะพอดีอะไรเพียงนั้น
แม่นางซือซือเลิกหมวกคลุมหน้าอย่างเป็ธรรมชาติ นางมีรูปโฉมที่พอเหมาะพอดีเช่นกัน มากกว่านี้หนึ่งส่วนก็ฉูดฉาดไป น้อยกว่านี้หนึ่งส่วนก็จืดชืดไปเล็กน้อย ทุกส่วนเช่นนี้ทำให้คนรู้สึกสบายใจ ทั้งยังเป็คนงามที่สามารถพูดคุยบทกลอนบทกวีกับคนหนุ่ม ผู้ใดจะสามารถปฏิเสธได้?
เหล่าพี่ชายร่วมตระกูลที่ก่อนหน้านี้ยังดุร้าย ยามนี้ล้วนไร้คำพูดแล้ว
เฉิงชิงหลุดหัวเราะ เหล่าพี่ชายร่วมตระกูลยังคงเป็เด็กหนุ่มไร้เดียงสา ไม่เคยมีประสบการณ์อยู่ในสถานการณ์กับสตรี!
ซือซือค้อมตัวทักทาย ดวงตางามหนึ่งคู่สำรวจบนร่างของเฉิงชิง
“บ่าวคารวะคุณชายเฉิงเ้าค่ะ คุณชายไม่เหมือนกับที่บ่าวจินตนาการไว้ และเหมือนเดิมควรจะเป็เช่นนี้ บ่าวได้ยินมาว่าใต้เท้าเฉิงได้ชำระล้างมลทินแล้ว ได้รับการเลื่อนขั้นย้อนหลังจากราชสำนัก บ่าวขอกล่าวแสดงความยินดีต่อคุณชายเฉิงเ้าค่ะ นี่เป็เื่น่ายินดีเื่แรก คุณชายเฉิงเป็เด็กหนุ่มที่โดดเด่นมีความสามารถจึงได้รับตำแหน่งบัณฑิตอั้นโส่ว นี่เป็เื่น่ายินดีเื่ที่สอง”
เฉิงชิงโบกมือ “แม่นางซือซือรู้หรือไม่ว่าเหตุใดข้าจึงยอมพูดคุยกับเ้า?”
ดวงตางดงามของซือซือกลอกไปมา คล้ายว่าจะมีประกายน้ำเล็กน้อย
“บ่าวไม่ทราบเ้าค่ะ”
“ในงานชุมนุมวรรณกรรมกลางสารทฤดูเมื่อปีที่แล้ว ฝีมือฉินของแม่นางซือซือโดดเด่น ดึงดูดการเกี้ยวพาจากคนหนุ่มที่มากความสามารถนับไม่ถ้วน มีคนเอ่ยถึงบิดาข้าที่จากไป ยากที่จะเลี่ยงถ้อยคำมลทิน เป็แม่นางซือซือที่เอ่ยคำโต้กลับที่ตรงประเด็นไม่กี่คำเพื่อบิดาที่ล่วงลับ เื่นี้ข้าจดจำได้มาโดยตลอด”
หญิงรับใช้ผู้มีใบหน้ากลมที่เรียกว่าหงเซียวเบิกตากว้าง
แม่นางบ้านตนย่อมดียิ่ง เ้าคนแซ่เฉิงผู้นี้ปากกล่าวว่าจดจำน้ำใจ เื่ที่ทำไม่เห็นเป็เช่นนี้!
หรือว่าเพราะอายุน้อยเกินไป เื่มากมายที่ตระกูลเฉิงทำล้วนไม่ให้เฉิงชิงรับรู้หรือ?
ความหวังปะทุขึ้นในใจหงเซียว
หากเฉิงชิงไม่ไล่ให้พวกนางไป เ้านายและคนรับใช้อย่างพวกนางก็สามารถอยู่ที่เมืองเซวียนตูได้
ซือซือใ
เป็เพราะตนเองกล่าวคำพูดที่น่าฟังไม่กี่คำเพื่อใต้เท้าเฉิงจือหย่วนโดยไม่ได้ตั้งใจ เฉิงชิงสามารถจดจำได้ั้แ่ปีที่แล้วจนถึงบัดนี้ เห็นได้ว่าให้ความสำคัญกับคนในครอบครัวมากเพียงใด
เช่นนั้นเป็เพราะการคงอยู่ของตนเองเป็การทำลายการหมั้นหมายของคุณหนูใหญ่ตระกูลเฉิงทางอ้อม… เกรงว่าเฉิงชิงก็ไม่อาจลืมได้เช่นกัน!
ซือซือ้าจะเอ่ยว่าตนเองไม่รู้ว่าฉีเหยียนซงมีการหมั้นหมายแล้ว บุรุษที่ไปมาหาสู่กับนางมากถึงเพียงนั้น ฉีเหยียนซงเองก็ไม่นับว่าเป็อันใด คำพูดนี้นางสามารถกล่าวกับฉีเหยียนซง ทั้งยังสามารถกล่าวกับบุรุษนับไม่ถ้วน ฉีเหยียนซงกลับคิดเป็จริงเป็จัง
ตัวฉีเหยียนซงเองเป็ฝ่ายเข้าหา จ่ายเงินเอาใจนาง หรือว่านางยังสามารถปิดประตูไม่พบเขาได้?
คำพูดแก้ตัวเหล่านี้ปะทุขึ้นมาตรงลำคอแล้ว ซือซือกลืนกลับไปจนหมด
เฉิงชิงไม่มีทางรับฟัง
นางไม่เห็นความตกตะลึงในสายตาของเฉิงชิง ทั้งยังไม่เห็นความรังเกียจ สายตาของเฉิงชิงไม่มีระลอกคลื่นอยู่เลยแม้แต่น้อย คนเช่นนี้จะถูกคำพูดไม่กี่คำของนางกุมใจไว้ได้หรือ?
“บ่าวไม่ได้ลงมือฆ่าป๋อเหริน แต่ป๋อเหรินกลับตายเพราะบ่าว[3]… บ่าวเข้าใจแล้วเ้าค่ะ วันนี้มาขวางรถบุ่มบ่าม บ่าวขออวยพรให้คุณชายเฉิงสอบผ่านการสอบเข้ารับราชการในเร็ววันเ้าค่ะ”
ซือซือมาอย่างปุบปับ ยามขอตัวยิ่งรวดเร็วตรงไปตรงมา
เหล่าพี่ชายร่วมตระกูลยังไม่ทันได้มีปฏิกิริยาตอบโต้
เื่ยุ่งยากนี้คลี่คลายเช่นนี้แล้ว?
เฉิงชิงลูบไล้ไปตามร่างกายตนเอง มีเพียงเงินไม่กี่ตำลึงและตั๋วเงินห้าสิบตำลึงหนึ่งใบ เขายืมเงินจากเหล่าพี่ชายร่วมตระกูลรวบรวมมาได้ห้าสิบตำลึงพอดี เรียกรั้งตัวซือซือไว้
“เฉิงชิงเองก็ขออวยพรให้แม่นางซือซือมีชีวิตที่มีความสุข หลังไปจากเซวียนตูเช่นกัน”
ในดวงตากลมของสาวใช้หงเซียวมีเปลวไฟดวงน้อยปะทุเคลื่อนไหว
บัณฑิตช่างปากว่าตาขยิบ!
้าบีบบังคับให้แม่นางบ้านนางไปจากเซวียนตู ทั้งยังเสแสร้งมอบเงินหนึ่งร้อยตำลึงเงิน
แต่ซือซือกลับค้อมศีรษะรับไว้ กล่าวขอบคุณเสียงเบา
[1] หินทดสอบความบริสุทธิ์ของทองคำ เปรียบเปรยถึงวิธีการพิสูจน์ที่เชื่อถือได้และแม่นยำ
[2] YY เป็ศัพท์แสลงบนโลกอินเตอร์เน็ต เดิมหมายถึงจินตนาการทางเพศ ต่อมามีความหมายถึงการจินตนาการเื่ดีๆ ที่เป็ไปไม่ได้
[3] มาจากสำนวน “ข้าไม่ได้ลงมือฆ่าป๋อเหริน แต่ป๋อเหรินกลับตายเพราะข้า” หมายถึงถึงแม้ตนเองจะไม่ได้ตั้งใจทำร้ายผู้อื่น แต่ผู้อื่นกลับประสบเคราะห์กรรมเพราะตนเองเป็สาเหตุ
