“แย่แล้ว ไฟไหม้!”
บ้านหลินกำลังคึกคัก จู่ๆ กลับได้ยินคนร้องว่าไฟไหม้
ชาวบ้านวิ่งออกไปดู เห็นกระท่อมผุพังที่ท้ายหมู่บ้านมีควันลอยโขมง
“รีบไปช่วยดับไฟเร็ว อากาศแห้งแล้ง หากไฟลามขึ้นมาคงแย่แน่”
“ใช่ เอาถังน้ำไป ใกล้ๆ นั่นมีลำธาร”
ไฟไหม้ไม่ใช่เื่ล้อเล่น ทุกคนช่วยกันขยับไม้ขยับมือ บางคนวิ่งตรงไปที่ท้ายหมู่บ้าน บางคนหยิบกะละมังและถังจากบ้านหลินวิ่งออกไป บางคนก็กลับบ้านไปหยิบหม้อ
จางซื่อตามฝูงชนไปท้ายหมู่บ้าน พลางคิดในใจว่าควรพาหลินหวั่นชิวกลับบ้านหลินเลยดีหรือไม่ มิเช่นนั้นหากเจียงหงหย่วนกลับมาแล้วพลั้งมือฆ่านางตายด้วยความโมโหขึ้นมาจะทำอย่างไร?
เหตุผลอีกข้อคือ หลังจากพานางกลับบ้านหลินแล้วจะได้ใช้เื่นี้ควบคุมนาง บีบให้นางมอบหยกแขวน
หากไม่ยอมมอบก็จะยกนางให้เจียงหงหย่วนจัดการ หรือไม่ก็…ยกให้ทางหมู่บ้านจัดการ ให้จับโจวเอ้อร์เหนิงกับนางไปถ่วงน้ำด้วยกัน
บุรุษสตรีสำส่อน…ก่อนหน้านี้ในหมู่บ้านมีข่าวลือว่าหลินหวั่นชิวยั่วยวนโจวเอ้อร์เหนิงมิใช่หรือ
คราวนี้จะได้พิสูจน์ยืนยันพอดี
“ในบ้านมีคนอยู่”
ฝูงชนเฮโลกันเข้ามา พบว่าไม่ได้ไฟไหม้ แต่เพราะฟางที่จุดค่อนข้างชื้น ด้วยเหตุนี้จึงมีควันมาก
เมื่อเข้ามากระท่อมก็เห็นโจวเอ้อร์เหนิงนอนอยู่ข้างกองถ่าน หน้าตาบวมช้ำ ร่างกายท่อนล่างมีเืไหล
ภายในห้องมีกลิ่นสาบ เป็กลิ่นของลูกหลานกับกลิ่นคาวเืปะปนกัน
แม้จะนอนอยู่ข้างกองถ่าน แต่ร่างกายเขาก็ยังคงหนาวสั่นจนตัวเปลี่ยนเป็สีม่วง
มีคนเข้าไปตรวจลมหายใจ พบว่ายังหายใจอยู่ก็ช่วยใส่เสื้อผ้าให้เขา
หลายคนที่มาเป็สตรี ปล่อยให้ตัวล่อนจ้อนเช่นนี้คงบัดสีเกินไป
“โจวเอ้อร์เหนิงนี่ไม่เบาเลย เขาลักลอบได้เสียกับผู้ใดกัน? ทั้งยังถูกอัด...จิ๊ๆ แท่งสืบพันธุ์คงพังแล้วกระมัง”
“เืไหลขนาดนี้จะเหลือหรือ”
“ไอ๊หยา พวกเ้าว่าโจวเอ้อร์เหนิงเป็ชู้กับผู้ใด?” ชาวบ้านที่พูดกวาดสายตามองไปรอบๆ เห็นฟู่เหรินที่ทำตัวนอกลู่นอกทางในหมู่บ้านสองสามคนมายืนมุงด้วยเสื้อผ้าเรียบร้อยก็ถาม
หลินซย่าจื้อผลักฝูงชนออก เห็นโจวเอ้อร์เหนิงนอนบนพื้นก็เข้าไปเตะ
จางซื่อตามมาติดๆ เห็นโจวเอ้อร์เหนิงแค่คนเดียวก็หน้าเครียด
อยู่ที่ใดเล่า?
หลินหวั่นชิวอยู่ที่ใด?
“พวกเราลองหาดูรอบๆ ว่ายังมีผู้ใดอีกหรือไม่ ซย่าจื้อ เ้าพาสามีเ้ากลับไปเถิด เหล่าเหยีย เราต้องรีบตามหมอมาดูอาการให้สามีซย่าจื้อนะเ้าคะ”
จางซื่อกำชับ มีคนเข้าใจความหมายทันที หาคน…คือให้หาสตรีชู้น่ะสิ?
มีคนยินดีช่วยหาอยู่แล้ว เพราะอยู่ว่างไม่มีกระไรทำ มีเื่สนุกให้ทำก็ดีอยู่แล้ว
“ปล่อยให้เขาตายไปนั่นแหละ!” หลินซย่าจื้อโมโห บุรุษคนนี้ไร้ประโยชน์ ดีแต่ทำให้นางขายหน้า!
“ไท่ไท่รองบ้านหลินพูดถูกแล้ว ควรตามหมอให้โจวเอ้อร์เหนิงก่อน รักษาหายแล้วจะได้ถาม” สวีเทายืนพูดอยู่ด้านข้าง ขณะที่พูดก็มองหลินซย่าจื้อไปด้วย
โจวเอ้อร์เหนิงคือผ้าปกปิดความอัปยศ หากไม่มีโจวเอ้อร์เหนิงคงต้องหาคนอื่นมาแทน เช่นนั้นไม่เพียงแต่จะยุ่งยาก คนที่มาใหม่นิสัยใจคอเป็อย่างไรก็ไม่รู้ ควบคุมบงการง่ายหรือไม่ก็ไม่ทราบ
“อาลั่ง เ้ามาช่วยหน่อย แบกโจวเอ้อร์เหนิงกลับไป” สวีเทาสั่งสวีลั่ง สวีลั่งรีบมาช่วยแบกโจวเอ้อร์เหนิงกลับบ้านหลิน
หลินซย่าจื้อ หลินฟาไฉ สวี่ซื่อ หลินฮั่ว…ทุกคนในบ้านหลินหน้าดำกันหมด
หลินฟาไฉโมโหจนแทบกระอักเื
วันนี้เขาอุตส่าห์เชิญคนทั้งหมู่บ้านมาสรรเสริญเยินยอตัวเอง แต่แค่พริบตากลับเกิดเื่น่าเกลียด
“ฮวงจุ้ยบ้านหลินไม่ดีหรือไม่?”
“นั่นน่ะสิ เกิดเื่ไม่หยุดหย่อน ก่อนหน้านี้หลินฉินกับหลินกุ้ยฮวาถูกคนย่ำยีในตำบล ทั้งยังถูกนำไปขายหาเงิน สองนางนี้ไม่มีหน้าอยู่ในหมู่บ้าน จากไปได้ไม่นาน โจวเอ้อร์เหนิงก็ลักลอบมีชู้”
“เพราะไม่ได้ดูแลสุสานบรรพบุรุษให้ดีเป็แน่”
“อาจเพราะคาน้าไม่ตรง คานด้านล่างเลยเบี้ยวตามก็ได้[1]”
“อย่าแต่งกับลูกสาวบ้านนี้เด็ดขาด”
คำวิพากษ์วิจารณ์พวกนี้ทิ่มแทงใจหลินฟาไฉเหมือนมีด เขารู้สึกว่าโลกหมุน หน้ามืดล้มหมดสติ
“พ่อมัน!”
“เหล่าเหยีย! เร็วเข้า…รีบตามหมอ”
“ไอ๊หยา หมอสวีไปดูอาการให้โจวเอ้อร์เหนิงที่บ้านพวกเ้าอยู่”
“รีบพากลับบ้านเร็วเข้า!”
เหตุการณ์อลหม่านวุ่นวาย
หลินฟาไฉหมดสติ จางซื่อจำเป็ต้องตามกลับไป นางหันไปมองกระท่อม ชาวบ้านหลายคนช่วยกันค้นหาแต่ก็ไม่เจอแม้แต่ขนสักเส้นเดียว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะเจอสตรี
หลินหวั่นชิวหนีรอดไปเสียได้
แต่ว่า…
หึ ยังมีแผนอื่น
“เฮ้อ…หมู่บ้านเค่าซานก็ใหญ่แค่นี้ ไม่รู้ว่าผู้ใดกันที่ชอบสามีของซย่าจื้อบ้านเรา” นางรีบเดินบ้านด้วยสีหน้ากลัดกลุ้ม
“ท่านแม่…ต้องไม่ใช่คนในหมู่บ้านเป็แน่ ท่านป้าท่านน้าและสตรีสาวในหมู่บ้านต่างอยู่ที่นี่กันหมด” หลินชุ่ยต่อบท ชี้นำชาวบ้านให้คิดไปตามทางที่ตัวเอง้าได้สำเร็จ
ผู้ใดไม่อยู่ที่นี่?
ผู้ใดไม่อยู่ที่นี่ คนนั้นน่าสงสัย
“ท่านแม่ ท่านว่าใช่…พี่ใหญ่เคยบอกว่าก่อนหน้านี้ที่บ้าน…” เสริมเพิ่มอีกประโยค
“หุบปาก พวกนั้นเป็เื่เข้าใจผิด!” จางซื่อตำหนิหลินชุ่ย
ทั้งคู่คุยกันเสียงเบา แต่ไม่ได้เบาจนคนอื่นไม่ได้ยิน
ชาวบ้านที่ได้ยินย่อมนึกถึงหลินหวั่นชิว
จริงด้วย หลินหวั่นชิวออกจากบ้านหลินก่อนแขกคนอื่น
ก่อนเข้าบ้านเจียงก็มีความสัมพันธ์ไม่ชัดเจนกับโจวเอ้อร์เหนิง
คงไม่ใช่หลินหวั่นชิวจริงๆ หรอกกระมัง?
แต่หากเป็นาง เหตุใดโจวเอ้อร์เหนิงจึงถูกอัดจนหน้าตาบวมช้ำ?
หรือหลินหวั่นชิวจะถูกผู้ใดช่วยไว้ จากนั้นคนที่ช่วยนางจึงอัดสั่งสอนโจวเอ้อร์เหนิง?
น่าจะใช่ เพราะบ้านเจียงมีบ่าวใช้ เจียงไฉกับเจียงเป่าเป็บุรุษ อัดโจวเอ้อร์เหนิงได้อยู่แล้ว
จางซื่อได้ยินชาวบ้านพูดคุยกระซิบกระซาบกันก็เบาใจ
หมู่บ้านเล็กน้อย เพียงครู่เดียวก็แพร่กระจายไปทั่ว
“พวกเ้าเงียบปากเถิด ระวังนายพรานเจียงกลับมาจัดการ!” หลิวซื่อได้ยินคำนินทาเช่นนี้ก็ไม่สบายใจ ส่งเสียงห้ามให้ทุกคนหยุด
“คนที่ไม่อยู่ที่นี่มีตั้งเยอะ หลิวซานเอ๋อร์ แม่เ้าก็ไม่อยู่นี่ แม่เ้าเป็คนล่อลวงโจวเอ้อร์เหนิงหรือไม่?”
“ถุย พูดบ้ากระไรของเ้า?”
“เหตุใดเล่า เ้าพูดได้คนเดียวแต่คนอื่นห้ามพูดหรือ ข้าขอเตือนนะ ข้าจะจำว่าพวกเ้าคนใดพูดเพ้อเจ้อ กลับไปแล้วจะฟ้องนายพรานเจียง!” หวงซื่อะโเสียงดัง นางแค่ยกเจียงหงหย่วนออกมาอ้าง หลิวซานเอ๋อร์ก็เงียบปากทันที
หลายคนที่เคยประจักษ์ความบ้าบิ่นของเจียงหงหย่วนพากันเงียบปาก
ตอนนี้ไม่พูดก็ไม่เป็ไร ไว้ไปคุยกันลับหลังก็ได้ กล้าทำแต่ไม่กล้าให้คนอื่นพูดถึง…น่ารังเกียจ!
จางซื่อคอยมองเหตุการณ์ที่นี่ แต่นางไม่คิดจะสนใจ ขอแค่ฝังเมล็ดพันธุ์แห่งความสงสัยลงไปก็พอแล้ว
หนึ่งคนพูดคือการเดา สองคนพูดคือสงสัย สามคนพูดกลายเป็ความจริง
คราวนี้หลินหวั่นชิวคงสลัดชื่อเสียงฉาวโฉ่ไม่พ้น
บ้านจ้าวปิดประตู ไม่รู้ว่าเกิดกระไรขึ้นด้านนอก ป้าสองจ้าวไม่อยากตามหมอ ลูกสาวนางทำเื่น่าอับอายเช่นนี้ หากตามหมอมาดูอาการต้องถูกจับได้เป็แน่
เวลาป้าสองจ้าวโมโหจะกลายเป็คนน่ากลัวมาก นางราดน้ำเย็นใส่จ้าวหงฮวา จ้าวหงฮวาสะดุ้งตื่น
“เพียะ…” ป้าสองจ้าวตบหน้านาง “นังลูกเวร เ้าทำเื่บัดสีนักนะ!”
“กรี๊ด…หลินหวั่นชิวทำพิษข้า หลินหวั่นชิวทำพิษข้า!”
เชิงอรรถ
[1] หากคาน้าไม่ตรง คานด้านล่างก็เบี้ยวตาม(上梁不正下梁歪) เป็คำเปรียบเทียบว่า หากผู้ที่อยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าหรือคนรุ่นก่อนที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสม เช่นนั้นผู้ที่อยู่ในตำแหน่งต่ำกว่าหรือคนรุ่นหลังก็จะได้รับผลกระทบจากนั้นพวกเขาก็ประพฤติตัวไม่เหมาะสมด้วย หากใช้ในทางครอบครัวก็จะคล้ายสำนวนไทยที่ว่า ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้