เปลวไฟนั้นไม่ได้ลุกโชนรุนแรง แต่มันเหมือนเดือดอ่อนๆ ไม่มีเสียง แต่มันเป็เปลวไฟสีม่วงจริงๆ !
ิอวี่ตะลึงหนักมาก หรือว่าเขาจะต้องดื่มเ้าเปลวไฟสีม่วงนี่ลงไปจริงๆ ?
มันเป็เปลวไฟนะ มันใช่เหล้าที่ไหนกันล่ะ?
ถึงแม้การลุกโชนของเปลวไฟมันจะเงียบสงบมาก ไม่มีลมปราณใดๆ กระจายออกมา แต่ิอวี่ก็รู้สึกว่าเปลวไฟแก้วนี้มันไม่ธรรมดา
แต่ว่าิอวี่ก็ลองนึกดูอีกที ต่อให้เปลวไฟนี้มันจะอันตรายแค่ไหนก็ตาม ซ่งหยวนหยวนไม่มีทางทำร้ายคนของตัวเองแน่ อีกอย่าง คนที่ยืนทั้งสองข้างนั้นก็แค่ขมวดคิ้ว ท่าทางดูต่อต้านเปลวเพลิงสีม่วงนี้เหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้มีสีหน้าที่ใมาก นั่นหมายความว่า พวกเขาน่าจะรู้เื่เปลวเพลิงสีม่วงกันมาแล้ว และอาจจะได้ลิ้มรสมันมาแล้วเหมือนกัน!
ไม่สนแล้ว จะต้องก้าวผ่านตรงนี้ไปให้ได้!
ิอวี่เดินไปด้านหน้าอย่างรวดเร็วจนมาถึงใต้แท่นสูง เขาเดินก้าวขึ้นไปทีละก้าวจนมาถึงตรงหน้าของซ่งหยวนหยวน
ซ่งหยวนหยวนยังคงสวมชุดกี่เพ้าสีขาวเหมือนเดิม ผมสั้นเงางาม ผิวพรรณเนียนผ่อง ใบหน้างดงาม หน้าอกยังคงยื่นออกมาด้านหน้า นางนั่งไขว่ห้างท่าทางดูสบายๆ อยู่บนเก้าอี้ แต่ดวงตาของนางที่จ้องมาที่ิอวี่มันเต็มไปด้วยความจริงจัง
“เ้ายินดีที่จะเป็ศิษย์ของข้าไหม?” ซ่งหยวนหยวนพูด
ิอวี่คุกเข่าลงข้างหนึ่งก่อนจะก้มหน้าลงและยกมือคำนับ แล้วพูดเสียงเข้มจริงจังว่า “ศิษย์ิอวี่ ยินดีคำนับท่านเป็อาจารย์ ข้าจะไม่ลืมพระคุณของอาจารย์ไปชั่วชีวิต!”
“ดี ดื่มมันลงไปซะ”
พูดจบ ซ่งหยวนหยวนก็ยื่นแก้วเหล้าเปลวเพลิงสีม่วงให้กับิอวี่
ิอวี่รับมาด้วยสองมือ เขาััถึงความร้อนที่แผ่ออกมาบนตัวแก้ว ต่อให้เขาจะไม่กลัวไฟ แต่ในเวลานี้ก็ยังรู้สึกว่ามันร้อนลวกมือ
ในแก้ว เปลวเพลิงสีม่วงลอยอยู่้าเงียบๆ ส่วนใต้เปลวเพลิงนั้นเป็ของเหลว แต่ิอวี่มองไปแล้วพบว่ามันไม่ใช่เหล้าเลย มันเป็พลังงานสีม่วงที่หนาแน่นกำลังเดือดอยู่
มันดูเหมือนเหล้า แต่ในความเป็จริงมันคือเปลวไฟ!
ทางผู้กล้าทั้งสี่คนด้านขวามือ เมื่อหลิวฉี่หลิงเห็นิอวี่ตะลึงไปก็อดพูดแขวะขึ้นมาไม่ได้ว่า “เหอะๆ เ้ารู้หรือเปล่าว่าในมือของเ้านั้นมันคืออะไร? มันคือเพลิงสีม่วงกลั่นกระดูก เอามาจากก้นลาวาของสายเลี่ยนเหยียน มีอายุกว่าสี่พันปี ไม่เพียงสามารถกลั่นกระดูกของผู้กล้าให้แข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น มันยังสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการต้านการโจมตีให้แข็งแกร่งขึ้นอีกสามเท่าตัวด้วย”
“เพลิงสีม่วงกลั่นกระดูกจะฝึกกระดูกของเ้าก็จริง แต่ในขณะเดียวกันก็จะนำพาความเ็ปทรมานมาให้ด้วย หากเ้าไม่จริงใจพอที่จะเป็ลูกศิษย์ของอาจารย์ก็ค่อยๆ จิบได้ เพราะข้าเชื่อว่าอาจารย์ก็ให้เ้าผ่านอยู่ดี ไม่ต้องรีบนะ”
หลิวฉี่หลิงในฐานะศิษย์พี่ ั้แ่ิอวี่เข้ามาก็ไม่ไว้หน้าเขาเลย ทั้งซ่งหยวนหยวนยังตำหนิเขาเพราะิอวี่อีก มันทำให้เขารู้สึกว่าไม่ยุติธรรม
ในเวลานี้เขาเลยพูดแบบนี้ออกมา ทำให้ดูเหมือนเตือนิอวี่ด้วยความหวังดี แต่ในความเป็จริงนั้นมันเต็มไปด้วยการประชดประชัน
“หลิวฉี่หลิง”
ซ่งหยวนหยวนขมวดคิ้วแน่นและจ้องไปที่หลิวฉี่หลิง นางรู้ว่าหลิวฉี่หลิงกำลังใช้วิธีการยั่วยุิอวี่ แต่ว่าซ่งหยวนหยวนนั้นรู้ดี สำหรับผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่ง เพลิงสีม่วงกลั่นกระดูกแก้วนี้ ดื่มหมดได้ในเวลาห้านาทีก็ถือว่ามีความอดทนได้เหนือคนปกติแล้ว
ิอวี่ก้มลงไปมองเหล้าในมือ หลังจากอึ้งไปครู่หนึ่งก็เงยหน้าขึ้นมามองซ่งหยวนหยวน เขายิ้มแล้วพูดว่า “หากลูกศิษย์ของท่านทุกคนเคยดื่มได้หมดในคราวเดียว ข้าจะแค่จิบได้อย่างไรกัน? ข้าจะใช้เหล้าที่ร้อนระอุแก้วนี้ แสดงความจริงใจของข้าในการเป็ศิษย์ของท่าน”
พูดจบเขาก็ยกแก้วมาที่หน้าปากแล้วกระดกเข้าไปจนหมดในทันที เขาดื่มเพลิงสีม่วงกลั่นกระดูกจนหมดแก้วเลย!
“เ้า ... ”
ซ่งหยวนหยวนลุกขึ้นยืนในทันที ผู้กล้าในตำหนักเมฆาเพลิงทั้งสองข้างต่างคุกเข่าลงล้อมตัวของิอวี่เอาไว้ แล้วสังเกตดูอย่างลุ้นระทึก
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ... ”
หลิวฉี่หลิงที่อยู่ทางขวามือรีบวิ่งมาอยู่ด้านหลังของิอวี่ หลังจากเขาเห็นว่าแก้วเหล้าในมือของิอวี่ว่างเปล่า ก็เอามือปิดปากพยายามกลั้นหัวเราะ แต่ก็ยังกลั้นไม่อยู่ต้องหัวเราะออกมาจนได้
เมื่อครู่เขาก็แค่พูดเพื่อยั่วกระตุ้นิอวี่เท่านั้น แต่ิอวี่กลับไร้เดียงสาคิดว่าทุกคนกินทีเดียวหมด โดยไม่รู้เลยว่าเพลิงสีม่วงกลั่นกระดูกนั้นมีความร้ายแรงแค่ไหน
แม้แต่ตัวของหลิวฉี่หลิงเอง ตอนนั้นก็ใช้เวลาไปถึงห้านาทีและดื่มไปสามครั้งถึงจะหมด สุดท้ายก็ยังเ็ปเกือบตาย กลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้น ร้องไห้ในสภาพอนาถไปถึงสิบนาทีถึงดีขึ้น
ศิษย์พี่อีกสามคนที่เหลือด้านหลังเขาก็ผ่านความเ็ปแบบนี้มาก่อนทั้งนั้น
แต่ิอวี่กลับใช้เวลาไม่ถึงวินาทีก็ดื่มไปจนหมด หลิวฉี่หลิงมองไปยังร่างกายที่แข็งทื่อคุกเข่าอยู่ที่พื้นสภาพดูโง่ๆ หลังจากนึกภาพิอวี่ดีดดิ้นไปกับพื้น สภาพเหมือนคนตาย เขาก็รู้สึกสะใจ
ส่วนเิหยูเยียนกับถังเฉินที่เป็คนในรุ่นเดียวกับิอวี่ก็ส่ายหน้าและถอนหายใจ
พวกเขารู้ดีว่าเพลิงสีม่วงกลั่นกระดูกนั้นเ็ปมากแค่ไหน มันเหมือนมดเข้าไปกัดถึงกระดูก เคลื่อนไหวกัดแทะไปเรื่อยๆ ความรู้สึกเหมือนเสียดสีกันอยู่ในกระดูก แม้แต่ความร้อนก็เผาไปถึงจิติญญาส่วนลึก เหมือนมีดที่เสียดแทงไปที่หัวใจ!
ถังเฉินใช้เวลาห้านาทีดื่มเพลิงสีม่วงกลั่นกระดูกจนหมด ส่วนเิหยูเยียนก็ใช้เวลาไปสามนาที ถึงแม้ทั้งคู่จะพยายามอดทนแล้ว แต่ก็ยังล้มกลิ้งไปกับพื้นและต้องส่งเสียงร้องออกมา
ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าิอวี่จะมีสภาพแย่แค่ไหน
“ิอวี่ เ้าไม่เป็ไรใช่ไหม?”
ซ่งหยวนหยวนก้มลงมามองิอวี่อย่างร้อนใจ แต่นางกลับพบว่าิอวี่เอาแต่ก้มหน้า เอามือดันพื้นไว้ข้างหนึ่งแล้วกำหมัดแน่น เหงื่อเม็ดเท่าถั่วหยดลงมาจากหน้าผาก ร่างกายของเขามันเริ่มงอลงแบบควบคุมไม่ได้
“เ้าลุกขึ้นมา ข้าจะใช้พลังขับเพลิงสีม่วงกลั่นกระดูกออกมาจากร่างกายของเ้า”
ซ่งหยวนหยวนตัดสินใจเด็ดขาดทันที นางไม่อยากให้ศิษย์ของนางได้รับาเ็เพราะทนเพลิงสีม่วงกลั่นกระดูกไม่ได้!
แต่ิอวี่กลับยื่นมือซ้ายแล้วยกขึ้นมาห้ามซ่งหยวนหยวนเอาไว้
ร่างกายของิอวี่สั่นไปหมด ตอนนี้เขารู้สึกเ็ปจนไม่มีแรงเลย แต่ว่าเขาก็ยังยกมือขึ้นมาปฏิเสธความช่วยเหลือของซ่งหยวนหยวน ...
เขาบ้าไปแล้ว?
คำพูดนี้มันผุดขึ้นมาในใจของทุกคน! ิอวี่กำลังทำอะไร เขาไม่รู้หรือว่าทำแบบนี้มันอาจตายได้ กระดูกของเขาอาจจะถูกกัดเซาะจนเน่าเปื่อย มันจะทำให้เขาาเ็ได้?
หนึ่งวินาที ... สองวินาที ... สามวินาที ...
สามวินาทีผ่านไป ิอวี่ยังคุกเข่าอยู่ที่พื้น ร่างกายของเขาก็ยังสั่นอยู่ แต่ว่าเขาไม่ส่งเสียงร้องออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว!
“อะไรกัน!”
ทุกคนตะลึงมาก ตามหลักแล้ว หลังจากดื่มเพลิงสีม่วงกลั่นกระดูกไปแล้วสามวินาที เขาจะต้องอดรนทนไม่ไหว ร่างกายจะคดงอ และจะต้องร้องออกมาด้วยความเ็ปแล้ว แต่สำหรับิอวี่ นอกจากร่างกายที่สั่นแล้ว กลับไม่มีเสียงร้องอะไรออกมาเลย?
ภาพลวงตาหรืออย่างไรกัน?
หลิวฉี่หลิงที่อยู่ด้านหลังของิอวี่ก่อนหน้านี้ยังหัวเราะอย่างสะใจ แต่ตอนนี้เขากลับยิ้มไม่ออก ดวงตาจ้องไปที่ิอวี่แบบไม่กะพริบตา
เวลาค่อยๆ ล่วงเลยผ่านไป
ทุกคนที่ล้อมิอวี่อยู่ไม่มีใครพูดหรือส่งเสียงอะไรเลย พวกเขาจับจ้องมาที่ชายหนุ่ม ซ่งหยวนหยวนเองก็ยืนอยู่ตรงหน้าิอวี่และจ้องมาที่เขาเหมือนกัน ขอแค่ิอวี่มีอาการผิดปกติ นางก็จะเข้าช่วยเหลือเขาในทันที
หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงกระดูกที่ิอวี่กำหมัดไว้แน่น และเสียงกัดฟันเสียดสีดังขึ้น
เป็อยู่อย่างนี้จนเวลาผ่านไปอีกห้านาที ทุกคนก็ยังจ้องมองิอวี่อยู่ ส่วนิอวี่เองก็อยู่ท่าทางเดิม
ผ่านไปอีกห้านาที ิอวี่ก็ยังคุกเข่าอยู่ท่าเดิม เพียงแต่ร่างกายของเขาเริ่มหด หลังจากผ่านไปอีกห้านาที ร่างกายของิอวี่ก็เหมือนเบาหวิวขึ้นมาและล้มลงไปกับพื้นแบบอ่อนแรง
ทั้งๆ ที่เวลาผ่านไปทั้งหมดแค่สามสิบนาที แต่ิอวี่รู้สึกเหมือนผ่านไปเกินศตวรรษ เขารู้สึกเ็ปไปทั้งตัว เพราะกระดูกของเขาถูกเพลิงสีม่วงกลั่นกระดูกกัดเซาะจึงเริ่มเกิดอาการคัน
ิอวี่รู้ดีว่าเพราะเพลิงสีม่วงกลั่นกระดูกมันกำลังกลั่นกระดูกของเขาอยู่ มันจะทำให้กระดูกของเขาเป็รอยร้าว จากนั้นถึงจะทำการดูดซับพลังงานเพื่อไปสมานอีกที
เมื่อประสานแล้ว ร่างกายของเขาก็จะแข็งแกร่งมากกว่าเดิม!
ซ่งหยวนหยวนให้ศิษย์ทุกคนดื่มเพลิงสีม่วงกลั่นกระดูก ก็เพราะ้าให้ศิษย์ของนางทุกคนมีร่างกายที่แข็งแกร่ง มีพื้นฐานที่มั่นคง แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็การทดสอบความเด็ดเดี่ยวของศิษย์แต่ละคนด้วย!
ในเวลานี้ แม้แต่ซ่งหยวนหยวนเองก็ตกตะลึงไปกับความเด็ดเดี่ยวของิอวี่!
ไม่ว่าพร์ในด้านอื่นของิอวี่จะเป็อย่างไร แค่ความเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ที่ไม่เหมือนคนอื่นแบบนี้ เขาก็มีสิทธิที่จะเดินไปยังเส้นทางที่มีแต่ขวากหนามนี้ได้ไกลแล้ว!
สีหน้าของศิษย์ชั้นยอดแต่ละคนนั้นแตกต่างกันออกไป แต่ละคนมองไปที่ิอวี่ เริ่มมีความแตกต่าง
สีหน้าของหลิวฉี่หลิงนั้นคือที่สุด รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาหายไปแล้ว หน้าตาเริ่มจริงจัง เขารู้สึกว่าเหมือนเขาตบหน้าตัวเอง ใบหน้าของเขาร้อนผ่าว!
เขาไม่มีความอดทนแบบนั้น แต่ิอวี่กลับมี!
ระหว่างที่ในใจของทุกคนเริ่มมีความคิดที่แตกต่างออกไป ซ่งหยวนหยวนก็ใช้มือประคองิอวี่ขึ้นมา แขนขวาของนางจับอยู่ที่แขนซ้ายของิอวี่ แล้วหันมาถามอย่างเป็ห่วงเป็ใยว่า “ิอวี่ เ้ายังไหวหรือเปล่า?”
“ ... ไหว”
ิอวี่เพิ่งจะผ่านความเ็ปเผาไหม้ไปถึงกระดูก ถึงแม้กระดูกจะกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง แต่ร่างกายของเขาก็กำลังอยู่ในสถานะอ่อนแรง แม้แต่จะพูดก็ไม่มีแรง ขาทั้งสองข้างยิ่งไม่ฟังคำสั่ง แม้แต่จะยืนก็ยังลำบาก
แขนของซ่งหยวนหยวนถึงแม้จะเรียวเล็กแต่กลับแข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้า สามารถค้ำแขนของิอวี่เอาไว้ได้ ิอวี่รู้สึกว่าแขนซ้ายของเขาเหมือนพาดอยู่บนอะไรที่อ่อนนุ่ม ถึงแม้จะััแค่นิดเดียว แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าหน้าอกของซ่งหยวนหยวนนั้นมันเต่งตึงจนน่าใ และเขายังััถึงอุณหภูมิอ่อนๆ จากร่างกายนั้นด้วย ...
ิอวี่รู้สึกหมดคำพูด เขาพยายามยืนตัวตรงเพื่อเว้นระยะที่เหมาะสมกับซ่งหยวนหยวน แต่ซ่งหยวนหยวนกลับคิดว่าิอวี่ยืนไม่ได้ เลยออกแรงที่มือขวาให้ิอวี่เอนตัวมาทางนาง
หลังจากนั้น ...
แขนของเขา หนึ่งในสามส่วนของข้อศอกก็ััใกล้ชิดกับหน้าอกของซ่งหยวนหยวนมากขึ้น ความนุ่มนิ่มนั้นเหมือนทำให้แขนของเขาจมและละลายไปในนั้นเลย!
เอ่อ ...
ััที่ไม่คาดคิดมันทำให้ิอวี่ได้สติ สติสัมปชัญญะของเขาดีขึ้นกว่าก่อนหน้านี้มาก
“ั้แ่นี้เป็ต้นไป เ้าก็คือศิษย์ของข้าซ่งหยวนหยวนอย่างเป็ทางการแล้วนะ”
ซ่งหยวนหยวนมองไปที่ิอวี่แล้วยิ้มอย่างปลื้มใจ จากนั้นก็พูดว่า “หลังจากนี้ เิหยูเยียน ถังเฉิน รวมถึงเ้าด้วยิอวี่ หวังว่าจากนี้พวกเ้าจะพยายามฝึกฝนอย่างเต็มที่ หลังจากนี้อีกหนึ่งเดือน พวกเ้าจะต้องเข้าร่วมศึกทดสอบหอคอยเลี่ยนถ่าในนามศิษย์ของข้า อันดับไม่สำคัญ พยายามเต็มที่ก็พอ”
ิอวี่มองไปที่ซ่งหยวนหยวน เขาพบว่านางมีสายตาที่ดูเศร้าอยู่ชั่วขณะหนึ่ง แต่หลังจากนั้นก็หายไปอย่างรวดเร็ว
