เฉาซื่อได้ยินดังนั้นใบหน้าก็ซีดเผือดทันที นางกัดริมฝีปากแน่น ร่างกายโอนเอนเล็กน้อย แต่แขนกลับถูกมือที่แข็งแกร่งจับเอาไว้
“ไม่มีบุตรชายก็ไม่มีบุตรชาย ข้าจะไม่หย่านางเด็ดขาด” อวิ๋นโส่วเย่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แววตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เฉาซื่อมองอวิ๋นโส่วเย่าด้วยสายตาที่แดงก่ำ พึมพำเรียกสามีเบาๆ “พ่อเ้า”
คำพูดของอวิ๋นโส่วเย่าไม่เพียงทำให้เถาซื่อตกตะลึง แม้แต่อวิ๋นโส่วกวงที่ยืนอยู่ด้านข้างก็ตกตะลึงไม่ต่างกัน เขาเฝ้าถามตัวเองว่า เขากล้าทำเช่นนี้หรือไม่? เขากล้าต่อต้านเถาซื่อตรงๆ หรือไม่? เขาหันไปเห็นสายตาของจ้าวซื่อที่เต็มไปด้วยความอิจฉา ในใจก็ยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้น
“ไอ้ลูกไม่รักดี! ตอนที่ข้าคลอดเ้าออกมา ข้าควรจะจับเ้าโยนลงโอ่งส้วมให้ตายไปซะ! ข้าทำไปทั้งหมดนี้เพื่ออะไร? บ้านหลังนี้ พวกคนอกตัญญูไม่รู้บุญคุณอย่างพวกเ้าไม่คิดจะเหลือที่ให้ข้าเช่นนี้...” ถูกบุตรชายแท้ๆ ต่อว่า เถาซื่อก็ร้องไห้คร่ำครวญเสียงดังทันที
อวิ๋นโส่วเย่าไม่พูดอะไร คนอื่นๆ ก็ไม่ปริปากเช่นกัน ชั่วขณะหนึ่ง ภายในห้องก็เต็มไปด้วยเสียงคร่ำครวญแหลมสูงของเถาซื่อ ผู้เฒ่าอวิ๋นได้ยินเสียงร้องโวยวายจนปวดหัวขึ้นมา แต่เขากำลังแสร้งทำเป็สลบอยู่ ตอนนี้ก็ไม่กล้าลืมตาตื่นขึ้นมา
เขาเองก็ไม่ได้อยากแสร้งเป็ลมหรอก แต่อวิ๋นโส่วกวงที่เป็คนซื่อๆ กลับเอ่ยปากขอแยกบ้าน เขารู้ดีว่าที่ลูกชายคนโตเป็เช่นนี้ ก็เพราะถูกเถาซื่อรังแกอย่างหนัก แต่เขาจะยอมให้บ้านใหญ่แยกบ้านออกไปได้หรือ?
ไม่ได้น่ะสิ! บ้านเ้าใหญ่มีแรงงานอยู่สองคน (เด็กสองคนนับรวมเป็แรงงานหนึ่งคน) ยิ่งไปกว่านั้นไม่ว่าจะเป็งานบ้านหรืองานในไร่ จ้าวซื่อเองก็ช่วยทำไม่น้อย หากบ้านเ้าใหญ่แยกออกไป เ้าสี่ก็เป็คนไม่เอาไหน เ้าห้าก็ใช้เงินเก่ง... ในบ้านนี้มีเพียงเ้าสามเท่านั้นที่ขยันขันแข็ง
ภรรยาเขาจัดการไม่ได้ เขาจึงได้แต่แสร้งทำเป็สลบ เพื่อบังคับให้อวิ๋นโส่วกวงยอมถอนคำพูดขอแยกบ้าน ตอนนี้แผนการของเขาก็ได้ผลแล้ว แต่แสร้งสลบก็ต้องทำให้แเีต่อไป หากลืมตาตื่นขึ้นมาตอนนี้จะไม่ดูน่าสงสัยหรือ?
แต่เขาไม่คาดคิดเลยว่าเถาซื่อจะฉวยโอกาสที่เขาแสร้งทำเป็สลบ ให้ลูกสาวคนเล็กของเ้าสามไปตามลุงสองของนาง ไม่รู้ว่านางคิดจะทำอะไรกันแน่ ในใจผู้เฒ่าอวิ๋นทั้งสงสัยและร้อนใจ ส่วนอวิ๋นโส่วจงและครอบครัวหลังจากทานอาหารเย็นเสร็จก็มุ่งหน้าไปยังบ้านเก่า
เดิมทีอวิ๋นโส่วจงตั้งใจว่าจะไปกับฟางซื่อเพียงสองคนก็พอ แต่พวกเด็กๆ ทั้งสามคนกลับอยากตามไปด้วย ตามมาก็ตามมาเถิด เดี๋ยวค่อยบอกไม่ให้พวกเขาเข้าไปในบ้าน ให้อยู่เล่นกับหลานเอ๋อร์ เหลียนเอ๋อร์ และเด็กคนอื่นๆ ในลานบ้านก็แล้วกัน เด็กสาวสองคนของบ้านเ้าสามนั้น นับว่าเป็เด็กซื่อสัตย์ทีเดียว
พึ่งทานอาหารเสร็จ อวิ๋นโส่วจงไม่อยากให้อวิ๋นเจียวเดิน จึงอุ้มนางขึ้นมาด้วยความเคยชิน ใกล้จะถึงบ้านตระกูลอวิ๋นแล้ว อวิ๋นเจียวก็หยิบก้อนด้ายหนึ่งก้อนออกมาจากแขนเสื้อ บนก้อนด้ายปักเข็มเย็บผ้าเอาไว้หลายเล่ม นางหันหลังให้อวิ๋นหลานเอ๋อร์ แล้วส่งก้อนด้ายให้กับอวิ๋นโส่วจง จากนั้นก็กระซิบข้างหูอวิ๋นโส่วจงสองสามคำ
อวิ๋นโส่วจงหัวเราะลั่นทันที เสียงหัวเราะของเขาดึงดูดความสนใจจากคนอื่นๆ อวิ๋นฉี่ซานอยากรู้อยากเห็นเป็อย่างมาก จึงเอ่ยถามอวิ๋นเจียวว่า “เจียวเอ๋อร์ เ้ากระซิบอะไรกับท่านพ่อหรือ?”
อวิ๋นเจียวเงยหน้าขึ้น เอ่ยด้วยรอยยิ้มสดใส “ไม่บอกท่านหรอก นี่เป็ความลับระหว่างข้ากับท่านพ่อ!”
คำพูดของนางเรียกเสียงหัวเราะจากอวิ๋นโส่วจงและฟางซื่อ ท่าทางเ้าเล่ห์ของอวิ๋นเจียวสะท้อนเข้ามาในดวงตาของอวิ๋นฉี่เยว่ ทำลายความเงียบสงบในใจของเขาให้แหลกเป็เสี่ยงๆ ราวกับดวงดาวระยิบระยับนับไม่ถ้วนบนท้องฟ้า เขาเผยรอยยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว ในใจก็เดาว่าอวิ๋นเจียวเสนอแผนการอันใดให้บิดา เขารู้สึกคาดหวัง คาดหวังว่าจะได้เห็นใครบางคนเสียหน้าในไม่ช้านี้
พอมาถึงบ้านเก่าตระกูลอวิ๋น สีหน้าของอวิ๋นหลานเอ๋อร์ก็ดูไม่สบายใจนัก อวิ๋นเจียวเห็นความหวาดกลัวและหวาดหวั่นในแววตาของนาง
อวิ๋นโส่วจงวางอวิ๋นเจียวลง แล้วเอ่ยบอกอวิ๋นหลานเอ๋อร์ว่า “เ้าไม่ต้องเข้าไปหรอก พวกเ้าเด็กๆ เล่นกันในลานบ้านก็แล้วกัน”
กล่าวจบอวิ๋นโส่วจงก็พาฟางซื่อเข้าไปในห้องของผู้เฒ่าอวิ๋น ส่วนอวิ๋นหลานเอ๋อร์ก็ชวนพี่น้องอวิ๋นเจียวไปนั่งเล่นที่ห้องของพวกนางเพื่อแสดงความเป็มิตร ก่อนที่อวิ๋นเจียวจะทันปฏิเสธ อวิ๋นฉี่เยว่ก็เอ่ยขึ้นว่า “พวกข้าอยู่เล่นในลานบ้านสักพักก็แล้วกัน” กล่าวจบ อวิ๋นฉี่ซานก็ย่องไปที่ข้างหน้าต่างห้องโถงอย่างเงียบๆ แล้วแอบฟังอย่างชำนาญ
ส่วนอวิ๋นฉี่เยว่ก็จูงมือเล็กๆ ของอวิ๋นเจียวเดินตามไปอย่างสงบนิ่ง อันที่จริงอวิ๋นฉี่เยว่ไม่อยากให้อวิ๋นเจียวฟังเื่ไร้สาระพวกนั้น แต่เมื่อเห็นว่านางสนใจ ประกอบกับเขาไม่อยากพาน้องสาวที่ตนเองรักและเอ็นดูไปที่ห้องของอวิ๋นหลานเอ๋อร์ เขากลัวว่ากลิ่นในห้องนั้นจะทำให้อวิ๋นเจียวรู้สึกเหม็น
อวิ๋นหลานเอ๋อร์เป็คนไม่คิดมาก นางไม่ได้คิดอะไร พอเห็นพี่น้องทั้งสามคนชอบแอบฟังข้างกำแพง ก็รู้สึกสนิทสนมกับพวกเขามากขึ้น ตอนนี้เด็กๆ ทั้งสี่คนต่างนั่งยองๆ เรียงกันอยู่ที่ริมหน้าต่าง
ทันทีที่อวิ๋นโส่วจงกับฟางซื่อเดินเข้าไปในห้อง เสียงร้องคร่ำครวญของเถาซื่อก็เงียบลงทันที สองสามีภรรยาสังเกตครอบครัวอวิ๋นโส่วกวงก่อน ก็เห็นอวิ๋นโส่วกวงยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้ารู้สึกผิด ส่วนจ้าวซื่อกำลังเช็ดน้ำตาด้วยดวงตาแดงก่ำ อวิ๋นฉี่เสียงกับอวิ๋นฉี่ชิ่งยืนอยู่ข้างๆ จ้าวซื่อ ก้มหน้าเหมือนมะเขือต้องน้ำค้างแข็งที่เหี่ยวเฉาดวงตาแดงก่ำของอวิ๋นโส่วกวงฉายแววเหนื่อยล้าและเศร้าสร้อย เขาเอ่ยทักทายอวิ๋นโส่วจงด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “เ้ารองมาแล้วหรือ?”
อวิ๋นโส่วจงพยักหน้า “อืม ที่บ้านมีธุระติดพัน เลยมาช้าไปหน่อย”
เถาซื่อพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน “เ้ารอง เ้าอยากให้พ่อเ้าตายหรือไง ให้คนไปตามตั้งนานกว่าเ้าจะโผล่มา”
อวิ๋นโส่วจงพูดด้วยสีหน้าเ็า “ข้าดูแล้วคนที่อยากให้ท่านพ่อตายน่าจะเป็ท่านมากกว่า คนเป็ลมสลบไม่ไปตามหมอ กลับปล่อยให้นอนอยู่ในห้องเช่นนี้ได้อย่างไร?”
เถาซื่อไม่คาดคิดว่าอวิ๋นโส่วจงจะกล้าต่อว่านางตรงๆ เช่นนี้ พลันตะลึงงันไปชั่วขณะ ที่บ้านนางเป็ใหญ่มาโดยตลอด ในบ้านนี้มีแค่นางเท่านั้นที่ด่าคนอื่นได้ ไม่มีใครกล้าเถียง คืนนี้ไม่รู้เป็อะไร ตอนแรกบุตรชายที่นางอุ้มท้องมาสิบเดือนกลับกล้าต่อว่านาง ตอนนี้ยังมีไอ้ลูกเมียเก่ามาต่อปากต่อคำกับนางอีก
อวิ๋นเหมยเอ๋อร์เห็นเถาซื่อเสียหน้า จึงรีบออกมาต่อว่าอวิ๋นโส่วจงอย่างไม่พอใจ “พี่รอง ท่านพูดแบบนี้ได้ยังไง? แม่เป็ผู้ใหญ่ของท่าน ท่านไม่มีมารยาทกับผู้ใหญ่แบบนี้ได้ยังไง?”
อวิ๋นโส่วจงมองนางด้วยสายตาเ็า แววตาเย็นะเืทำให้อวิ๋นเหมยเอ๋อร์ตัวสั่นเทา รีบหลบไปอยู่ข้างหลังเถาซื่อ ไม่กล้าพูดอะไรอีก
เถาซื่อจ้องมองอวิ๋นโส่วจงอย่างเกรี้ยวกราด ก่อนจะเอ่ยว่า “จะเชิญหมอก็ต้องใช้เงิน พ่อเ้าเป็ลมสลบไปก็เพราะถูกพี่ใหญ่ของเ้าทำให้โกรธ! หากพ่อเ้าเป็อะไรไป นั่นก็เป็ความผิดของพี่ใหญ่ของเ้า ข้าจะไปเชิญหัวหน้าตระกูลมา ลงโทษไอ้ลูกอกตัญญูไร้หัวใจที่ทำให้พ่อตัวเองต้องตาย!”
ทันทีที่เถาซื่อพูดจบ ครอบครัวของอวิ๋นโส่วกวงก็เงยหน้าขึ้นมองนางด้วยความใและหวาดกลัว ในยุคนี้ไม่มีใครกล้าถูกตราหน้าว่าอกตัญญู ด้วยเหตุนี้ตามชนบทจึงมีแต่แม่ผัวที่ชอบรังแกสะใภ้ น้อยนักที่จะมีสะใภ้ปฏิบัติต่อแม่ผัวอย่างทารุณ ลูกหลานรังแกผู้ใหญ่ หากถูกคนในตระกูลเห็นเข้า ก็เตรียมตัวรับโทษได้เลย หากร้ายแรงก็อย่างที่เถาซื่อพูด จะถูกจับโยนลงน้ำ!
อวิ๋นเจียวที่แอบฟังอยู่ข้างนอกพลันรู้สึกเศร้าใจ เหมือนกับวัวแก่ที่ทำงานหนักมาทั้งชีวิตโดยไม่อาจปริปากบ่นอะไรได้ พอแก่ตัวทำงานไม่ไหว ก็ถูกเ้าของฆ่าเอาเนื้อมากิน