จางอวี่เลี่ยงมองเฉินเฟิงอย่างครุ่นคิดเพราะคำพูดของเขา
ั้แ่เมื่อคืน ชื่อของเฉินเฟิงเริ่มกระจายไปทั่วแวดวงเศรษฐีชั้นสูง
แต่มีเพียงประธานกลุ่มบริษัทที่มีทรัพย์สินอย่างน้อยพันล้านหยวนเท่านั้นที่ได้ยินชื่อเขา เพราะเฉินเฟิงเป็ผู้ถือหุ้นของสองบริษัทอสังหาฯ ชั้นแนวหน้าในชั่วข้ามคืน ส่งผลให้เขามีสินทรัพย์หนึ่งพันล้านหยวน!
"ฉันเพิ่งได้ยินจากตาเฒ่าหวังกับตาเฒ่าหยางพูดเกี่ยวกับคนสกุลเฉินมา ไอ้หนุ่มที่ว่าคือคุณเหรอ?" จางอวี่เลี่ยงถามจริงจัง
"ครับ ผมนี่แหละเฉินเฟิง เดินไม่เปลี่ยนชื่อ นั่งไม่เปลี่ยนแซ่ ประธานบริษัทการเงินเฟิงฮวาเจว๋ต้าย หลังจากซื้อโครงการพัฒนาพื้นที่ของคุณแล้ว ผมจะใช้เงินทุน 95 ล้านหยวนเพื่อจดทะเบียนบริษัทเฟิงฮวาเจว๋ต้ายกรุ๊ป อีก 20 ปีข้างหน้า ชื่อเฟิงฮวาเจว๋ต้ายจะดังก้องไปทั่วโลก! แน่นอนว่า ของที่ผมจะใช้ลงเดิมพันกับคุณคือ หุ้นของเฉียนต๋ากรุ๊ปและปี้หลงเยี่ยนกรุ๊ป"
เฉินเฟิงแนะนำตัวอย่างเป็ทางการ พร้อมแสดงความเป็มหาเศรษฐีแห่งเหยียนหวงจากชาติที่แล้วอีกครั้ง
ประธานบริษัทอสังหาฯ คนอื่นๆ เริ่มเข้าใจเื่ทั้งหมดที่พวกเขาเพิ่งทำในที่สุด กลายเป็ว่าคนที่พวกเขาเพิ่งดูถูกเป็ลูกเศรษฐีผู้โง่เขลานั้น แท้จริงแล้วทรัพย์สมบัติที่เขามี เกือบจะเทียบเท่าพวกเขาทั้งหมดรวมกันแล้ว !!!
ใบหน้าพวกเขาแสดงถึงความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่ด้วยสัญชาตญาณการเอาตัวรอดบวกกับลิ้นที่ยาวถึงตาตุ่ม แม้จะลำบากใจ แต่พวกเขาต่างก็เริ่มพูดจาประจบสอพลอเฉินเฟิง
"เอาเป็ว่าคุณคือประธานเฉินเฟิงของเฟิงฮวาเจว๋ต้ายกรุ๊ปนี่เอง ผมนับถือคุณมานานแล้ว เป็เกียรติอย่างยิ่ง..." คนส่วนใหญ่พูดในทำนองนี้เหมือนกันหมด
ส่วนพ่อลูกสกุลฮูรีบเก็บเอกสารสัญญาแล้วชิ่งออกไปด้วยความอับอาย
จางอวี่เลี่ยงสำรวจเฉินเฟิงอีกครั้งอย่างละเอียด ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
"เื่การเดิมพันฉันเอาด้วย ตอนนี้ฉันมองไม่เห็นอนาคตในอีก 20 ปีข้างหน้าว่ากลุ่มบริษัทของฉันจะเป็ยังไง แต่ในเมื่อคุณมีความมั่นใจในปี้ตี้กรุ๊ปของฉัน การเดิมพันแบบนี้ก็ไม่มีผลเสียอะไร เท่าที่เห็นก็มีแค่ผลดี แต่ก่อนอื่น คุณต้องนำสัญญาการโอนย้ายหุ้นของเฉียนต๋ากรุ๊ปกับปี้หลงเยี่ยนกรุ๊ปให้ผมดูก่อน" จางอวี่เลี่ยงเป็ผู้ถือครองหุ้นส่วนใหญ่ คนระดับเขาไม่มีทางลงนามในสัญญาใดๆ เพียงเพราะคำพูดลอยๆ ได้ เขาต้องเห็นหลักฐานเสียก่อน
ตาเห็นเป็บุญ หูฟังเป็กรรม!
เฉินเฟิงพูดอย่างไม่ใส่ใจ
"ผมเก็บทั้งเอกสารการเดิมพันกับโอนหุ้นไว้กับตัวพอดี ผมให้คุณดูได้เลย แต่ตรงนี้คนเยอะเกินไป ผมไม่อยากทำความรู้จักกับคนไปทั่ว!" ไม่พูดเปล่า เฉินเฟิงตบกระเป๋าเอกสารในมือ ขณะกวาดตามองเหล่าประธานอสังหาฯ คนอื่นๆ ที่กำลังพยายามเลียแข้งเลียขาเขา
คนเหล่านี้เพิ่งดูถูกเขาเมื่อกี้ เขาต้องเอาคืน
ได้ยินคำพูดของเฉินเฟิง ใบหน้าของคนเ่าั้ก็เต็มไปด้วยความอับอาย แต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไร เพราะสถานะของเฉินเฟิงในตอนนี้ก้าวะโไปเป็ประธานบริษัทอสังหาฯ ขนาดใหญ่แล้ว
เขาคือคนที่ลงนามสัญญาการพนันกับผู้เฒ่าหวัง ผู้เฒ่าหยาง และผู้เฒ่าจาง
"งั้นเชิญคุณกับภรรยาไปที่ออฟฟิศฉันดีกว่า จะได้แนะนำคุณให้รู้จักกับคนจากสำนักงานที่ดิน" จางอวี่เลี่ยงรีบพูด
เฉินเฟิงพยักหน้ารับตอบ
"พูดถึงเื่นี้ ผมเพิ่งซื้อที่ดินเปล่าๆ จากรองผู้ว่าฯ ระยะเจ็ดตารางกิโลราคาสามสิบล้านหยวนมา แถมตอนนี้ผมก็ได้โครงการพัฒนาพื้นที่ ระยะห้าตารางกิโลในราคาเพียงห้าล้านอีก คุ้มอย่างกับได้เปล่า ต้องขอบคุณคนที่ยกป้ายประมูลขึ้นแต่ไม่เสนอราคาจริงๆ" เฉินเฟิงกวาดตาคนรอบข้าง พยายามจำหน้าพวกเขาไว้ หากสักวันหนึ่งเขาต้องร่วมมือกับบริษัทอื่น จะได้เลี่ยงคนเหล่านี้ไว้
เฉินเฟิงเดินตามจางอวี่เลี่ยงไปท่ามกลางสายตาของผู้คน
ออฟฟิศตกแต่งเรียบง่าย ดูไม่มีความหรูหราอะไร แต่ยังคงให้ความรู้สึกน่าเกรงขาม
สมแล้วที่มีส่วนร่วมกับสำนักงานที่ดินบ่อยครั้ง นอกจากนี้ตัวปี้ตี้กรุ๊ปยังมีรัฐบาลเป็ผู้ถือหุ้นอยู่ด้วย ตัวจางอวี่เลี่ยงเป็ผู้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ แต่ไม่ได้ถือครองหุ้นมากนัก ดังนั้นการเดิมพันครั้งนี้ ต้องมีคนจากสำนักงานที่ดินและกรรมการของปี้ตี้กรุ๊ปเข้าร่วมพิจารณาด้วย
จางอวี่เลี่ยงจึงให้เฉินเฟิงและหลิ่วอีอีนั่งรอในออฟฟิศของเขา ส่วนตัวเขาและหัวหน้าสำนักงานที่ดินจะไปเรียกประชุมผู้บริหารปี้ตี้กรุ๊ป
หลังจากการถกเถียงกันอย่างดุเดือดเป็เวลาครึ่งชั่วโมง ผู้บริหารทุกท่านเห็นพ้องต้องกันว่า การนำหุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของปี้ตี้กรุ๊ปมาใช้เดิมพันกับหุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของสองบริษัทอสังหาริมทรัพย์เฉียนต๋ากรุ๊ปและปี้หลงเยี่ยนกรุ๊ป เป็การเดิมพันที่มีผลตอบแทนดี
เงื่อนไขเดียวที่พวกเขาไม่เห็นพ้องคือปีแรกต้องให้หุ้นปี้ตี้กรุ๊ปหนึ่งเปอร์เซ็นต์แก่เฉินเฟิง และต้องให้เพิ่มปีละหนึ่งเปอร์เซ็นต์แต่หลังจากถกเถียงกันอีกครึ่งชั่วโมง ทุกคนก็ตัดสินใจตกลงกับเงื่อนไขของเฉินเฟิง หากเฉินเฟิงชนะการเดิมพัน นั่นก็หมายความว่าอีก 20 ปีข้างหน้า ปี้ตี้กรุ๊ปจะกลายเป็บริษัทที่มีมูลค่าหนึ่งล้านล้านจริง
หลังจากมติเป็เป็เอกฉันท์ จางอวี่เลี่ยงเดินกลับออฟฟิศของเขา
เมื่อตรวจสัญญาของเฉินเฟิงจนพบว่าไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ เขาจึงเซ็นสัญญาการเดิมพันกับเฉินเฟิงอย่างเป็ทางการ
เนื้อหาของการเดิมพันเป็ไปตามที่เฉินเฟิงเรียกร้องทั้งหมด โดยทางปี้ตี้กรุ๊ปไม่มีข้อเรียกร้องใดๆ อีก
หลังจากเซ็นสัญญาเสร็จ เฉินเฟิงก็ได้รับหุ้นของปี้ตี้กรุ๊ปตามที่ตกลงกันไว้
สัญญามีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่าในปีแรกเขาจะได้รับหุ้นหนึ่งเปอร์เซ็นต์ตามที่กำหนด และได้รับยี่สิบเปอร์เซ็นต์ครบในปีที่ยี่สิบ แต่ไม่อนุญาตให้ทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนแต่อย่างใด
โชคดีที่เฉินเฟิงไม่เคยคิดจะขายหุ้น ความ้าของเขาคือการเป็ผู้ถือหุ้นเพื่อแผนการในอนาคต
จนถึงตอนนี้ เฉินเฟิงได้รับหุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของั์ใหญ่ในอสังหาริมทรัพย์ทั้งสามแห่งมาไว้ในแล้ว และในอนาคตข้างหน้า เขาจะค่อยๆ เก็บรวบรวมหุ้นให้มากขึ้นกว่าเดิม
ส่วนถางเฉิงกรุ๊ป ในชาติก่อนมีทรัพย์สินมูลค่าสุทธิเพียงสองพันล้านหยวน ทำให้โครงการถางเฉินจี๋พิ่นเป็ทรัพย์สินเพียงชิ้นเดียวที่มีความโดดเด่น นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรให้น่าสนใจอีกแล้ว ส่งผลให้ถางเฉินกรุ๊ปไม่ถูกนับเป็ั์ใหญ่แห่งวงการอสังหาริมทรัพย์
หลังจากเซ็นสัญญาแล้ว จางอวี่เลี่ยงก็กลับให้ความสนใจกับหลิ่วอีอี
"หลานชาย คุณยังไม่ได้แนะนำผู้หญิงคนนี้เลยนะ…"
เมื่อได้ยินดังนั้น เฉินเฟิงจึงยกยิ้มตอบกลับ
"ลุงจาง ทางนี้คือหลิ่วอีอี ภรรยาผมเอง พวกเราเพิ่งจดทะเบียนสมรสกันวันนี้ ลูกสาวคนโตของประธานกรรมการเทคโนคอมเซียงเหลียนกรุ๊ป"
ได้ยินเช่นนี้ จางอวี่เลี่ยงมองเฉินเฟิงด้วยสายตาครุ่นคิดอีกครั้ง ที่แท้เขาก็ประเมินเฉินเฟิงต่ำไปอยู่ดี
เฉินเฟิงไม่เพียงแค่สร้างชื่อในวงการอสังหาฯ แต่เขาเป็ดาวรุ่งพุ่งแรงในตอนนี้!
"หลานชาย คุณมากความสามารถจริงๆ ถ้าฉันมีลูกชายประสบความสำเร็จแบบคุณคงดีไม่น้อย" จางอวี่เลี่ยงถอนหายใจ
ตอนที่เขารู้เื่เฉินเฟิงคารวะผู้เฒ่าหวังเป็พ่อบุญธรรม เขาก็รู้สึกอิจฉาเล็กน้อย
