ตอนที่ 3
คืนนี้คือหนึ่งคืนสุดท้ายก่อนจะถึงวันแต่งงาน
เทียนอี้ในชุดคลุมอาบน้ำสีดำเดินออกจากห้องน้ำในสภาพผิวกายแดงเถือก เขาถูกขัดสีฉวีวรรณอยู่นานสองนาน ทั้งยังต้องนอนแช่น้ำผสมใบทับทิมจนตัวแทบเปื่อยตามความเชื่อดั้งเดิมว่าจะสามารถปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกไปจนหมด ครั้นเมื่อเดินหนีออกมาได้ เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ก็ดังขึ้นทันที
"คนที่นี่เขามือหนักกันทุกคนเลยหรือไง"
บ่นเสียงอุบอิบกับตัวเองพลางก้าวเท้าหมายจะตรงดิ่งไปยังห้องนอน ก่อนจะหยุดชะงักนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วหันปลายเท้าเปลี่ยนเส้นทางไปยังดาดฟ้าของคฤหาสน์
ทันทีที่บานประตูถูกเปิดออก สายลมจากภายนอกพลันตีเข้าปะทะผิวกายพอดีจนเริ่มรู้สึกหนาวเย็น กระนั้นก็ยังตัดสินใจเดินฝ่าลมไปจนถึงสุดระเบียง ดวงตาสีน้ำตาลสวยทอดมองทิวทัศน์ที่ฮ่องกงยามค่ำคืนอย่างเหม่อลอย
คฤหาสน์ตระกูลจางถูกสร้างอยู่บนเนินเขาสูง ครั้นเมื่อทอดมองลงไปกลับเห็นแสงสีจากตึกสูงในเมืองใหญ่ได้อย่างชัดเจน ฮ่องกงไม่เคยหลับใหล ทุกพื้นที่ล้วนคราคร่ำไปด้วยเสียงรถราบนถนนหรือแม่กระทั่งเสียงจอแจของผู้คน...ไม่ต่างจากบ้านเกิดของเขาเท่าไหร่นัก ทว่าบรรยากาศกลับแตกต่างกันลิบลับ
"ทำไมไม่รีบเตรียมตัวนอนพัก พรุ่งนี้ก็วันแต่งงานแล้ว"
ดวงหน้าหันมองเล็กน้อยตามเสียงของผู้มาใหม่ ร่างของจางเหวินซานในชุดสูทเต็มยศสีเทาเดินย่างกรายเข้ามาหาพร้อมกับแก้วไวน์ในมือ คนถูกถามเพียงโคลงศีรษะเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยปากตอบในเชิงเสียดสีกลับไป
"ถามคนอื่นทั้งๆที่ตัวเองก็มีสภาพไม่ต่างกันเท่าไหร่"
คนอายุมากกว่าเดินเข้ามาใกล้ พิงสะโพกลงกับระเบียงแล้ววางท้าวแขนข้างหนึ่งขนานไปกับราวจับ ดวงตาคมทอดมองเสี้ยวหน้าของคู่สนทนาครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ย
"ถ้าได้อยู่เฉยๆไม่ต้องทำงานแบบเธอก็คงจะดี?"
"ถากถางกันอยู่งั้นสิ เหอะ ฉันไม่รู้สึกอะไรหรอก"
คราวนี้เทียนอี้ผินใบหน้ากลับไปมองสบแล้วเริ่มต่อปากต่อคำอย่างไม่ยอมความ สายลมยามค่ำคืนพัดโชยแ่เบาให้ได้กลิ่นไวน์จางๆผสมกับกลิ่นหอมของสบู่จากคนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ ก่อนที่ผู้เป็สามีจะสังเกตุได้ถึงอะไรบางอย่างผิดปกติ
"ทำไมผิวแดงขนาดนี้"
ริมฝีปากกำลังจะเอ่ยตอบคำถามก่อนจะชะงักนิ่งไปครู่หนึ่ง ดวงตาคมสวยช้อนขึ้นมองคู่สนทนาทั้งเรียวคิ้วที่เริ่มขมวดเข้าหากันอย่างแปลกใจ
"เป็อะไรถึงมาพูดดีด้วย?"
"แล้วทำไมเฮียถึงจะพูดดีด้วยไม่ได้?"
"แปลกประหลาด"
"ใคร เธอน่ะเหรอ"
ใครว่าเทียนอี้ปั่นประสาทเก่งอยู่คนเดียว คนอย่างจางเหวินซานก็มีความสามารถในด้านนี้ไม่น้อยไปกว่ากันเลยสักนิด คนอายุน้อยกว่าครั้นเมื่อได้ฟังก็เริ่มเืขึ้นหน้า ยกกำปั้นหนักๆเตรียมจะทุบใส่ทว่ากลับถูกกอบกุมรับไว้ได้อย่างทันท่วงที
"ไอ้---"
"คืนนี้ดื้อได้เป็คืนสุดท้ายแล้วนะอาเทียน"
"..."
"ถึงเช้าวันพรุ่งนี้เมื่อไหร่ เฮียจะเป็คนที่มีอำนาจปกครองเธอ...มีสิทธิ์ในตัวเธอโดยสมบูรณ์"
คำพูดของอีกฝ่ายยิ่งทำให้คนมากศักดิ์ศรีอย่างเขาไม่พอใจ คนที่เคยเป็อิสระมาทั้งชีวิต วันหนึ่งจะต้องมาอยู่ภายใต้การปกครองของใครย่อมไม่มีวันยอมรับได้ ริมฝีปากบางฉีกแย้มรอยยิ้มร้าย เอ่ยตอบกลับไปเนิบช้าทว่าชัดเจน
"เพ้อฝันอยู่สินะ?"
คราวนี้ผู้ฟังแค่นหัวเราะเสียงขึ้นจมูก กระชากข้อมือขาวเข้ามาอย่างแรงกระทั่งอีกฝ่ายเสียการทรงตัวเซถลาเข้ามาหากระทั่งเสี้ยวใบหน้าแนบลงกับแผงอกกว้าง ปลายคางถูกบีบบังคับให้ใบหน้าแหงนเชิดขึ้นเพื่อสบตากับผู้อยู่เหนือกว่า
"นอกจากจูบจนเธอเข่าอ่อนแล้ว เฮียยังทำได้มากกว่านั้น"
น้ำเสียงกระซิบทั้งแ่เบาและแหบพร่า ปลายนิ้วหัวแม่มือกดลงบริเวณริมฝีปากล่างแล้วถูไปมาเบาๆอย่างหยอกเย้า ความทรงจำในห้องน้ำคืนนั้นไหลกลับเข้ามาเป็สาย เช่นเดียวกับใบหน้าหล่อเหลาที่โน้มลงเข้ามาใกล้กระทั่งััได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนที่ตีกระทบกัน
"รอเฮียสวมแหวนให้เธอก่อนก็แล้วกัน"
ผู้เป็สามีผละกายออก ก่อนจะเอื้อมมือมาจัดระเบียบชุดคลุมอาบน้ำที่เริ่มหลุดรุ่ยกระทั่งเริ่มเห็นผิวเนื้อด้านในให้เข้าที่ ยังไม่วายออกคำสั่งอย่างกับว่าตัวเขาเป็เพียงเด็กน้อยคนหนึ่ง
"รีบกลับห้องไปใส่เสื้อผ้าแล้วก็นอนได้แล้ว"
หวังเทียนอี้จะไม่ยอมเป็ผู้พ่ายแพ้ในค่ำคืนนี้ ดวงตาสีน้ำตาลกวาดมองพื้นที่โดยรอบบริเวณดาดฟ้าก่อนจะหยุดลงที่กระถางดอกไม้นานาชนิดที่ถูกจัดเรียงไว้เพื่อความสวยงาม ปลายเท้าเดินตรงดิ่งเข้าไปเด็ดดอกไม้สีสดติดมือมาสองสามดอกก่อนจะยื่นยัดเยียดมันใส่มือของอีกฝ่าย
"เหล่ากงไม่ชอบดอกไม้ไม่ใช่เหรอครับ"
"..." น้ำเสียงที่ใช้เอื้อนเอ่ยช่างหวานชื่นเสนาะหู ตรงกันข้ามกับเนื้อความในประโยคต่อมาที่ตั้งใจถากถางกันอย่างเอาเป็เอาตาย
"ถ้าอย่างนั้นภรรยาคนนี้จะเด็ดดอกไม้ไปให้เหล่ากงทุกวันเลย เป็ยังไง?"
บานประตูชั้นดาดฟ้าถูกปิดลง เกิดความเงียบสงบเข้าแทนที่อีกครั้งเมื่อเหลือสมาชิกอยู่เพียงคนเดียว ดวงตาสีรัตติกาลหลุบลงมองดอกไม้ในมือก่อนจะแค่นหัวเราะเสียงเบาในลำคอ...แก้วไวน์ถูกดื่มจนหมดในครั้งเดียวก่อนจะวางลงบนโต๊ะใกล้ๆ ทว่าภายในมือยังคงถือดอกไม้เอาไว้ดังเดิมไม่วางลง
...
งานแต่งงานของหัวหน้ากลุ่มจินหลงและภรรยาถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่สมฐานะและชื่อเสียง แม้จะมีแขกเหล่ามากมายมาร่วมแสดงความยินดี ทว่าความยินดีเ่าั้กลับถูกส่งไปให้เพียงจางเหวินซาน ไม่ใช่ผู้เป็ภรรยาที่ไม่ได้ถูกต้อนรับจากคนในฝั่งทางใต้
"ท่านเหวินซานจะรับผู้ชายแบบนี้มาเป็ภรรยาจริงๆเหรอ"
เสียงกระซิบกระซาบจากผู้มาร่วมงานดังขึ้นเป็ระยะ เนื้อความในการสนทนาล้วนมีชื่อของหวังเทียนอี้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ชายหนุ่มในชุดแต่งงานสีแดงสดขลิบด้วยลวดลายมงคลสีทองมือข้างหนึ่งถือพัดแดง นั่งอยู่บนเก้าอี้ชั้นที่สองของโรงแรมหรูสไตล์จีน-ยุโรป เริ่มทอดถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
แม้จะมีผ้าแดงปิดใบหน้าเอาไว้ตามประเพณีทำให้มองไม่เห็นทิวทัศน์เบื้องล่าง ทว่าเสียงซุบซิบจากหลายๆฝ่ายก็พอทำให้เดาออกได้ว่าไม่มีใครยินดีกับตัวเขาแม้สักคนเดียว
...ย่อมไม่แปลก ผู้มีอิทธิพลมากมายล้วนส่งตัวบุตรชายหรือบุตรสาวให้จางเหวินซานพิจารณารับเป็ภรรยา ทว่าเ้าตัวกลับปฏิเสธทุกข้อเสนอแต่กลับรับบุตรชายคนโตของศัตรูเข้ามาเป็ภรรยาได้โดยง่าย ซ้ำยังมีนิสัยย่ำแย่จนเลื่องชื่อ ใครได้ยินก็ต้องยกขึ้นมาเป็ประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันทั้งนั้น
"นายท่านกำลังเดินขึ้นมารับแล้วนะคะคุณเทียน"
เสียงกระซิบของสาวรับใช้ที่ดูแลตนดังขึ้นไม่ไกล ก่อนที่เสียงฝีเท้าของใครบางคนจะเริ่มเข้ามาใกล้แล้วหยุดลงตรงหน้า เสียงจอแจภายในโถงกว้างด้านล่างเงียบสงบลง พร้อมกับฝ่ามือของอีกฝ่ายที่ยื่นมาตรงหน้า
"จับมือแล้วลุกขึ้นยืน"
ฝ่ามือขาววางลงกับมือของอีกฝ่ายก่อนจะถูกกอบกุมไว้อย่างแ่เบา ร่างสูงสมส่วนหยัดกายลุกขึ้นก่อนจะเดินเคียงขนาบข้างกับผู้เป็สามีตรงไปสู่บริเวณของพิธีที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้พร้อมสรรพอย่างยิ่งใหญ่
หนึ่งคำนับฟ้าดิน...สองคำนับพ่อแม่ และสาม คำนับกันและกัน
พิธีแต่งงานและขั้นตอนการไหว้เทพเ้าดำเนินไปตามกำหนดการพิธี กระทั่งถึงขั้นตอนการสวมแหวน...เทียนอี้ถูกส่งตัวมาจากทางเหนือให้แต่งงานในต่างถิ่นอย่างโดดเดี่ยว ดวงตาสีน้ำตาลสวยกวาดมองรอบกายผ่านผ้าบังหน้าผืนบาง ไร้ซึ่งคนรู้จักหรือแม้กระทั่งคนในครอบครัวของตัวเอง ก่อนที่เสียงเรียกของผู้เป็สามีจะดึงสติที่เหม่อลอยให้กลับเข้ามาอีกครั้ง
"มองหน้าเฮีย"
ปลายคางถูกจับบังคับให้หันกลับไปมองสบกับอีกฝ่าย แม้จะมองไม่เห็นชัดทว่าภาพเรือนลางของคนตรงหน้ากลับดูดีมากเสียจนแทบไม่ต้องจินตนาการ มือข้างซ้ายถูกอีกฝ่ายกอบกุมไว้แ่เบา ก่อนที่ััเย็นๆของแหวนจะถูกสวมเข้าที่นิ้วนางข้างซ้ายอย่างเชื่องช้า
"แต่งงานเข้ามาเป็ภรรยาแล้ว...หัดดื้อให้มันน้อยลง"
เทียนอี้แบบเบ้หน้าให้กับคำพูดของอีกฝ่าย แหวนเพชรราคาแพงหลายกะรัตถูกประดับอยู่บนเรียวนิ้วนางอย่างลงตัว สะท้อนกับแสงไฟภายในงานดูวับวาว แหวนเพชรอีกวงถูกหยิบออกมาเพื่อสวมใส่นิ้วนางให้กับผู้เป็สามีอย่างช้าๆ พร้อมกับถ้อยคำตอบกลับอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน
"ต้องเชื่อฟังนายด้วยหรือไง?"
"ปากดี"
เทียนอี้แค่นเสียงหัวเราะขึ้นจมูก ดวงตาคมสวยสีน้ำตาลภายใต้ผ้าคลุมสีแดงฉายแววพยศดื้อดึง แม้ว่าฝ่ามือทั้งสองจะกอบกุมกันไว้แน่น ทว่าริมฝีปากกลับคอยสรรหาถ้อยคำมาเชือดเฉือนกันไม่หยุดหย่อน
"อกแตกตายไปเลยสิ"
"แลกกับการที่เธอขาดอากาศตายเป็ยังไง?"
จูบจนแทบขาดอากาศคือสิ่งที่เทียนอี้ได้ััเมื่อไม่นานมานี้ ดวงตาทั้งสองคู่สบกันแน่นิ่งโดยมีผ้าคลุมสีแดงปิดบังใบหน้าผู้เป็ภรรยาคั่นกลางไว้ แม้ผู้ติดตามจะเอ่ยบอกลำดับพิธีขั้นตอนถัดไปทว่ากลับถูกเพิกเฉยเสียอย่างนั้น
ลำดับพิธีมีมากเกินไปซ้ำยังละเอียดอ่อน เทียนอี้ที่มาจากต่างถิ่นซ้ำยังเป็คนจากฝั่งทางเหนือเพียงคนเดียวจึงทำอะไรถูกผิดไปบ้างดูไม่เป็งาน กระทั่งเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าผู้ชายคนนี้ไม่เหมาะสมกับนายท่านของพวกตนแม้เพียงนิด
"ไม่ได้เื่จริงๆ ลูกชายของฉันถูกอบรมมาอย่างดี ต้องไม่มีความผิดพลาดเหมือนคนนี้แน่ๆ"
"ได้ยินว่าอยู่ที่ปักกิ่งก็มีนิสัยดื้อดึง ที่นั่นเขาหละหลวมเื่การอบรมหรือยังไง"
"ท่านเหวินซานควรจะเลือกภรรยาที่ดีกว่านี้"
สารพัดเสียงคำนินทาทั้งยังตำหนิติเตียน ไปในทางเสื่อมเสีย ถ้าเขาเป็ภรรยาที่ไม่ดีนักแล้วจะยอมรับข้อเสนอทำไมั้แ่แรก ปล่อยให้ตระกูลหวังล่มจมไปเสียก็ไม่ใช่เื่ยากเย็น หัวหน้าหลุ่มจินหลงคนนี้ตั้งใจจะเล่นตลกกับเขาหรือไง
พูดจาหักหน้าเขาถึงขนาดนี้ ถ้าอย่างนั้นก็ล่มงานแต่งแม่งไปซะก็สิ้นเื่
"อย่าทำอะไรสิ้นคิด" คำเตือนจากคนตรงหน้าคล้ายกับว่ารู้ทันความคิดชั่วร้ายที่ถูกแอบเก็บซุกซ่อนไว้ในใจ ผู้ฟังเพียงแค่นหัวเราะเสียงเบา เงยหน้าขึ้นถามอย่างไม่ยอมเชื่อฟัง
"ถ้าไอ้คนพวกนั้นเห็นนายล้มลงไปกลางงาน จะยังปากดีกันได้อยู่อีกไหม?"
"บอกว่าอย่าทำอะไรสิ้นคิดไง---"
!!!
"กรี๊ดด!!!"
่เวลาเพียงเสี้ยววินาที มีดที่แอบพกติดตัวไว้ตลอดกลับถูกควักออกมาแล้วจู่โจมใส่ผู้เป็สามีทันทีท่ามกลางเสียงกรีดร้องอย่างใและหวาดกลัวของบรรดาผู้มาเข้าร่วมงาน ฝ่ามือใหญ่รับมีดไว้ได้อย่างพอดิบพอดี ทว่าความคมของอาวุธกลับบาดผิวมือกระทั่งเห็นเืไหลออกมาเป็ทางยาว จางเหวินซานสบถเสียงหนักก่อนจะอาศัยจังหวะกดภรรยาลงกับโต๊ะทันทีพร้อมกับผ้าคลุมใบหน้าเ้าสาวที่ถูกเปิดออก
ตึง!!
"อึก!"
"กล้าดีนี่หวังเทียนอี้"
มีดเล่มเล็กถูกโยนออกไป พร้อมกับฝ่ามือใหญ่ที่กอบกุมลำคอขาวแล้วออกแรงบีบเบาๆ มืออีกข้างรวบข้อมือทั้งสองข้างของอีกฝ่ายแล้วกดลงเหนือหัวพันธนาการเอาไว้ไม่ให้สามารถขยับได้ ดวงหน้าหล่อเหลาโน้มลงเข้าใกล้ เอ่ยกระซิบข้างใบหูแ่เบาทว่าชัดเจน
"กล้าเอามีดแทงเฮียกลางงานแต่งเหรอ งั้นคืนนี้ให้เฮียแทงอาเทียนกลับบ้างดีไหม...จะได้รู้ว่าใครแทงเจ็บกว่ากัน"
"เหอะ คิดว่าทำได้ก็ลองดู อึก!"
ลำคอขาวถูกบีบแรงขึ้นจนต้องเบ้หน้าหนีด้วยความรู้สึกเจ็บ จางเหวินซานรับผ้าจากบอดี้การ์ดมาเช็ดเืบนฝ่ามือข้างซ้ายเบาๆ แผลไม่ลึกมาก คล้ายกับว่าอีกฝ่ายไม่ได้ตั้งใจจะโจมตีอย่างจริงจัง กระนั้นก็ยังต้องได้รับการอบรมดัดนิสัยกันอยู่ดี
"ไล่แขกออกไปให้หมด"
สิ้นคำสั่ง แขกเหล่าที่มัวแต่ยืนขาแข็งมองดูเหตุการณ์ระหว่างคู่สามีภรรยากลับค่อยๆถูกไล่ออกไป ร่างสูงโยนผ้าสีขาวเปื้อนเืทิ้งไปอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะหันมาพูดกับร่างใต้อาณัติที่ยังคงดิ้นไปมาไม่สิ้นฤทธิ์สักที
"ดูเหมือนว่าเฮียจะใจดีกับเธอเกินไป ถึงได้อวดดีขนาดนี้"
"ฉันไม่้าความใจดีจากนายเลยสักนิด---อื้ม!!!"
ดวงตาคมสวยสีน้ำตาลเบิกกว้างเมื่ออีกฝ่ายโฉบตัวลงมามอบจุมพิตให้กะทันหัน ริมฝีปากล่างถูกขบเม้มดูดดุนจนรู้สึกเจ็บชา เป็จังหวะที่ปลายลิ้นถูกสอดเข้ามาตวัดฉกชิมรสชาติภายในโพรงปาก ปลายเล็บมือจิกเข้าหากันแน่นจนขึ้นข้อขาวเมื่อถูกอีกฝ่ายโจมตีอย่างดุดันกระทั่งเริ่มหายใจไม่ทัน
"แฮ่ก...ปล่อย...อือ"
เพล้ง!
บรรดาข้าวของบนโต๊ะระเกะระกะถูกกวาดทิ้งลงกับพื้นอย่างไม่ใยดี ดวงหน้าแหงนเชิดขึ้นหอบโกยอากาศเข้าปอดทันทีเฮือกใหญ่เมื่อได้รับอิสระ ก่อนจะถูกประกบริมฝีปากเข้าหาอีกครั้งท่ามกลางสายตาของแขกในงานที่ยังคงเดินออกไปไม่หมด หยาดน้ำลายไหลผสมกับเืจางๆเยิ้มออกข้างมุมปากจนเปรอะเปื้อนไปหมด
กำปั้นหนักๆทุบลงบนแผ่นหลังกว้างของคน้าทว่าก็ยังไร้ผล ดวงหน้าถูกจับให้แหงนเชิดขึ้นเพื่อรองรับััได้อย่างถนัดถนี่ ก่อนจะถูกปล่อยให้เป็อิสระอีกครั้งพร้อมกับถ้อยคำปรามาสที่สาดใส่กันในทันที
"หายใจไม่ทันเหรอ ไปไหนแล้วคนอวดเก่งของเฮีย?"
"ไอ้เวรเอ้ย!! อื้ม!!"
เทียนอี้ไม่ได้นับว่าตัวเองถูกจูบไปแล้วกี่รอบ เพียงเอ่ยปากโต้เถียงก็จะถูกััทันทีคล้ายกับ้าสั่งสอนให้หลาบจำ ท่อนขาที่พยุงร่างกายเริ่มอ่อนยวบ ร่างขาวค่อยๆหมดแรงลงอย่างช้าๆพร้อมกับวงแขนของผู้เป็สามีที่โอบประคองรอบเอวไว้ได้พอดี
!!!
ร่างทั้งร่างถูกอุ้มขึ้นในท่าเ้าสาว เทียนอี้ในยามนี้ริมฝีปากบวมเจ่อ มีรอยกัดจนเืซิบ หรือแม้กระทั่งชุดแต่งงานที่เริ่มหลุดรุ่ยไม่ต่างจากการเพิ่งผ่านาใหญ่มา แว่วได้ยินเสียงออกคำสั่งของอีกฝ่าย พร้อมกับปลายเท้าที่ย่างกรายเดินตรงดิ่งไปยังห้องหอที่ถูกตั้งอยู่ไม่ไกล
"ไปเปิดประตูห้องหอ"
...
ประตูห้องหอถูกเปิดออกพร้อมกับร่างขาวที่ถูกโยนลงบนเตียงทันที บรรดาผลไม้ในจานและอักษรมงคลที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้ถูกจับวางหลบบนโต๊ะข้างเตียง ตามมาด้วยร่างสูงที่ตามขึ้นมากักกันพันธนาการ ทว่าคราวนี้ผู้เป็ภรรยากลับ้าชัยชนะมากกว่าที่คิด
!!!
ร่างที่เคยนอนราบอยู่บนเตียงกลับพลิกตัวขึ้นมากะทันหัน อาศัยโอกาสที่คนอายุมากกว่ายังไม่ทันตั้งตัวขึ้นคร่อมนั่งทบลงบนหน้าท้องพลางกระตุกเชือกที่คาดติดอยู่บนเอวมาถือไว้ทันที หลุบสายตาลงมองร่างข้างใต้อย่างเหนือกว่าในขณะที่เหวินซานยังคงมีท่าทีใจเย็นไม่แตกตื่นแต่อย่างใด
"ถ้านายโดนมัดแล้วจะมีปัญญาทำอะไรฉันได้อีก?"
"อืม ลองดูสิ"
แม้จะรู้สึกแปลกใจต่อปฏิกิริยาที่ได้รับ ทุกอย่างดูราบรื่นจนเกินไป ไร้ซึ่งการต่อต้านหรือขัดแย้งอย่างที่ควรจะเป็ ทว่าคนอย่างหวังเทียนอี้ย่อมไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดมือ ได้โอกาสพลิกกลับขึ้นเป็ผู้นำทั้งที ปีศาจภายในหัวจึงรีบวาดแผนการณ์ไว้ดิบดีว่าจะเอาคืนผู้เป็สามีอย่างไรบ้างให้เจ็บแสบที่สุด
ร่างที่นั่งอยู่้าโน้มตัวลงมาเพื่อจับแขนข้างซ้ายของอีกฝ่ายมัดกับหัวเตียง ก่อนจะสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อฝ่ามือข้างขวาที่ยังเป็อิสระเริ่มลูบไล้บริเวณสีข้างลำตัวขึ้นลงเบาๆจนต้องตวัดสายตามองดุไปหนึ่งที
"ทำบ้าอะไร"
"เธอไม่ได้บอกว่าห้ามลูบนี่"
"ห้ามลูบ!!--อ่ะ!"
คราวนี้ผิวเนื้อบริเวณใต้วงแขนข้างลำตัวถูกบีบเบาๆจนเ้าของร่างงอตัวหนีเล็กน้อย เรียวนิ้วปัดป่ายอยู่ใต้บริเวณยอดอก ครั้นเมื่อหลุบสายตาลงมองสบกันกลับเห็นว่าคนที่นอนอยู่เริ่มเผยแย้มรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย
"แต่เธอไม่ได้บอกว่าห้ามบีบ"
"ห้าม...อือ"
ริมฝีปากถูกประกบจุมพิตเข้าหาอีกครั้งเป็จังหวะเนิบช้า ริมฝีปากล่างถูกดูดดึงซ้ำๆจนบวมเจ่อ เสียงน้ำลายคละเคล้าไปกับเสียงเนื้อผ้าที่ถูกเสียดสี ก่อนที่น้ำเสียงนุ่มทุ้มข้างใบหูจะดึงสติที่เริ่มหลุดลอยให้กลับเข้ามาอีกครั้ง
"อาเทียน..."
"..."
"ตรงนี้มันนูนดันเสื้อขึ้นมาแล้วนะ"
ระยะห่างระหว่างกันถูกลดทอนลงจนแทบไม่เหลือ ลมหายใจอุ่นร้อนที่ตีรดข้างแก้มเป็ผลให้ร่างเหนืออาณัติเริ่มพยายามย่นคอหนี เนื้อตัวถูกกระตุ้นกระทั่งยอดอกเริ่มแข็งดุนดันเนื้อผ้าออกมา น้ำเสียงที่เอ่ยกระซิบถามเริ่มกดต่ำลงยิ่งกว่าเก่า
"เฮียใช้มือเล่นกับมันได้หรือเปล่า?"
"ไม่ได้---อ๊ะ! อือ"
ฝ่ามือละออกจากพื้นที่บริเวณใต้ราวนม ทว่ายอดอกเม็ดเล็กกลับถูกเรียวนิ้วบดขยี้ใส่กะทันหันจนเ้าของร่างสะดุ้งสุดตัวหลุดครางออกมาเสียงเบา ครั้นเมื่อจะยกตัวขึ้นหนี ปลายนิ้วกลับยิ่งบีบขยี้ยอดอกแรงๆจนต้องฟุบตัวลงกับแผงอกของอีกฝ่าย
"ใช้มือไม่ได้...ถ้าอย่างนั้นใช้นิ้วได้ใช่ไหม?"
"โคตรปลิ้นปล้อน อ้ะ!!"
บั้นเอวพอดีมือถูกจับประคองไว้ ก่อนที่ยอดถันจะถูกขบกัดเบาๆผ่านเนื้อผ้าแล้วเลียผ่านเบาๆ ฝ่ามือขาวกำเข้าหากันแล้วทุบลงบนไหล่ของอีกฝ่ายก่อนจะหลุดร้องออกมาเสียงสั่นเมื่อผ้าที่เริ่มหลุดรุ่ยถูกดึงออกเผยยอดอกเปลือยเปล่าที่กำลังชูชัน พร้อมกับคนใต้ร่างที่หยัดกายขึ้นมาครอบริมฝีปากดูดดึงมันทันที
"อ๊า!! ไอ้...อือ..ชั่ว!!"
เรียวนิ้วสางเข้าไปในเส้นผมของคนใต้ร่างแล้วจิกดึงทึ้งอย่างแรง กระนั้นยอดอกกลับถูกดูดดึงหนักกว่าเก่าจนต้องเชิดใบหน้าขึ้นหลุดร้องครางออกมา ดวงตาคมสวยเริ่มคลอหน่วยด้วยหยาดน้ำตาเมื่อถูกทั้งนิ้วและริมฝีปากรังแกอยู่บริเวณจุดเดียวจนเริ่มรู้สึกเจ็บ
"เจ็บ..หยุดดูดก่อน เจ็บ อื้อ!"
"เรียกให้ดี"
ริมฝีปากถูกผละออกมาแทนที่ด้วยเรียวนิ้วที่บี้บดอยู่บนยอดอกที่เริ่มบวมแดงซ้ำยังฉ่ำแฉะไปด้วยหยาดน้ำลาย ร่างสูงขยับกายขึ้นนั่งเอนหลังพิงกับหัวเตียง โดยมีภรรยานั่งตัวสั่นอยู่บนตัก ชุดแต่งงานสีแดงสดตกร่นจากหัวไหล่ ตัดกับผิวเนื้อขาวนวลเนียนต้องตา ยิ่งถูกรังแกจนสั่นไปทั้งตัวแบบนี้ยิ่งน่ามองเป็เท่าตัว
"เหวินซาน...อือ อ้ะ!! เหล่ากง!"
ความเสียวกระสันตีรื้นขึ้นมาเมื่อยอดอกถูกขบกัดเบาๆ คำเรียกที่ไม่เหมาะสมถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอ แทนที่ด้วยคำเรียกใหม่ที่เหมาะสมกว่า น้ำเสียงเริ่มสั่นเครือเล็กน้อยเมื่อััของลิ้นเลียตวัดผ่านจุดอ่อนไหวซ้ำๆทั้งยังดูดดุนเป็จังหวะหนักจนเกิดเสียงลามกฉ่ำแฉะดังชัดเจนทั่วห้อง
"ขอโทษเหล่ากง"
"..."
"ขอโทษที่ทำให้เหล่ากงต้องเจ็บตัว"
น้ำเสียงนุ่มทุ้มเอ่ยออกคำสั่ง ฝ่ามือผละจากยอดอกมาลูบไล้บริเวณสีข้างลำตัวของร่างเหนืออาณัติอย่างเชื่องช้า หลังมือประดับรอยสักตัดกับผิวสีขาวจัดเนียนละเอียด เทียนอี้ขบเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น ครั้นเมื่อจางเหวินซานโน้มตัวเข้ามาหากดจุมพิตลงบนลาดไหล่เปลือยเปล่าแ่เบาจึงยอมเอ่ยปากพูดออกมา
"ขะ ขอโทษ...ขอโทษเหล่ากง"
"เจ็บไหม?"
"เจ็บ---อ๊า!!"
ปลายจมูกโด่งก้มลงฟัดกับยอดอกบวมแดงอีกครั้งก่อนจะครอบริมฝีปากดูดดุนเม็ดเล็กๆตรงหน้าแรงๆอีกที บั้นเอวถูกดึงเข้าหาตัวกระทั่งร่างกายท่อนล่างแนบชิดบดเบียด แววตาดื้อดึงพยศกลับมีหยาดน้ำตาคลออยู่เล็กน้อย เรียวนิ้วจิกลงกับลาดไหล่ของผู้เป็สามีแรงขึ้นเมื่อถูกรังแกซ้ำแล้วซ้ำเล่าเสียจนสิ้นท่าไปหมด
"ที่เธอเอามีดจะแทงเฮีย วันหลังอย่าทำอีก"
"อื๊อ!! อ่ะ"
ปลายนิ้วหัวแม่มือยกขึ้นขยี้ยอดอกเป็จังหวะถี่ระรัวจนร่างเหนืออาณัติเริ่มขยับตัวไปมาด้วยความรู้สึกเจ็บปนเสียวซ่านที่เข้าตีรื้น ริมฝีปากกดจุมพิตลงกับลาดไหล่มนของผู้เป็ภรรยาแ่เบาแล้วเอ่ยถามย้ำอีกครั้ง
"อาเทียนเข้าใจหรือเปล่า?"
"...อือ"
เ้าของตักยกยิ้มเล็กน้อยอย่างพึงพอใจ จัดเสื้อผ้าที่เริ่มหลุดรุ่ยของคนบนตักให้กลับเข้าที่อย่างเป็ระเบียบ กระนั่นส่วนบวมแดงก็ยังคงดุนดันเนื้อผ้าออกมาชัดเจนจนเริ่มอยากจะโน้มตัวไปััมันอีกสักที
"ถ้ายังไม่อยากโดนมากกว่านี้ ก็รีบแก้มัดให้เฮีย"
...
"นอกจากจูบจนเธอเข่าอ่อนแล้ว เฮียยังทำได้มากกว่านั้น"
- จางเหวินซาน -
...
#นายท่านกับภรรยาไม่ถูกกัน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้