เมื่อเดินเข้ามาในบ้านูเี่อันไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เห็นภาพตรงหน้าขณะขับรถกลับมาบ้านเธอยังคิดอยู่เลยว่าจะบอกเื่ที่เธอต้องเดินทางไปทำงานที่ต่างเมืองกับลู่เป๋าเหยียนดีไหม
ลู่เป๋าเหยียนบอกว่าเขาอยากกลับไปเป็เหมือนตอนแต่งงานใหม่ๆให้ต่างคนต่างอยู่ ใครจะไปไหนก็ไม่ต้องคอยรายงานแต่จากสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดครึ่งปีที่ผ่านมาทำให้เธอไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
จนกระทั่งตอนนี้...
ลู่เป๋าเหยียนกลับมาก่อนเธอและกำลังนั่งอยู่บนโซฟาที่โต๊ะน้ำชาด้านหน้ามีรูปภาพวางอยู่เต็มไปหมด
มันเป็รูปของเธอกับเจียงเส้าข่ายตอนที่ยืนอยู่หน้าผับภาพของเจียงเส้าข่ายที่กำลังจับใบหน้าเธอ กอดเธอ และประคองเธอไว้
“ลู่เป๋าเหยียน!”เธอรีบพุ่งเข้าไปหยิบรูปพวกนั้นขึ้นมา “นายเอามาจากไหน? นายให้คนตามฉันกับเจียงเส้าข่ายเหรอ?”
“ฉันไม่ได้ว่างขนาดนั้น”ลู่เป๋าเหยียนยิ้มเย็น “รูปพวกนี้ฉันเพิ่งซื้อมาจากนิตยสารฉบับหนึ่งถึงจะต้องเสียเงินไปไม่น้อย แต่ถ้าไม่จ่ายมันล่ะก็เธอรู้หรือเปล่าว่าพาดหัวข่าวบันเทิงของวันนี้จะเป็หัวข้ออะไร ‘ภรรยาผอ.ลู่คบชู้’ไงล่ะ”
ูเี่อันไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเลยว่าลู่เป๋าเหยียนพูดคำว่า ‘คบชู้’ ออกมา
“นายไม่คิดจะฟังคำอธิบายของฉันหน่อยหรือไง”
“ถ้าฉันจำไม่ผิดทั้งเจียงเส้าข่ายและลั่วเสี่ยวซีเคยพูดไว้ว่า เธอมีคนที่ชอบอยู่แล้ว”ลู่เป๋าเหยียนมองรูปภาพตรงหน้าก่อนจะพูดประชด“ที่แท้คนที่เธอชอบก็คือคุณชายใหญ่ของตระกูลเจียงสินะวันนั้นที่พวกเราจะจดทะเบียนกันเขาก็มาดักรอที่สำนักงานเขตแล้วบอกให้เธอขึ้นรถไปกับเขานี่ทำไมเธอไม่ไปกับเขาตอนนั้นซะเลยล่ะ”
ลู่เป๋าเหยียนเปลี่ยนไปแล้วจริงๆเขากลับไปเป็คนเดิมที่แสนเ็า ปากจัด ไม่ยอมใครเหมือนเมื่อก่อนไม่ผิดเพี้ยน
ูเี่อันมองเขาราวกับมองคนแปลกหน้าขนตางอนยาวกะพริบถี่สั่นไหวราวกับผีเสื้อกำลังจะโบยบิน
เธอรู้สึกเหมือนถูกใครมาควักหัวใจออกไปเธอยกมือขึ้นััความอุ่นร้อนบางอย่างบนใบหน้า ซึ่งก็คือหยดน้ำตา
นี่เธอร้องไห้อย่างนั้นเหรอูเี่อันใกับตัวเอง
ว่าแล้วจึงเช็ดน้ำตาก่อนจะหลับตาพยายามทำให้น้ำตาไหลย้อนกลับไป
“ใช่ฉันชอบเจียงเส้าข่าย” เธอพยายามฝืนยิ้มอย่างยากลำบาก“ทำไมฉันไม่ไปกับเขาเลยน่ะเหรอ? ก็เพราะเขามีความฝันเหมือนฉันที่อยากจะเป็แพทย์นิติเวชชั้นนำถ้าเขาจะมาปกป้องฉันก็คงต้องละทิ้งความฝันเพื่อไปสืบทอดกิจการของตระกูลถึงจะต่อกรกับพ่อฉันได้ฉันไม่อยากเห็นเขาต้องทิ้งความฝันมาเพื่อฉัน ก็เลยตัดสินใจแต่งงานกับนายแต่ก็ไม่เห็นเป็อะไรนี่ เพราะถึงยังไงพวกเราก็ทำงานด้วยกันฉันได้เจอหน้าเขาทุกวันอยู่แล้ว แต่ละวันฉันเจอหน้าเขามากกว่านายด้วยซ้ำ”
เธอพูดออกไปยาวเหยียดทั้งที่ความจริงคำพูดเ่าั้แทบไม่ได้ผ่านการกลั่นกรองจากสมองเลยสักนิด เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองพูดอะไรออกไปบ้าง
เธอนึกว่าลู่เป๋าเหยียนจะโมโหบ้างแต่เขาเพียงแค่ยิ้มมุมปาก
“ดีมาก”
เขาคงไม่สนใจว่าเธอจะชอบใครสินะเพราะเขาเองก็ไม่ได้ชอบเธอสักหน่อย
“พวกเราหย่ากันเถอะ”ูเี่อันพูดคำที่ตัวเองไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะพูดออกไป“นายจะได้ไม่ต้องลำบากเล่นละคร แกล้งทำดีกับฉันอีกแล้ว ต่อจากนี้ไปฉันจะทำอะไรจะเป็ยังไงก็ไม่เกี่ยวกับนายอีก”
ลู่เป๋าเหยียนหน้าบึ้งตึงพลางเดินตรงมาด้วยสายตาเย็นเยียบ
“แค่สองปีเธอก็รอไม่ไหวแล้วงั้นเหรอ”
“ใช่น่ะสิ”ูเี่อันตอบ “โดยเฉพาะเวลาที่นายทำตัวประหลาดแบบ่ไม่กี่วันมานี้ฉันก็ยิ่งรู้สึกว่าเวลาสองปีมันผ่านไปช้าเหลือเกิน พวกเราจบกันตอนนี้ยังจะดีซะกว่า”
“เธอกับเจียงเส้าข่ายจะได้สมหวังเสียที?”ลู่เป๋าเหยียนพูดแต่ละคำออกมาพร้อมรังสีอันตรายที่ปรากฏอยู่รอบกาย
“หลังจากหย่ากันฉันจะไปสมหวังกับใครก็ไม่เกี่ยวกับนาย” ูเี่อันมองตรงไปยังั์ตาเ็าคู่นั้น“นายไม่ต้องให้เงินฉันสักแดง ขอแค่เซ็นชื่อเหมือนตอนที่พวกเราแต่งงานกันก็พอฉันกับนายจะได้เป็อิสระเสียที”
เธอพูดเื่หย่าโดยไม่กระอักกระอ่วนสักนิดราวกับคิดเอาไว้นานแล้ว
“ูเี่อันฉันไม่อยากเห็นหน้าเธออีก” ลู่เป๋าเหยียนพูดอย่างอดกลั้น
ูเี่อันยิ้ม“งั้นั้แ่พรุ่งนี้เป็ต้นไป นายก็คงไม่ต้องเจอหน้าฉันอีกแล้วรีบเตรียมเอกสารหย่าเถอะ”
พูดจบูเี่อันก็เดินขึ้นไปที่ชั้นบนเธอพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมาขณะเดินผ่านหน้าเขา
ูเี่อันเม้มปากกลั้นเสียงสะอื้นก่อนจะรีบปิดประตูห้องและวิ่งเข้าไปในห้องน้ำเธอไม่อาจควบคุมความโศกเศร้าได้อีกต่อไปจึงร้องไห้โฮออกมา
ลู่เป๋าเหยียนสงสัยว่าเธอชอบเจียงเส้าข่ายไปได้อย่างไร?
เธอเริ่มชอบเขาั้แ่อายุสิบขวบเธอแอบซ่อนความรู้สึกเอาไว้ตลอดมา คอยตามข่าวสารและสะสมรูปภาพของเขาเซฟเก็บเอาไว้ในอัลบั้มลับที่ขนาดลั่วเสี่ยวซีก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ
ทุกครั้งที่เธอได้ยินคำว่าลู่เป๋าเหยียนหัวใจเธอจะเต้นแรงจนพูดอะไรก็อึกอักไปหมด
และในที่สุดเธอก็ได้แต่งงานกับเขาเธอกลัวว่าเขาจะรังเกียจ กลัวว่าตนจะเป็ภาระ จึงเก็บซ่อนความในใจเอาไว้ไม่ให้เขาระแคะระคายเธอขอแค่ได้อยู่เคียงข้างเขาในวันที่สำคัญที่สุดก็พอ
เธอแอบชอบเขามานานขนาดนี้แต่เขากลับสงสัยในความรู้สึกของเธอ
ูเี่อันเปิดก๊อกน้ำเพื่อกลบเสียงร้องไห้ของตัวเองเธอยึดอ่างล้างหน้าเอาไว้ก่อนจะยกมือทาบทรวงอกอย่างปวดร้าว
ทั้งที่ไม่มีรอยแผลแต่ทำไมเธอรู้สึกเจ็บราวกับมีใครเอามีดมากรีดลงที่หัวใจเธอเจ็บจนรู้สึกเหมือนจะตาย
หย่า...
เธอไม่เคยนึกเลยว่าตัวเองจะพูดคำนี้ออกไปได้ง่ายดายขนาดนั้นตอนพูดเธอเ็ปแค่ไหนลู่เป๋าเหยียนเห็นบ้างหรือเปล่า
เธอเคยบอกกับตัวเองว่าระยะเวลาสองปีมันไม่สั้นไม่ยาว แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้เธอไม่เสียใจภายหลัง
แต่เธอกับลู่เป๋าเหยียนชาตินี้คงไม่มีวาสนาต่อกันขนาดการแต่งงานแค่สองปียังรักษาเอาไว้ไม่ได้
ถ้าลู่เป๋าเหยียนเบื่อเธอเบื่อชีวิตการแต่งงานครั้งนี้จนไม่อยากเห็นหน้าเธออีกงั้นเธอก็จะคืนอิสระให้กับเขา เพราะนี่คือสิ่งสุดท้ายที่เธอจะให้กับเขาได้
คิดถึงตรงนีู้เี่อันก็เงยหน้าขึ้นมาเธอเปิดน้ำล้างหน้าก่อนจะเดินไปเก็บข้าวของในห้อง
อากาศของเมือง Z กับเมือง A นั้นไม่เหมือนกัน ตอนนี้ที่นั่นอากาศยังร้อนอยู่เธอหยิบเสื้อแขนสั้นตัวบางใส่กระเป๋า ก่อนจะเดินไปเก็บของใช้ส่วนตัว
เมื่อก่อนเธอต้องเดินทางไปทำงานนอกสถานที่อยู่บ่อยๆจึงเก็บของได้อย่างคล่องแคล่ว แต่ไม่รู้ว่าวันนี้เธอเป็อะไรจึงหลงลืมนู่นนี่อยู่ตลอดไม่หยิบขาดก็หยิบผิดเมื่อกี้ถึงขนาดหยิบผ้าพันคอสำหรับฤดูใบไม้ผลิออกมาโดยนึกว่าเป็เสื้อยืดด้วยซ้ำ
หลังเก็บกระเป๋าเรียบร้อยูเี่อันก็นั่งลงบนพื้นพรมมข้างเตียงพลางมองไปรอบห้องที่เธออยู่มากว่าครึ่งปีหยดน้ำตาก็ค่อยๆ ไหลรินออกมาอีกครั้ง
คืนนี้อาจจะเป็คืนสุดท้ายที่เธอจะได้อยู่ที่นี่ก็ได้
เธอซบหน้าลงกับเตียงพลางใช้มือลูบไล้ไปตามผ้าปูที่นอนอันอ่อนนุ่มเดิมทีเธอนึกว่าจะได้ใช้เวลาร่วมกับลู่เป๋าเหยียนอยู่ที่นี่จนครบสองปีเสียอีกแต่นี่เพิ่งผ่านมาครึ่งปีเท่านั้น...
“คุณผู้หญิงคะ...” เสียงของป้าหลิวดังขึ้น“อาหารเย็นเรียบร้อยแล้วคะ คุณจะทานตอนไหนดีคะ”
“หนู...”ตอนแรกเธอกะจะบอกว่าเธอไม่หิว แต่ป้าหลิวคงเถียงเธอแน่ๆ ว่ามีใครบ้างที่ไม่หิวเมื่อถึงเวลามื้ออาหารด้วยเหตุนีู้เี่อันจึงได้แต่ตอบกลับไปว่า “ป้าหลิว หนูกินข้าวมาแล้ว คงไม่ลงไปกินข้าวเย็นแล้วล่ะค่ะ”
ป้าหลิวรู้ดีว่า่สองวันนี้เ้านายสองคนของเธอกำลังทะเลาะกันจึงเอ่ยอย่างเข้าใจ
“งั้นให้ป้ายกขึ้นมาให้ไหมคะคุณผู้หญิงกินอาหารสักหน่อยเถอะค่ะ สุขภาพสำคัญที่สุดนะคะ”
ตอนลั่วเสี่ยวซีเกิดเื่เธอก็เตือนเพื่อนไปแบบนี้เช่นเดียวกันสุขภาพสำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเกิดเื่อะไรก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีอยู่เสมอ
นั่นสินะพรุ่งนี้เธอยังต้องเดินทางอีก
“ก็ได้ค่ะ”เธอเอ่ยเสียงแ่ “งั้นรบกวนด้วยนะคะป้าหลิว”
แคู่เี่อันยอมกินข้าวป้าหลิวก็ดีใจแล้วเธอจึงรีบลงไปเตรียมอาหาร
ไม่ช้าป้าหลิวก็ยกกับข้าวซุปและข้าวสวยขึ้นมา แตู่เี่อันไม่รู้สึกอยากอาหารสักนิดกระเพาะของเธอเหมือนเต็มไปด้วยอากาศ แม้แต่ปากก็ไม่อยากจะอ้าอย่าว่าแต่กินอาหารเลย
เธอกินข้าวไปสองคำโดยไม่รับรู้รสชาติเมื่อคิดถึงเื่ที่จะต้องหย่ากับลู่เป๋าเหยียน น้ำตาของเธอก็หยดลงไปในชามข้าว
เธอเข้าใจความรู้สึกของลั่วเสี่ยวซีในวันนั้นแล้วความรู้สึกที่หัวใจหนักอึ้ง ขนาดหายใจก็ยังลำบาก
ูเี่อันเทอาหารทิ้งไปก่อนจะโทรศัพท์หาเจียงเส้าข่าย
“ให้ฉันไปเถอะ”เธอพูดอย่างใจเย็น “ฉัน้างานนี้จริงๆ”
หลังกลับมาจากทำงานเธอกับลู่เป๋าเหยียนอาจจะใจเย็นลงบ้างแล้ว ถ้าแบบนั้นจะได้เซ็นใบหย่ากันเสียทีระหว่างเธอกับเขาจากสามีภรรยาก็จะกลายเป็คนแปลกหน้าอย่างสมบูรณ์
เจียงเส้าข่ายนิ่งไปก่อนถาม“เจี่ยนอัน เธอเป็อะไรหรือเปล่า”
“เื่เล็กน่ะฉันจัดการได้” ูเี่อันปาดน้ำตาที่หางตา “ฉันอยากออกจากเมืองนี้ไปสักพักได้ไปทำงานที่อื่นถือเป็โอกาสดี” มันคงทำให้เธอไม่มีเวลาคิดอะไรมากนักทั้งยังไม่ต้องเจอหน้าเขาอีกสักระยะ
“ก็ได้ งั้นเธอไปเถอะ”เจียงเส้าข่ายตอบก่อนจะกำชับ “ความปลอดภัยของที่นั่นไม่ดีเท่าไร ระวังตัวด้วยนะของจำเป็ทั้งหลายก็เตรียมไปให้พร้อมล่ะ”
คำพูดกำชับของเจียงเส้าข่ายในเวลานี้เต็มไปด้วยความอบอุ่นกว่าทุกที ูเี่อันจึงยิ้มออกมา
“นายกลายเป็คนขี้บ่นไปั้แ่เมื่อไรฉันรู้แล้วน่า งั้นแค่นี้ก่อนนะ ไว้เจอกัน”
หลังวางสายูเี่อันก็ซบหน้าลงบนแขนของตัวเองร่างกายของเธอสั่นเทิ้ม ทว่ากลับไม่มีแม้แต่เสียงสะอื้นออกมาให้ได้ยินเธอปล่อยให้หยดน้ำตาไหลซึมไปตามแขน
พรุ่งนี้เธอต้องออกเดินทางั้แ่แปดโมงครึ่งจึงควรจะเข้านอนให้เร็วหน่อย
ูเี่อันจึงใช้เื่นี้เป็เหตุผลเพื่อบังคับตัวเองให้ขึ้นไปนอนบนเตียงแต่เธอกลับไม่รู้สึกง่วงสักนิด เธอลืมตามองจ้องไปตรงหน้าอย่างเหม่อลอย
สุดท้ายก็เผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัวเธอรู้แค่ว่าตัวเองนอนฝัน
เธอฝันว่าได้แต่งงานกับลู่เป๋าเหยียนท่ามกลางการแสดงความยินดีของคนมากมายหลังแต่งงานพวกเธอก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขลู่เป๋าเหยียนดูแลเธออย่างรักใคร่จนคนอื่นต้องอิจฉา ‘เจี่ยนอัน เธอได้สามีดีจัง’ มีแต่คนชมเธอแบบนี้ซึ่งเธอเองก็รู้สึกเช่นเดียวกันนอกจากพี่ชายของเธอคงไม่มีใครที่ยอมอยู่เคียงข้างเธอแบบเขาอีกแล้วเขาทำให้เธอมีความสุขทุกวินาที เมื่อเธอมีอันตรายก็รีบเข้ามาช่วยเหลือ
ทว่าจู่ๆ ทุกอย่างก็ดับสลายลู่เป๋าเหยียนบอกเธอว่าเขา้าจะหย่า ก่อนจะยื่นใบหย่ามาให้เธอเซ็นชื่อ
เธอร้องไห้พลางถามหาเหตุผลกับเขาว่าทำไมระหว่างเราถึงเป็แบบนี้ไปได้ แต่ลู่เป๋าเหยียนไม่ยอมตอบ เขาแค่ขู่เธอว่า“ทางที่ดีเธอควรจะเซ็นใบหย่าซะ”
ความอ่อนหวานที่เขามีให้มันคือเื่จริงเธอััได้ถึงความจริงใจของเขาที่มีต่อเธอ
แต่แล้วทำไมมันถึงเป็แบบนี้ไปได้?
ทำไมพวกเธอถึงต้องหย่ากันด้วย?
