หนึ่งชั่วยาม สองชั่วยาม สามชั่วยาม...
เวลาผ่านไปทีละน้อย ถังชิงหรูนั่งอยู่ในห้องด้วยความร้อนรุ่ม
ลางสังหรณ์ไม่ดีรุนแรงขึ้นทุกขณะ จนกระทั่งนั่งไม่ติด จึงตัดสินใจขี่อาชาของตนเองแล่นออกจากจวนไป
พอมาถึงถนนใหญ่ เห็นผู้คนมีท่าทางแปลกๆ แผงลอยขนาดเล็กที่เรียงรายอยู่สองข้างทางล้วนเก็บร้านกันหมด ผู้คนที่สัญจรบนท้องถนนต่างดูเร่งรีบ คล้ายกำลังตื่นกลัวอะไรบางอย่าง
นางลงจากหลังม้า ดึงหญิงชาวบ้านคนหนึ่งมาถาม "พี่สาว เกิดเื่อันใดขึ้นหรือ ไฉนพวกท่านถึงดูตื่นตระหนกกันขนาดนี้"
สตรีคนนั้นมองไปโดยรอบ ก่อนกระซิบบอกถังชิงหรู "ชิ่งอ๋องเกิดเื่แล้วน่ะสิ"
สตรีคนนั้นค่อนข้างตื่นกลัว ไม่กล้าพูดมาก สะบัดมือออกแล้ววิ่งหนีไป
ถังชิงหรูยกมือลูบที่หัวใจ ความรู้สึกไม่ดีรุนแรงขึ้นกว่าเดิม นางกลับขึ้นไปบนหลังอาชาอีกครั้ง ก่อนมุ่งหน้าไปยังจวนชิ่งอ๋องอย่างเร่งด่วน
นางมาหยุดอยู่ตรงตรอกแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจวนชิ่งอ๋อง ผูกม้าทิ้งไว้ที่นั่น ก่อนเดินไปยังจวนชิ่งอ๋อง
"รีบเดิน..." ที่หน้าประตูใหญ่ ทหารอาวุธครบมือยืนเฝ้าอยู่ตรงนั้น บ่าวชายหญิงจำนวนมากถูกคุมตัวออกมา คนเ่าั้ล้วนเป็ข้ารับใช้ในจวนชิ่งอ๋อง
ยามนี้ มีทหารคนหนึ่งควบคุมตัวพ่อบ้านหลินเดินออกมา สีหน้าของเขายังสงบนิ่งดั่งรูปสลักเทพเ้า ประหนึ่งว่าคนที่ตามมาด้านหลังคือผู้ติดตามของตนเอง หาใช่ผู้คุมที่พาตัวเขาไปกักขัง เขาจัดแขนเสื้อให้เป็ระเบียบเรียบร้อย ั์ตาเต็มไปด้วยความทระนง ทหารที่อยู่ด้านหลังผลักเขาทีหนึ่งจนสะดุดเกือบล้มลงที่พื้น แต่พ่อบ้านหลินเป็คนมีฝีมือ สามารถกลับมาตั้งหลักมั่นคงได้อย่างรวดเร็ว
"พ่อบ้านหลิน ไม่พบกันนานเลยนะ" บุรุษแต่งกายแบบขุนนางฝ่ายทหารคนหนึ่งเดินเข้ามา มองพ่อบ้านหลินอย่างไม่ประสงค์ดี
"ที่แท้ก็เ้าเอง" ยามเห็นคนผู้นั้น แววตาของพ่อบ้านหลินก็เผยแววเหยียดหยัน "แค่คนทรยศที่ถูกจวนชิ่งอ๋องขับออกไป คิดว่านายของเ้าจะเชื่อถือตนเองมากนักหรือ"
คนผู้นั้นหัวเราะเยาะกล่าวว่า "เื่นั้นไม่ต้องให้ท่านมาเป็กังวล ห่วงแต่ตนเองก่อนเถิด ชิ่งอ๋องวางแผนก่อฏ ตอนนี้ถูกปลดกลายเป็สามัญชน พ่อบ้านชราอย่างเ้าก็ต้องพลอยโชคร้ายไปด้วย บิดารอเวลานี้มานานมากแล้ว ในที่สุดวันที่รอคอยก็มาถึงเสียที เ้าไม่ต้องเป็ห่วง ต่อไปข้าจะปฏิบัติต่อเ้าอย่างดี ชีวิตของพวกเ้าหลังจากนี้จะต้องมีสีสัน ไม่เงียบเหงาอย่างแน่นอน"
ถังชิงหรูฟังพวกเขาสนทนากัน ก็พอเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น นางมุ่นคิ้ว กล่าวอยู่ในใจ เฉินรุ่ยเป็พี่ชายของเฉินิ ความสัมพันธ์พี่น้องก็ดีมากอยู่มิใช่หรือ ด้วยอุปนิสัยของเฉินิจะคิดการก่อฏได้อย่างไร ชะรอยต้องถูกผู้อื่นสาดโคลนเป็แน่ อีกอย่างเฉินรุ่ยฮ่องเต้องค์ปัจจุบันก็ไม่อาจปกป้องเฉินิได้อยู่แล้ว
ถังชิงหรูไม่กล้าออกหน้า นางมองไปที่ประตูจวนชิ่งอ๋อง รอดูสถานการณ์ของเฉินิ ไม่ช้า ทหารสองคนก็คุมตัวเฉินิออกมา แม้จะถูกผลัก แต่ก็ยังเดินอยู่หน้าสุดอย่างทระนง สีหน้าเมินเฉย กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นะเื "เปิ่นหวางเป็เชื้อพระวงศ์ พวกเ้ากล้าไร้มารยาทเพียงนี้เชียวรึ"
"ท่านอ๋อง อ้อ...ไม่สิ ตอนนี้เ้าไม่ใช่ท่านอ๋องอีกต่อไปแล้ว แต่เป็สามัญชนคนหนึ่ง" ท่านคนนั้นหัวเราะเยาะหยัน "เ้าไม่มีหนทางได้พลิกฟื้นกลับคืนมาอีกแล้ว ยังจะวางท่าเป็ท่านอ๋องอันใดอีกเล่า"
เฉินิยกเท้าถีบทหารคนนั้นอย่างแรง แล้วกระทืบไปบนร่างของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า มิหนำซ้ำยังเลือกตำแหน่งที่เ็ปมากเป็พิเศษ
ถังชิงหรูมองเหตุการณ์อย่างตื่นตระหนก หากเป็เช่นนี้ต่อไป เฉินิเองนั่นแหละที่จะลำบาก
เฉินรุ่ยคิดจะทำสิ่งใดกันแน่ นั่นคือน้องชายแท้ๆ ของเขา ไยจึงให้ผู้อื่นมากระทำอัปยศอดสู ด้วยท่าทีของคนเ่าั้ ชีวิตของเฉินิในวันข้างหน้าจะเป็อย่างไร
ไม่ถูก! คนทั่วเมืองต่างรู้ว่านางกับจวนชิ่งอ๋องมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้น เฉินิตกจากตำแหน่ง ตนเองก็ต้องพลอยเดือดร้อน ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ นางควรกลับไปปิดร้าน ทางที่ดีก็ควรรีบส่งสาวใช้สองคนออกไปจากเมืองชิ่งเดี๋ยวนี้ มิให้ได้รับภัยพิบัติไปด้วย แต่พอความคิดนี้ผุดขึ้นในสมอง ถังชิงหรูก็นึกเหยียดหยันในความขลาดเขลาของตนเองยิ่งนัก
ทำไมต้องไป? นางเป็หมอเทวดาของที่นี่ ได้รับความรักจากประชาชนอย่างท่วมท้น ไม่ว่าเ้าเมืองคนใหม่ของเมืองชิ่งจะเป็ผู้ใด ก็ไม่กล้าทำให้ประชาชนขุ่นเคือง
เพียงแต่ เฉินิจะเป็อย่างไรบ้าง ถูกปลดเป็สามัญชน ชีวิตคงลำบากมากเป็แน่ นางควรจะช่วยเขาหรือไม่ แต่ช่วยแล้วจะหนีไปไหนได้ ถึงเวลาคนเ่าั้ก็จะตามไล่ล่าสังหาร กลับยิ่งทำให้ให้เขาตกอยู่ในอันตราย อย่างไรเสียการลดสถานะมาเป็สามัญชน ก็อธิบายได้แล้วว่าคนเ่าั้ยังไม่อยากให้เฉินิตาย แต่หากมีการหลบหนี คนที่อยากให้เขาตายก็จะยึดเป็เหตุผลในการสังหารโดยชอบธรรม เกรงว่าคงช่วยอะไรไม่ได้อีก
ถังชิงหรูเข้าใจความคิดอ่านของคนเ่าั้อย่างทะลุปรุโปร่ง ดังนั้นจึงเลิกล้มความคิดก่อนหน้านี้ไปเสีย นางกลับไปเอาอาชาที่ตรอกเดิมแล้วจะขี่กลับไปจวนสกุลถัง ทว่าพอเข้ามาด้านในก็เห็นทหารจำนวนมากล้อมอยู่ที่นั่น
ถังชิงหรูชะงักเท้า หันไปมองพลทหารเ่าั้ มีบุรุษผู้หนึ่งสวมอาภรณ์สีแดงเดินออกมาจากกลุ่มทหาร คนผู้นั้นมองนางอย่างพินิจั้แ่หัวจรดเท้า ก่อนหัวเราะเบาๆ กล่าวว่า "เ้าคือหมอเทวดาของที่นี่?"
ถังชิงหรูรู้สึกได้ว่าชายผู้นี้มีกลิ่นอายชั่วร้าย ดวงเนตรดอกท้อวับวาวราวกับได้เห็นคนรักที่ไม่ได้พบกันมานาน สายตาเช่นนี้อาจทำให้หญิงสาวทั่วหล้าเคลิบเคลิ้มหลงใหล แต่นางหาได้ถูกรูปลักษณ์ภายนอกของเขาล่อลวง ั์ตาของคนผู้นี้มีรังสีสังหารอันเหี้ยมโหดแฝงเร้นอยู่ แค่ดูก็รู้ว่ามิใช่คนดีอันใด
นางพิจารณาบุรุษตรงหน้า ในขณะที่เขาก็พิศมองนางเช่นกัน หลังจากได้ข้อสรุป นางก็เอ่ยกับบุรุษผู้นั้น "ข้าเป็สตรี ไฉนท่านถึงคิดว่าเป็หมอเทวดาเล่า"
"ตามที่คุณชายเยี่ยงข้าทราบมา หมอเทวดาดังกล่าวมีสถานะเป็สตรี" เขาหัวเราะเบาๆ "ข้าไม่ได้พูดผิดกระมัง แม่นางถัง"
"สิ่งที่ควรก็รู้หมดแล้ว ไยต้องมาถามข้าอีก" ถังชิงหรูกอดอกมองบุรุษตรงหน้าอย่างเรียบเฉย "มาพบข้ามีธุระอันใด"
ชายผู้นั้นยิ้มอ่อนกล่าวว่า "ได้ยินว่าหมอเทวดาของที่นี่มีชื่อเสียงโด่งดัง คุณชายเยี่ยงข้าจึงอยากมาทำความรู้จักเท่านั้น หาได้มีธุระอันใด จริงสิ ชิ่งอ๋องคิดก่อการฏ บัดนี้ถูกจับกุมแล้วทั้งจวน ฝ่าาทรงคำนึงถึงความสัมพันธ์พี่น้อง จึงเพียงแค่ปลดเขาให้เป็สามัญชน ข้าทราบว่าแม่นางมีความสัมพันธ์อันดีกับชิ่งอ๋อง แต่จากบัดนี้เป็ต้นไป ท่านควรหลีกเลี่ยงจะดีที่สุด ถึงอย่างไรชิ่งอ๋องก็เป็นักโทษ ต่อไปทุกการกระทำล้วนอยู่ในการจับตามองของราชสำนัก แม่นางเป็คนเฉลียวฉลาด อย่าได้เอาตัวไปเสี่ยงจะดีกว่า"
"แล้วตอนนี้คุณชายมีสถานะใด" ถังชิงหรูยิ้มกล่าวเสียเรียบ "เ้านายคนใหม่ของเมืองชิ่งหรือ"
"ใต้หล้ามีเ้านายเพียงผู้เดียวคือฝ่าา ข้าเป็ขุนนางที่ได้รับการแต่งตั้งจากราชสำนัก ผู้เป็ขุนนางย่อมทำตามหน้าที่อันสมควร" ชายผู้นั้นกล่าว "ต่อไปหากแม่นาง้าความช่วยเหลือ สามารถไปหาข้าได้ อีกไม่ช้าจวนชิ่งอ๋องก็จะกลายเป็ที่พักอาศัยของข้า แม่นางคงจะคุ้นเคยกับที่นั่นเป็อย่างดี"
ถังชิงหรูมองบุรุษผู้นั้นจากไป พลางยกมือลูบจมูก พึมพำกล่าวว่า "เขาคิดจะทำอันใดกันแน่ ข่มขู่? ดึงเป็พวก? หรือว่ามาเตือนสติ"
หวนเอ๋อร์ได้ยินเสียงก็เดินออกมา เห็นถังชิงหรูยืนเหม่อลอยอยู่หน้าประตู ก็นึกวิตกกังวลโดยไม่มีสาเหตุ "แม่นาง ท่านเป็อันใดไปหรือ"
ถังชิงหรูเห็นหวนเอ๋อร์ ก็เล่าเื่ที่เกิดขึ้นให้ฟัง
หวนเอ๋อร์อยู่แต่ในห้องดูแลจิ่นเอ๋อร์จึงไม่ทราบเื่ราวเหล่านี้ นางยกมือขึ้นป้องปากด้วยความใ "เป็เช่นนี้ไปได้อย่างไร แล้วท่านอ๋องจะทำอย่างไรเล่า"
"นั่นสิ เจอปัญหาหนักขนาดนี้ เขาควรจะทำอย่างไรดีล่ะ"ถังชิงหรูนวดคลึงหน้าผาก "ปวดหัวจัง ไว้ข้าคิดได้ค่อยว่ากัน"
สองวันนั้น ถังชิงหรูมิได้ออกจากบ้านไปไหน เมืองชิ่งเกิดโกลาหลวุ่นวาย ประชาชนทุกคนล้วนตกอยู่ในอันตราย ประตูเมืองมีการกวดขันตรวจสอบอย่างเข้มข้น เข้าได้แต่ออกไม่ได้
โรงหมอหยุดกิจการชั่วคราว เหล่าชาวบ้านเห็นสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่อาจกล่าวโทษ อย่างไรเสียถังชิงหรูก็มีความสัมพันธ์อันดีกับจวนชิ่งอ๋อง บัดนี้ชิ่งอ๋องถูกโค่นล้ม เป็ไปไม่ได้ที่นางจะไม่ถูกหางเลข พวกเขากังวลแต่ว่านางจะเดินทางจากไป แล้วประชาชนเมืองชิ่งก็คงหาท่านหมอจิตใจประเสริฐเช่นนี้ไม่ได้อีกแล้ว
"แม่นาง..." จิ่นเอ๋อร์วิ่งเข้ามาจากด้านนอก สีหน้าตื่นตระหนกอย่างมาก "บ่าวไปสอบถามมา ชิ่งอ๋องถูกขับไปอยู่หมู่บ้านสกุลหลี่เ้าค่ะ"
"หมู่บ้านสกุลหลี่?" ถังชิงหรูนึกประหลาดใจ "สถานการณ์ของเขาตอนนี้เป็อย่างไรบ้าง"
"หมู่บ้านสกุลหลี่เป็หมู่บ้านบนูเาที่แร้นแค้นที่สุดของเมืองชิ่ง ที่นั่นเต็มไปด้วยคนเจ็บป่วยมากมาย สรุปแล้ว สถานการณ์ของท่านอ๋องยามนี้ไม่ดีเลยเ้าค่ะ" จิ่นเอ๋อร์มองถังชิงหรูอย่างระมัดระวัง
ถังชิงหรูลุกขึ้น คิดจะออกไปข้างนอก แต่เห็นเงาคนผู้หนึ่งะโลงมาจากหลังคา ถังชิงหรูมุ่นคิ้วมองบุรุษตรงหน้า ถามว่า "ประตูเมืองปิด ท่านเข้ามาได้อย่างไร"
ชายผู้นั้นกล่าวเสียงเรียบ "ตกลงกันไว้ว่าจะมาถอนพิษให้ข้าทุกสามวัน แต่เ้าก็ไม่มาเสียที คุณชายเยี่ยงข้ารอไม่ได้ อยากมาดูว่าเ้าหนีไปหรือยัง ไม่นึกเลยว่าเวลาผ่านไปแค่ไม่กี่วัน เมืองชิ่งจะเปลี่ยนท้องนภาเสียแล้ว แต่ถึงประตูเมืองจะปิด ข้าย่อมมีวิธีเข้าออกทางอื่น เมืองชิ่งกว้างใหญ่ การจะหาทางลับสักทางสองทางไม่นับว่าว่าเป็เื่แปลก"
พอได้ยินคำกล่าวของเขา ถังชิงหรูก็ดวงตาวับวาว นางจับแขนของเขาไว้พลางเอ่ยปากขอร้อง "ช่วยข้าสักเื่สิ"
ชายหนุ่มสะบัดมือนางออก มองด้วยสีหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม "อยากออกนอกเมือง?"
"ใช่" ถังชิงหรูรีบผงกศีรษะ
ชายผู้นั้นก็คือหลีซู "ก็ได้ แต่เ้าต้องถอนพิษให้ข้าก่อน"
ถังชิงหรูนิ่วหน้า ตอนนี้นางรู้สถานการณ์ของเฉินิ เขาใช้ชีวิตอย่างสุขสบายมาจนเคยตัว ตอนนี้ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากเยี่ยงนั้น เกรงว่าจิตใจคงจะย่ำแย่ สองวันมานี้นางเฝ้าติดตามข่าวของเขาตลอดเวลา แต่คนเ่าั้กักขังเขาไว้ แม้ไม่ได้จัดการขั้นเด็ดขาด แต่ก็ไม่ปล่อยเขาไปเช่นกัน นางได้แต่คอยฟังข่าวของเขาอยู่ที่บ้าน ตอนนี้โอกาสมาถึง แต่ในสภาวการณ์เช่นนี้ นางไม่มีแก่ใจจะมาเสียเวลาอยู่ที่นี่ ถึงอย่างไรพิษในร่างกายของหลีซูก็ไม่อาจถอนออกหมดได้ในหนึ่งถึงสองวัน และไม่ได้รีบร้อนที่จะต้องขับพิษออกเดี๋ยวนี้ เมื่อเทียบกันแล้ว สถานการณ์ของเฉินิกลับร้ายแรงกว่า เขามิเพียงแต่มีโรคเก่า แต่ยังตกอยู่ในเงื้อมมือของผู้ไม่ประสงค์ดี แค่ดูก็รู้ว่าอันตรายมาก
"คุณชายหลี พิษของท่าน พวกเราค่อยๆ ขจัดออกได้ แต่ยามนี้โปรดพาข้าออกจากเมืองก่อนเถิด" ถังชิงหรูเอ่ยกับหลีซู
หลีซูมองสตรีตรงหน้า แววตาของเขาหาได้เ็าไร้หัวใจเหมือนเช่นตอนพบกันคราแรก เขาหมุนตัวตั้งท่าจะไป
ถังชิงหรูเห็นสีหน้าเขาไม่ปรกติ รีบวิ่งไปขวางพลางรั้งแขนไว้ เอ่ยอย่างจนปัญญา "ช่างเถอะ ข้าขับพิษให้ท่านก็ได้"
"ไม่ต้องมาทำสีหน้าแบบนี้ เ้าอยากไปหาชิ่งอ๋องก็ไปเถอะ" หลีซูกล่าวเสียงเย็น "แต่ขอเตือนเ้าไว้อย่าง วันนี้ไม่เหมือนวันวานอีกแล้ว ทางที่ดีอย่าใกล้ชิดกับชิ่งอ๋องเกินไป คนที่ควบคุมเมืองชิ่งอยู่ตอนนี้คือคนสนิทของอัครมหาเสนาบดี มีฉายาว่าหัตถ์ปีศาจเมิ่งหลิง เขาเป็อริเก่าของชิ่งอ๋อง ชิ่งอ๋องตกอยู่ภายใต้เงื้อมมือของคนผู้นั้น เกรงว่าคงอยู่ไม่สู้ตาย"