“เซียวหาน เ้าตายเสียเถอะ!”
เมื่อหลิวหรูเยียนะโออกไป อาวุธระดับิญญานั้นพุ่งตรงไปยังแผ่นหลังของเซียวหานทันที เคราะห์ดีที่นางโต้ตอบได้อย่างทันควันโดยการใช้พลังกั้นปราณกระบี่ ก่อนจะจับข้อมือของหลิวหรูเยียนด้วยมือเปล่า และหันกระบี่ออกไปจ่อที่คอของนางแทน
ไม่ว่าหลิวหรูเยียนจะพยายามเพียงใด นางก็ไม่สามารถหลุดพ้นไปจากฝ่ามือขาวที่เต็มไปด้วยความโกรธและไอสังหารได้
“ลอบโจมตีด้านหลังเช่นนี้ เป็วิธีของแม่นางหลิวจริงๆ !”
“ข้าเคยพลาดไปแล้วครั้งหนึ่ง เ้าคิดว่าข้าจะไม่ระวังตัวเพิ่มขึ้นเลยหรือ!?” เซียวหานยกมุมปากข้างหนึ่งแล้วเอ่ยขึ้นเบาๆ ขณะที่มืออีกข้างกำลังกดศีรษะของหลิวหรูเยียนอยู่
“หยวนจุน นำอาวุธระดับิญญาขั้นสองเมื่อครู่นี้มาให้ข้า มิเช่นนั้นข้าจะฆ่านาง!”
หยวนจุนถอดหมวกของเสื้อคลุมออก ก่อนจะแสดงสีหน้าเหนื่อยหน่ายใจออกมา
“แม่นางเซียวต้องใช้วิธีนี้เพื่อข่มขู่ผู้อื่นด้วยหรือ?”
เมื่อได้ยินหยวนจุนกล่าวยอกย้อน เซียวหานจึงส่งเสียงด้วยความไม่พอใจออกมาว่า “เช่นนั้นเ้ามิต้องมอบมีดสั้นให้แก่ข้าก็ได้ แค่เพียงคำนับเพื่อขอโทษข้าแทนก็แล้วกัน!”
หลังจากถูกนางทำให้สับสน หยวนจุนจึงกล่าวออกไปด้วยความไม่เข้าใจว่า “ข้ากับเ้ามิได้เป็ศัตรูคู่แค้นกัน และข้าก็มิเคยมีความขัดแย้งต่อตระกูลเซียว เช่นนั้นข้าจะต้องขอโทษเ้าเื่ใดหรือ?”
“เ้า! เ้ายังไม่ยอมรับผิดอีก บนเวทีประลองครั้งที่แล้วเ้าทำให้ข้าอับอายต่อหน้าผู้คน ตอนนี้ยังตีหน้าซื่อทำเป็ไม่รู้เื่อีกอย่างนั้นหรือ!?”
เมื่อมองเซียวหานที่ถูกยั่วโมโห หยวนจุนจึงนึกเื่ที่เกิดขึ้นครั้งก่อนได้ เขากล่าวออกไปว่า “ข้าคิดว่าแม่นางเซียวจะเป็คนใจกว้างเสียอีก นึกไม่ถึงว่าแค่พ่ายแพ้เพียงรอบเดียว ก็จำฝังใจถึงเพียงนี้แล้ว”
กล่าวจนถึงตอนนี้ สีหน้าของเซียวหานนั้นดูโมโหมากกว่าเดิม นางเบนสายตาและไม่อยากฟังในสิ่งที่หยวนจุนกล่าวออกมาอีกจึงเอ่ยไปว่า “ในเมื่อเ้าตีหน้าซื่อไม่รู้เื่ ไม่อยากยอมรับในสิ่งที่เ้าได้ทำลงไป เช่นนั้นก็มอบมีดสั้นมาให้ข้าเดี๋ยวนี้!”
เมื่อเห็นสีหน้าหลิวหรูเยียนที่เต็มไปด้วยความกลัว หยวนจุนจึงโบกมือแล้วกล่าวว่า “เ้าจะทำสิ่งใดกับแม่นางหลิวก็เป็เื่ของเ้า ไม่เกี่ยวกับข้า”
“เ้ากล่าวออกมาเช่นนี้ แสดงว่าเ้ามิได้สนใจชีวิตของนางเลยอย่างนั้นหรือ?”
เซียวหานหัวเราะเบาๆ น้ำเสียงนั้นแฝงไปด้วยความเย้ยหยัน นางปล่อยมือ ก่อนจะผลักหลิวหรูเยียนออกไปข้างหน้าแล้วกล่าวว่า “ในสายตาหยวนจุน ดูเหมือนแม่นางหลิวจะมิได้มีค่าอย่างที่ข้าคิดนะ”
หลิวหรูเยียนกระแอมไอสองสามที ใบหน้าแสดงความรู้สึกน้อยใจออกมา นางเหลือบมองหยวนจุนอย่างขมขื่น ก่อนจะเบ้ปากและรีบวิ่งออกไปทางประตูเหล็ก
“ตูม ครืน ครืน”
ประตูเหล็กนั้นถูกปิดเสียงดังตามหลังหลิวหรูเยียนที่วิ่งออกไป
จากนั้นภายในเจดีย์ก็มีปราณดาราหลั่งไหลออกมาจากทุกทิศทาง ทำให้ห้องที่หยวนจุนและเซียวหานยืนอยู่แยกออกจากกันในทันที
เมื่อถูกกับดักต้องห้ามนี้ปิดล้อม หยวนจุนถึงกับส่งเสียงออกมา เขาส่งพลังปางมือมรณาท่าที่สองออกไปราวกับน้ำตกที่อยู่บนผนัง แต่สุดท้ายเปลวไฟปางมือมรณาก็ถูกปราณดารานั้นกลืนกิน
เมื่อหยวนจุนคิดว่ากับดักต้องห้ามในห้องนี้เป็สิ่งที่นักยุทธ์ระดับจันทราขั้นเก้าสร้างขึ้น เขาก็ใจนถึงกับอ้าปากค้าง!
“หยวนจุน นำอาวุธระดับิญญาขั้นสองมาให้ข้า!” เซียวหานพูดกับหยวนจุนอย่างเ็า นางเหลือบมองปราณดาราที่ไหลอยู่รอบตัวเขา แต่ก็มิได้สนใจอะไร
“แม่นางเซียว้าแค่เพียงสมบัติแต่ไม่้ามีชีวิตรอดหรือนี่! ถึงเพียงนี้แล้วยังนึกถึงแต่อาวุธระดับิญญาขั้นสองที่อยู่ในมือของข้าอยู่อีก”
“มีดสั้นเล่มนี้ข้าได้มาก่อน เกรงว่าเ้าคงไม่มีโอกาสแล้ว”
เซียวหานถอนหายใจอย่างแ่เบาก่อนจะค่อยๆ ก้าวออกมา พลังปราณรอบข้างแปลกไปเล็กน้อย จากนั้นนางจึงหยิบพัดสีชมพูออกมาจากแหวนมิติ เมื่อดูจากพลังที่แผ่ออกมาแล้ว เห็นได้ชัดว่าเป็อาวุธระดับิญญาขั้นสองที่มีความสามารถสูง
เมื่อนางโบกพัด คมมีดรูปพระจันทร์เสี้ยวเพียงไม่กี่อันก็ลอยออกมา ก่อนจะพุ่งตรงไปที่ขาทั้งสองข้างของหยวนจุนในทันที
เขาสกัดคมมีดสีชมพูอันหนึ่งด้วยมีดสั้นในมือ ทำให้คมมีดที่เหลือตกลงมาที่เท้าทีละอัน จนหายไปในปราณดาราที่กำลังถาโถมเข้ามา
“ช้าก่อน กับดักต้องห้ามนี้สามารถดูดกลืนปราณดาราของเ้าเพื่อทำให้มันทรงพลังขึ้นได้ มิใช่ความคิดที่ดีที่จะใช้กำลังยื้อแย่งมีดสั้นในนี้!”
หยวนจุนรู้สึกว่าพลังของกับดักต้องห้ามที่อยู่ใต้ฝ่าเท้านั้นแข็งแกร่งขึ้น เขาจึงรีบยกมือบอกให้เซียวหานหยุด
“หึ กับดักต้องห้ามนี้ถูกสร้างขึ้นจากนักยุทธ์ระดับจันทรา แม้จะสร้างไว้นานแล้ว แต่ก็ยังสามารถจัดการกับนักยุทธ์ระดับดาราได้อย่างง่ายดาย หาก้าจะหนี เกรงว่าจะมิใช่เื่ง่าย!”
“เ้ามีวิธีออกไปจากที่นี่อย่างนั้นหรือ?” เมื่อได้ยินคำพูดชี้นำของเซียวหาน หยวนจุนจึงขมวดคิ้วถามทันที
“แน่นอน เพียงแค่เ้ามอบมีดสั้นเล่มนั้นให้แก่ข้า ข้าก็สามารถพาเ้าออกไปจากที่นี่ได้!”
หยวนจุนโยนมีดสั้นในมือออกไปให้เซียวหานอย่างไม่ค่อยเต็มใจแล้วกล่าวว่า “เมื่อเทียบกับสิ่งนี้แล้ว ข้าสนใจชีวิตของตนเองมากกว่า”
หลังจากเซียวหานได้มีดสั้นแล้ว นางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงดังออกมา สีหน้านางเปลี่ยนเป็อ่อนโยนมากขึ้น
“เ้าไม่สังเกตเลยหรือว่ากับดักต้องห้ามนี้ปรากฏขึ้นเมื่อไร?” เซียวหานนำมีดสั้นไปวางไว้ที่เดิม หยกดำแผ่รัศมีออกมา ก่อนที่ปราณดาราเ่าั้จะค่อยๆ ไหลกลับเข้าไปในหลุมที่เดิม
กระทั่งประตูเหล็กกลับเป็ปกติ เซียวหานจึงขว้างคมมีดสีชมพูอันหนึ่งออกไปยังประตูเหล็ก คมมีดนั้นตัดประตูเหล็กที่หนาประมาณเอวออกเป็สี่ส่วนจนมันกระแทกลงกับพื้น
“แม้กับดักต้องห้ามนี้จะถูกปกปิดไว้ แต่มันก็มีจุดอ่อนมากมาย ประการแรกคือการเกิดรอบของกับดักนั้นมีระยะเวลานานมาก! อย่างน้อยต้องใช้เวลาถึงครึ่งก้านธูป!”
“นอกจากนี้กับดักยังต้องใช้การลงกลอนประตูเหล็กเพื่อเร่งการไหลของปราณดารา หากประตูเหล็กถูกทำลาย ความเร็วของกับดักต้องห้ามนั้นก็จะไม่เหมือนเดิม”
เซียวหานเชิดหน้าขึ้นอย่างมั่นใจ นางมองไปยังหยวนจุนด้วยท่าทางทะนงตัว
ตอนที่เซียวหานเข้ามาในห้องนี้ หยวนจุนบังเอิญเก็บมีดสั้นบนแท่นสูงได้ นางที่กำลังเงยหน้ามองพอดีจึงพบกับความลับนี้เข้า และวางแผนใช้หลิวหรูเยียนเพื่อถ่วงเวลา
เซียวหานเชื่อว่าหลิวหรูเยียนต้องพบกับความลับนี้แล้วเช่นกัน เพียงแต่นางมิได้เอ่ยออกมา จนสุดท้ายนางจึงแสร้งวิ่งออกไปด้วยความไม่พอใจ เห็นได้ชัดว่าหลิวหรูเยียน้าให้ตนเองกับหยวนจุนถูกขังอยู่ในกับดักต้องห้ามนี้
ระหว่างที่กำลังอธิบาย เซียวหานหยิบมีดสั้นออกมาจากแท่นสูงอีกครั้ง ทำให้อากาศทั้งสี่ด้านที่ลอยขึ้นมาจากหลุมกลับมาเคลื่อนไหว ซึ่งครั้งนี้พวกเขาทั้งสองนั้นมีสติมากขึ้น
พวกเขาอาศัย่ที่กับดักต้องห้ามยังไม่สำแดงฤทธิ์รีบหนีออกมาจากห้องนั้น
เซียวหานหัวเราะออกมาเสียงดังพลางเก็บมีดสั้น นางกล่าวด้วยความพอใจว่า “ขอบคุณเ้าที่ออมมือ”
“เหอะเหอะ แม่นางเซียวต้องทำถึงเพียงนี้เชียว หากเ้า้าอาวุธระดับิญญานี้จริงๆ ละก็ ข้าให้เ้าได้อยู่แล้ว!” หยวนจุนหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะหันหน้าไปทางเจดีย์สูง
จุดประสงค์ที่เขาเข้ามาที่สุสานโบราณ มิใช่เพื่ออาวุธระดับิญญาของสำนักนู่ชี่ แต่เป็วิชายุทธ์วิถีกระบี่ที่เหมาะสมกับกระบี่หยวนจุนต่างหาก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้