ทันใดนั้นอวี๋ฉี่เจ๋อรู้สึกว่าตัวเองน่าขบขันอ่านตำราปราชญ์เสียเปล่า นึกไม่ถึงว่าจะเอ่ยวาจาผีสางเทวดาเช่นนี้ออกไป
อวี๋เจียวรอครู่หนึ่ง เมื่อเห็นเขายังไม่เอ่ยสิ่งใดจึงเอ่ยถามว่า“เ้าอยากหายดีหรือไม่?”
อวี๋ฉี่เจ๋อพยักหน้า แน่นอนว่าอยาก จะไม่อยากได้อย่างไร? หากร่างกายแข็งแรง ชั่วชีวิตนี้ของเขาคงพอจะมีเส้นทางให้เลือกเดินได้อีกมากหากชั่วชีวิตที่เหลือล้วนแต่เป็เช่นนี้แม้เขาจะมีชีวิตอยู่ต่อไปก็คงเสียเวลาเปล่า
อวี๋เจียวมองดวงตาดุจดอกท้ออันงดงามของเขา ครุ่นคิดครู่หนึ่ง“ก่อนหน้านี้ก็นับได้ว่าเ้าช่วยข้าเอาไว้ ช่างเถิดข้าคนนี้เป็คนให้ความสำคัญกับกงเกวียนกำเกวียนอย่างมาก ก่อนที่จะไปจากสกุลอวี๋ข้าจะรักษาร่างกายของเ้าให้หายดี”
“เ้ารักษาได้?” อวี๋ฉี่เจ๋อเอ่ยออกไป ถึงแม้หลายวันมานี้จะเห็นอวี๋เจียวตรวจไข้แต่หากนางบอกว่าสามารถรักษาร่างกายของตนได้ อวี๋ฉี่เจ๋อกลับไม่อยากเชื่อเท่าใดนัก
อวี๋เจียวกินหมั่นโถวก้อนสุดท้ายจนหมด “ตอนนี้ยังทำไม่ได้แต่ต้องรออีกสักหน่อย ข้ายังต้องหาสมุนไพรจำนวนหนึ่ง”
อวี๋ฉี่เจ๋อส่งเสียงอืมออกมา
อวี๋เจียวมองสีหน้าราบเรียบของเขา “เ้าไม่เชื่อ?”
อวี๋ฉี่เจ๋อไม่ส่งเสียงใด ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อเพียงแต่การฝากความหวังไว้กับคนอื่นเป็เื่ไม่น่าเชื่อถือเขาเชื่อแค่ตนเองเท่านั้น
“ข้าไม่ชอบพูดจาโอ้อวด หากพูดแล้วย่อมต้องทำได้”ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่ถือว่าเป็วาจาโอ้อวดอะไรถึงแม้อวี๋ฉี่เจ๋อจะมีโรคภัยมาั้แ่อยู่ในท้องมารดาแต่นี่ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ร่างกายของเขาทรุดโทรมเดิมทีคิดว่าเป็แค่ครอบครัวเล็กๆ ภายในหมู่บ้านหุบเขา เป็เพียงครอบครัวกระจอกๆครอบครัวหนึ่งเท่านั้น แต่คิดไม่ถึงว่ายังมีเื่เข่นฆ่ากันในสายเืเช่นนี้นี่ก็คือสาเหตุที่อวี๋เจียวคิดจะไปจากสกุลอวี๋
“ได้” อวี๋ฉี่เจ๋อขานรับเสียงต่ำ
อวี๋เจียวลุกขึ้นยืนบนก้อนหินแล้วปัดฝุ่นบนกายของตนออก“ร่างกายของเ้าไม่ควรถูกอากาศเย็น รีบกลับห้องเถิด”
อวี๋หรูไห่เผยสีหน้าเ็าต่ออวี๋เจียวมาโดยตลอดเป็เวลาติดต่อกันหลายวันสตรีแซ่อวี๋โจวและสะใภ้สามแซ่จ้าวต่างพากันโอหังกว่าเดิมเพราะเหตุนี้พยายามคิดหาวิธีหาเื่อวี๋เจียวทุกวิถีทาง
เดิมทีสตรีแซ่ซ่งกลัวว่าอวี๋เจียวจะไม่ยอมอ่อนข้อจนกระทำการบุ่มบ่ามเพราะทนสตรีแซ่จ้าวไม่ไหวแต่นึกไม่ถึงว่าครั้งนี้อวี๋เจียวจะว่าง่ายยิ่งนัก ไม่ว่าสตรีแซ่อวี๋โจวกับสตรีแซ่จ้าวจะหาเื่อย่างไรนางเอาแต่หลบเลี่ยงอยู่ตลอด กลับพยายามอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข
ในวันนี้อวี๋จิ่นเหยียนและอวี๋จิ่นซูจะกลับจากสำนักศึกษามาพักผ่อนในจวนสตรีแซ่จ้าวตื่นมากวาดลานเรือนและเก็บกวาดเรือนเล็กให้สะอาดั้แ่เช้าตรู่อวี๋ฮั่นซานยังตั้งใจไปเอาเนื้อมาจากในตำบลอีกด้วย
สตรีแซ่อวี๋โจวลั่นวาจาไว้ั้แ่ต้นว่าห้ามไม่ให้อวี๋เจียวออกจากห้องฝั่งตะวันออกของครอบครัวรองยิ่งไปกว่านั้นคือห้ามไม่ให้ปรากฏตัวต่อหน้าอวี๋จิ่นเหยียนเด็ดขาด
อวี๋เจียวทำตัวตามสบายอย่างมีความสุขนางหลบอยู่ในห้องของอวี๋ฉี่เจ๋อเพื่อฝึกคัดอักษรตลอดหลายวันมานี้อวี๋เฉียวซานทำขาเทียมตามแม่แบบของอวี๋เจียวเสร็จแล้วอวี๋เจียวนำเงินที่อวี๋ฉี่เจ๋อให้นางเอาไว้เมื่อครั้งก่อนจำนวนสี่สิบอีแปะให้อวี๋เฉียวซานรวมถึงยังมีภาพการติดโลหะเชื่อมขาเทียมอีกหลายแผ่นนางให้อวี๋เฉียวซานไปหาร้านตีเหล็กในตำบลเพื่อลองดูว่าสามารถทำได้หรือไม่
ครั้นถึงเที่ยงวัน ภายในเรือนเล็กครึกครื้นขึ้นมาอวี๋จิ่นซูและอวี๋จิ่นเหยียนพาสหายร่วมเรียนนั่งรถม้ามาถึงจวนสกุลอวี๋แล้ว
เสียงหัวเราะและเสียงสนทนาของสตรีแซ่จ้าวดังไม่หยุดราวกับจะดังไปทั่วทั้งหมู่บ้าน
เพราะพึ่งพาวาสนาของอวี๋จิ่นซูและอวี๋จิ่นเหยียนอาหารกลางวันของอวี๋เจียวถึงได้มีน้ำแกงใส่เนื้อถึงแม้จะเป็เพียงกระดูกไร้เนื้อสองชิ้น แต่อวี๋เจียวกลับกินอย่างเอร็ดอร่อยนำหมั่นโถวแช่น้ำแกงเนื้อเพื่อดับความตะกละยกใหญ่
หลังจากกินข้าวเสร็จ อวี๋เจียวฝึกคัดอักษรอยู่ในห้องของอวี๋ฉี่เจ๋อโดยอวี๋ฉี่เจ๋อนั่งอ่านตำราอย่างเงียบเชียบอยู่ด้านข้างเรือนฝั่งตะวันออกที่เงียบสงบค่อนข้างต่างกับเรือนเล็กที่ครึกครื้น
เพียงแต่ความสงบนี้กลับไม่ยาวนานนักเพราะอวี๋เจียวถูกสตรีแซ่จ้าวเรียกไปยังห้องโถงด้วยตนเอง
“นังเด็กสมควรตายรอกระทั่งเข้าไปในห้องโถงแล้วเ้าจงสงบเสงี่ยมสักหน่อย!อย่าได้ยั่วยวนจิ่นซูของข้าอีก หากสร้างเื่อะไรขึ้นมาซ่องโสเภณีก็คือที่ไปของเ้า!” สตรีแซ่จ้าวถลึงตาจ้องอวี๋เจียวพลางย้ำเตือน